*** สั ญ ญ า ห น้ า ฝ น ***



ย่างเข้าเดือนกันยาที่ไร นึกถึงเมื่อคราวได้มีโอกาสไปเที่ยวเขาสกอีกแล้วคะ



ทริปส์นี้ จัดขึ้นเพื่อที่จะไปฉลองวันเกิดเพื่อนรักของเราเองแหล่ะ . . . . (ไปไกลจังเนอะ) เอาจริงๆก็คือหาเรื่องเที่ยวนั่นแหล่ะคะ 555+



เดินทางทั้งสิ้น 4 ท่าน

เดินทาวันที่ 14-16 กันยายน 2014 (ผ่านมาแค่ 2 ปีเอง ไวมากกก)

ที่พัก

- คืนที่ 14 พักที่แพพันวารีย์ ในเขาสก

- คืนที่ 15 พักที่บ้านศิวิไล หาดขนอม

- คืนที่ 16 พักที่ Chic Hotel ที่พักน่ารักๆในอ.เมืองสุราษฯ



เราทั้ง 4 เดินทางจากสนามบินดอนเมืองค่ะ ได้ตั๋วไฟล์ทเช้ามา ราคาไป-กลับ ดอนเมือง-สุราษฯ-ดอนเมือง ประมาณ 800 นิดๆ



ถึงสนามบินสุราษฯ วิธีการเดินทางจากสนามบินสุราษฯเข้าเขื่อนรัชประภา คือ โทรเรียกพี่รถตู้ที่ได้ทำการนัดหมายไว้ล่วงหน้าค่ะ
ให้มารับ (เบอร์ติดต่อหาได้ตามเว็บนะคะ) พี่เค้าจะมารับคะ (ตรงเวลามาก) สำหรับเรื่องราคา ต้องขออภัยนะคะ จขกท. ลืมแล้วอ่าว่าเท่าไหร่



สำหรับขากลับ ถ้าอยากกลับคันเดิม ก็แจ้งพี่เค้าไว้ได้คะ ว่าเราจะกลับวันแล้วให้พี่เค้าไปรับในเขื่อน



การเดินทางจากท่าเรือ เข้าไปยังแพพันวารีย์



เราได้นัดหมายกับทางรีสอร์ทไว้เรียบร้อยก่อนเดินทางแล้วคะ ... สำหรับที่พัก เราได้ทำการจองล่วงหน้าประมาณ 1 เดือน
ตอนแรกหาที่พักยากมากคะ เพราะพี่ที่ทำงานเคยบอกว่า บนแพน่ากลัว หากไปแค่ผู้หญิงควรหาแพดีๆหน่อย แบบว่ามีห้องน้ำในตัว
จะได้ปลอดภัย อีกอย่าง ข้างในเขื่อนก็ไม่มีสัญญานโทรศัพท์ด้วยคะ

ค้นไปค้นมา เจอแพที่อยากนอนจริงๆ แบบวิวสวยๆ ก็คือแพคีรีวารินท์ กับ แพพันวารีย์ แต่เนื่องจากแพคีรีวารินท์ห้องที่เราหมายตาไว้เต็มพอดี เราก็เลยหันมาจองแพพันวารีย์แทนคะ วิวแบบสวยมากกกกกกกกกก เราเลือกบ้านแพหลังกลาง ราคาหลังละ 8,000 / 1 คืน / 4 คน / รวมอาหาร 2 มือ อาหารเช้า 1 มื้อ + รวมเรือรับส่ง (แต่ไม่ได้พาทัวร์ทะเลในนะคะ ถ้าต้องการที่จะไปขึ้นเขาชมถ้ำในทะเลในก็มีเรือบริการเหมาไปคะ)



จากท่าเรือ นั่งเข้าไปในเขื่อนใช้เวลาไม่นานคะ
รีสอร์ทแบบว่า สวยมากกกกกกกกกก เป็นที่เดียวที่ที่พักติดกับภูเขาหินปูน จึงทำให้น้ำบริเวณนั้นมีความใสกิ๊กเลยคะ
พอถึงเรียบร้อยเราก็เอาของไปเก็บ เสร็จแล้วพี่พนักงานก็เชิญเราไปทานข้าวเที่ยง
ที่ห้องอาหารของรีสอร์ทนะคะ อาหารที่ทางรีสอร์ทบริการให้เรามีประมาณ 3-4 อย่าง ที่จำได้มี แกงจืด คั่วกลิ้งหมู ไก่ทอด .... อร่อยดีคะ
แนะนำ หาซื้อน้ำขนมหรือของกินเข้าไปด้วยนะคะ เพราะข้างในไม่มีที่ซื้อค่ะ ของบางอย่างทางรีสอร์ทก็ไม่มีจำหน่าย




ถึงฝนจะตก แต่ก็ไม่เป็นอุปสรรคกับกิจกรรมทางน้ำของเราคะ ..........



หลังจากที่เราเล่นน้ำ พายเรือคายัคจนหนำใจแล้ว ก็ต้องรีบอาบน้ำไปทานอาหารเย็นคะ
ปล. อาหารเริ่มประมาณ 18.30 น. นะคะ มีหลายเมนูด้วยกัน แต่ที่ชอบมากๆๆๆและเบิ้ลหลายจานก็คือ ใบเหลียงผัดไข่
อร่อยมากกกกกกกกก



บ ร ร ย า ก า ศ ย า ม เ ช้ า . . . . . . .




ตื่นแต่เช้า อาบน้ำ แต่งตัว รอทานอาหารเช้า (ข้าวต้ม กาแฟ ขนมปังคะ) และก็รอกลับขึ้นฝั่ง
เพื่อไปพักยังขนอมต่อ

จะกลับแล้ว ฝนยังไม่หยุดตกเลยยยยย



ระหว่างทางกลับคะ เรือของรีสอร์ทจะพาเราแวะชมกุ้ยหลินเมืองไทยด้วยนะคะ ... วิวรอบข้างยังกะสวรรค์




หลังจากที่รถตู้มาส่งเรายัง อ.ขนอมแล้ว เราก็ทำการเช็คอินที่พักคืนที่ 2 เลยคะ
ชื่อว่าบ้านศิวิไล ........ วิวสวย บรรยากาศสวย ห้องพักสวย ราคาห้องละ 1,500 บาท /2 คน ไม่รวมอาหารเช้าคะ
เราจองไว้ทั้งสิ้น 2 ห้อง ( 1 ห้อง Seaview / 1 ห้อง วิวสระว่ายน้ำ)






เช้าวันที่ 16 กันยายน 2014
เราตื่นแต่เช้าคะ เพราะนัดรถให้มารับเพื่อไปชมปลาโลมาสีชมพู ซึ่งต้องนั่งเรือออกไป
(ค่าเหมารถ กับค่าเรือ จ่ายแยกกันนะคะ) รถเหมาสามารถแจ้งทางรีสอร์ได้เลยคะว่าจะให้เค้าไปส่งที่ไหน
และสำหรับเรือชมปลาโลมา ก็จะมีชาวบ้านแถวนั้นคอยให้บริการคะ สำหรับราคาก็จำไม่ได้แล้วคะ แต่ก็ไม่แพงมาก
หารกัน 4 คน (ล่องเรือชมปลาโลมา นั่งชมหินผ้าพับ แล้วก็แวะสักการะหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืดด้วยคะ)




ทานอาหารเช้าเสร็จ ก็ทำการเช็คเอ้าท์ รอรถที่เหมามารับคะ (เป็นรถกะบะ 4 ประตูคะ) มารับเราจากรีสอร์ทไปส่งท่าเรือ
และก็รอรับกลับ เพื่อที่จะไปส่งเรานอนในตัวอำเภอเมืองคืนสุดท้ายที่ Chic Hotel คะ



ถึงท่าเรือ จะเจอรูปปั้นสัญลักษณ์ของที่นี่คะ คือปลาโลมาสีชมพู ..........


แพลนวันนี้ 1. ชมเขาหินผ้าพับ 2. สักการะหลวงปู่ทวด 3. จอดเรือรอชมปลาโลมา



หินผ้าพับ ลักษณะเหมือนเครปเค้กเลยคะ ตัวจริงสวยมากกกกกกกกก นี่ถ้าแดดจัดๆ คงถ่ายมาสวยกว่านี้คะ


นั่งชมวิวมาเรื่อยๆก็ถึงแล้วคะ





นี่งายยยยยยยย บ่อน้ำจืดกลางทะเล ชิมแล้ว ไม่เค็มคะ 5555555++


หลังจากไหว้พระขอพรหลวงปูเรียบร้อยแล้ว จุดสุดท้ายของวันนี้ก็คือ ล่องเรือรอชมปลาโลมาสีชมพู

เวลาผ่านไป 5 นาที ก็ยังไม่มา

ผ่านไป 10 นาที ก็ไม่มา

ถามลุงหาปลาว่าวันนี้เจอมั้ย ลุงบอกว่า เจอเมื่อเช้าตอน 8 โมง 2 ตัว แต่ถ้ามาดูเวลานี้ไม่เจอหรอกว่างั้น




หลังจากที่เราอกหักจากน้องปลาโลมาสีชมพู

พี่คนขับก็มาส่งเราที่ที่พักคืนสุดท้ายคะ นั่นคือ " C h i c H o t e l "
ที่พักน่ารักมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก เราได้ห้องแฟมมิลี่
2 เตียงใหญ่ 4 คน ราคา 800 บาท / 1 คืน ( คุ้มอ่ะ แถมใกล้ตลาดโต้รุ่งด้วย )




เก็บกระเป๋าเสื้อผ้า เย็นๆ ก็เดินตลาดโต้รุ่งกัน




เดินตลาด ชิมนั่นชมนี่ซักพัก เราก็ไปแวะทานข้าวและก็ฉลองวันเกิดเพื่อนที่ร้านฮิฟๆของสุราษฯคะ



ร้านชื่อว่า " เ ช ย " เป็นร้านยอดนิยมของสุราษฯคะ อาหารอร่อย บรรยากาศคล้ายๆภูเก็ตเลย


บ๊ายบายสุราษฯ

เช้าวันสุดท้ายของการเดินทาง .... จากโรงแรม Chic Hotel ตอนแรกคิดว่าจะนั่งรถตู้จากที่พักเข้าไปสนามบินเลย
เจ้าของโรงแรมก็เลยสอบถามเรากลับมาว่า จ้างรถของโรงแรมไปส่งได้นะ 4 คนหารกัน ถูกกว่านั่งรถตู้อีก (แถมได้แวะซื้อของฝากด้วย)
เราทั้ง 4 ก็เลยโอเคคะ



สุดท้าย ... ขอบคุณที่รับชมนะคะ หวังว่ากระทู้นี้คงจะมีประโยชน์กับใครบ้าง อาจจะเป็นแนวทางในการเดินทางสำหรับคนที่ไม่มีรถส่วนตัวคะ

ท้ายสุด ... ขอบคุณกล้องโทรศัพท์ S3 Samsung ที่บันทึกภาพการเดินทางให้เราได้ชมถึงแม้มันจะเบลอบ้าง ชัดบ้าง ...

ท้าย ที่ สุด ..... ขอบคุณสำหรับการติดตามคะ สัญญาว่าสุราษฯจะไม่ใช่ครั้งสุดท้ายของเรา ครั้งหน้าเราจะพกกล้องดีๆไปถ่ายเธอ

L o v e

S u r a t t h a n i R a i n y D a y 

Whatdayistoday Playplern

 วันจันทร์ที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2559 เวลา 10.30 น.

ความคิดเห็น