กลับมาอีกแล้ว กับ NTgoeseverywhere คราวนี้เราจะไปเชียงใหม่กัน!!

ทริปนี้เริ่มจาก อ่านรีวิวใน Readme นี่แหละ 555
เห็นเค้าไปแม่กำปองกัน ใจเลยอยากไปมั้ง

ด้วยความเป็นทริปกะทันหัน ตั๋วเครื่องบินก็แพงแสนแพง
เราเลยเก็บกระเป๋าไปรถทัวร์ละกัน

อย่ามัวเสียเวลา ไปดูกันเลยดีกว่า


เริ่มต้นที่การเดินทาง เราเดินทางด้วยสมบัติทัวร์

การจองง่ายมากๆ เข้าเว็บไซต์ของสมบัติทัวร์แล้วจองได้เลย

นี่คือหน้าตาของการจอง จองเสร็จจะจ่ายด้วยการโอน หรือเคาน์เตอร์เซอร์วิส
ก็ได้ตามสบาย

เริ่มเดินทางกันเลย


14 ธ.ค 2017 (19:00น.)

เรามาถึงหมอชิต 2 เพื่อขึ้นรถทัวร์ไปเชียงใหม่กัน รถที่เรานั่งวันนี้เป็น VIP ของสมบัติทัวร์

ก่อนอื่นเอาใบเสร็จมาแลกตั๋วก่อน

ภายในรถมีหมอนมีผ้าห่ม เก้าอี้นวดไฟฟ้า และจอทีวีให้ สะดวกสบายมาก

นั่งไปได้สักพัก พนักงานก็จะแจกน้ำ ขนม

พอครึ่งทางรถจะจอดให้เราทานอาหารที่ครัวต้นกำแพง ของสมบัติทัวร์

ข้าวต้มเบาๆ ท้องกันไป

ทานเสร็จแล้วก็ขึ้นรถไปกันต่อ ดูหนังไปหนึ่งเรื่อง นอนต่ออีกหน่อย

ตี 5 เราก็ถึงอาเขต อากาศหนาวมากก 16 องศาได้


จากนั้นเราก็นัดรับรถที่เช่าไว้ ตรง Star Avenue ใกล้ๆ กับอาเขต

นี่คือน้องขี้ม้าของเรา 5555

รับรถมาเรียบร้อยเราก็ไปหาข้าวเช้ากินกันค่ะ

เรามาทานที่ร้าน 'โกเผือกโกดำ' กัน

ร้านเปิด 8 โมง แต่เรามา 7 ครึ่ง นั่งรอไปค่ะ 5555 แต่สั่งอาหารได้เลยนะ

สังขยาคือดีมากก ทานเสร็จเดินออกมาจากร้าน ประมาณ 8 โมง 10 นาทีได้

ปรากฎณ์ว่าต่อแถวค่าาา คนเยอะมากก ดีนะที่มาเร็ว

จากนั้นเราไปต่อที่วัดอุโมงค์ค่ะ

ไม่ไกลจากวัดอุโมงค์มาก เราไปทานกาแฟที่ร้าน Asama Cafe กัน

เป็นร้านกาแฟที่อยู่ในหมู่บ้านค่ะ หาไม่ยาก

Gravity Signature ข้างบนเป็นกาแฟเอสเปรสโซ่ ข้างล่างเป็นครีมข้นๆ อร่อยมากค่ะ

จากนั้นเราก็เข้าไปในเมือง ไปเดินเล่นที่พิพิธภัณฑ์หอศิลปวัฒนธรรม เชียงใหม่กัน

ตั๋วจะมี 2 ราคาค่ะ 20 บาท จะเข้าได้ 2 ตึก 40 บาท จะเข้าได้ 3 ตึก
จะรวมพิพิธภัณฑ์ล้านนาไปด้วย

จากนั้นเราจะเดินทางไป 'ไร่ชาลุงเดช' กัน

อยู่แถวๆ แม่แตงค่ะ ไม่ไกลจากตัวเมืองประมาณชั่วโมงครึ่ง

ถึงแล้วเราเข้าที่พักกันก่อน คืนนี้เรานอนกันที่ 'Bliss homestay & Restuarant'

อยู่ไม่ไกลจากไร่ชาลุงเดช เดินไป 100 เมตรก็ถึงค่ะ

ขอบอกว่าที่พักสวยมากกกก มีแค่ 3 หลังเอง

ที่พักคืนละ 1800 นะคะ สำหรับที่นี่

วิวจากห้องพัก สวยมากก ฟินเฟ่อ


เก็บของเรียบร้อยก็เดินไปทานข้าวที่ไร่ชากัน

มาถึงไร่ชาก็ต้องกินชา

เมนูเป็นใบชาหมดเลย ใบชาทอดกรอบอร่อยมาก


ทานเสร็จเราก็เก็บแรงเข้าที่พัก พักผ่อนกัน


วันที่ 2

ตื่นเช้ามาสูดหมอกให้เต็มปอด อากาศเย็นมากก

ตื่นมาเจอแบบนี้ แฮปปี้มากกก

อาบน้ำเก็บของเสร้จ เราไปถ่ายรูปที่ไร่ชาค่ะ

ถ้าใครอยากเห็นพระอาทิตย์ขึ้นต้องไปม่อนเงาะนะคะ แต่เราไม่ได้ไปแหะๆ

อากาศดีเฟ่อ

นี่คือลุงเดชนะคะ ลุงน่ารักมากๆ มาอธิบายเกี่ยวกับชาให้ฟังด้วย

อันนี้เป็นที่พักของไร่ชานะคะ

ถ่ายเสร็จ ก็ไปจัดการค่าใช้จ่ายกับที่พัก

เนื่องจากเจ้าของเป็นคนฮอลแลนด์ ตอนที่เราไปก่อนคริสมาต์พอดี

เค้าเลยกำลังจัดเตรียมเทศกาลคริสมาต์อยู่ น่ารักมากๆ

ใครสนใจที่พัก ติดต่อได้เลย https://www.facebook.com/bliss.homestay.restaurant...

เสร็จแล้วเราเดินทางกลับไปในเมืองเพื่อมากิน ต๋องเต็มโต๊ะ ซิกเนเจอร์ของเชียงใหม่ 555

ละก็เดินไปทานกาแฟที่ Ristr8to

จากนั้นเราก็มุ่งหน้าไปแม่กำปองกันค่ะ

ระหว่างทางเราจะแวะไปถ้ำเมืองออนกันก่อน

เราต้องซื้อตั๋วก่อน คนละ 20 บาท

ถํ้าเมืองออนมีตำนานว่ามีพญานาคที่สิงสถิตย์อยู่ถายในถ้ำได้ขึ้นไปสังเกตุดูดอยถ้ำศิลา
ก็ได้เห็นพระพุทธเจ้าพำนักอยู่บนดอย
พญานาคจึงได้แปลงกายเป็นมนุษย์แล้วได้นำเอาผลไม้
และน้ำผึ้งป่าถวายแด่พระพุทธเจ้า เมื่อท่านรับเอาแล้วก็ถวายพรแก่พญานาค

พญานาคมีความปิติยินดี จึงขอเอาเกศาธาตุพระพุทธเจ้ามาตั้งไว้ในพระธาตุนมผา
เพื่อเป็นที่กราบไหว้ สักการะบูชาภายในถ้ำ

เมื่อถึงข้างบนจะมีให้เช้าไฟฉาย ใครจะเช่าหรือไม่เช่าก็ได้

ข้างในจะมืดเป็นจุดๆ มีแสงไฟส่องบ้างจุด บันไดชันมาก แต่ข้างในอากาศเย็นใช้ได้เลย

ข้างในจะมีซาก ไดโนเสาร์ สิงโต เป็นลักษณะหินอยู่ Unseen มากๆ
เดินไปเรื่อยๆ จะเจอพระธาตุนมผามนตำนาน

เดินไปจนสุดจะมีรอยเท่าพญานาคให้ดูด้วย

คุ้มที่เดินขึ้นมาจริงๆค่ะ

ดูถ้ำเสร็จ แล้วก็มุ่งไปแม่กำปองกัน ทางไม่โหดอย่างที่คิด แต่ขับยากอยู่นะคะ

เพราะถนนเล็กและรถสวนเยอะ น้องมาร์ชของเราก็ขึ้นมาได้ในที่สุด 555555

เราพักที่ The tree home คุณป้าเจ้าของกับพี่มิ้วใจดีมากๆ

เราจองแบบมีอาหารตอนเย็น และก็อาหารเช้าไว้ เป็น 2 มื้อ

ราคาแค่ 650 บาท/คน ค่ะ

ใครสนใจติดต่อได้เลย https://www.facebook.com/The-Tree-home-%E0%B8%9A%E...

บรรยากาศจากห้องนอน

เก็บของเสร็จเราไปเดินเล่นกันตรงหมู่บ้าน

เราเดินผ่านวัดคันธาพฤกษา เป็นวัดที่มีโบถส์อยู่กลางลำธาร บรรยากาศดีมาก

และก็เดินเล่นกันคะ วันที่ไปเป็นวันเสาร์ คนก็จะเยอะหน่อย


แวะพักเหนื่อยที่ร้านเปิ้ลกะตั๊ว

จากนั้นก็กลับที่พักไปกินข้าวกัน

กินข้าวใต้แสงเทียนกันไปค่าา คืนนี้

จากนั้นเราก็พักผ่อน เพื่อเก็บแรงตื่นไปดูพระอาทิตย์ขึ้นที่กิ่วฝิ่นตอนตี 5.30 ค่ะ


Day 3

ตื่นมาดูพระอาทิตย์ขึ้นกันค่ะ

เราให้ที่พักติดต่อให้ ไปกลับคนละ 100 บาทค่ะ

อากาศข้างบนหนาวมาก มีลมด้วย เลยสะท้านกันไปอีก 5555

แต่พอพระอาทิตย์ขึ้นก็ลืมความทรมานจากความหนาวไปเลย


นี่เป็นทางขึ้น ตอนตี 5 ที่มามองไม่เห็นทางเลย 555

รถที่พามาค่ะ แนะนำให้ไปกับเจ้าถิ่นนะคะ ทางโหดมาก

จากนั้นเรากลับมาทานข้าวต้มก่อนกลับกัน

ได้เวลากลับแล้ว

ขากลับเราขึ้นรถที่อาเขตเหมือนเดิม รถออก 13.30 น.

ก่อนกลับเราเลยมาแวะทานร้าน เฮือนม่วนใจ๋ กันก่อน

เป็นอันจบทริปเชียงใหม่ในปีนี้ค่ะ

อย่าลืมดูวิดิโอกันนะคะ



ขอบคุณที่ติดตามนะคะ

ติดตามรีวิวอื่นๆได้ที่

https://www.facebook.com/ntgoeseverywhere/

https://isnamtarn.wordpress.com/

https://th.readme.me/id/ntgoeseverywhere

Contact me

Facebook : ntgoeseverywhere

Instagram : ntgoeseverywhere

#ntgoeseverywhere #eatwithnt

Isnamtarn

 วันจันทร์ที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2560 เวลา 20.42 น.

ความคิดเห็น