ากโรงพิมพ์เก่าแก่มาเปลี่ยนเป็นธนาคารและกลายมาเป็น Poshtel แนวใหม่กลางกรุงที่น่าจับตามองบนถนนดินสอ

ที่มีชื่อว่า The Printing House Poshtel

ปล่อยราคาโดนใจ เริ่มต้น คืนละ 650 บาท เพิ่งเปิดบริการมา 3 เดือนเท่านั้น แบบนี้ต้องบอกต่อค่ะ !

อีกทั้งยังมีห้องอาหาร ระดับ Fine Dining ในราคาเบาๆ ที่มีชื่อว่า The Letter Press Cafe & Restaurant

กับเมนูที่เราได้ไปลิ้มลองมา ตามมาชมกันค่ะว่า เด็ดแค่ไหน !

อีกหนึ่งทางเลือกของคนชอบนอนโฮสเทล ที่ไม่อยากจำเจ

เมื่อมี Poshtel แนวใหม่มาแรงและกำลังเป็นที่นิยมในหมู่ในท่องเที่ยวในขณะนี้ ที่อยู่ในพื้นที่สถานที่ท่องเที่ยว

แหล่งประวัติศาตร์ของกรุงมากมาย เช่นพิพิธภัณฑ์ รัตนโกสินทร์ ราชดำเนิน เสาชิงช้า

ลองมาดูแล้วจะรู้ว่า เจ๋งมั้ยล่าาา

The Printing House Poshtel ได้ถูกเพิ่มใน Google map เรียบร้อยแล้วนะคะ ถ้าเสิจหาดูก็จะเห็นเลยว่าอยู่ในทำเล กลางกรุง บนถนนดินสอ วนจากอนุเสาวรีย์ประชาธิปไตยเข้ามาในถนนดินสอ ถัดจากคลองมาก็ถึงเลย

หากใครขับรถมา สามารถจอดรถได้แถววัดราชนัดตารามฯ

หากถามว่า Poshtel แตกต่างจากโรงแรมทั่วไปหรือโฮสเทลอย่างไร #Poshtel คือการรวมกันระหว่างความหรูหรา

ในแบบของโรงแรมในสไตล์ luxury กับความง่ายๆสบายๆของโรงแรมบูติค ด้วยราคาที่ไม่เป็นภาระเงินในกระเป๋ามากนักแบบ Hostel

นั่นจึงเป็นที่มาของคอนเซ็ปต์ Poshtel

The printing house bangkok ตั้งอยู่ที่ 140 ถนนดินสอ, เสาชิงช้า

กรุงเทพมหานคร

โทรศัพท์ 02 226 2003

http://www.printinghouseposhtelbkk.com

ช่วงนี้เป็นช่วง Opening ค่ะจึงมีการจัดโปรโมชั่นกันเยอะหน่อย มีป้ายเรียกลูกค้า ชักจูงในอยู่ตรงทางเข้า

The Printing House Poshtel เป็นตึก 2 คูหา สูง 6 ชั้น มีลิฟท์ ลองเข้าไปดูกันค่ะว่า ด้านในดั้งเดิมของโรงพิมพ์เก่าแก่ 50-60 ปีนั้น

ได้ดูเนรมิตรสร้างเป็น Poshtel นั้นหน้าตาเป็นอยา่งไร

ผลักประตูเข้าไป ชั้นแรกเป็นจุดเช็คอินและ พื่นที่ของห้องอาหาร The Letter Press Cafe & Restaurant นที่ของห้องอาหารจะมีทั้งชั้น 1 และ 2 ค่ะ The Printing House Poshtel เป็นโรงแรมในสไตล์ luxury + บูติค

ลูกเล่นแบบผสมผสาน แบบนี้ชมกันเพลินๆ นะคะ กลางคืนมีดนดรีสดมาเล่นให้ฟังด้วยนะคะ

มีตัวมาคอสยืนรอทักทายตรงล็อบบี้ให้แชะภาพกัน อิอิ

The Printing House Poshtel ยังคงมีกลิ่นอายความเป็นโรงพิมพ์อยู่ เมื่อมีการนำพิมพ์ดีดเก่าแก่มาตั้งโชว์ไว้ ถ้าเด็กเล็กๆ สมัยนี้เดินเช้ามาเห็นก็คงไม่รู้จักแล้วก็ได้นะคะ เพราะเรานี่เรียนพิมพ์ดีดีสมัยมัธยมมาพิมพ์จนเจ็บนิ้วหมดล่ะ 555

ถือว่าเป็นสีสันของการเรียนรู้ในสมัยนั้นๆ ด้วยเช่นกัน

ดูบริเวณห้องอาหารกันก่อนค่ะ กับมุมเก๋ๆ น่าถ่ายรูปเล่นดีเหมือนกันนะ

ได้โปรไฟล์ใหม่อีกแล้ว เมื่อมาที่นี่ และถ่ายรูปกันในมุมนี้ แต่บอกเลยว่ มีมุมเก๋ๆ ที่ The Printing House Poshtel ให้เลือกถ่่ายกันหลายจุดเลย แล้วแต่ว่าใครมีไอเดียกันมุมไหนนะคะ

ขึ้นมาชั้นสองดีกว่า สามารถใช้ลิฟท์ หรือบันไดก็ได้ค่ะ ซึ่งในส่วนของบันไดที่นี่

เค้าทำได้เก๋อีกแล้ว ในทุกๆ ชั้น สวยๆ

ซึ่งพื้นที่บริเวณชั้นสอง จะเป็นพื้นที่ของห้องอาหาร The Letter Press Cafe & Restaurant

พื้นที่ส่วนของ Social Lounge และพื้นที่ของห้องพักแบบ Private room สำหรับคนที่ต้องการความเป็นส่วนตัวค่ะ

แต่ในเวลานี้คือเรามาชมห้องอาหาร The Letter Press Cafe & Restaurant

พร้อมกับลิ้มลองอาหารกันก่อนเลย

ระหว่างรออาหารก็เก็บภาพบรรยากาศภายในห้องอาหารชั้นสองมาฝากกันค่า

พร้อมการตกแต่งสวยแบบมีสไตล์

ประดับด้วยต้นแคตตัสโดดเด่น แบบนี้ต้องคว้ามาเป็นพร้อพเสียหน่อยค่ะ

ห้องอาหาร The Letter Press Cafe & Restaurant จะเปิดบริการตังแต่ 07.30 - 22.00 น.

โดยให้เป็นพื้นที่่ดื่มกาแฟ หรือทานอาหารเช้า สำหรับลูกค้าที่เข้าพักที่ The Printing House Poshtel ด้วยนะคะ

ส่วนราคาอาหารหลักร้อยต้นๆ มีราคาบอกทุกรายการไว้ในเมนู

วงเวลาที่เราได้มาทานที่นี่ เป็นช่วงกลางวันค่ะ มาลิ้มลองกันหน่อย บอกได้เลยค่ะว่า หนักมาก !!

ส่วนจะเป็นเมนูไหน รายการไหนเด็ดๆ บ้างไปทานด้วยกันเลยค่ะ

Blue Sky Mocktail บลูสกายม็อคเทล 100.-

แก้วนี้ของเราเอง สีหวานสวยๆ แบบหน้าตาคนดื่ม อิอิ หอม หวานมันด้วยนมสดบนแก้ว

Virgin raspberry mojito เวอร์จิ้นราสพ์เบอ์รี่ โมฮิโต้ 100.-

แก้วนี้ของน้องเราค่ะ บอกว่าก็อร่อยดีนะ

Pork Spare Rib สเต็กซี่โครงหมู 300.-

พอยกมาวางตรงหน้าบอกเลยว่าร้องว๊าวมากกกกกกก ซี่โครงชิ้นใหญ่่ที่ผ่านกรรมวิธีหมักเครื่องเทศ

ต้มข้ามวันก่อนเอามาปรุงรส ดูชิ้นใหญ่แต่ว่าทานง่ายมากค่ะ เพราะใช้มีดแชะออกมาเนื้อก็หลุดออกอย่างง่ายดาย

ส่วนตัวเราชอบเมนูนี้นะคะ แนะนำเลย ^^

Rrio Slider เบอร์เกอร์ 3 เกลอ 250.-

3 เกลอคนะลแบบ นั่นคือ ไก่ หมู และปลา คนละสีค่ะ กินคนละชิ้นกับน้อง อิอิ

ถือเป็นชิ้นออเดิฟได้แบบเหมาะเลยนะคะ หากใครสั่งเมนูนี้มา

Spaghtti Vodka Arabiatta Seafood สปาเก็ตตี้วอดก้าทะเล 380.-

เส้นสปาเก็ตตี้ที่ไม่เหนียว ไม่พันกันจนเกินไป เป็นอีกหนึ่งเมนูที่ทานง่าย

จานใหญ่เหมือนกันนะคะ ถ้าทานคนเดียวเราว่า จานนี้จานเดียวก็อิ่มล่ะ

Grilled Salmon with Dill Sauce แซลมอนย่างซอสผักชีลาว 385.-

แซลมอนจานนี้จัดมาได้สวยงามน่าทานมาก กรอบนอกนุ่มใน สรุปคือน้องเราจัดการเรียบคนเดียวค่ะ

นางบอกอร่อยดี อิอิ

Pad Thai King Prawn ผัดไทกุ้งใหญ่ 285.-

เมนูนี้ดีมีดีที่ดีเทล ความใส่ใจเรื่องการจัดจานมากด้วย เส้นผัดไทยหอ่ไข่ในกรวยใบตอง

เส้นเหนียวนุ่มกำลังดีค่า ยกมาแบบนี้แบบไม่ต้องปรุงมาก อร่อยเสร็จในจานล่ะ ^^

Tiramisu ทีรามิสุ

ตามด้วยเมนูล้างปาก ของหวานต่างๆ ยกนี้มาให้เลย ทีรามิสุ ตัวเค้กเมาตรฐานนุ่มๆ ทั่วไปนะคะ

สรุปก็คือ แม้จะอิ่มรายการอื่นมา เมนูนี้ก็ยังหมดได้เช่นกัน

Banana Fritter with Ice Cream กล้วยหอมทอด เสริฟพร้อมไอศกรีม 95.-

เมนูเก๋ๆ แบบแปลกใหม่ ลูกลมๆ นั้นคือกล้วยหอมทอด แล้วเอาไปเสียบไม้ เวลาทานผ่าซีกกลางออก

ตามด้วยตักไอศกรีมโป๊ะลงไป ความร้อนของกล้วยหอมทอด บวกไอศกรีมเย็นๆ อร่อยลิ้นจริงๆ ค่า

หมดนี้คือเราทานกันสองคนกะน้องเรา สองสาวนี่แหละ เอาเข้าจริงๆ อิ่มมากเลยนะเนี่ย

555 สองสาวนักทาน เรื่องอ้วน เรื่องน้ำหนักไว้คุยกันทีหลัง ^^

เมื่ออิ่มแล้วเราก็ไปเดินสำรวจในส่วนของห้องพักที่ The Printing House Poshtel

พื้นที่ในส่วนของห้องพักจะอยู่ชั้น 2-3-4 นะคะ มีห้องพักทั้งสิ้น 15 ห้อง

3 แบบด้วยกันคือ แบบคู่รัก สำหรับห้องส่วนตัว แบบกลุ่ม ห้อง 6 เตียงและ 8 เตียง

ไปดูกันเลยค่ะว่าหน้าตาเป็นอย่างไรบ้าง

ห้องพักแบบ Private room สำหรับคนที่ต้องการความเป็นส่วนตัวค่ะ

ขนาดห้องรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้ายาวๆ นะคะ มีห้องน้ำในตัว พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกมาตรฐานแบบโรงแรมทั่วไป

โดยราคาเริ่มต้นเปิดตัวอยู่ที่ 2400+ และตอนนี้เป็นช่วง Opening Rate ลดอีก 10-25% ค่ะ

ภายในห้องน้ำที่แยกโซนแห้งโซนเปียกออกจากกัน เพื่อความสะดวกมากขึ้น

การตกแต่งโดยรวม และพื้นที่การใช้สอย เราว่าสะอาดตาดีเหมือนกันนะคะ

อีกแบบหนึ่งนี่เลยค่า Poshtel ห้องพักแบบเป็นเตียงส่วนตัว ห้องนี้มี 6 เตียง

ห้องน้ำจะอยู่ด้านนอกนะคะ สิ่งที่จะได้รับเมื่อเช็คอินคือคีย์การ์ด

เอามาเสียบที่เตียงตัวเอง เพื่อให้ระบบไฟทำงาน มีทีวีและหูฟัง วนตัว ตู้เก็บของสำคัญติดกับเตียง

ชุดเครื่องนอนตามมาตรฐานทั่วไปค่ะ และมีม่านปิดกันแสงเพื่อความเป็นส่วนตัวให้ด้วย

ส่วนกลางห้องพักมีตู้เย็นและล็อคเกอร์เก็บของขนาดใหญ่

โดยราคาต่อคนเริ่มต้นคนละ 650+ บาทค่ะ

จะมีห้องแบบ 6 / 8 เตียง แบบ 8 เตียงจะมีห้องน้ำในตัว สำหรับนักท่องเที่ยวแบบแบ็คแพ็คชอบแนวนี้กันมาก สะดวกใกล้กับสถานที่ท่องเที่ยวที่สามารถเดินเล่นในกรุงได้หลายแห่ง

นี่ๆ หน้าตาของล็อคเกอร์ที่เก้บของส่วนตัวในห้องพักจะเป็นแบบนี้ค่ะ

นักท่องเที่ยวที่มาเป็นกระเป้ใบใหญ่หรือกระเป๋าลาก ก็สามารถใส่ทั้งใบได้เลย

และห้องพักรวม 8 เตียงนั้น ยังมีระเบียงไว้ให้พักผ่อนกันด้านนอกอีกด้วยน้าาา

ยังไม่พอแค่นี้ ทุกพื้นที่ของ The Printing House Poshtel จะไม่่มีการปล่อยให้วางเลยค่ะ

เพราะจะจัดสรรปันส่วนพื้นที่ใช้สอยทั้งหมดแบบให้ได้ประโยชน์มากที่สุด

ชั้น 5-6 จึงดัดแปลงให้เป็น Sky Bar สำหรับยามเย็น หรือกลางคืนที่จะมานั่งชิลบน Rooftop บนนี้

พร้อมเครื่องดื่มเย็นๆ อย่างสบายใจในช่วงเวลาพักผ่อน

พร้อมทั้งมองเห็นเมืองกรุง รอบทิศทาง 360 องศา เห็นวัดที่โดดเด่นเยอะมาก ทั้งวัดภูเขาทอง วัดสระเกศ

และอีกหลายวัดนะที่เรายังไม่รู้จักชื่อ อิอิ แต่ที่รู้จักและเห็นชัดๆ อีกด้านคือ วัดพระแก้วและพระเมรุมาศเห็นกันมาแต่ไกลเลยค่ะ

ถือได้ว่า The Printing House Poshtel แห่งนี้ตั้งอยู่ ใจกลางเมืองกรุง

ใกล้กับจุดสำคัญทางประวัติศาสตร์ เรียกได้ว่าเป็นทำเลที่เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวเดินทางมาเข้ากรุง

จะมาเดี่ยว เป็นคู่ เป็นกลุ่มเพื่อน ชาวต่างชาติ แบบแบ็คแพ็คนี่เหมาะเลยค่า

ขอบคุณที่ติดตามชมค่ะ