Hitsujigaoka Observation Hill



แผนการเดินทางของแต่ละวันในฮอกไกโด

วันที่ 1 : Nijo Fish Market / Maruyama Park + ศาลเจ้าฮอกไกโด /

มหาวิทยาลัยฮอกไกโด / Former Hokkaido Government Office / หอคอยนาฬิกาซัปโปโร / ทีวีทาวเวอร์ / ตรอกทานูคิโคจิ

วันที่ 2 : Jozankei

วันที่ 3 : Hitsujigaoka Observation Hill / Otaru

วันที่ 4 : Hakodate

วันที่ 5 : Aomori และกลับโตเกียว


สำหรับจุดชมวิวฮิสึจิงาโอคะ(Hitsujigaoka Observation Hill) เป็นจุดชมวิวที่อยู่บนเนินเขาทางทิศใต้ ของซัปโปโร จากจุดชมวิวสามารถมองเห็นทุ่งหญ้าและตัวเมือง และจุดเที่ยวที่อยู่ ณ จุดชมวิวนี้ ได้แก่ รูปปั้นศจ.วิลเลียม เอส. คลาร์ก(Prof. William S. Clark) , Clark Chapel , Sapporo Blanc Birch Chapel, พิพิธภัณฑ์เทศกาลหิมะ (Snow Festival Museum) รวมทั้งร้านอาหารและจุดขายของที่ระลึก

ช่วงที่เดินทางคือช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน บรรยากาศจะเป็นฟ้าใสๆ กะทุ่งหญ้าเขียวๆ ค่ะ


การเดินทางไปยังจุดชมวิวฮิสึจิงาโอคะ สามารถเดินทางได้โดยขึ้นรถ subway สาย Toho ลงสุดสายที่สถานี Fukuzumi

เมื่อถึงที่สถานี Fukuzumi ให้เดินไปตามทางที่เขียนว่าไป Fukuzumi Bus Terminal ขึ้นบันไดเลื่อนไปตามทาง

ให้ไปตามป้ายที่จะไปจุดรอรถบัสหมายเลขที่ For Hitsujigaoka Observation Hill

รถรถบัสหมายเลข 84 ที่ชานชลา 4 ไปลงที่ HitsujigaokaTenbodai


บรรยากาศในรถบัส ค่าโดยสารรถบัสเที่ยวละ 200 เยน

นั่งรถบัสไม่นาน รถบัสก็ไปจอดส่งถึงประตูเลยทีเดียว

แผนที่ในบริเวณจุดชมวิว รถบัสสายที่เรานั่งสุดสายที่นี่ จอดตรงบริเวณ Ticket gate ตรงจุดจำหน่ายตั๋วจ่ายค่าเข้าคนละ 520 เยน เราก็เดินเที่ยวจุดต่างๆ ตามในแผนที่ได้เลย


เริ่มจาก รูปปั้นศจ.วิลเลียม เอส. คลาร์ก หนึ่งในคณาจารย์ผู้ก่อตั้งมหาวิทยาลัยฮอกไกโด

Clark Chapel โบสถ์ขนาดเล็กที่เคยใช้จัดพิธีงานแต่งงาน

พิพิธภัณฑ์เทศกาลหิมะ

ตอนไปยังเช้ามากพิพิธภัณฑ์จะเปิดตอน 9 โมงเช้า เราเลยถ่ายรูปเล่นรอบๆ รอ

พอถึงเวลาพิพิธภัณฑ์เปิดก็เข้าไปเดินชมข้างใน ข้างในเป็นการรวบรวมข้อมูลเทศกาลหิมะของปีต่างๆ ทั้งรายละเอียดของงานและแบบจำลอง มีรูปงานของไทยแสดงอยู่ด้วย



แล้วก็มีส่วนที่จำลองปั้นเป็นการ์ตูนต่างๆ



มารูโกะ



วันพีชก็มี



ของที่ระลึก



ห้องข้างล่างจะมีไว้ฉายงานเทศกาลหิมะ



เดินออกจากพิพิธภัณฑ์ส่วนต่อไปที่จะผ่านคือ Rest House เป็นร้านอาหารมีเนื้อแกะย่างบาร์บีคิวขึ้นชื่อด้วย แต่เราจะไปเที่ยวกันต่อ เลยปิดท้ายที่นี่ด้วยซอฟครีมเมล่อน หอมและอร่อยมาก



ติดใจจนอยากกินอีก


สำหรับขากลับรถบัสจะจอดรออยู่ตรงหน้า Austrian House อาคารขายของที่ระลึก ขึ้นรถบัสรอถึงเวลารถบัสก็จะออกนั่งกลับไปลงที่สถานี Fukuzumi ได้เลย ค่ารถ 200 เยนเช่นเดิม


หลังจากกลับจากจุดชมวิว จุดหมายต่อไปของเราคือ "โอตารุ" ค่ะ


ติดตามการท่องเที่ยวของเราได้ที่ https://www.facebook.com/whenigoto

และ https://www.whenigoto.com

whenigo

 วันอังคารที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2561 เวลา 18.25 น.

ความคิดเห็น