สวัสดีค่ะทุกคน เค้าหายห่างไปนานเลย คิดถึงกันบ้างไหมเธอ วันนี้ชะนีน้อยจะพาลงใต้ไปเที่ยว เมืองพัทลุง เมืองที่น้อยคนจะได้สัมผัส วิถีชีวิตที่เรียบง่าย ใช้ชีวิตชิคชิค แต่เต็มอิ่มไปด้วยความสุข .. เป็นจังหวัดที่นักท่องเที่ยวอาจจะไม่เยอะเพราะเป็นจังหวัดที่เป็นเพียงเมืองผ่าน แต่ครั้งนี้ได้มีโอกาสมาเพราะเป็นบ้านเกิดของเพื่อนสนิท(มีนามว่าบอม) ไหนๆเพื่อนจะกลับบ้านละ ขอตามติดเพื่อนไปเที่ยวซักหน่อยดีกว่า ให้เพื่อนจัดการจองตั๋วไปเสร็จ ขาไปบินไปจาก ดอนเมือง-ตรัง ขอบินไฟท์บ่ายแล้วกันจะได้ไม่รีบร้อนใช้เวลาเพียงชม.กว่าก็เดินทางถึงแล้ว อยากเห็นวิวทะเลแนะนำให้นั่งริมหน้าต่างฝั่งขวานะคะ ฝั่งซ้ายจะเป็นวิวต้นไม้ค่ะ ขาไปเดินทางกับสายการบินแอร์เอเชีย

เดินทางสนามบินตรังแล้ว แดดออก อากาศดีเชียว

แต่ทำใจมาก่อนแล้วละ เพราะมาเที่ยวน่าฝนต้องทำใจเรื่องสภาพอากาศ เพราะอาทิตย์ที่แล้วไปกระบี่ฝนตก3วันติดเลยจ้า



จากสนามบินตรัง มุ่งสู่ ร้านอาหารทิวทัศน์กันเลย อยู่ที่อำเภอเขาชัยสนค่ะ คุณพ่อของเพื่อนแนะนำร้านนี้ พ่อขับรถพาไปทานข้าวค่ะ

มื้อนี้พ่อเลี้ยง สบายท้องแล้วเรา ร้านอาหารอยู่ริมทะเลสาบ สามารถมองเห็นวิวได้แบบ360องศา อะไรจะชิวขนาดนั้นค่ะ กินข้าวไปนั่งดูวิวไป



ปูนิ่มทอดกระเทียม กินร้อนๆ อร่อยมาก


หลังจากกินข้าวเสร็จแล้ว ก็แวะไปหาดแสนสุขลำปำ เราก็คิดว่าต้องเป็นหาดเดินเล่นแน่ๆเลยแต่พอไปถึงอ่าวไม่มีหาดหนิหว่า มีตลาดนัดเล็กๆเลยข้ามฝั่งไปเดิน มีอาหารขายนิดหน่อย แล้วก็มีเป็ดปั่นด้วย


เดินเล่นได้ซักพักก็กลับเข้าเมืองไปโรงแรมกันดีกว่า ... คืนนี้ เราจะนอนในเมืองกันก่อน โรงแรมเปิดใหม่ค่ะ Siva Royal Hotel จากห้องนอนสามารถมองเห็นวิวทุ่งนาได้เลยค่ะ แนะนำเป็นห้องฝั่งริมนะคะถึงจะเห็นวิว ส่วนริมอีกฝั่งนึงจะเป็นวิวเมืองค่ะ หลังจากเก็บของเสร็จ ก็กินกันต่อดีกว่า


ไปจัดโรตีกันก่อนเลย ร้านน้ำชา-โรตี บังแอนด์โก


แล้วก็กลับห้องนอน สี่ทุ่มกว่าแล้วเพื่อนชวนออกไปหาอะไรกิน เลยไปจัดโจ๊กหมูสับใส่ไข่ ที่หัวโค้งค่ะ อร่อยดีโจ๊กที่นี้จะไม่ข้นมาก


แต่อร่อยดีนะกลืนโล่งคอ

อิ่มแล้วกลับห้องนอนได้ ฝันดีราตรีสวัสดิ์...



อรุณสวัสดิ์เช้าวันที่สองของทริป วันนี้คุณแม่บอมมารับค่ะพาไปกินอาหารเช้ากัน แปลกจัง!! คนพัทลุงกินขนมจีนเป็นอาหารเช้า คุณแม่เลยพาไปกินขนมจีนเจ้าเด็ด ตักเยอะ ตักมาก ตักเท่าไหร่ก็ได้ กินพร้อมไก่ทอดร้อนๆ โอโห้ เข้ากันดีจังอร่อยดีเหมือนกัน

หลังจากนั้นก็เดินทางไปต่อ วันนี้เราจะไปนอนกันที่ชมดาวรีสอร์ท เค้าว่าไหนๆก็มาพัทลุงแล้วที่ขาดไม่ได้คือว่าล่องแก่ง ผจญภัยกันไปอีกค่ะ


แอบตื่นเต้นเล็กๆ เดินทางจากตัวเมืองพัทลุง ถึงรีสอร์ทประมาณ 40นาที พี่โรงแรมใจดีให้เราเชคอินได้เลย สบายละงานนี้

หลังจากเชคอินเข้าห้องพัก อากาศดีจนหลับยาวเลยค่ะ ส่วนเพื่อนชะนีนั้นเดินสำรวจรีสอร์ท นั่งแช่น้ำก็แล้วชะนียังคงหลับ จนเพื่อนต้องปลุก แกๆตื่นเหอะหิวแล้ว โอเค ตื่นไปกินข้าวกันดีกว่า เดินไปกินข้าวริมน้ำกันค่ะ สั่งข้าวผัดรวมมิตรไข่ดาวมากิน แล้วก็เดินเล่นไปกินชานมที่ร้านกาแฟของรีสอร์ท นั่งพักแปปนึง แล้วก็ไปเปลี่ยนชุดเพื่อไปล่องแก่งกัน นั่งจากเปลี่ยนชุดแล้วตอนนั้นบ่ายสามโมง ยืนรอรถก็มารับ พาเราไปเอาอุปกรณ์หน้ารีสอร์ทแล้วก็นั่งรถไปจุดล่องแก่ง


เห่ยใจเต้นหนักมาก ตื่นเต้นจัง พี่เค้าเห็นชะนีถือกล้องเค้าเลยให้บอมนั่งข้างหลังพายไป ไอเราก็คิดว่าคงไม่เหนื่อยหรอก ให้เพื่อนพายไปแล้วกันส่วนเราก็นั่งหน้าสวยๆถ่ายรูปต่อไป พายไปได้ซักพัก เนื่องจากบางจุดน้ำอาจจะน้อยก็ตะมีสาหร่ายเยอะมาก เพื่อนบอมก็พายไปค่ะ พายไปบ่นไป พายไปพักไป สงสารเพื่อนจัง แต่ชะนีไม่มีพายค่ะเพื่อน


หลังจากพายไปได้ครึ่งทาง หลังจากเรือคว่ำไปแล้วรอบนึง ชะนีสงสารเพื่อน เลยขอเป็นคนพายเรือบ้าง พลัดกันโอโห้ มันไม่ชิวเลยนะ พายไปบ่นไปเหมือนเพื่อน เหนื่อยมาก เหงื่อไหล่เต็มตัว ยิ่งกว่าชกมวยอีกค่ะ มีบางจุดเมื่อยแขนจนพายไม่ไหว พายไปเข้าฝั่งไป พายไปชนหินบ้าง พายไปกลับหัวบ้าง สนุกดีเหมือนกัน สุดระทึกตลอดเวลา ใช้เวลาล่องแก่งประมาณ เกือบ2ชม. ก็มาถึงจุดที่เรากำหนดไว้ละ โห่ยเกือบไม่ถึงเหมือนกันนะ สงสารพี่staffมาก พวกเราพายกัน แต่จะมีคนคอยดูแลเราอยู่ไม่ห่างนะคะไม่ต้องห่วง สำหรับคนที่พายไม่เป็น หรือขี้เกียจ ให้พี่เค้าพายให้ได้เลยค่ะ พี่เค้าใจดี เป็นกันเองมาก



เหนื่อยจัง กลับรีสอร์ทไปเล่นน้ำต่อกันดีกว่า ที่รีสอร์ทมีสไลเดอร์ให้เล่นด้วยค่ะ ตอนแรกก็แอบเสียว เลยให้น้องที่รีสอร์ท น้องมายด์ผู้ชำนาญลองเล่นให้พวกเราดูก่อนค่ะ น้องมายด์บอกว่าพี่ใส่ขายาวเล่นมันไม่ลื่นหรอกกางเกงติด โอเคไหนลองซิ .. เออรอบแรกมันไม่ลื่นมากเท่าไหร่ เลยลองเล่นอีก ปรากฎว่ารอบที่สองลงมาไวจนเสียวท้อง พอลงมาถึงข้างล่าง หันไปถามน้องมายด์ว่า น้องๆ ไหนน้องบอกไม่ลื่นไง 555 น้องมายด์หันมาตอบชะนีมา ก็มีน้ำหนักตัวดี เดี๋ยวๆๆ น้องไม่ได้ด่าพี่อ้วนใช่ไหม

หลังจากสนุก ชะนีกับเพื่อนก็เล่นสไลเดอร์กันอีกคนละสามรอบ แล้วก็ปล่อยตัวเบาๆ ลอยน้ำไปค่ะ น้ำไหลไปเรื่อยๆจนถึงด้านหน้าของรีสอร์ท โหยอะไรจะชิวยนาดนั้น นั่งชิงช้าขาจุ่มน้ำ สบายตัว สบายใจเลย


แล้วเราก็ได้รู้จักกับน้อง นายหัว เด็กผู้ชายน่ารักมีพุงนิดๆ ผู้ซึ่งมีพี่บี้ เดอะสกาเป็นไอดอล ถามไปถามมาสรุปน้องเป็นลูกเจ้าของรีสอร์ทที่นี้ค่ะ น้องน่ารัก เสมือนเป็นคนเอนเตอร์เทรนลูกค้าค่ะ เล่าโน้นเล่านี้ ชวนคุยกันชะนีเพลินเลยค่ะ เผลอแปปเดียวมืดแล้วได้เวลากินข้าวเย็น



ตอนเย็นไม่รู้จะกินอะไร เลยสั่งข้าวผัดรวมมิตรเหมือนเดิม แต่ให้พี่เค้าไปเสิร์ฟให้ที่ห้องค่ะ เพราะอยากกลับห้องไปอาบน้ำให้สบายตัว หลังจากกินข้าวเสร็จก็ออกไปเดินสำรวจรอบค่ำกันค่ะ เปิดเพลงชิวๆเดินเล่นในชีวิต ดาวที่นี้สวยจัง สวยกว่ากรุงเทพเยอะเลย วันนี้เหนื่อยมามากค่ะ กลับห้องนอนพักผ่อนกันดีกว่า

ฝันดีราตรีสวัสดิ์ หมดไปอีกวัน สำหรับวันนี้สอง ......



ตื่นแต่เช้า มากินอาหารเช้ากันค่ะกองทัพต้องเดินด้วยท้อง

วันนี้มีปาท่องโก๋ ข้าวต้มหมู หมี่ผัด ไข่ลวก แล้วก็ขนมครก แต่ที่แปลกคือ ขนมครกที่นี้เป็นกะทิสดไม่หวาน แต่เวลากินต้องโรยหน้าด้วยน้ำตาลทราย หวานแบบแปลกๆ มาทริปนี้ได้ลองแต่อะไรใหม่ๆทุกวันเลยแก


หลังจากกินข้าวเสร็จก็กลับห้องอาบน้ำแต่งตัว เพื่อไปเที่ยวกันต่อ ที่นี่เค้าให้เชคเอาท์ตอน11โมงนะคะ กลังจากเชคเอาท์เสร็จแล้วเราก็ฝากกระเป๋าแล้วเดินไปร้านกาแฟหน้ารีสอร์ทเหมือนเดิม อากาศดีจริงๆ นั่งรอเวลาพี่ขับรถมารับเข้าเมือง


หลังจากพี่มารับเข้าเมือง เราก็แวะไปกินก๋วยเตี๋ยวไก่กันค่ะ ร้านก๋วยเตี๋ยวไก่ป้านิด เห็นเค้าว่าชาเย็นร้านนี้เด็ดไม่แพ้ก๋วยเตี๋ยวนะแก ก็เลยไม่พลาดที่จะลองค่ะ เออจริงด้วยชาเข้มข้นมาก
หลังจากอิ่มแล้ว ก็ไปส่งพี่ชายที่บ้าน .. แล้วหนิงบอม ก็ขับรถมุ่งหน้า สู่ศรีปากประ รีสอร์ท ที่ทะเลน้อยกันค่ะ เราจะนอนกันที่นี้สองคืน พร้อมแล้วลุยศรีปากประ รีสอร์ท อยู่ในพื้นที่เชื่อมกับทะเลสาบสงขลา ซึ่งมีความหลากหลาย อุดมสมบูรณ์ทางด้านชีวภาพ จัดได้ว่าเป็นรีสอร์ทแนวอนุรักษ์ธรรมชาติ จากตัวเมืองพัทลุง มุ่งหน้าไปทางทะเลน้อย ศรีปากประรีสอร์ท ตั้งอยู่บริเวณบ้านชายทะเล ตำบลพนางตุง อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง ขับรถถึงรีสอร์ทแล้วค่ะ ถนนรถโล่งมากขับชิวชิว ชมข้างทางมาเรื่อยๆ รีสอร์ทมีที่จอดรถกว้างขวาง จอดรถแล้วลากกระเป๋าไปเชคอินกันเลยค่ะ


เดินผ่านประตูเข้าไป เรือนต้อนรับจะอยู่ขวามือ


มีWelcome drink กับผ้าเย็นบริการด้วยนะคะ ได้น้ำเย็นๆกับผ้าเย็นค่อยชื่นใจหน่อย


หลังจากเชคอินเสร็จ ก็ได้ทำการจองเรือสำหรับพรุ่งนี้ ค่าเรือไปชมพระอาทิตย์เหมาลำละ1,200บาทค่ะ


แต่ทางรีสอร์ทแจ้งเราแล้วว่า ถ้าฝนตกเรือจะงดออกจากฝั่งนะคะ ภาวนาให้พรุ่งนี้อากาศปลอดโปร่ง เดินไปห้องพักกันค่ะ หนุงหนิงได้ที่พักหลังที่6 หลังริมสุดเลยค่ะ ทางรีสอร์ทได้แจ้งเราก่อนแล้วว่าช่วงนี้เป็นหน้าแมลงตอนกลางคืน อาจจะมีแมลงเยอะกว่าปกติ แต่ทางรีสอร์ทมียากันยุงให้นะคะ เดินไปชมห้องนอนสำหรับสองคืนกันดีกว่า ห้องที่เราจองไว้คือห้องวิลล่า เปิดประตูไปก็จะเจอห้อง ที่สำหรับแขวนเสื้อผ้า และห้องน้ำอยู่ทางขวามือ เปิดประตูไปอีกห้องด้านหน้าก็คือห้องนอนของเรา จากเตียงนอนสามารถเห็นวิวทะเลสาบได้เลยค่ะ ระเบียงห้องด้านนอก มีที่จุดกันยุงให้ด้วยนะคะ แล้วก็มีที่นอน แล้วเก้าอี้ให้นั่งชมบรรยากาศหน้าห้องเลยทีเดียว

นั่งดื่มด่ำธรรมชาติได้ซักพักก็ออกไปตะลอนต่อกันเหอะ เดินไปยังไม่ถึงรถเลยฝนตกซะงั้น เอาแล้วไงยังไม่ทันได้ออกไปไหน ฝนตกต้อนรับเราซะแล้ว รีบวิ่งไปที่เรือนต้อนรับก่อนเพราะกลัวกล้องจะเปียก นั่งรอซักพักฝนก็เริ่มปรอยๆแล้ว พนักงานให้ยืมร่มเลยกางร่มไปที่รถแล้วขับรถไปตะลอนเที่ยวกันต่อดีกว่า จุดแรกที่เราจะไปคือ สะพานเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา ตอนแรกไม่คิดว่าจะยาวขนาดนี้นะเนี่ย สะพานวิวดีมากแล้วยาวมากเช่นกัน ขับรถจนสุดสะพานแล้วก็วนรถกลับมาถ่ายรูปบนสะพานกันดีกว่า บนสะพานจะมีจุดจอดรถให้เป็นระยะๆ แนะนำให้จอดจุดที่เค้าจัดให้แล้วลงทุนหามุมถ่ายรูปเอานะคะ เพราะรถส่วนใหญ่อาจจะขับรถเพราะสะพานรถโล่ง จะได้เที่ยวอย่างสบายใจกันเนอะ


ควายที่นี้ว่ายน้ำ ดำน้ำกันเป็นว่าเล่น ชมชื่อควายน้ำแห่งทะเลน้อยจริงๆค่ะ เรียกให้มองกล้อง ก็หันมาด้วยนะ น่ารักจริงๆ


ณ จุดนี้ ยืนโดดเดี่ยวอยู่ตัวเดียว แต่พี่เค้าไม่เหงานะคะ


ไปเที่ยวกันต่อดีกว่าเนอะ ไปต่อกันที่ อุทยานนกน้ำทะเลน้อย ถ้ามาฤดูที่นกอพยพ จะมีนกมากมาย หลากหลายชนิดเลย มีทางเดินให้ชมช่วงนี้ดอกบัวเหี่ยวหมดแล้ว คือต้องบอกตรงๆเลย ว่าหนุงหนิงไม่ได้คาดหวังอะไรมาก เพราะตัดสินใจว่าเที่ยวหน้าฝน ว่าเที่ยวธรรมชาติเราจะคาดหวังอะไรมากไม่ได้ ถือซะว่า หนีเมืองวุ่นวาย มาใช้ชีวิตชิวชิว ซักอาทิตย์ก็แล้วกันเนอะ


เพื่อนชะนีน้อยเองจะใครละ ไกด์ส่วนตัวสำหรับทริปนี้


เริ่มท้องร้องละ ไปหาอะไรกินดีกว่า เค้าว่ากันอีกว่า มาทะเลน้อย ต้องลองทาน ไข่ปลาทอด เพื่อนเลยซื้อให้กิน เพราะส่วนตัวแล้วบอมอยากกินมาก ชะนีกัดไปได้คำเดียวคืนเพื่อนเลยค่ะ เพราะปกติเป็นคนไม่ชอบทานปลาอยู่แล้ว แต่รสชาติอร่อยอยู่นะคะ


แล้วก็ขับไปต่ออีกนิดก็จะเป็นบ้านสวัสดิการจะมีหอคอยอยู่ตรงนั้นด้วย ไหนๆก็มาแล้วเลยขับรถไปเที่ยวอีกนิดก็แล้วกันเนอะ


บอกเลยจุดนี้ ถ้ามาตอนบัวบานนะ จะสวยมากๆ ปีหน้าพี่บอกเลยพี่ไม่พลาด

ไปหาวิวถ่ายพระอาทิตย์ตกที่ไหนดี ไม่รู้จะไปไหน เลยตัดสินใจขับกลับไปสะพานที่เดิม แต่แล้วฟ้าก็ไม่เป็นใจค่ะ เมฆเยอะเชียว


.......... ขอเฮฮานอกเรื่องซะหน่อย ใครเป็นบ้างเพื่อนไปเที่ยวกับเพื่อนสนิท และต้องพลัดกันถ่ายรูปไปมา แล้วนี้คือสิ่งที่ได้ 5555


ท้องร้องแล้วด้วย เลยตัดสินใจกลับโรงแรมไปทานข้าวเย็นกันดีกว่าเนอะ ทางรีสอร์ทมีร้านอาหารด้วยนะคะ ขับรถไปถึงรีสอร์ท ทำไมรถเยอะจังคนมาจากไหนกันเนี่ย สรุปได้ว่า คนมาทางข้าวกันค่ะ ร้านอาหารของทางรีสอร์ท คือร้านอาหารวิวยอ บริการอาหารไทยภาคใต้ รสชาติ เข้มข้น แถมบรรยากาศสุดโรแมนติกมีวิวยอให้เห็นจากข้างหน้าเลยค่ะ


วันนี้ไปทานข้าวเย็นไปนั่งชมวิวกันอีกแล้วเนอะ พอฟ้าเริ่มมืดเท่านั้นแหละ ยุงมารุมเลยค่ะแต่ทางร้านมีสเปรย์ฉีดกันยุงให้นะคะ เริ่มทานอาหารเย็นกันดีกว่า


จะได้รีบกลับห้องอาบน้ำนอน เพราะพรุ่งนี้เราต้องตื่นตั้งแต่ตี4


กำลังจะอาบน้ำก็มีโทรศัพท์เข้ามาว่า คืนนี้จะถ่ายรูปดาวใช่ไหมค้ะ ทางรีสอร์ทจะได้ทำการเปิดไฟด้านหน้าสะพานให้ แล้วที่อึ้งไปกว่านั้นเจ้าของรีสอร์ทเป็นคนลงมาดูแลและเทคแคร์ลูกค้าเอง ประทับใจมากๆค่ะ แถมเจ้าของรีสอร์ทก็แนะนำและเป็นกันเองมาก หลังจากอาบน้ำเสร็จออกมาชมวิวร้านระเบียง เงยหน้ามองฟ้า เห่ย ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยเห็นดาวเยอะขนาดนี้เลย อันนี้ไม่ได้สปอยแต่อย่างใด พูดจากใจจริง .. เลยลากเพื่อนไปถ่ายรูปกันดีกว่า แต่แมลงก็ไม่เป็นใจกับพวกเราซักเท่าไหร่สงสัยจะชอบพวกเรามั้งรุมอยู่นั้น ไม่ใช่แค่พวกเราที่ออกมาถ่ายดาว มีชาวต่างชาติหลายชีวิตออกมาถ่ายด้วยเหมือนกัน อยากจะบอกว่าหน้ารีสอร์ทมีหิ่งห้อยด้วย บรรยากาศสุดจะบรรยายจริงๆ นั่งชิวๆริมน้ำดูดาว ดูหิ่งห้อย ถ้าไม่มีแมลงนี้จะเพอเฟคมาก เริ่มไม่ไหวกลับห้องไปกินยานอนเก็บแรงไว้สำหรับพรุ่งนี้เช้าดีกว่า



ตั้งนาฬิกาปลุกตีสี่ครึ่ง ล้างหน้าแปรงฟัน เตรียมอุปกรณ์สำหรับถ่ายรูป และเตรียมใจไปรับแสงอรุณยามเช้ากันดีกว่า ตีห้าครึ่งได้เวลาที่นัดหมายไว้ เดินไปที่ล็อบบี้ มีพี่พนักงานผู้ชายรออยู่ ว่ารอไปขึ้นเรือใช่ไหม เดินมาทางนี้เลยครับ เรือจอดรออยู่หน้ารีสอร์ทแล้ว เดินไปถึงคนขับเรือมารอเรากันแล้ว ได้เวลาลงเรือแล้ว ตอนที่เรือแล่นออกไปฟ้ายังมืดอยู่เลย คุณลุงขับเรือก็ขับไปรอจุดที่เราจะดูพระอาทิตย์ขึ้น เช้านี้คนไม่ค่อยมีเท่าไหร่ค่ะ


คุณลุงคนขับเรือบอกว่า แสงท้องฟ้าจะเปลี่ยนอยู่เรื่อยๆ ใกล้เข้ามาแล้ว แสงส้มๆเริ่มขึ้นมาทีละนิด ทีละนิด


หนิงกับบอมนั่งเฝ้ารอพระอาทิตย์ขึ้นอย่างใจจดใจจ่อ ลุ้นว่าวันนี้ฟ้าจะเปิดไหมหน่า พระอาทิตย์จะชึ้นมาแบบไหนหว่า


และแล้วพระอาทิตย์ก็ค่อยๆเคลื่อน


ขึ้นทีละนิด


ทีละนิด


จนพ้นน้ำ ช่วงเวลาแค่แบบเดี๋ยวเท่านั้น ฟ้าก็สว่างโล่งเลย


หลังจากพระอาทิตย์ขึ้นพ้นน้ำได้ซักพัก เราก็แล่นเรือไปเที่ยวจุดอื่นกันต่อค่ะ


จุดแรกที่คุณลุงพาไปจอด คือจุดที่รายการเทยเที่ยวไทย เคยมาถ่ายรูป wanna be on top


แล้วก็ขับไปจุดอื่นต่อ จุดต่อไปไปดูควายน้ำกันค่ะ แต่เช้านี้อากาศคงจะยังไม่ร้อน


ควายลงยังไม่ลงไปแช่น้ำกันค่ะ หนุงหนิงลงเครื่องวิ่งไปถ่ายรูป ปรากฏว่าควายหันตูดใส่แล้ววิ่งหนีชะนีเฉยเลย

เห็นสะพานนั้นไหม ที่พวกเราไปถ่ายรูปกันมาเมื่อวาน


คุณลุงขอซิ่งเดี่ยวครับ


นี้ไงที่มาของกระจูด ที่ชาวบ้านเอาไปทำกระเป๋า ส่งออกเมืองนอก


สินค้าโอท็อปดังไกลถึงเมืองนอก สร้างรายได้ให้ชุมชน

จุดต่อไปเราจะมุ่งหน้าไปทางที่อุทยานแห่งชาตินกน้ำทะเลน้อย


จุดนี้จะเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์เลยค่ะ ไปชมดอกบัวบานยามเช้ากันนั้นเอง (มีความหน้าสดชุดนอนไปอีก)


ตอนแรกก็นึกว่าจะไม่มีบัว เพราะไปฤดูที่ไม่ใช่บัวบานแล้ว แต่ปรากฏว่าก็ถือว่ายังบานอยู่เยอะมาก อากาศลมพัดสบายๆ ได้ชิมดอกบัวบานสีชมพูบานเต็มน้ำไปหมดช่างคุ้มค่ากับการตื่นเช้า อดหลับอดนอนจริงๆ


ตอนนี้ก็ไม่ได้ฤดูที่นกอพยพมาก็จริง แต่ก็ยังถือว่ามีนกอยู่หลายสายพันธุ์ที่เรายังหาดูได้ที่นี้


แดดดีจังเลยเช้านี้ ขออาบแดดรับวิตามินยามเช้าซะหน่อยดีกว่า


วิถีชีวิตคนที่นี้ สองผัวเมีย ลุงป้า ช่วยกันหาปลา ชีวิตเรียบง่าย แต่เต็มไปด้วยรอยยิ้มและความสุข นั้นคือสิ่งที่หนุงหนิงได้เห็นและได้สัมผัสในเช้าวันนี้ หนุงหนิงเห็นยังรู้สึกอบอุ่นตามเลยค่ะ


ได้เวลากลับไปรีสอร์ทเพื่อทานอาหารเช้ากันแล้ว


นี้คือรีสอร์ทข้างๆค่ะ คือ เวทแลนด์ แคมป์ (Wetland Camp)


นี้วิวจากหน้ารีสอร์ทที่หนุงหนิงพัก ศรีปากประ รีสอร์ท บ้านหลังขวาสุดคือบ้านหลังที่6 ที่นอนค่ะ


นี้คือร้านอาหารวิวยอค่ะ อยู่ในบริเวณเดียวกับศรีปากประ รีสอร์ท


อาหารเช้าที่รีสอร์ทก็จะเป็นแบบบุฟเฟต์ตามมาตรฐานทั่วไป วันนี้ได้กินซุปน่องไก่ใส่มันของโปรดด้วย


นี้คือวิวจากระเบียงห้องนอนค่ะ


หนังท้องตึงหนังตาเริ่มหย่อนแล้วซิเพราะชีวิตปกติตื่นเที่ยง โอเคงีบซักชั่วโมงก็แล้วกันเนอะ ตื่นมาสายๆเพื่อนเรียกลุกอาบน้ำ แล้วก็มุ่งหน้าไปปากคลอง ขับรถวนไปค่ะ หาร้านไม่เจอทั้งๆที่เราก็จอดอยู่ใกล้ๆนั้นแหละแต่หาไม่เจอเอง ขับวนไปค่ะสองสามรอบ สรุปหาร้านเจอจนได้ อยากมานานเห็นแต่เค้าพูดกัน ห้ามพลาดต้องลอง จัดมาค่ะ



สาคูแท้ๆจากต้นสาคู

ตามด้วยสาคูธรรมดาก็อร่อยไม่แพ้กัน


ยังเรายังไม่จบแค่นั้น ต่อด้วยรวมมิตร


และเฉาก๊วยใส่วุ้น มาทั้งที่เอาให้คุ้ม


ต้องบอกเลยว่าน้ำกะทิที่นี้รสชาติเค็มๆตัดกับรสชาติสาคูได้อย่างกลมกล่อมและเข้ากันว่ามหัศจรรย์


ที่อึ้งไปกว่านั้น ขนมหวานถ้วยละ 10บาทเท่านั้น ย้ำว่า10บาทเองแก ถูกและอร่อย ต้องที่นี้เลย ขนมหวานร้านป้ากี้ในตำนาน


แล้วเราก็ขับรถเข้าเมืองไปหาอะไรกินกันต่อบอกเลยวันนี้กินวนไปค่ะ กินจนเมื่อยปาก กินไม่แคร์น้ำหนักตัว กินไม่สนใจโลกค่ะวันนี้ ต่อกันด้วย เต้าคั่ว อะไรนะ ถามเพื่อนด้วยความสงสัย เต้าคั่ว กับเต้าทึงมันเหมือนกันป้ะ ได้ข้อสรุปมาว่า คนละเรื่องเลยค่ะ ไหนๆอาหารพื้นเมืองหรอ ไหนลองหน่อยซิ ของแปลกแต่อร่อย กินกับข้าวเกรียบปลาอร่อยอีกแล้ว


พัทลุงมีแต่ของอร่อยจะไม่อ้วนได้ยังไงละงานนี้ หลังจากอิ่มกันแล้ว ไปเดินย่อยกันหน่อยดีกว่า ไปกันต่อที่ตลาดหลังสถานีรถไฟ จอดรถแล้วเดินไปชมสถานีเค้ากันหน่อยซิ


ตลาดนัดอยู่ติดกับสถานีเลยจ้า จริงๆกับข้าวก็แอบเหมือนๆกันนะ แต่เหมือนว่าแต่ละร้านจะมีลูกค้าประจำของแต่ละคนไป เพื่อนแวะซื้อข้าวหมกไก่ใส่ตับ เห็นเพื่อนซื้อเลยซื้อตามเพื่อน เราเป็นเพื่อนที่น่ารักป้ะละ เพื่อนทำไรเราทำด้วยเพราะรอดแน่นอน


แล้วก็แวะซื้อขนมหวาน เดินกลับไปที่จอดรถ มุ่งหน้ากลับศรีปากประ รีสอร์ทกันเหอะ ยังอีก เพื่อนบอก แกๆ แวะไปซื้อลูกชิ้นทอดป้ากบกันก่อน โอโห้ตะกี้ไปตลาดนัดหิ้วเต็มมือยังจะซื้อต่ออีก พอจอดรถต้องตกใจกับมวลชนหลายชีวิตที่แย่งกันหยิบ และตาโฟกัสอยู่ที่ลูกชิ้นในกระทะที่กำลังทอดอยู่ ถ้าไม่เด็ดจริงคนต้องไม่รุมเยอะขนาดนี้ดิวะ ไหนลองบ้างซิ ช้าอยู่ทำไม ช้าอดหมดนะลูก


โอเคครบแล้วได้เวลาขับรถกลับรีสอร์ทกันจริงๆแล้วนะ กลับถึงห้องไปนั่งกินข้าวหมกไก่ที่ระเบียง และมีเสียงเพลงดนตรีสดจากร้านอาหารวิวยอ ขับกล่อม แล้ววิวตรงหน้าอีก ชิวอะไรได้ขนาดนี้


อิ่มแล้วเริ่มอืด นอนอืดอยู่บนเตียง ดูทีวีหันมาอีกที บอม บอม อ่าวเพื่อนนอนตายไปละคะ หลับตาย ไม่รู้ไปเพลียอะไรมาขนาดนั้น


เชื่อหรือไหมบอมหลับตั้งแต่6โมงเย็นแล้วตื่นอีกทีเช้ามืด โดยปล่อยให้ชะนีโดดเดี่ยวเหงาหงอยอยู่คนเดียว นอนก็ได้ ....

พรุ่งนี้ตื่นตั้งแต่เช้ามืด ไปชมพระอาทิตย์ตรงหน้าโรงเรียนปากประกันดีกว่า ฝันดีราตรีสวัสดิ์ขอบคุณมากๆค่ะ ไปเลยค่ะศรีปากประวิวสวย ดาวเยอะจริงๆค่ะตื่นตั้งแต่เช้ามืดอีกแล้ววันนี้ วันนี้จะขับรถจากรีสอร์ทออกไปดูพระอาทิตย์ขึ้นที่หน้าโรงเรียนปากประกันค่ะ

เพื่อนเต้แนะนำมาว่าคนมาถ่ายที่นี้เยอะ (เต้คือเพื่อนสนิทของบอมอีกทีนึงค่ะเป็นคนพัทลุง ที่หลงใหลการถ่ายรูป)

แต่ปรากฏว่าเต้บอกหนุงหนิงไม่หมดว่าลงฝั่งไหน ด้วยความที่ไปถึงแล้วยังมืดอยู่แล้วกลัวจะไม่ทันพระอาทิตย์ขึ้น หนิงว่าหนิงกับบอมมาเช้าแล้วนะ มีคนมาก่อนพวกเราสองคนอีกค่ะ แต่เค้าไปถ่ายฝั่งซ้ายกันเราเลยไม่อยากไปรบกวนเค้า เลยไปทางขวาแล้วกัน

ในขณะที่เดินลงไปนั้นยังไม่ทันถึงน้ำเลย ขาจมขี้โคลน เดี๋ยวนะ โคลนจะดูดขาป้ะวะเนี่ย แต่เพื่อความมุ่งมั่นและตั้งใจของหนุงหนิงนั้น ก็ลุยลงไปต่อค่ะ แต่หันกลับมามองบอม บอมบอกแกไปเลยชั้นรอตรงนี้ โอเคค่ะเพื่อนลุยเดี่ยวซิงานนี้ ลุยไปได้ซักพักขี้โคลนก็เปื้อนเลอะเทอะไปหมด


มีป้าชาวบ้านแถวนั้นเห็นท่าไม่ดีนางเลยเดินมาหาบอม หนูๆๆ ฝั่งขวาตรงที่หนูลงไปอะเค้าไม่ลงกันนะหนู มันเป็นขี้โคลน อยากจะป้าตรงๆว่า หนูมาไกลเกินจะถอยหลังแล้วค่ะคุณป้า


(เรารู้เหตุผลแล้วว่าทำไมเค้าไปถ่ายฝั่งซ้ายกันหมด ก็เพราะไม่มีขี้โคลนไงละ ถ้าใครอยากมาถ่ายรูปจุดนี้แล้วมาครั้งแรก แนะนำให้หันหน้าไปทางน้ำและเดินลงบันไดด้านซ้ายเท่านั้นนะคะ เราย้ำแล้วนะ เดี๋ยวจะหาว่าไม่บอก 555 )



โอเคเปื้อนขนาดนี้ละลุยน้ำต่อไปค่ะ เดินไปต้องใช้ขาตั้งกล้องช่วยพยุง ไม่งั้นกลิ้งลงโคลนแน่ๆ วิวทีนี้โล่งดีนะ มาลุ้นกันอีกว่าวันนี้พระอาทิตย์จะขึ้นแบบไหนหน่า แสงเริ่มสว่างขึ้นละ

และแล้วก็มา เริ่มโผล่ขึ้นมาแล้ว


ทีละนิด


ทีละนิด


แต่พอขึ้นพ้นน้ำแล้วปรากฎว่าเมฆเยอะบังดวงอาทิตย์มิดเลยทีเดียว


ได้เวลาขึ้นจากน้ำไปล้างขาแล้ว


ป้าชาวบ้านคนนั้นยังแนะนำอีกว่าลองไปซื้อขนมจีนหน้าปากซอยโรงเรียนดูซิ อร่อยนะ แถมลุงก็เป็นเจ้าของยอที่อยู่ตรงนี้ด้วย โอเคค่ะล้างขาเสร็จพับขาตั้งกล้องแล้วไปซื้อขนมจีนกัน พระมาบิณฑบาตพอดีเลยใส่บาตรก่อน


แล้วก็เดินไปซื้อขนมจีนคุณป้า โลละ70บาทค่ะ แล้วก็ขับรถกลับไปศรีปากประ รีสอร์ทกัน พอไปถึงที่ทานข้าว คุณป้าเจ้าของรีสอร์ททักว่าถ่ายรูปเป็นยังไงบ้าง ชอบไหมค้ะ บอมก็เลยขอถ้วยทางรีสอร์ทเพื่อใส่ขนมจีนที่ซื้อว่า คุณป้าก็บอกว่า อ่าววันนี้รีสอร์ทก็ทำขนมจีนเหมือนกันค่ะ วันหลังอยากทานอะไรแจ้งเราได้นะคะ โอ้โห้เจ้าของรีสอร์ทดูใส่ใจทุกรายละเอียดจริงๆ



วิวจากที่ทานอาหารเช้าค่ะ

กินข้าวอิ่มแล้ว นอนได้ กลับห้องนอนงีบค่ะ ทริปนี้มีแต่กินนอนนอนกินเนอะ ตื่นมา11โมงได้เวลาอาบน้ำ เชคเอาท์กันแล้ว ไม่อยากกลับเลยชอบบรรยายของที่นี้มาก รู้สึกสงบ และสบายใจ



เปิดประตูไปจะเป็นห้องพักแบบDeluxeค่ะ เร็วๆนี้ห้องพักที่สร้างเพิ่มคงจะเสร็จแล้ว เพราะที่พักที่นี้ส่วนใหญ่จะจองเต็มตลอดจ้า

หลังจากเชคเอาท์เสร็จเราก็ขับรถไปดูควายน้ำที่เดิม


นกก็มาทักทายนะ


ควายเต็มไปหมดเลย แดดนี้ดีจริงๆ


สาม พ่อ แม่ ลูก


เดี๋ยวๆนะ สามพ่อแม่ลูก และตัวที่สี่โผล่มาจากไหนค้ะลูก อะไรเอ่ยไม่เข้าพวก แต่น่ารัก


ถ่ายได้ซักพักก็มุ่งหน้าขับรถกลับเข้าเมือง


แต่ระหว่างทางได้แวะร้านอาหาร หลานตาชูซะหน่อยละกัน พอกินหั่นสเต๊กทำไมมันเหนียวจัง หรือมีดมันไม่คม เลยบอกบอมๆ หั่นเนื้อให้หน่อยซิสงสัยมืดหนิงไม่คม พอบอมเอาไปหั่นบอมบอกคนที่นี้เค้าไม่ค่อยกินเนื้อกันนะแก สงสารแกจะเจอเนื้อแก่ไปหน่อย 55 กินไปเคี้ยวไปจนเมื่อยกล้าม แต่หมูบาร์บีคิวของหมดอร่อยกลมกล่อมดี จานเสิร์ฟอย่างอลังกาลมาก


อิ่มแล้วขับรถไปเชคอินที่โรงแรมในเมืองกันได้แล้ว วันนี้เรากลับมานอนกันที่เดิมเหมือนคืนแรกค่ะ โรงแรม Siva Royal Hotel แต่วันนี้ห้องเดิมที่เรานอนมีแขกท่านอื่นพักอยู่ เราเลยได้นอนอีกชั้นนึงแต่ห้องวิวเดียวกันค่ะ กำลังจะเอนตัวนอน เต้ส่งรูปมายั่วอีกแล้วๆ ที่ไหนหว่า ควนไข่หด เค้าบอกวิวสวย ...



หนิงได้หันไปหาบอม แกๆ เต้บอกว่าที่นี้สวยไปถ่ายรูปกันป้ะ โอเคค่ะ ขับรถจากปากประเข้าเมือง แล้วก็ขับไป อ. ศรีบรรพต ต่อ ขับรถวนไปวนมาอีกละ เวลาเหลือเราเลยขับรถเลยเข้าไปเยี่ยมชมอุทยานแห่งชาติเขาปู่-เขาย่า ที่นี้มีเส้นทางศึกษาธรรมชาติด้วยแต่ว่าไว้วันหลังดีกว่าเนอะ เพราะชุดไม่เหมาะจะลุยเท่าไหร่วันนี้ แล้วก็ขับรถกลับไปที่จุดชมวิวควนไข่หดกันต่อ ทางเดินขึ้นไม่สูงมาก คนมีอายุเดินขึ้นได้สบายหายห่วงค่ะ มีห้องน้ำสามห้องอยู่ตรงทางขึ้น



นอกจากการชมวิวถ่ายรูปแล้ว ยังมีพระพุทธรูปให้ไหว้สักการะบูชา สักการะองค์พระโพธิสัตว์กวนอิมปางประทานพร ๒ พี่น้อง ซึ่งได้มีการอัญเชิญมาจากสำนักปฏิบัติธรรมวัดพระสุขขี อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา เพื่อประดิษฐานเป็นศูนย์ร่วมแห่งศรัทธาของชาวอำเภอศรีบรรพต

ที่มาของชื่อ ควนไข่หด ควนเป็นภาษาใต้แปลว่าเนินสูง ว่ากันว่าแต่ก่อนไม่มีทางถนน กว่าจะบุกบั่นป่ายปีนขึ้นไปได้ เล่นเอาเหนื่อยสาหัสสากรรจ์ จนถึงกับไข่หด (ขอบคุณข้อมูลจาก ชะอวดดอทคอมค่ะ) …



พอขึ้นมาถึงวิวสวยจริงๆด้วย

แต่ยังไม่ได้เวลาที่พระอาทิตย์จะตกเลยเพราะมาถึงตั้งแต่สี่โมง ด้วยความตื่นเต้น เพราะเราไม่เคยไปมาก่อนเลยรีบขับรถไปดูทางก่อน ชมเริ่มพัด นั่งศาลาแล้วสบายมาก สุดท้ายต้องยืมเสื่อปูนอนซักหน่อย ว่างไม่ได้เป็นหลับตลอดเก็บแรงไว้ถ่ายรูปดีกว่า



บางทีก็สงสัยตัวเองนะ ว่าลงทุนอะไรขนาดนั้น ถ้าสมัยเรียนตั้งใจขนาดนี้นะ ได้เกียรตินิยมไปละป้ะ คิดตอนนี้ก็สายไปเสียแล้ว 555



หลับไปได้ซักพัก ก็ลุ้นเตรียมขาตั้งกล้อง เตรียมกล้องพร้อมถ่าย

โชคดีที่ฝนไม่ตก แต่เมฆดันเยอะไปอีก


ได้เวลากลับเข้าเมืองกันแล้วเดี๋ยวจะมืดซะก่อน


อีกซักรูป


กลับแล้วนะ ควนไข่หด บับบาย


ก่อนเข้าโรงแรมแวะไปกินลูกชิ้นป้าเอียดก่อนดีกว่า ลุ้นจังว่าวันนี้ร้านจะเปิดไหม เพราะมาสองวันละปิด ..


วันนี้โชคดีของเราสองคน ป้าเปิดร้านจ้า แค่ลูกชิ้นปิ้งธรรมดาเองอร่อยขนาดนั้นเลยหรอ กินร้อนๆที่ร้านแล้วกัน เก้าอี้ไม่มียืนกินไปค่ะ มีน้ำจิ้มเด็กเหมาะสำหรับคนกินเผ็ดไม่ได้อย่างเรา แต่ก็ยังเผ็ดอยู่ดีแต่อร่อย กินกับผักเย็นๆ และแตงกวา ฟินไปอีก

กลับโรงแรมนอนเอาเลยพรุ่งนี้จะได้ตื่นไปเฝ้าพระอาทิตย์ขึ้นกันอีกเนอะวันนี้เป็นวันสุดท้ายที่จะชะนีน้อยจะตะลอนพัทลุงแล้วนะ แอบใจหายนิดหน่อย เช้านี้ตื่นเช้ากว่าปกติเพราะเรานอนในเมืองแต่เราดันอยากไปเฝ้าพระอาทิตย์ขึ้นที่ปากประกันอีก ตอนแรกวันสุดท้ายที่ตัดสินใจนอนในเมืองเพราะว่ากะจะตื่นสายหน่อยแล้วหากินอะไรในเมืองก็พอ แต่เนื่องจากที่ไปเฝ้าพระอาทิตย์ขึ้นอยู่สองวันนั้นพระอาทิตย์ที่เราอยากจะได้ เรายังไม่ได้เลยไหนๆก็วันสุดท้ายละ วัดดวงกันไปเลยละกันเนอะ ตื่นตีสามกว่าล้างหน้าแปรงฟัน ขับรถมุ่งหน้าสู่ปากประ วันนี้เรจะไปถ่ายกันบนสะพานปากประ ไปถึงก็มาเร็วอีกแล้วยุงยังเพียบเลย



(ที่นี้ติดน้ำยุงหรือแมลงอาจจะเยอะหน่อยแต่ไม่ใช่ปัญหาเนอะเพื่อภาพสวยๆเราต้องลงทุนกันหน่อย อย่าลืมพกยากันยุงไปด้วยนะคะ )



ตั้งขาตั้งกล้องรอเลยค่ะ นี้ขนาดยังเพิ่งตีห้าแต่ชาวบ้านขับเรือออกหาปลากันแล้วนะวันนี้มาลุ้นกันอีกแล้วว่าพระอาทิตย์จะมาในแบบไหน

โมเมนต์ที่มายืนเฝ้าฟ้าค่อยๆ สว่างขึ้นเรื่อยๆ


บรรยากาศยามเช้า สดใส และลมเย็นมาก บางทีมันก็เหมือนชีวิตคนเราที่ไม่สามารถกำหนดอนาคตหรือสิ่งที่จะเกิดขึ้นตรงหน้าเลย สำหรับหนุงหนิงนั้นทุกๆครั้งที่ตื่นตั้งแต่เช้ามืด ไม่ว่าจะที่ไหนๆ ก็จะใจเต้นแรงทุกครั้ง ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร แต่ทุกครั้งเหมือนทำให้พลังงานในร่างกายมีเพิ่มขึ้นเหมือนเติมน้ำมันในร่างกาย 555 พอๆ ติสต์แตกอีกแล้วค่ะ เดี๋ยวเค้าจะหาว่าบ้า แค่นี้ก้แปลกพอแล้ว


ได้เวลาที่พระอาทิตย์ต้องขึ้นแล้ว แต่เอ๊ะไม่มีวี่แววเลยนะ ใจเสียเลยหันไปบอกเพื่อน สงสัยเมฆเยอะป้ะวะแก ชั้นว่าพระอาทิตย์ขึ้นไปแล้วแน่ๆ


ถอดใจกำลังจะพับขาตั้งกล้องเก็บหันแล้วไปมองอีกที เห่ยๆ พระอาทิตย์โผล่มาทักทายพวกเราแล้วแกมุ่งน้ำขึ้นมาแล้ว


ยิ้มออกแล้วใจเต้นแรงมาก ฉันเฝ้าเธอมาสามวันเต็มๆอย่างทำให้เราผิดหวังเลยนะ เรามาไกลจริงๆ


ตั้งแต่ที่เฝ้ามาสามวันชอบพระอาทิตย์วันนี้มากที่สุด กลมได้ใจอย่างที่อยากได้


ขอบคุณนะที่ฟ้าเป็นใจ ไม่เสียแรงที่เราลงทุนเฝ้าเธออย่างไม่ถอดใจ รู้สึกหลงรักที่นี้เข้าจริงๆแล้วซินะ ท้องฟ้าส้มขึ้นเรื่อยๆ


ได้เวลาอันสมควรที่เราจะกลับเข้าเมืองไปหาอะไรทานกันดีกว่า


ลุงยกยออยู่ข้างๆเลยฮะ


เช้านี้ขออะไรเบาๆแล้วกัน เมื่อวันที่มาขับผ่านร้านนี้ วันนี้ไปลองซักหน่อยแล้วกันเนอะ ขอเสนอร้านเบิร์ดติ่มซำ ติดกับกรุงทองพลาซ่า


เลือกเอาเลยค่ะอยากกินอะไร เค้าจะบริการนึ่งให้ ไหนกินอะไรดี อันนี้ก็น่ากิน อันนี้ก็ชอบกิน


เลือกได้แล้ว ไปนึ่งกันเถอะ ไปนึ่งกันเถอะ


เดี๋ยวๆไหนว่าจะกินอะไรเบาๆไง มันควบคุมสติตัวเองไม่ได้เพราะหิวแล้ว กองทัพต้องเดินด้วยท้อง ยังไม่จบที่ร้านเค้าไม่ได้ขายติ่มซำอย่างเดียว


มีชาร้อนๆ กับโจ๊กด้วย จัดมาให้หมดเลยค่ะ ไหนๆก็ไม่มีสติละ

เช้านี้คนเยอะมากดีนะที่เรามาไว ไม่งั้นไม่มีโต๊ะนั่งแน่ๆ หลังจากอิ่มแล้วยังไงละ กลับห้องนอนเหมือนเดิมซินะ จะสังเกตได้ว่าตื่นเช้าทุกวัน แล้วหลังจากกินข้าวเช้านั้น เราก็กลับมานอนอืดทุกวันซินะ ตื่นมา11โมงเหมือนเดิมอาบน้ำ แต่งตัว แต่งหน้า เชคเอาท์กันค่ะ


นี้บริเวณหน้าโรงแรมค่ะ


ที่นี่มีฟิตเนสให้เล่นด้วยนะ แต่ไม่มีเวลาค่ะกลับก็มืด ตื่นก็เช้าแล้ว ข้ามไปค่ะ 555


ตื่นมาก็หิวอีกแล้วไง ไปกินกันต่อที่ร้านก๋วยเตี๋ยวโกต๋อง เห็นเค้าว่าที่นี่หมี่เหลืองต้มยำเด็ด อะไรที่ว่าเด็ดเราต้องไปลองซิจะได้รู้ไงเนอะ เป็นคนกินเผ็ดไม่ค่อยได้ แต่ที่นี้ปรุงมะนาวเพิ่มหน่อยเดียว อร่อยเลยค่ะ เผ็ดแต่ก็กินเพราะชอบ


และแล้วที่สุดท้ายที่เราจะไปลั่นชัตเตอร์กันก็คือ ไปหาที่ถ่ายรูปที่บ้านนางลาด ทุ่งนาตัดกับฟ้าสวยดีจัง


แล้วก็ขับรถไปรับพี่ชายของบอมที่บ้าน พี่มีนามว่า พี่บอบบี้ จะเป็นคนขับรถไปส่งชะนีน้อยขึ้นเครื่องที่หาดใหญ่ค่ะ พอถึงตัวเมืองหาพี่บอบบี้อยากกินขนมร้านนี้ เรียกยากอีกละ มันคืออะไรเนี่ย พอไปถึงร้านถามบอมก่อนเลยแกชั้นจะกินเป็นป้ะวะ ชั้นไม่ชอบกินลูกเดือย ร้านที่ไปกินคือ มันเดือย สาขา2 อยู่หน้าโรงเรียนแสงทองค่ะ..



บอมบอกกินเป็นซิแก ทำไมจะกินไม่เป็น โอเคลองก็ได้ บอกตรงๆในแก้วเนี่ยหนุงหนิงไม่กินลูกเดือย และถั่วดำ เพราะสมัยเรียนอนุบาลอาหารกลางวันชอบมีขนมหวานถั่วดำให้กิน โดนบังคับตลอด เลยไม่ชอบมาตั้งแต่เด็กๆแล้ว แต่ปรากฏว่าเวลาผ่านไปเพียงไม่กี่นาที หนุงหนิงยกซดจนหมดแก้วค่ะ 5555 เออลองอะไรแปลกๆใหม่ๆ ก็อร่อยดีเหมือนกันเนอะแก

ได้เวลาที่หนุงหนิงจะไปสนามบินแล้ว เห่ย ต้องกลับแล้วจริงๆอ๋อ พี่บอบบี้ขับรถมาถึงสนามบินแล้ว บอมช่วยชะนีบ้าหอบฟสงยกของลง มาคนเดียวทำไมของเยอะจังหวะ แถมซื้อกระจูดกลับไปฝากหม่อมแม่ที่กรุงเทพอีก ไม่รู้จะเสร็จลูกสาวซะก่อนหรือเปล่า



เมื่อวานลืมเล่า ก่อนกลับเข้าเมือง หนุงหนิงให้เพื่อนพาไปดูหมู่บ้านทะเลน้อย ที่เค้าทำกระจูดหน่อย ไหนไปดูซิสินค้าที่ส่งออกไปขายต่างประเทศจะเป็นยังไง ให้เพื่อนพาไปดู อยากได้ไปหมดค่ะ ชอบอะไรแบบนี้อยู่แล้วด้วย ชาวบ้านไปเก็บกระจูด มาสานเป็นเครื่องสานบ้าง กระเป๋าบ้าง แต่งเติมด้วยสี และแบบต่างๆกันไป สร้างมูลค่าได้อย่างไม่น่าเชื่อ อุดหนุนพี่เค้ากันหน่อยค่ะ น่ารักมาก พี่เค้าแนะนำ น้องใช้อันนี้สวยนะ พี่ว่าอันนี้ก็โอเค แล้วยังไงค่ะ ซื้อซิค่ะรออะไรพี่เค้าน่ารัก ถ้ามาซื้อที่หมู่บ้านได้ราคาพิเศษด้วยนะแก

เผื่อมีใครสนใจ ธรรมมือ Natural handmade .. ID Line :089-4677433 หรือแฟนเพจ กระจูด จักสาน ทะเลน้อย ร้านธรรมมือค่ะ อยากจะแนะนำเพราะพี่เจ้าของร้านน่ารักจริงๆ


หารูปเจ้าของร้านไม่เจอ ให้เพื่อนไลน์หานาง โอเคค่ะ แม่ค้าเป็นคนตลก5555 นางส่งรูปมาเองด้วยนะ


พี่เค้าน่ารัก เป็นแม่ค้าที่สร้างรอยยิ้มให้ลูกค้าด้วยนะแก

ได้เวลาจากแล้ว เสมือนจะบินกลับเมืองนอกเลยเนอะ เปล่าค่ะ กลับบางกอกเมืองกรุงแสนวุ่นวายของเรากันค่ะ



ขอเซลฟี่ซักหนึ่งภาพซิก่อนกลับ ต้องขอบคุณเพื่อนรักคนนี้มาก ย้ำนะคะ เพื่อนค่ะเพื่อนเนอะ ถ้าไม่มีแกชั้นอาจจะไม่มีโอกาสได้มาเห็นหรือได้สัมผัสวิถีชีวิตของผู้คนที่นี้ ขอบคุณทียอมเหนื่อยพาเราไปตะลอนทัวร์ ขอบคุณที่ยอมลำบากโดนยุงกันด้วยกัน ตากแดดร้อนๆด้วยกัน ขอบคุณมากจริงๆ ....



ขอบคุณสายการบินนกแอร์ ที่ส่งกลับถึงบางกอกโดยปลอดภัย


สุดท้ายนี้


-ขอบคุณพ่อหนุงหนิงที่ขับรถมารับมาส่งที่ดอนเมืองนะคะ

-ขอบคุณแม่ที่พยายามแท็กกับข้าวมายั่วให้ลูกคิดถึงบ้านทุกวัน ลูกจะได้รีบกลับบ้าน 555

-ขอบคุณ คุณพ่อกับคุณแม่บอม ที่มารับที่สนามบินและพาไปทานข้าวอีก

-ขอบคุณพี่บอบบี้ที่ขับรถไปส่งที่สนามบินหาดใหญ่นะคะ

-ขอบคุณเจ้าของรีสอร์ท ศรีปากประและพนักงานทุกท่าน ที่ดูแลอย่างดี

-ขอบคุณเจ้าของรีสอร์ท ชมดาว และพนักงานยันแม่ครัว ที่น่ารักเป็นกันเองกับชะนีน้อย

-ขอบคุณชาวพัทลุงทุกคนที่ต้อนรับชะนีน้อยอย่างอบอุ่น ไม่รู้จักกันมาก่อนก็ทักทาย ยิ้มแย้ม บางคนถึงขั้นเข้ามาติดตามเพจและแนะนำที่เที่ยว ที่กินข้าวให้ ต้องขอบคุณทุกคนๆจริงๆนะคะ คนพัทลุงน่ารักจริงๆ

-และคนสุดท้าย ต้องขอบคุณเต้ เพื่อนสนิทของบอมซึ่งนางมาหาแล้ว แต่หากันไม่เจอ สรุปก็ไม่ได้เจอกัน ไว้รอบหน้าร่วมทริปกันหน่อยดิ ขอบคุณที่เป็นนักวิชาการให้ 555 ถามอะไรรู้หมดเหมือนบอมอีกคนละ ขอบคุณที่ทำให้เราได้เที่ยวพัทลุงแบบทุกซอกทุกมุม ขอบคุณสำหรับคำแนะนำดีๆนะคะ

ถ้าลืมกล่าวขอบพระคุณใครไป ต้องกราบขออภัยไว้นะที่นี้ด้วยนะคะ ไหนๆก็ตามเค้ามาจนจบทริปแล้วนะ ตามติดตามกันต่อๆไปเรื่อยๆนะคะ ถ้าใครอย่างกระทู้นี้จบมาเม้นบอกกันหน่อยซิ ชะนีน้อยจะได้มีกำลังใจเขียนทริปสนุกๆแบบนี้มาให้อ่านกันอีก ทุกกำลังใจทุกคอมเม้น มันมีความหมายกับหนุงหนิงมากจริงๆ ขอบคุณทุกคนนะคะ จากใจชะนีน้อยคนนี้

เพจ:ชะนีน้อยตะลอนทัวร์

IG:sanungningdiary

ชะนีน้อยตะลอนทัวร์

 วันศุกร์ที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2559 เวลา 01.34 น.

ความคิดเห็น