จิกปลายเท้า เช้าจรดเย็น สวัสดี สะ-วี-ดัด คิวชู จร้า...

ตั้งแต่ที่ ญี่ปุ่นเปิด free visa หลายๆคนก็เดินทางไปญี่ปุ่นเป็นว่าเล่น ในชีวิตผม เดินทางไปก็หลายประเทศอยู่ แต่บอกเลย ผมชอบ วัฒนธรรม ความเป็นอยู่ นิสัยใจคอผู้คน ของประเทศนี้มากที่สุด (ในความคิดของผมนะครับ) ประเทศเขามีธรรมชาติ แหล่ง Shopping พร้อมทั้งสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆมากมาย ทำให้ผมติดใจหลงใหลในประเทศนี้อย่างเต็มอก อารัมภบทกันมามากแล้ว เริ่มเลยละกันนะ ไปเที่ยวกัน

ทริปนี้ผมจะเดินทางไปทางตอนเหนือของเกาะคิวชูซึ่งอยู่ทางใต้ของประเทศญี่ปุ่น อย่างงๆ ฮ่าๆๆ ถ้าพูดว่า ฟูกูโอกะ ก็คงจะรู้จักกันทุกคน (จะพูดให้งงกันทำไม เอ้อ) ผมจับโปรโมชั่นของสายการบิน JS อีกตามเคย คลิกไปคลิกมารวมโหลดกระเป๋า บวกค่า charge โน่น นี่ นั่น รวมเป็นเงินทั้งสิ้น คนละ 6653 บาทจร้า ถูกดีเลยจัดไป ไปครั้งนี้ ผมเลือกที่นั่งข้างทางเดินเลยครับ เพื่อที่จะได้ ยืดขาเวลานอนได้ เรื่องที่พัก ผมใช้บริการ agoda อีกเช่นเคย จองก่อนจ่ายทีหลังจร้า เนื่องจากทริปนี้มีผู้ใหญ่ไปด้วย 3-4 คน เรียกว่าจัดกรุ๊ปทัวร์ private แหละครับ ผมเลือกใช้บริการ Hotel Monterey La Soeur Fukuoka


ซึ่งอยู่แถบ Tenjin ครับก็ไม่ไกลจาก Hakata เท่าไหร่ครับ ราคา 5 วัน 4 คืนตกคืนละเกือบ 4000 บาทอ่ะครับโหดอยู่ แต่ต้อง อำนวยความสะดวกให้กับผู้ใหญ่ที่มาในทริปด้วย ก็ต้องราคานี้แหละครับ

ป่ะ let go now .. ถึงสนามบินระหว่างประเทศที่เมืองฟูกูโอกะ ผ่านตรวจคนเข้าเมืองแล้วเราต้องนั่งรถ shuttle bus จากตรงนี้ไป สนามบินภายในประเทศ อยู่ห่างกันไม่เกิน 10 นาทีครับ เพื่อไปนั่งรถไฟใต้ดินเข้าเมืองลงที่สถานี Hakata เป็นจุดเริ่มต้นครับ


ผมต้องไปแลกตั๋ว Jr north kyoshu ที่ Hakata ครับ ขึ้นจาก subway มาก็เจอ Boot แลกเลยครับ จากนั้นหาอะไรใส่ท้องก่อนครับ วิธีการแลกตั๋ว JR ง่ายมากครับ เราเอา voucher ที่เราซื้อจากไทยนั่นแหละไปเปลี่ยนเป็นตั๋ว JR พร้อมกับกำหนดตารางเดินทางและออกตั๋วในที่ๆเราจะไปใน 3 วันนี้ของเราได้เลยครับ ซึ่งเราสามารถดูตารางรถไฟ เวลาออก ระยะทาง รวมถึงเวลา ได้จากเวป www.hyperdia.com/en ได้เลยครับสะดวกมาก แล้วเราก็เอากระเป๋าไปฝากที่โรงแรม Monterey la Soeur Fukuoka ครับ เพราะยังไม่บ่ายสาม check in บ่ได้เจ้าคร้าาาา

เราเลยเลือกที่จะมาที่ ศาลเจ้า ... Toshoji วิธีเดินทางคือก็นั่ง subway จาก Tenjin มาลง สถานี Gion. ออก Exit 1.

ขึ้นมาเจอที่นี่เลยครับ ที่นี่จะมีเจดีย์แดงที่เลื่องชื่อ และ พระพุทธรูปที่ แกะสลักจากไม้ที่ใหญ่มากจนน่าทึ่งครับ แต่ว่าน่าเสียดายที่ทางวัดไม่อนุญาติให้ถ่ายรูปและบันทึกภาพครับ คงต้องลองมาดูกันเอาเองเนอะ

จากวัดโทโจจิ เราจะพาเพื่อนๆเดินทางไปศาลเจ้าดาไซฟุ Dazaifu วิธีการมานะครับ ก็จับ subway มาลงที่ Tenjin แล้วต่อรถไฟ Nishitetshu omuta line ไปลงสถานี Futsutkaishi (ช่วงนี้จะมีทั้งรถหวานเย็น local กับ รถด่วน ไปถึงด่วนพิเศษ ต้องดูกันดีๆครับ แต่ก็ไปได้ทั้งสามขบวนครับ พอลงรถไฟที่สถานี Futsutkaichi ก็ข้ามสะพานมาชานชาลา 1 เพื่อต่อรถไฟ Dazaifu line ไปลงสถานี Dazaifu เลยครับ

เมื่อเสร็จสรรพภารกิจที่ Dazaifu ภารกิจต่อไปก็คือ ไป Shopping จร้าไปร้าน Donki ครับต้องบอกเลยว่า ระรานตาจริงๆขนม นม เนย ชอคโกแลต เสื้อผ้า รองเท้า เครื่องสำอาง ของเล่น การ์ตูน เครื่องใช้ไฟฟ้า อื่น และ 18+ ก็มีอยู่ที่ร้านนี้ร้านเดียวครับ วิธีการมาคือ จับ Subway kuko line มาลงที่สถานี Nakasu-Kawabata ทางออก 4 ครับ เดินตาม sense ตัวเองตามกลิ่นขึ้นมาชั้น 2 ครับ ยังไงก็เจอ อ้อเรื่อง Tax refund ถ้าซื้อของเกิน 5000 ก็สามารถนำไปทำ Tax refund ได้เลยครับ counter อยู่ข้างๆลิฟท์ สะดวกสบายง่ายเหลือเกิน

อย่างที่บอกครับในร้านมีของเยอะมากจริงๆ

ขา Model cartoon และ figure แบบผมไม่พลาดครับ แต่ราคาไม่น่าประทับใจเท่าไหร่ เพราะเป็นมือ 1 ครับ ผมเลยไม่ได้จับอะไรมาเลยซักอย่าง รอไปหามือสองที่ Tenjin North (Book Off) ดีกว่าครับ

ณ ตอนนี้คณะทัวร์เริ่มออกอาการเป๋ เหนื่อยล้า จะกลับโรงแรมละ ก็เลยไป check in ห้องพักขาที่โรงแรมก่อน แล้วค่ำๆก็ออกไปทานข้าวที่ Hakata อีกรอบแล้วคงจะนอนพักแหละครับ เหนื่อยมาทั้งวัน ไม่ได้นอนบนเครื่องบินอีก ...

ข้างๆโรงแรมมีร้านพวกปิ้งย่างมาเปิด 2-3 ร้านแต่คนต่อคิวยาวมาก ประกอบกับสภาพอากาศหนาวมาก เลยไม่สู้จะยืนรอจร้า

เช้าวันที่ 2 วันนี้เรามีแผนจะเดินทางไปเมือง Kumamoto ครับหลักๆก็น่าจะเป็นไปเที่ยวชมปราสาท สวน และก็ shopping ครับ เราออกเดินทางโดยนั่ง Shinkansen Sakura 541 เที่ยว 9:09 จาก Kumamoto นั่งไปแค่ 36 นาทีก็ถึงครับ แปปเดียวเอง รถวิ่งเร็วมากๆครับ

ภาพนี้ไม่ใช่ขบวนที่เราไปนะครับแต่ก้คล้ายๆกันนี่แหละ (คันนี้เค้าไป Okayama จร้า..)

แล้วเราก็ซื้อ one day pass tram loop มาในราคา 400 Y

นั่งจาก Kumamoto station ลงป้าย No. 10 ก็จะเป็นที่ตั้งของ Kamamoto castle ปรกติ 500 Y แต่เราซื้อ one day pass tram ใช้เป็นส่วนลดค่าเข้าเหลือ 400 Y เท่านั้นเองครับ

มาถึงปราสาทคุมาโมโตะ ฝนตกปรอยๆ สภาพอากาศไม่เป็นใจจริงๆเลย แต่ดีอย่างคือไม่ค่อยมีคนดีครับ พอฝนหยุดนะ โอ้โห...ทัวร์มาพรึ๊บเลย

บรรยากาศในปราสาทคุมาโมโตะ สำหรับผู้ใหญ่แล้วบอกเลยเดินขึ้นปราสาทก็เมื่อยอยู่แต่พอเดินได้นะครับ ที่เมื่อยน่าจะตื่นเต้นและแวะถ่ายรูปกันซะเยอะ

จากปราสาทคุมาโมโตะ เรานั่ง Tram ที่สถานี Kimamoto castle/city ลงป้ายที่ 18 เป็นที่ตั้งของ Suisenji park เล่ากันว่าเป็นสวนที่สวยงามอันดับ 3 ของญี่ปุ่น อันนี้ไม่แน่ใจครับ ค่าเข้า 400 Y ในความเห็นส่วนตัว เราอาจจะมาในช่วงเวลาที่มันไม่ใช่ ก็เป็นได้...ดูรูปกันครับ

ในความคิดผมมันเดินรอบเดียว โดยใช้เวลาจึ๊ดเดียวเองอ่ะครับ ผมว่ามัน...ไม่รู้สิ อย่างที่บอก เราอาจจะมาเวลาที่มันไม่ใช่...

เสร็จจากตรงนี้ก็จะกลับ Hakata ละครับ ไป Daiso และ ร้านขายยาราคาถูกในย่านฮากาตะ ปิดท้ายด้วย Tenjin north ไปดู โมเดลเทพมือสองที่ Book off ครับ

ร้าน Daiso จะอยู่ในตึกที่ติดกับ Bus terminal ขึ้นไปชั้น 5 ครับเหมาะสำหรับซื้อของฝากเลยเพราะราคาถูกดี อิอิ ผมได้พวกโมเดลหัวรถไฟ พร้อมอุปกรณ์มาในราคาอย่างละ 108 Y พูดแบบหยาบๆเลย โคตรถูก...

ส่วนร้านขายยาที่ผมซื้อคือ ร้านแดงๆ ชื่อร้าน 11 ออกจากสถานี Hakata ทางฝั่ง west เดินไปทางซ้ายจะเจอสามแยก ร้านอยู่หัวมุมถนนเลยครับ (เป็นร้านลับที่ได้จากการมาครั้งที่แล้วครับ) ฝนตกหนักมากเลยไม่ได้ถ่ายรูปมาให้ดูกัน

เดินย่ำเท้าไปเรื่อยเรื่อยฝนก็ตกและแล้วเรื่องก็เกิดเมื่อสมาชิกคนหนึ่งในทริป หัวรองเท้าเปิดจ้า เป็นเรื่อง แต่ดีที่แถวนี้เป็นแหล่ง Shopping อยู่แล้ว เลยพาไปที่ร้าน GU ที่อยู่ชั้น 3 ของห้าง Yodobashi วิธีการมาที่นี่ก็ง่ายดายเหลือเกิน หันหน้าออกจากร้าน 11 เดินไปทางขวาข้ามอุโมงค์ที่รถไฟชินคันเซ็นวิ่ง เลี้ยวซ้ายซอยเล็กๆก็จะเป็นที่ตั้งของห้าง Yodobashi ที่นี่มีขายเบ็ดเตล็ดมากมาย เครื่องใช้ไฟฟ้า จักรยาน อุปกรณ์กีฬา ของเล่นโมเดลการ์ตูนโดยเฉพาะกันดั้มจะเยอะมาก รวมถึงเสื้อผ้ารองเท้าด้วย แต่ถ้ามาจาก Hakata ให้ออกห้าง Amu Plaza ด้านหลังก็ถึง Yodobashi ได้เหมือนกันครับ แถวนั้นก็มีร้านอาหารมากมายเช่นเดียวกันครับ

เมื่อเสร็จสรรพภารกิจจากตรงนี้เราจะเดินทางต่อไป Daiso ซึ่งอยู่ในอาคาร bus terminal ขึ้นไปชั้น 5 เลยครับเราจะได้ของฝากที่ถูกและอร่อยอย่างแน่นอน อ้อ..ในฐานแนะ เอ้ย...ฐานะ ที่ผมก็เปนนักสะสมของเล่นเช่นกัน ผมได้ ขบวนรถไฟทุกขบวนที่น่าสนใจที่นี่ ก็บอกกันเลย ชิ้นละ 108 Yen รวมภาษี ของเล่นทุกชิ้น 30 กว่าบาททั้งหมด แต่ด้วยเนื้อที่กระเป๋าที่ผมเอาไปผมเลยได้แค่ซัดมา 8 ขบวนพร้อมรางรถไฟ ตอหม้อ ชานชาลา สะพาน 555 เลือกจนเพลิน เลือกจนห้างปิดอ่ะ เลยไม่ได้ไป Tenjin north เลย ไม่เป็นไร เย็นพรุ่งนี้มาดูใหม่หลังจากกลับมาจาก Yufuin จร้า...

ตื่นเช้าขึ้นมาเพื่อที่จะมาให้ทันขบวนรถไฟสีแดง Ltd. exp yufu 1. เที่ยว 7:45 ถึงเวลา 10:01 ไม่ต้อง reserve seat ครับ จอดที่ track no.5 นไปก็เลือกที่นั่งตามใจชอบได้เลยแต่ก็เป็นขบวน ltd exp ธรรมดาไม่ได้ตกแต่งอะไร อย่านั่งเพลินนะครับ รถไฟคันนี้ปลายทาง Beppu ต้องลงก่อนนะครับจริงๆแล้วผมตั้งใจจะพาคณะทัวร์ ไปขึ้นรถไฟ️ Yufuin no mori แต่ว่าเต็มอ่ะ ดีนะที่ได้เที่ยวขากลับ ไม่งั้นเศร้าแน่เลย

มาถึง สถานีรถไฟ Yufuin ละจร้า...

จากสถานีรถไฟเราสามารถเดินชิลๆตรงดิ่งไปไปตามถนน สีสันของที่นี่คือความเรียบง่าย อากาศเย็นสบาย

เดินตรงไปจนถึงสะพานข้ามลำธาร จะเจอ 2 ทางแยกให้เดินไปทางแยกขวา จะเป็นแหล่ง shopping มีทั้งของฝาก ของกิน ไอศครีม จุดหมายปลายทางของเราคือ ทะเลสาบ Kirinko

จุด Check point อีกจุดนึงคือ Yufuin Flora Village

พอเดินตรงมาตามทางเรื่อยๆใกล้ Yufuin Floral Village จะเจอ 4 แยกให้เลี้ยวขวาเดินตรงไปสุดจะเจอลำธาร ให้เดินเลียบลำธารไปเลยครับ เดินตรงมาซักพัก ให้เดินเข้าไปในทางดินตรงเข้ามาหน่อยเดียวก็จะถึงทะเลสาบ Kirinko งดงามตามท้องเรื่องจร้า

แต่เนื่องจากกำหนดการมันพลาดตั้งแต่จอง Yufuin no mori ขาไปไม่ได้แล้ว คณะของเราเลยมาถึงไวมาก เดินชมแบบถ่วงสุดๆแล้วก็จบภายในบ่ายโมง ทำไงดี คณะทัวร์อยากกลับไป shopping แล้ว เราเลย cancel ticket Yufuin no mori ขากลับ 17:07 แล้วนั่ง JR kyodai line ไป Oita แล้วไปต่อ ltd exp sonic 42 กลับ Hakata. ซึ่งจะใช้เวลานานกว่า Yufuin no mori. แต่ลูกทัวร์ชอบแฮ่ะ ชมวิวข้างทาง ป่า เขาลำเนาไพร ไร่นาป่าสวน เพลินของเค้าละ อ้อ...ที่สถานีรถไฟยูฟูอินก็มี free internet wireless (Free spot) อะไรซักอย่างนี่แหละ เชื่อมต่อแล้วก็ลงทะเบียน ใส่ e-mail รับรหัสหรือ login เป็น guest ก็ย่อมได้ ... ส่วนเรื่องข้อมูลตารางรถไฟก็ยังแนะนะ www.hyperdia.com/en เหมือนเดิมจร้า ดูง่ายสุดละ สำหรับใครที่ไม่ได้ดูรีวิว Yufuin no mori ก็ลองหาๆกระทู้หลายๆคนน่าจะรีวิวไว้เยอะพอสมควรครับ รวมทั้งผมด้วย สำหรับวันนี้จะรีบกลับไป Daiso. ไปเหมาหัวรถจักรอีกรอบ อิอิ 8 ขบวนแล้วยังไม่พอใจ ฮ่าๆๆ สุดท้ายก็ได้มาอีก 4 ขบวนพร้อมชานชาลา และรางรถไฟ....อันละ 108 Y ไม่คิดไรมาก เมื่อเสร็จสรรพภารกิจเราก็เดินทางไปต่อที่ Tenjin north เพื่อไปหาโมเดลมือสอง ที่ร้าน Book off อยู่ชั้น 7 ของห้างนี้ คือไปกะเหมาเลย ฮ่าๆๆๆ ส่วน คุณผู้หญิงชั้น 6 ของห้าง ก็จะเป็นเสื้อผ้า เครื่องสำอาง รองเท้า นาฬิกา กระเป๋า brand Name มือสอง ไว้ให้เลือกชมระหว่างที่คุณผู้ชายไปเลือกการ์ตูนนะจ๊ะ วิธีการไปห้างนี้คือนั่ง subway มาลงที่สถานี Tenjin ออกทางออก 11 หันหน้าออกตึกเลี้ยวขวา แล้วก็ เลี้ยวขวาอีกที จะเจอตู้ห้องน้ำสาธารณะและ เดินตรงไปจะเจอแยก ฝั่งตรงข้ามเป็นสตาร์บัค เดินเรียบร้าน Starbucks ไปน่าจะไม่เกิน 150 เมตรก็เข้าห้าง แล้วขึ้นบันไดเลื่อนไปร้าน Book off ได้เลย

เช้าวันต่อมา ไป Huis ten Bosch จร้า เฮา- เทน- บอส (ออกเสียงแบบนี้นะครับ) เป็นสวนสนุกที่จัดขึ้นให้ทุกวัยเข้าได้ ไปสวนสนุกมีหลายโซน แต่จำชื่อโซนไม่ได้ละ มีทั้งสวนดอกไม้ สะพาน ทะเลสาบ ลำธาร ร้านอาหาร ที่ขาดไม่ได้คือ one piece ค่าเข้าคนละ 6400 Y แต่ละฤดูกาล Huis ten Bosch ก็จะจัดเทศกาลแตกต่างกันไป อย่างตอนที่เราไป เป็นพร๊อบเทศกาล ดอกทิวลิป งดงามตระการตาสุดๆจริงๆ

ส่วนแรกจะออกแบบให้คล้าย ยุโร้ป ยุโรปเนอะ อิอิ

เดินข้ามสะพานมา ก็จะมาเจอพี่หมี teddy ยืนต้อนรับจร้า น่ารักมาก....

มาดูงแต่ละโซนกันดีกว่าครับว่าที่นี่มีอะไรบ้าง

โซน 1 เป็นโซน Royal flower เป็นโซนที่ถูกจัดด้วยดอกไม้ตามเทศกาล อย่างช่วงนี้ก็คือ ทิวลิปนั่นเอง ดูฮอลแล้นด์ ฮอลแลนด์

ยังไม่จุใจใช่มั้ยครับ จัดให้อีกหลายดอกเลยเอ้า

โซน 2 เป็นโซน Attraction city เป็นโซนเกี่ยวกับเมืองหรือสถานที่ที่น่าสนใจ

เอาไปอีก 1 รูป

โซน 3 เป็น โซน thriller museum

โซน 4 เป็น โซน Amsterdam city

โซน 5 เป็น โซน English tower (ถ้าจำไม่ผิด)


โซน 6 เป็นโซน️Game museum (แต่ก่อนจะมีเรือวันพีช ตอนนี้ไม่มีแล้วนะจ๊ะ Shop ที่ตั้งอยู่ก็เปลี่ยนเป็นร้านขายของ shopping Tax free ทั่วไป)


โซน 7 เป็น โซน Art garden ต้องชมตอนกลางคืนเท่านั้นเลยไม่ได้ถ่ายรูปมาครับ

ข้อมูลอาจจะผิดพลาดบ้างนะครับในส่วนของแต่ละโซน ขออภัยมา ณ ที่นี้ครับ สำหรับการเดินทางทริปนี้หวังว่าจะทำให้หลายๆท่านไปเที่ยว เกาะทางเหนือของคิวชูได้อย่างสะดวกสบาย และ วางแผนได้ตามใจชอบ เที่ยวเองสิ เชือผม...ไม่ยากหรอก

I am a Runner

 วันเสาร์ที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559 เวลา 19.53 น.

ความคิดเห็น