12th Oct 2016



บ่ายคล้อย ท้องน้อย ๆ (ซะที่ไหน) เริ่มหิวนิด ๆ แต่มีที่ให้เก็บเยอะแยะเต็มไปหมด ต่อจากวัดรินโนจิ และสวนโชโยเอ็นที่แสน สงบ - สวย - เฟอร์เฟคแล้ว
เราบ่ายหน้าหาสะพานแดงชินเคียวขึ้นชื่ออีกที่ของนิกโก้กัน จริง ๆ เห็นแล้วตั้งแต่ตอนขามา แต่ใจและขามันพาให้ไปที่สะพานอย่างด่วน คือถ้ามาถึงแล้วไม่เสียเงินเข้าไปเหยียบถือว่าไม่ถึงนะ


สะพานชินเคียว(Shinkyo Bridge) หรือสะพานศักดิ์สิทธิ์

ตั้งอยู่ ณ ประตูทางเข้าศาลเจ้าและวัดนิกโก้

เป็นของ ศาลเจ้าฟูทาราซัง(Futarasan Shrine) เป็น 1 ใน 3 ของสะพาน

ที่สวยที่สุดของประเทศญี่ปุ่นร่วมกับ สะพานคินไตเคียว(Kintaikyo Bridge)

ที่อิวาคูนิ กับ สะพานซารุฮาชิ(Saruhashi) ที่ยามานาชิ,โอสึกิ

โครงสร้างสะพานปัจจุบันสร้างขึ้นในปี 1636

แต่เริ่มแรกที่สร้างขึ้นไม่เป็นที่ชัดเจน

จนกระทั่งปี 1973 ได้เปิดให้ประชาชนเข้าชม

และมีการปรับปรุงซ่อมแซมเมื่อปลายปี 1990 และต้นยุค 2000

มีค่าใช้จ่ายเล็กน้อยสำหรับการเดินไปกลับข้ามสะพาน

เปิดบริการเวลา: 8:00-16:30 / พฤศจิกายน - มีนาคม 9:00-15:30
ค่าข้าม : สะพานผู้ใหญ่ 300 เยน / นักเรียนชั้นมัธยมปลาย 200 เยน /
นักเรียนชั้นประถมและมัธยมต้น 100 เยน
ที่อยู่ : Kamihatsuishimachi, Nikko-shi
การเดินทาง : จากสถานี Nikko, JR Nikko Line
หรือสถานี Tobu Nikko, Tobu Nikko Line
นั่งรถ Tobu Bus ไป Chuzenjiko 5 นาที แล้วลงที่ป้าย Shinkyo
GPS
: 36.758552, 139.596686
credit : http://www.talonjapan.com/shinkyo-bridge/




.
.
.










ทางแยกที่ทำเอา จขบ. งงว่า ตรูไปทางไหนดีฟร่ะ มีการเสี่ยงทายเล็กน้อยว่า รูปปั้นหันหน้าไปทางไหน เราจะไปทางนั้น 555 แล้วก็อดไม่ได้ที่จะตามสนองความว้อนท์ของปาก "Shinkyo bridge wa doko duseka" เฮ้ย... เขาฟังเรารู้เรื่องด้วยนี่นา ตื่นเต้นมากกก แต่ตอนตอบมาเนี่ย ไม่เข้าใจหรอก อาศัยดูมือชี้โบ้ชี้เบ้แล้วเดินตามไปตามทาง ตามเซ้นท์ที่ว่า "นี่แหล่ะ ใช่หล่ะ" เอา








ตอนนี้ เราฟินอีกแล้วกับทางเดิน มอสเต็ม




เดินลงมาจนถึงป้ายนี่ เอ้านี่ตรูเดินย้อนศรเขามาเหรอ????
เดินมา ๆ ก็จะผ่านศาลเจ้าอยู่ด้านซ้ายมือ เดินตามไหล่ทาง รถราวิ่งกันขวักไขว่ ต้องระวังโมเสสเล็กน้อย บ่นตามสเต็ป สักพักก็เห็นสะพานแดงเด่น ๆ อยู่ตรงหน้า หาที่ข้ามตรงทางแยก เจอคนไทยหลายคน นิกโก้เมืองไทยเที่ยวจริง ๆ







เราเก็บรูประยะไกล ซูมเข้า ซูมออก จนหนำใจ ก่อนจะยินยอมพร้อมใจเสียเงิน ขอให้ได้ไปฝากรอยเท้า แปะ ๆ ๆ ไว้บนสะพานหน่อยเถอะ +++












สายน้ำที่นี่มีเสน่ห์มากกกกกกกกกกกกกกก










อะแฮ่ม อะฮั้นมายืนอยู่ตรงนี้จริง ๆ แล้วนะฮร้า


ปล่อยให้เรื่องการเจรจาเป็นเรื่องของสามีและเพื่อนซี้ต่างวัยอย่างแนทที้คนงามไป จขบ.ขอเก็บรูปก่อน

ชอบตรงป้าที่ขายตั๋วบอก โมเสสไม่เอา เพราะหล่อ *** จริง ๆ แล้ว เด็กเล็กเขาไม่เก็บน่ะคะ แต่เหตุผลป้าทำเอาแม่อย่าง จขบ.ยิ้ม เข้าข้างลูก 5555








.
.
.













ได้ตั๋วแล้ว มีสิทธิ์แล้ว เข้าไปข้างในกันค่ะ ลอดโทริอิกันตามธรรมเนียม











เป็นโรคเห็นเก้าอี้ยาว ๆ ไม่ได้ แป๊บ นะ นางแบบทำงานแป๊บ



.
.
.






ใจเต้นอ่า.... เหมือนจะได้เจอคนที่แอบชอบมานาน สิ่งที่รออยู่ตรงหน้าแล้ว
ไปหาสะพานแดงกัน



















ดีหน่อยที่ตอนไป ไม่ค่อยมีคน อิ อิ











เกลียดตัวเอง ที่เป็นคนอย่างนี้
ละเมียดเกินไปไหม ทำให้จดจำลายละเอียดเล็กน้อยได้หมด
แต่ถ้าไม่ได้สนใจขึ้นมาล่ะ
เรื่องเล็ก เรื่องใหญ่ไม่สนกันเลยที่เดียว








"แล้วเกี่ยวอะไรกับสะพานแดงฟร่ะ"
ต่อเนื่องจากพายุที่เพิ่งเคลียร์มา ตรูล่ะเหนื่อยตัวเอง














หลักฐานความงาม ข้ามกาลเวลา











เดินเสร็จ 1 รอบ แบบถึงก่อน ออกที่หลัง รั้งท้ายชาวบ้านเขา
เมา มัว กับการเก็บรูป
ถ้าไม่ติดเกรงใจ จะเดินอีกสัก 3 รอบ









และก็ยังไม่ยอมไปไหนเพราะชายชุดดำในรูป 5555 เงิบ แต่หล่อนะ ขนาดข้างหลังยังหล่อขนาดนี้ อิ อิ ดีนะสามีจิกหัวกลับทัน






สายน้ำ เวลา และความรัก เมื่อเสียไปแล้ว มักไม่ได้กลับคืนมา (อารมณ์อกหัก)




จากสะพานแดงชินเคียว เราอยากหาอะไรกินกันรองท้อง พลันตาเหลือบเห็นร้านขายของฝาก หยุดอัตโนมัติลืมเรื่องข้าวเที่ยงตอนบ่าย 2 ไปเลย หอบของฝากกลับรถมีเรื่องให้เคลียร์อีก คุณแม่ล่ะเหนื่อยใจจิม ๆ
.
.
.








ขอบคุณที่แวะมา





Mariabamboo

 วันเสาร์ที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2559 เวลา 17.17 น.

ความคิดเห็น