8th July 2017




หลังฝนรินทั้งคืน ยันรุ่งของอีกเช้าวันใหม่.... เช้าวันเข้าพรรษาที่คึกคักเพราะ นทท.ไทย เกาหลี เยอะเป็นพิเศษ
พิเศษในที่นี้คงเป็นพี่ไทยเรานี่แหล่ะ... หยุดยาวนี่เนาะ... ค่อนวังเวียงคือประชากรไทย คาดว่ายังงั้น ไม่รู้สึกว่าอยู่ลาวเลย อยู่ไทยค่ะ เพราะแม้แต่ที่ Mountain View Botique Resort ที่ห้องอาหารเช้าพี่ไทยเราทั้งนั้น คุยไปคุยมา เอ้า... เชียงใหม่เจ้าก็มีกะเขา... กะเราด้วย 5555
ที่นี่ได้เพื่อนใหม่เพิ่มในไอจีด้วย... คือเราไม่รู้หรอกว่าเขาเป็นใคร เราเป็นใคร คือความชอบเหมือนกันไง เจอกันที่ดาดฟ้าโรงแรม เพราะเราเก็บหมอกยอดเขาเหมือน ๆ กัน ทักไปทักมา จนมาเจอในไอจีเพราะแฮทแทกวังเวียง ก็ว่ากันไป เห็นไหม มิตรภาพเบ่งบานได้ทุกเส้นทาง...


ปล. ที่วังเวียง เข้าของแพง นทท.จีนไม่เที่ยวค่ะ ที่แรกก็กะว่าจะเจอบ้าง แต่ไม่เจอเลย มีความเปรมเพราะเจอแต่บักสีดา เด็กเกาหลี และคนไทยซะส่วนใหญ่ค่ะ ไม่มีที่อ้างมาร่วมรุงรังกะเรา


ວັງວຽງ


วังเวียง
เป็นเมืองท่องเที่ยวในแขวงเวียงจันทน์ ประเทศลาว
ห่างจากเวียงจันทน์ ประมาณ 160 กิโลเมตร
สภาพทางภูมิศาสตร์เป็นที่ราบ
ระหว่างภูเขาหินปูน ป่าไม้สมบูรณ์
ได้ฉายาว่า เมืองกุ้ยหลินแห่งเมืองลาว

เครดิต : wikipedia



"วังเวียง

เป็นเมืองน่ารัก เวลาเดินช้า เนิบนาบเหมือนน้ำซองที่ไหลเอื่อย

ผู้คนที่นี่ต่างพึ่งพาอาศัยธรรมชาติ ทุกอย่างสวยงาม ขุนเขา สายน้ำ สายหมอก

แม้ว่าการเดินทางมาที่นี่จะไม่ค่อยสะดวกสบายนัก ซึ่งดูเหมือนจะลำบาก

แต่ก็ไม่ลำบากขนาดนั้น หรือถ้าจะให้สบายก็เรียกอย่างนั้นก็ไม่ได้

แต่ก็ไม่ยากเกินไปถ้าใจจะมา...



วิถีชีวิต

และวัฒนธรรมที่พึ่งอิงธรรมชาติอย่างนี้ อยากให้คงอยู่ตลอดไป แต่..

หลายสิ่งเหมือนกำลังจะถูกทำลายโดยนักท่องเที่ยว และผู้ไปเยือน
จขบ.เห็นขยะมากมาย ไหลไปพร้อม ๆ กับสายน้ำซอง รีสอร์ทและที่พักหลาย ๆ หลังที่กำลังรุกล้ำพื้นที่ธรรมชาติสีเขียว ๆ
วัฒนธรรมอันงดงามที่เติบโตมาช้านานกำลังไหลต้านกระแสของโลกที่แปรเปลี่ยนไป อยากให้คงเดิมไว้นาน ๆ นะ "วังเวียง" - mariabamboo"




.
.
.













ວັງວຽງ

สายนั้น... ข้าวเช้าก็แล้ว เซลฟี่ก็แล้ว เก็บหมอกตามยอดเขาก็แล้ว ฝน(ห่า) หรือว่าห่าฝนก็ยังไม่ยอมหยุดสักที... ก็น่ะ คนอยากเที่ยวแล้วนี่นา วังเวียงกวักมือเรียกให้ออกเที่ยวแล้ววววว... ฝนก็ฝนเนาะ เราไปติดต่อขอแผนที่เมืองที่เคาท์เตอร์ พนง.ก็นะ แนะนำแต่ตุ๊ก ๆ ให้นั่งชมเมือง คือมันไม่ใช่น่ะ เราอยากจุ่ม ดื่มด่ำกับวิถีชีวิตและสภาพเมืองที่นี่นะ ไม่ใช่นั่งมองผ่าน ๆ อย่างมองในเน็ต สรุปแล้วได้แผนที่ และได้ยืมเสื้อกันฝนด้วย ใจดีเนาะ .... มีแซวว่าขอให้เดินเที่ยวให้ทั่วนะ และขอให้เจอ รร.ที่เธอจองด้วย หึ ๆ ๆ


ว่าละ ก็ไปกันเลยเนาะ .... ตามเดิม วนซ้าย อะไรนักหนาก็ซ้ายนะ .... ไม่ใช่หรอก เพราะซ้ายมีน้ำซองต่างหากล่ะ

เดิน ๆ ไป ทายได้ไหมเราเจออะไร??? คือเจอแล้วกรี๊ดเลย

สะพาน - เขา - สายน้ำ

และเป็ด


และพี่สาวถาม... เมิงกรี๊ดทำมายยยยย




................

เห็นคนสวยกลางร่มไปวัด.. อดเดินตามไม่ได้พลางขอถ่ายรูปด้วย นี่ ๆ อิชั้นถึงวังเวียงละนะ




เดินผ่านร้านรวงหลายร้านทำเอาหิว...

แต่มันก็ยังไม่ใช่เวลายัดของใหม่เข้าท้องนี่เนาะ.. ไม่เป็นไรเอาไว้ลองพรุ่งนี้ละกัน



..........................


สาม สี่ เก้า ก็ได้เจ็ดเก้า อ่าาาาา ไม่ใช่ ๆ ประเด็นคือเดินไป ๆ แล้วเราเจอสะพานอีกแล้ว ...




ดี๊ ด๊า ร่าเริง เหมือนเป็ดเจอน้ำฝน หึ ๆ ๆ


ท่าสวย ๆ ไม่ยักกะทำกะเขาเนาะ ... สังเกตแขนซ้าย... มีผ้าใบในถุงคือไม่ไหวจะเคลียร์ มันต้องเปลี่ยนเนาะ... เสียไปอีก 10,000 กีบ 80 บาทไทยได้อีแตะมาคู่นึงรองเท้านอกซะด้วย (ผลิดในไทย)

คนบ้า ๆ กะ สายฝนที่ลงหนักหน่วง แลไม่เข้ากะวิถีชีวิตป้าที่กำลังหาปลา นี่ดีป้าไม่ไล่ เพราะทำปลาเขากระเจิง

.

.

.

ວັງວຽງ

จากสายน้ำซอง และสะพานที่ได้ยลกะตาตัวเองแล้ว แม้จะขุ่น ๆ เพราะหน้าน้ำหลาก แต่ไม่เป็นไรเนาะ รับได้

เดินไปตามทาง ไปเรื่อย ๆ โดยจำคำพนักงานต้อนรับ รร.ว่า ถ้าจะหาวิลล่าน้ำซอง โฮเทลให้ไปทางซ้ายเข้าไว้ เราก็ตามทางที่เขาบอกไปเรื่อย ๆ ๆ และเรื่อย ๆ จนเจอร้านแลกเงินเกลื่อนตามทาง แลกเงินไว้ใช้ แลกไป 1 พัน ได้มาตั้งสองแสนสีกีบกว่า ๆ มันมหาศาลจนป่านนี้ก็ยังไม่หาย งง


ตอนเดิน ๆ ก็หักกิ่งไม้ตามทางไว้กันหลง เผื่อหลงจะกลับมาทางเดิม ม่ายช่าย พยายามจำตึกค่ะ มีความเป็นไปได้ว่า อาจหลง เพราะเราชำนาญการหลงเป็นอย่างดี ไปไหนเราก็หลง ถ้าไม่หลงเราไม่ถึง ว่างั้น

เจอคน ๆ นึงมันเท่ห์นะ นี่เมาแต่หัววันเลยเหรอ??? ไม่แคร์ฝน ไม่แคร์ฟ้า ไม่แคร์สายตาอิชั้น เก็บรูปซะเลย

และไม่แคร์ไปกว่านั้นคือมาประชิดตัว แล้วชวนคุย ชื่ออะไรไม่รู้ shake hands ตามธรรมเนียมชาวเปอร์โตริโก้ แนะนำตัวเสร็จสรรพเห็นเข้ามาร์ทไป เอาเบียร์ลาวเพิ่ม เจ๋งโน๊ะ หึ ๆ ๆ Chill Mode โพด ๆ มีคนถึงวังเวียงกว่าอิชั้นซะอีก นี่งายยยยช่ายเลย

keep walking ก็เดินต่อไป ห้ามหยุด แต่ก็ต้องหยุดเพราะเจอโมเม้นท์เซอร์ ๆ วินเทจขึ้นสนิมอย่างนี้ อดใจม่ายล่าย



แหม... เข้ากั๊น เข้ากัน สังกะสีก็เก่า ป้าก็แก่ 555

ขณะที่เดินนึกถึงที่อโคจรฮิต ๆ กลางคืนกัน เลยทำการบ้าน survey ไว้ มันอยู่ไหนเดี่ยวคืนนี้มา 555 ซากุระบาร์ หาพิกัดไว้ไม่เสียหายเนาะ

แหมยังกะอยู่ไทย


จนเจอโรงพยาบาล ดีละ เกิดเหตุด่วน เหตุร้าย เรารู้ที่รักษาละ หายโห่ง ๆ


หิวไหม... หิวนะ เดินจนหิว ข้าวเที่ยงมื้อแรก ปลาร้าลาวอร่อยนะ

ที่เลือกส้มตำน่ะ เพราะนอกจากโรตี กะฮอทดอกแล้ว เราไม่เห็นอะไรเลยนอกจากร้านส้มตำ เอาเนาะมาถึงที่ละ อีกอย่างที่เข้าร้านนี้เพราะบิ๊กไบค์ป้ายอุดร กะ กทม. จอดเพียบเลยเนียนเข้าด้วยซะเลย 555



จ่ายค่าเสียหายอย่างน่าตกใจ ทั้งหมดนี่ 65,000 กีบ แม่เจ้าเอามือทาบอก ยกเครื่องคิดเลขเป็นเงินไทยเบา ๆ คือ งง สรุปสองสามร้อยกว่าบาท โล่งอก 555 มึน



.............

ວັງວຽງ

เดินจนได้เวลาไปเช็คอิน เก็บหมอกยอดเขาอีกนิดแล้วกลับไปชาร์ตแบตมือถือ ชาร์ตแบตคนด้วย... พักเอาแรงแล้วย้ายโรงแรมกันค่ะ


ลาด้วยคอลเลคชั่น "สายหมอก" หลังม่านฝนที่วังเวียงเนาะ

แล้วกลับมาเที่ยววังเวียงด้วยกันอีกนะคะ




Mariabamboo

 วันอังคารที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2560 เวลา 21.29 น.

ความคิดเห็น