สวัสดีค่ะ วันนี้เราจะมารีวิวเชียงใหม่ๆๆๆๆ หลังจากที่เราเคยไปเที่ยวเชียงใหม่มาเมื่อประมาณ 7 ปีที่แล้ว ไม่รู้ป่านนี้เป็นยังไงบ้างนะ เราก็มีโอกาสได้ไปอีกครั้ง ไปโดยแผนการไม่มี ไปเจออะไรไปแก้ปัญหาหน้างานกันค่ะ 555

เราเริ่มเดินทางโดนการโดดเรียน == เราเดินทางออกจากเพชรบุรีในบ่ายวันที่ 3 ธันวาคม นั่งรถตู้ไปลงที่สายใต้ใหม่ ต่อรถเมล์ลงที่รถไฟฟ้าแล้วต่อแอร์พอตลิ้งไปที่สุวรรณภูมิ นี่แค่เริ่มต้นก็ต่อกันสนุกเลยค่ะ ต่อไปต่อมาใจตุ้มๆต่อมๆจะทันไหม เรามาถึงที่สนามบินในเวลา 16:30 น. เรามีไฟต์บินตอน 17:15 น. ไปค่ะไปกันการเดินทางของเราเริ่มต้นขึ้นแล้ว


นั่งรอคอย ใกล้ได้เวลาเเล้ว ^^


ไปค่ะ ออกดินทางกัน "ยิ้มจนปากจะฉีก มีความสุขม๊ากกกกมาก

เราบินตอนเย็น พระอาทิตย์ก็จะสวยมากๆ บรรยากาศพระอาทิตย์ตกลับก้อนเมฆไป

แต่ที่ฟินไปอีกคือ ฝั่งตรงข้ามคะ พระจันทร์ดวงโต๊โต ...

เรามาลงเครื่องถึงเชียงใหม่เวลา 18:30 น. เราก็จะเดินออกจากสนามบินแบบงงๆหน่อย เพราอะไรนะหรอ บอกแล้วไง ไม่ได้แพลน 555 เราทำการจดๆจ้องๆกับเพื่อนเป็นเวลาเกือบ 10 นาที ก็เรียกพี่แท็กซี่ค่ะ ไปกัน 150 บาท ไปที่พักกัน

ที่นี่คือที่พักของเราคะ Casa Marocc Hotel เป็นโรงแรมแบบบูติคโฮเทลที่ตกแต่งสไตล์อาหรับอยู่ห่างจากสนามบินเพียง 4 กิโลเมตร โรงแรมตั้งอยู่ถนนริมแม่น้ำเชียงใหม่

ถึงแล้วค่ะ ที่พักของเรามาเช็คอินกันก่อนเลย


ถึงที่พักก็อยากล้มตัวลงนอน แต่ยังค่ะ วันนี้วันอาทิตย์พอดีเราต้องไปเดินถนนคนเดินท่าแพ ถนนคนเดินท่าแพอยู่ห่างจากที่พักเราเพียง 1.2 กิโลเมตร แต่เราจะไปกันยังไง อ่อ ลงไปถามที่เค้าท์เตอร์

พี่ที่รับเช็คอิน ก็เรียกอูเบอร์ให้

ไม่นานเกินรอ รถก็มารับถึงหน้าโรงแรมเลย พี่อูเบอร์เป็นพี่ผู้หญิง น่ารักมาก เราบอกพี่เค้าว่านี่เป็นการขึ้นอูเบอร์ครั้งแรก พี่เค้าดีใจมากๆที่ได้มาบริการเรา

พอเรามาถึงประตูท่าแพ สิ่งแรกที่เราได้สัมผัสคือผู้คนมากมาย ไม่ต่างจากเมื่อ 7 ปีที่แล้วเลย ที่นี่มีถนนให้เดินหลายเส้นทาง พ่อค้าแม่ค้าที่ออกมาขายงานอาหาร งานฝีมือศิลปะ แต่ที่เราถูกใจที่สุดคือ แม่ค้าขายร่ม อู้กำเมือง น่ารักมากๆเลย

ตั้งแต่เช้าเรายังไม่ได้กินอะไร เวลานี้เลยมาเพื่อกินๆ อย่างเดียวเลย


แวะไหว้พระกันสักนิด

พอเราเดินเที่ยว กินกันจนอิ่มเราก็ไปเดินทางหาบาร์นั่งเล่นกัน เราเปิดแมพเราเดินเท้าไปที่บาร์กัน ระยะทางกว่า 3 กิโลเมตร เด่วนะ เดิน 3 กิโลเมตร 5555 เราเริ่มเดินกันเลย เดินไปเดินมา หนื่อยและนานมาก แต่ไม่ท้อค่ะ เดินต่อไปจนถึง Woods Bar, Rooftop 12 Fl. ในเวลา 23.00 น. ซึ่งบาร์ปิด 00.00 น. ได้ข่าวว่าที่นี่เป็นที่เปิดเป็นบาร์และมีแกลอรี่แสดงงานศิลปะด้วย



พอมาถึงครัวก็ปิดแล้ว บาร์ก็จะปิด งานศิลปะที่จะแสดงก็ไม่มี แหม่นั่งรับลมหนาวก็พอเนอะ

หมดแล้วกับค่ำคืนแรกของวัน ขากลับเราโหลดแอปเพื่อเรียกอูเบอร์เลย รอไม่ถึง 5 นาทีพี่เค้าก็มารอเราแล้ว

ราตรีสวัสดิ์ คืนแรกที่เชียงใหม่ พรุ่งนี้เรามาลุยกันต่อนะคะ

สวัสดียามเช้าาาาา เรามาทานอาหารเช้ากันที่โรงแรม และมาสอบถามพี่ๆที่เค้าเตอร์เรื่องการเดินทางกันได้ข้อมูลมาว่าถ้าจะไปม่อนโน่นม่อนนี่มากมายหลายม่อน มีรถพาไปแต่ราคาค่อนข้างสูง แต่มันก็มีอีกวิธีหนึ่งคือการขี่รถมอเตรอ์ไซด์ไปเอง ค่าเช่าไม่แรง น้ำมันเติมเท่าที่ใช้ เราก็เลยโอเคคะ เช่ามอเตอร์ไซด์ไปแว้นกัน เราตกลงเช้าอยู่ที่ 1 วัน นะคะ 350 บาท เติมน้ำมันเองไม่ถึง 100 บาท

สถานที่ที่เราจะไปที่แรกคือ แม่กำปอง ... ระยะทางในการดินทางกว่า 58 กิโลเมตร ไปค่ะเริ่มออกเดินทางกันเลย

พี่คลิก125สีฟ้าคู่ใจ ไปไหนไปกัน แต่ว่าไปทางไหนดี 5555

เราขี่รถกันมาเรื่อยๆ ตามทางที่พี่กูเกิลบอก ก็มาถึงทางเส้นเล็กๆที่มีความลาดชันพอสมควร ก็ได้ทำการเปลี่ยนคนขี่รถ ถนนในเมืองเราขี่ ขึ้นป่าขึ้นดอยเชิญเพื่อนเลยค้าาาาา เข้าโค้งขึ้นเขาเนียนๆเหมือนถนนที่บ้านเกิด 555

มาค่ะ มาดูกันว่าที่แม่กำปองมีอะไรดี ใครๆเค้าถึงได้มากัน

ซื้อด้วยความสงสัย ไข่ป่าม 20 บาท คล้ายๆไข่ตุ๋น แต่เอาไปปิ้งแทนการนึ่ง อร่อยอุ่นๆหอมๆ

ร้านดีร้านดัง ใครๆเขาก็มา เราก็มา นะจ๊ะ

ร้านกาแฟที่อร่อยทั้งกาแฟและบรรยากาศ มาถึงตรงนี้อยากจะบอกว่า แม่กำปองหนาวมากกกกกกกกก

พอเราเดินเที่ยว กินอิ่มแล้วเราก็ขี่รถลงจากแม่กำปองกัน แล้วเราไปกันต่อที่ดอยสุเทพค่ะ

จากแม่กำปองมาที่ดอยสุเทพระยะทางประมาน 66 กิโลเมตร เราก็ขี่รถกันอย่างมันส์เลยวันนี้ ในการไปดอยสุเทพจะผ่านมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และสวนสัตว์เชียงใหม่ เราแวะเซลฟี่แปปนึงแล้วรีบไปกันต่อเพราะกลัวจะค่ำก่อนจะไปถึงดอยสุเทพ

ถนนทางขึ้นดอยสุเทพมีคนบอกว่าโหด แต่สำหรับเราไม่เนอะ เราว่าแม่กำปองโหดกว่า แคบกว่า ชันกว่าเยอะเลย ถนนที่นี่กว้าใหญ่ ขี่สบาย

ข้างๆทางก็มีน้ำตกให้ดูเล่นเพลินๆ

เมื่อเราขี่รถมาถึง ก็เดินขึ้นบันได 306 ขั้น บอกเลย อย่างเหนื่อยแต่ก็สู้โว้ยยยยยย !!

ที่นี่คนเยอะมากๆ มีเด็กชาวเขาแก้มแดงน่ารักๆเต็มเลย อ่อ การแต่งตัวเวลาไปไหว้พระธาตุเขาจะมีผ้าถุงให้นะคะ ไม่ต้องห่วงถ้าใส่ขาสั้นไป

ป่ะ เดินทางกลับกัน


เรากะว่าจะไปถ่ายรูปกับสวนดอกไม้หลัง มช แต่หาไม่เจอเลยได้ไปหาของกินแทน สมเหตุสมผลมากเลยทีเดียว

ช่วงเย็นในวันที่ 2 นี้เรามาหาอะไรอร่อยกินกันในตัวเมืองเนอะ ร้านแรกด้วยความโหย


ร้านคั่วไก่นิมมาน เจ้าเด็ดเจ้าดังที่ใครมาเที่ยวเชียงใหม่ไม่ควรพลาดนะจ๊ะ

หลังจากอิ่มคาวก็มาอิ่มหวานกันต่อกับร้านข้างๆ I BERRY

นี่ก็เริ่มมืดแล้ว แต่เรายังไม่นอน ไปกันต่อที่ตลาดไนท์บราซ่าาาาาาาา มาเพื่ออะไร มากินนี่ไง 555

เรามาเดินเที่ยวๆ หาซื้อเครื่องเงิน ในคืนที่อากาศเหน็บหนาว และเราก็แอบไปกินหมาล่ากันอีกนิด


และแล้วก็ถึงเวลากลับที่พัก ที่พักของเราอยู่ห่างจากที่นี่ ประมาณ 1.2 กิโลเมตร แต่เราใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมงหาที่พัก ทำไมนะหรอ หลงคะ 555 หลงจริงๆ พี่กูเกิลพาเราวนๆ อ้อมไปอ้อมมา กลับมาที่เดิม จนต้องถามถามกลับโรงแรมซึ่งจริงๆ ขี่รถไม่ถึง 10 นาทีเอง ด้วยความง่วงและความมึนเลยราตรีสวัสดิ์กันตรงนี้เลย

สวัสดี เช้าวันต่อมา เราไปไหนกันดีน่ะ กินข้าวกันก่อนค่อยคิดเนอะ

ในตอนเช้าเราโทรไปต่อเวลาการเช่ารถ พี่เจ้าของรถใจดียอมต่อให้อีกครึ่งวันเสียค่ารถเพิ่มนิดหน่อย เราวางแผนว่าจะไปจองตั๋วรถกลับก่อน เพราะเราไม่ได้ซื้อตั๋วเครื่องบินกลับไว้ == กะว่าไปไหนก็ได้แต่ต้องมีรถกลับก่อน

ป่ะๆ จองตั๋วรถกัน

เราได้รถกลับเพชรบุรี เวลา 19:30 น. เท่านี้ก็โล่งใจ ไปเที่ยวกันต่อดีกว่า


เราเดินทางกันต่อไปที่ ม่อนแจ่มมมมมมม ไหนๆจะแจ่มแค่ไหน เหมือนที่เค้าว่ากันหรือป่าวน่ะ จากในตัวเองที่เราอยู่ระยะทางประมาณ 57 กิโลเมตร จิ๊บๆเนอะ

เส้นทางการไปไม่ค่อยลำบากมาก แถมข้างทางก็มีอะไรให้แวะมากมายเลย แวะจนลืมเวลา เวลาหมดกันเลยวันนี้

มาดูต้นสตรอเบอรี่สดๆ ชิมไอศครีมหีอมมมมหอม

แวะน้ำตกกันอีกนิดหน่อย

เมื่อเราขี่รถกันมาเรื่อยๆ ทางเริ่มชันขึ้นและแคบลงบ่งบอกถึงว่า เราใกล้ถึงแล้วววววว

นี่ไงม่อนแจ่มจ๋าาา คนเยอะมากเลยจ้าาา

เรามาดื่มดำ่กับวิวของเราดีกว่า



สิ่งที่สวยไม่แพ้วิวที่นี่คือ ดอกไม้ สวยงามมากจริงๆดูทั้งวันยังไม่เบื่อเลย

ตอนเด็กเราเรียกว่าลูกโคม 5555 เป็นการได้ชิมครั้งแรก มันก็อะไรแปลกๆดีนะ

ปิ้งย่างๆ ของป้าอร่อยมากๆ เป็นการมาเชียงใหม่ที่ได้กินไส้อั่วอันเดียว และราคาแค่ 10 บาท

เมื่อเราสูดอากาศดีๆจนชุ่มปอดแล้วก็ต้องรักษาเวลาเนอะ ลงจากม่อนกัน

แล้วเรามากินข้าวกันต่อที่นี่เลย โอ้กะจู๋ ในระยะทางกว่า 35 กิโลเมตร เพื่อของกินเราขี่รถไปได้เสมอ ท่องไว้ๆ

เรามาที่นี่กันแบบใจตุ้มๆต่อมๆว่าจะมีที่นั่งมั้ยนะ แต่มีสิมีนะ และแล้วก็มีที่นั่งและการสั่งอาหาร สะพานโค้งงงง โอ้โห จานเบอเริ่มเลย คือใหญ่มากกกกกก และอร่อยมากกกกก ตอนนั่งเขียนรีวิวนี่ก็ยังหิว อยากกินอีกจังเลย ++

เมื่อเที่ยวเสร็จ กินอิ่มก็ได้เวลากลับแล้ว เราขี่รถกลับที่พักเพื่อเอารถไปคืนและเอากระเป๋า ป่ะ กลับบ้านกัน เรากลับมาถึงโรงแรมเวลา 17:00 น. และได้ทำการคืนรถมอเตอร์ไซด์เรียบร้อย อ้าว ! แล้วจะไปที่ท่ารถยังไง เราทำการเรียกอูเบออีกครั้งแต่เป็นการเรียกไปตลาดเพื่อไปซื้อของฝาก เมื่อเราซื้อของฝากเสร็จ เอ้า ! โทรศัพท์เป็นอะไร เน็ตเล่นไม่ได้ เรียกรถไม่ได้ แง่ เรายืนๆ กันอยู่สักพักมีเมล์แดงมาจอดเรียกเราขึ้นรถเพื่อไปส่งที่ท่ารถ บขส . เขาว่ากันว่ามาเชียงใหม่ต้องมาขึ้นเมล์แดง สุดท้ายเราได้ขึ้นแล้วนะ

รีบถ่ายมากกกกก เลยได้แบบนี้ จอดปุ๊ปพี่คนขับวิ่งออกไปปั๊บ ==

รถของเราออกเดินทางในเวลา 19:30 น. เราหลับสนิทตลอดทางด้วยคงามเพลียมากๆ ตอนที่ไปเที่ยวนั้นคิดแต่ว่าไปยังไงให้คุ้มกับเวลามากที่สุด สุดท้ายมันก็คุ้มจริงๆ คุ้มค่าที่ครั้งที่ได้ออกเดินทาง

เรากลับมาถึงเพชรบุรี 07:30 น. ก็ต้องรีบอาบน้ำแต่งตัว ทำงานกันต่อเลย 555 ทรหด อึก ถึก ทน แต่ก็ชอบ สนุกและมีความสุขมากๆเลย

เอาไว้มีโอกาศอีกเราจะได้เจอกันอีกเนอะ เชียงใหม่จ้าววววววว

เข้าเดือนธันวาแล้วอากาศมันจะเย็นหน่อยๆ ทริป 3 วัน 2 คืน นั่งรถตู้ รถเมล์ รถไฟฟ้า เครื่องบิน แท็กซี่ อูเบอร์ครั้งแรก แว้นมอเตอร์ไซด์ขึ้นดอย เดินเท้ากว่า3 กิโลไปบาร์ สุดท้ายเมล์แดง และรถทัวร์ การเดินทางสุดครบเหลือล่องเรือ ปั่นจักรยาน 5555

มาสนุกกันในหน้าหนาว แว้นๆ หนาวๆ อาหารอร่อย อากาศดี ผู้คนน่ารัก แม่กำปองหนาวมาก ม่อนแจ่มคึกคักขอขอบคุณ Casa marocc hotel ที่เอื้อเฟื้อที่พักนะคะ

เที่ยวจนอยากจะบอกว่า แม่ ! หนูเที่ยวจนเงินเดือนไม่พอใช้แล้ว

ขอขอบคุณสำหรับทุกๆการติดตาม หากมีอะไรผิดพลาดไป ''สุมาเต๊อะเจ้า''

ME' Art X Traveller.

 วันอังคารที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2560 เวลา 15.53 น.

ความคิดเห็น