“ศรีนครพิงค์” ร้านอาหารไทยเหนือและอีสานบรรยากาศคลาสสิคสุดชิลริมปิง เข้าร่วมโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” เอาใจนักชิมที่มาเที่ยวเชียงใหม่ได้ลั้นลาสุดกันฤทธิ์

น่ายินดี เพราะได้เซฟเงินสบายกระเป๋าตังค์ไปไม่ใช่น้อย สำหรับลูกค้าที่เลือกจะไปชิมและอิ่มอร่อยกับอาหารไทยทั้งเหนือและอีสานที่ร้านอาหาร “ศรีนครพิงค์” ในวันนี้ เพราะคุณบรี๊ซ-พิทักษ์ ศรีศิล ผู้จัดการหนุ่มสุดไฮเปอร์ฯ ของศรีนครพิงค์ บอกว่า ทางร้านได้เข้าร่วมกับโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” เรียบร้อยแล้ว นั่นคือ เมื่อลูกค้าท่านใดที่ลงทะเบียนผ่านและได้รับสิทธิในโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” เข้ามาใช้บริการที่ร้าน คุณจะได้รับสิทธิที่2คือคูปองอาหาร/ท่องเที่ยว มูลค่า 600 บาทต่อวัน ได้ลั้นลากันสุดฤทธิ์

ส่วนใครที่ยังไม่รู้จักร้านอาหาร “ศรีนครพิงค์” (SRI NAKORN PING RESTAURANT เชิญฟังทางนี้เลยค่ะ

ศรีนครพิงค์ เป็นร้านอาหารไทยน้องใหม่ในเมืองเชียงใหม่่ มาที่นี่ที่เดียวคุณจะพบกับเมนูอาหารไทยรสชาติถูกปากถูกใจ แถมมีให้เลือกหลากเมนูจากหลายภาค ทั้งเหนือ อีสาน และกลาง แถมบางเมนูจากภาคใต้ เช่น กุ้งผัดสะตอ

ตัวร้านมีเสน่ห์น่าหลงใหลทีเดียว เพราะเป็นบ้านไม้สักโบราณอายุเก่าแก่ร่วม 100 ปี ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่ ริมแม่น้ำปิง บนถนนเจริญราษฎร์ ใกล้สะพานรัตนโกสินทร์ จากบ้านไม้สักเก่า ทิ้งรกร้าง แต่เจ้าของร้านได้ทุ่มเงินไปร่วม 4 ล้านบาท เพื่่อรีโนเวตและปรับแลนด์สเคป ให้เป็นร้านอาหารที่สวยเด่น คงเสน่ห์ของความงามแห่งกาลเวลาได้อย่างน่าทึ่ง

คุณบรี๊ซ-พิทักษ์ ศรีศิล ผู้จัดการหนุ่มสุดไฮเปอร์ฯ ของศรีนครพิงค์

‘ศรีนครพิงค์’ เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อวันวาเลนไทน์ 2563 ที่ผ่านมา กำลังคึกคักและมีชีวิตชีวา ด้วยลูกค้าที่พากันมาเช็คอินชิมอาหารไทยอร่อยๆ อยู่พอดิบพอดี แต่ก็ต้องปิดไปชั่วคราวตามระเบียบในช่วงไวรัสโควิด19 มาอาละวาด

แต่วันนี้ “ศรีนครพิงค์” ได้กลับมาเปิดให้บริการแล้ว และบริหารโดย GM หนุ่มสุดไฮเปอร์ฯ คุณบรี๊ซ-พิทักษ์ ศรีศิล ผู้คอยดูแลความเรียบร้อยของร้าน และความอร่อยของอาหารทุกจาน ให้อร่อยเริ่ดอยู่ทุกวัน

อาหารไทยรสค่อนช้างจัดจ้านถึงพริกถึงขิง เคล้าด้วยดนตรีอะคูสติกเพราะๆ ในบรรยากาศชิลๆริมแม่น้ำปิง และบรรยากาศหรูคลาสสิคภายในตัวบ้านไม้สัก มากมายด้วยเครื่องดื่มทั้งแอลกอฮอลล์และซอฟต์ดริ๊งค์ ขอบกว่าที่นี่มี เครื่องดื่มซิกเนเจอร์เป็น

“อิตาเลียนโซดา” หลากสีสันสำหรับคอที่ไม่ถูกกับแอลกอฮอลล์ รวมถึงชา-กาแฟและของหวานตบท้ายครบครันตามสูตรของบางคนที่ถือลัทธิ “กินคาวไม่กินหวานสันดานไพร่”

อาหารของที่นี่จะเป็นอาหารไทยภาคกลาง ภาคอีสานและภาคเหนือ รวมถึงอาหารไทยโบราณ รสชาติค่อนข้างจัดจ้านและที่ประทับใจคือ อาหารไม่หวานกระหน่ำเหมือนร้านอื่นอีกมากมายในยุคนี้ และด้วยความที่เจ้าของร้านเข้าครัวเอง จึงรับประกันความใส่ใจในครัวและรสชาติอาหารอย่าง แน่นอน

พูดถึงเมนูก็มีให้เลือกกันจนตาลายเลย เพราะมีมากมายถึง 200 เมนู เอาใจลูกค้าแต่ละท่านที่ชอบไม่เหมือนกัน เริ่มจากเมนูของว่างอย่างเมี่ยงปลา, ไก่นึ่งจิ้มแจ่ว, ข้าวตังหน้าตั้ง, ทอดมันหัวปลี ฯลฯ เมนูปลาเช่นปลากะพงผัดฉ่า ปลาช่อนนึ่งจิ้มแจ่ว พริกขิงปลาทูทอด ฯลฯ ส่วนเมนูแกงเช่น วุ้นเส้นแกงลาว หอมอร่อยได้ความลาวเต็มๆ แกงโบราณอย่างแกงนพเก้าก็ดี และทีเด็ดที่ทุกคนชอบคือ ไข่ฟูแกงไก่แห้ง

ยำขโมย (ซ้าย) ไข่ฟูแกงไก่แห้ง (ขวา)

ประเภทน้ำพริก ก็มีทุกสกุล เช่นสะเดาน้ำปลาหวาน น้ำพริกลงเรือ น้ำพริกกะปิปลาทูทอด น้ำพริกปลาสดลวก น้ำพริกมะเฟือง น้ำพริกตะไคร้ น้ำพริกกระเทียม ป่นปลาทูน่า หลนปูเค็ม หลนเค็มบักนัด

ประเภทลาบ ก็มีให้เลือกหลายหลาก ตั้งแต่ ลาบไก่ ลาบปลาหมึก ลาบแหนมทอด ลาบเห็ดฟาง ลาบไก่ ลาบหมู และลาบวุ้นเส้น

ประเภทยำ นอกจากยำทั่วไปที่ร้านไหนก็มี่น ยำวุ้นเส้น ยำหมูยอ ยำหัวปลี ยำถั่วพู ยำปลาสลิด ยำผักบุ้งทอดกรอบ ฯลฯ ที่นี่ยังมียำชื่อแปลกๆเช่น ยำขโมย ยำขโมย ยำสายรุ้ง ยำยิ้มหวาน นอกนั้นก็มีครบเครื่องเรื่องอาหารไทย ทั้งต้ม ผัด แกง ทอด

วันนี้คุณตุ้ย-กานต์นิธิ ก้อนแก้ว เจ้าของร้านผู้สวมหมวกเป็นเชฟใหญ่อีกด้วย ได้แนะนำ 7เมนูซิกเนเจอร์ คือ: ยำขโมย,ยำสายรุ้ง,น้ำพริกพม่า, วุ้นเส้นแกงลาว, แกงนพเก้า ทอดมันหัวปลี, ไข่ฟูแกงไก่แห้ง

แกงนพเกล้า (ซ้าย) แกงส้มกุ้ง (ขวา)

พูดถึง ยำขโมย ทำได้อร่อยหอมรสชาติกลมกล่อม, ยำสายรุ้ง ก็มาด้วยวุ้นเส้น7สีราวกับมณี 7 แสงเลยทีเดียว เรื่องรสชาตินั้นแซ่บจนอยากตะโกนบอกคนริมปิงฝั่งตรงข้าม, วุ้นเส้นแกงลาว คำแรกก็หอมฉุย รสอร่อยเลิศได้ความลาวเต็มๆ, ส่วนแกงโบราณอย่างแกงนพเก้า ก็อร่อยล้ำ ต้องรีบตักคำที่สองเป็นการด่วน และทีเด็ดที่ทุกคนชอบคือ ไข่ฟูแกงไก่แห้ง เมนูนี้ก็ต้องขอสั่งข้าวสวยด่วนเหมือนกันค่ะ

ตอนท้าย ที่เริ่มดริ๊งค์กันบ้างแล้ว คุณตุ้ยได้แถมเมนูของว่างอื่นๆมาเป็นกับแกล้มอีกด้วย เช่น ยำเม็ดมะม่วงหิมพานต์, ยำปลาสลิด, เมี่ยงทรงเครื่อง, เมี่ยงขนมจีน, ข้าวตังหน้าตั้ง, ขนมปังหน้าหมู ไม่อยากบอกว่าอิ่มกับแกล้มจนแทบจะคลานกลับบ้าน

ศรีนครพิงค์ มีที่นั่งให้เลือก 2 โซน 2 บรรยากาศ คือ อินดอร์ ในตัวบ้านไม้สักเก่าแก่ร้อยปีสุดโคซี่ กับ เอ๊าท์ดอร์ มีหลังคาเป็นฟ้ากว้าง ให้นั่งชมดาวและเดือนสุดชิลริมแม่น้ำปิง ชอบบรรยากาศไหน เลือกได้ตามอัธยาศัย

ศรีนครพิงค์ เปิด: 16:00 - 24:00 วันอังคาร – วันอาทิตย์ (หยุดวันจันทร์)

ที่ตั้ง: ถนนเจริญราษฎร์ ติด The Embassy House Condominium ใกล้สะพานรัตนโกสินทร์ เชียงใหม่

FACEBOOK: Srinakornping

TEL: 090 973 4131, 093 386 0691

นามสมมุติ

 วันอังคารที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2563 เวลา 10.07 น.

ความคิดเห็น