และแล้ว หมีหมู ก็พาเพื่อนๆดำเนินมาถึงเมืองสุดท้ายของทริป
ฮอกไกโด 8 วัน 6 เมืองของเราแล้ว

=======================================

S A P P O R O
ซั ป โ ป โ ร

=======================================

เนื่องจากซัปโปโร เป็นเมืองหลวงของ ฮอกไกโด
ทำให้อาจจะไม่มีธรรมชาติมากมายเหมือนเมืองที่ผ่านมา

หมีหมูเลยพยายามเสาะหาสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญๆ
ในเมืองมาแชร์ให้เพื่อนๆได้ดูกัน

ลองมาดูกันเนอะ

Sapporo ทริปสุดท้ายในฮอกไกโดกับการเดินทางของเรา2คน



วนมาถึงที่สุดท้ายแล้วกับทริปญี่ปุ่นต้นปีที่ผ่านมา

มาฮอกไกโด ถ้าไม่แวะซัปโปโร คงเรียกว่ามาไม่ถึง



จะเป็นยังไงมาดูกัน



การเดินทางในเมืองซัโปโร ก็สะดวกสบาย

เพราะมีรถไฟฟ้าให้เดินทางไปตามสถานที่ต่างๆ



ทั้งยังสามารถซื้อแบบ 1 Day Ticket ได้ด้วย



สำหรับจุดแรก มาเริ่มต้นด้วยโรงงานชอคโกแลต

ที่ขึ้นชื่อมายาวนาน



นี่เป็นตึกที่เราเจอ ไม่เหมือนที่เราคาดซักเท่าไหร่



แอดหมูคิดว่าจะเป็นโรงงานญี่ปุ่นซะอีก



การเข้าโรงงาน มีพาสปอตพร้อมขนมขึ้นชื่อของอิชิยะ



1 คน รับพาสปอต 1 เล่มพร้อมขนม 1ชิ้นให้ลองชิมกัน



ซึ่งบอกเลยว่าถ้าได้ชิม ยังไงก็ต้องซื้อกลับบ้านแน่นอน



เพราะมันอร่อยมากๆ ขึ้นลิสต์ขนมหวานแสนอร่อยในใจแอดหมู



ไปเลย



สำหรับจุดที่ประทับใจที่สุดของแอดหมู คือ จุดนี้เลย



"Chocolate time tunnel" เพราะข้างในมีกลิ่นของชอกโกแลต



หอมกรุ่นตลอดทาง แอดหมูเดินไป ปาดน้ำลายไปเลยค่ะ



มันห๊อมหอมยั่วใจมากๆ ><



ในโรงงาน มีทั้งประวัติการผลิตชอกโกแลต



ว่าต้นกำเนิดมาจากที่ไหน ขั้นตอนการผลิต



โดยเล่าผ่านตุ๊กตาพร้อมภาพฉายที่แสดงขึ้นมา



ดูได้เพลินๆ ไม่น่าเบื่อเลยค่ะ



จุดแลนด์มาร์คสำหรับโรงงาน อิชิยะ คือมุมนี้เลย



ใครไปแล้ว อย่าลืมถ่ายนะ



เมื่อเราหลุดจากฝั่งทางด้านของพิพิธภัณฑ์มาแล้ว



เราก็จะมาเจอกับโซนซื้อของฝาก



หากใครเป็นแฟนพันธุ์แท้ของขนมอิชิยะก็เข้าไปอุดหนุนกันได้เลย



แต่ถ้าซื้อแค่ขนม แอดแนะนำไปซื้อที่สนามบินดีกว่า



มีขายจะได้ไม่ต้องหิ้วให้ลำบากน้าาา



อันนี้ทีเด็ด ไอศกรีมอิชิยะ ต้องลอง ห้ามพลาดเด็ดขาด!!!



เพราะว่ามันดีมากกกก หิมะตกหนาวๆ กับไอติมเย็นๆนี่มันฟินมาก



มีให้เลือก 3 แบบ ไวท์ช็อค ทูโทน ช็อกโกแลต นั่นเอง



เลือกกันได้ตามชอบเลยค่ะ



แอดหมูเลือกทูโทน เพราะอยากกินทั้งคู่เลย



สำหรับแอดหมู ขอเลือก "ไวท์ช็อก" ค่าาาา



อร่อยแบบละมุน ลงตัวที่สุดดดดด ><



บรรยากาศด้านนอกของโรงงาน สวยเหมือนอยู่ยุโรปเลย



พอเป็นบรรยากาศแบบนี้ ช่างเข้ากับขนมหวานอร่อยจริงๆ



แต๊นนน...เห็นเป็นโรงงานแบบนี้ มุมสวยๆเยอะเลยนะ



แอดหมูมีรึจะพลาด ไปค่ะ ถ่ายรัวๆกันไปเลย



(สงสารแอดหมี กดชัตเตอร์นิ้วล็อกกันไป 5555)



จุดต่อมา เรามาต่อกันที่ ศาลเจ้าฮอกไกโด ค่าาา



ทางเข้าก็จะมีรถขายของกินเล็กๆน้อยๆ ให้แวะชิมกัน



แต่ข้างในมีร้านเต็มเลย แอดหมูแนะนำเข้าไปข้างในดีกว่า



เพราะหลากหลายกว่าค่ะ



รถขายของสุดน่ารักค่ะ อันนี้เป็นรถขายดังโงะนั่นเอง



ซึ่งแอดหมูก็โดนมา 1 ไม้ ซึ่งมัน....แป้งราดน้ำเชื่อมชัดๆ TT



มาถึงกันแล้ว สถานที่หลักในการเดินทางมาของเรา



ศาลเจ้าฮอกไกโดนั่นเอง



ศาลเจ้าจะค่อนข้างกว้าง เราไปดูกันเลยค่าา



ก่อนการเดินเท้าเข้าถึงตัวศาล หากใครไปช่วงหิมะตก



จะมีมุมขาวโพลนมากมายให้เราได้ถ่ายรูปเล่นกันเยอะแยะเลย



หมีหมูไปเที่ยวกันในช่วงเวลาของปีใหม่



ทำให้มีประชากรคนญี่ปุ่นเดินทางมาขอพรรับปีใหม่กันอย่างล้นหลาม



หากใครกังวลกลัวจะหาศาลไม่เจอ หมดกังวลได้เลย



เพราะเมื่อเห็นเสาไม้ใหญ่เด่นตะง่าน นับเป็นสิ่งบ่งบอกว่าเราเข้าเขตศาลเจ้าแล้ว



ระหว่างทางก็จะเจอมีศาลเล็กๆ สามารถแวะได้ตลอดทาง



เนื่องจากเป็นช่วงเทศกาลปีใหม่

จะมีบูธอาหาร และของขายมาเปิดร้านกันแน่นหนา



เราสามารถเลือกกินเลือกชอปกันได้



บรรยากาศแบบนี้ทำให้นึกถึงสมัยเด็กๆที่ไปเที่ยวงานวัดเลยแหละ



ถึงแล้วค่าาา....ศาลเจ้าใหญ่ของเรา



ในศาลเจ้า มีบ่อน้ำให้เราล้างมือ ล้างหน้า บ้วนปากด้วย



ไม่แน่ใจเหมือนกันว่า ช่วยอะไรบ้าง



แต่น่าจะล้างสิ่งไม่ดีออกไป ใครมีข้อมูลแชร์กันเนอะ



มีการเขียนป้ายไม้ อวยพรด้วย ซึ่งมีหลากหลาย



ราคาอยู่ที่ ใบละ 500 เยน เขียนแล้วแขวนไว้ได้เลยค่ะ



ระดับแอดหมู มีรึจะพลาด เขียนขอพรรับปีใหม่กัน



แต๊นนนนน....ของแอดหมูเอง ถ่ายมาแบบนี้ก็จะเขินๆหน่อย



อากาศด้านใน หนาวมาก ชาวญี่ปุ่นจะมีเครื่องดื่มปีใหม่



ในศาลเจ้าให้ดื่มแก้หนาวกันค่ะ คือ เหล้าหวาน



ซึ่งดื่มแล้ว ไม่เมานะคะ ไม่ต้องห่วง



ดื่มแล้วแก้หนาวได้ดีมากๆค่ะ ฟินมาก แก้วละ 200 เยนเท่านั้นเอง



ถึงเวลากินแล้ว เริ่มเลย....ไทยากิ



ยากิโซบะ แบบออริจินัลลลล



ทำกันตรงหน้าเลย ร้อนฉ่าสะใจมาก



ทาโกะยากิ



ด้วยความหิวเนอะ แอดหมูเลยรีบไปหน่อย



ปากจะพองกันเลยทีเดียว คนไหนกินก็ระวังกันด้วยน้าา TT



จุดที่3 สถานที่ราชการซัปโปโร ตึกแดงที่แสนโด่งดัง



เป็นอีกจุดที่ต้องมาถ่ายกันน้าาา



ไหนๆ ก็หิมะตกละเนอะ แอดหมีหมูเลยช่วยกันปั้นน้องฮอกไกโด



ตาแดงด้วยนะ ดุแน่นอน



พอตกเย็นท้องก็เริ่มร้อง (นี่ขนาดกินกันมาทั้งวันนะ)



ก่อนเดินทางไปจุดหมายข้าวเย็น

เราได้เจอร้านขายสิ่งนี้ระหว่างทาง

ตั้งอยู่ภายใต้ Sapporo TV Tower

เป็นร้านขาย โคโรเกะ (คร็อกเกะ? เรียกยังไงหว่า)



ซึ่งไส้ที่เราลิ้มลองคือรสแกงกะหรี่เนื้อวัว



อยากบอกว่า



มัน อร่อย มากกกกกกกก



สถานที่ทำให้เราอิ่มท้องเย็นนี้คือ



"ตรอกราเม็ง" แห่งเมืองซัปโปโร นั่นเอง



ซึ่งเป็นไปตามชื่อ เป็นตรอกสั้นๆ ระยะไม่ะถึง 100 เมตร

อัดแน่นไปด้วยร้านราเม็งตลอดสองข้างทาง



ตาลายจนไม่รู้จะเลือกร้านไหน สุดท้ายจึงมาจบที่ร้านนี้

(เพราะมีหมีเป็นสัญลักษณ์ วะฮ่ะฮ่าาาา)



นี่เลย เมนูเด็ดของร้าน!!!



Super ชาชูเมน



ซึ่งถ้าใครสั่งชาชูเมนปกติ จะได้หมูชาชูแค่ 4 ชิ้น

แต่ชามนี้มีอย่างจุใจ



16 ชิ้นด้วยกัน!!!



ต่อมาด้วยเมนูที่เชฟหมีดำแนะนำ

ราเม็งซุปเนยข้าวโพด อันนี้ของแอดหมูเอง



หลังจากเรารองท้อง (หราาาาาาา)

ด้วยราเม็งลุงหมีดำ



ก็มีอีกร้านที่เราไม่อยากพลาดให้หลุดไปจากลิสต์ที่เรามี



นั่นคือร้าน "ดารุมะ เนื้อย่างเจงกีสข่าน"



หากใครเคยอ่านรีวิวร้านนี้มา

บอกเลยว่านอกจากรสชาติที่สุดยอดแล้ว



ระยะเวลาแห่งการรอคิว ก็สุดยอดไม่แพ้กัน



หมีหมูเคยอ่านเจอว่าต้องไปยืนรอกันถึง 1 ชั่วโมงกว่าๆ



แต่หมีหมูจะไม่ยอมแพ้ เพื่อนำรสชาติของร้านนี้มาถ่ายทอดให้ลูกเพจได้รับรู้กัน



ซึ่งเราสองคนก็รอไปถึง 1.30 ชั่วโมงจริงๆ!



ภายในร้าน ดารุมะ มีที่นั่งเพียงแค่ประมาณ 15 ที่แค่นั้น

ทำให้การรอคิวนั่นเนิ่นนาน



แต่สำหรับรสชาติบอกเลยว่า คุ้มมากกกก



TurkTS

 วันอังคารที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2561 เวลา 17.05 น.

ความคิดเห็น