ตอนที่แล้วหนูเล็กพาเที่ยวเกาะบูราโนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ใครยังไม่ได้ไปเที่ยวชมแวะไปเที่ยวก่อนได้เลยค่ะ

พลาดไปเสียดายแย่

https://th.readme.me/p/8057

หลังจากเที่ยวเกาะบูราโนเรียบร้อย เราเหลือเวลากับเกาะเวนิสเพียงแค่บ่ายนี้ไปจนถึงราตรีนี้เท่านั้น ดังนั้นเมื่อเดินทางกลับจากเกาะบูราโน จะมีอะไรดีไปกว่าการใช้บัตร One day pass ในการนั่ง water bus เที่ยวเล่นให้หมดเวลาไป เพราะไหนๆ ก็เสียเงินซื้อบัตรมาแล้วและมีเวลาเพียงแค่วันนี้เท่านั้นที่จะใช้ได้ ดังนั้น เพื่อความคุ้มค่าของเงินที่เสียไป หลังจากแยกย้ายกับแขกคนสำคัญทั้งสองของเราเรียบร้อย หนูเล็กจึงขอจัดพาทัวร์ชมวังบน Grand Canal เป็นการทิ้งทวน ว่าแล้วก็ไปขึ้น water bus จากบริเวณหน้าสถานีรถไฟ Venezia Santa Lucia เลือกสายที่จะพาเราไปไกลๆ อย่างจัตุรัส San Marco จะได้ชมวัง ชมโบสถ์สองฝั่งคลองให้เพลิดเพลินจำเริญใจ

ในอดีตเวนิสเคยเป็นเมืองที่ได้ชื่อว่าร่ำรวยที่สุดในโลก จึงเต็มไปด้วยวังตลอดสองฝั่งคลอง ต้องทำความเข้าใจก่อนว่าแต่เดิมนั้นให้เรียกว่า Palazzo ได้เพียง 3 วังที่สำคัญเท่านั้น แต่ภายหลังมีการเปลี่ยนแปลงกฎหมาย พวกคฤหาสถ์ ที่เขียนว่า Ca' หรือ Casa เหล่านี้ จึงจัดมาอยู่ในกลุ่มเดียวกันเรียกเหมารวมเป็นวัง (Palazzo) ทั้งหมด ดังนั้น ที่ว่ามีวังเรียงรายเต็มไปหมดจริงๆ แล้วก็คือคฤหาสถ์ของพวกมหาเศรษฐีผู้มีอันจะกินทั้งหลายของเวนิสนั่นเอง

ซึ่งเศรษฐีตัวจริงเท่านั้นจึงจะสามารถสร้างวังริม Grand Canal ถ้าไปสร้างตรงอื่นถือว่าไม่ใช่มหาเศรษฐีตัวจริง และข้อเท็จจริงก็คือวังพวกนี้จะถูกตกแต่งประดับประดาเฉพาะด้านหน้าวัง ซึ่งก็คือด้านที่ติด Grand Canal เท่านั้น ซึ่งเป็นธรรมดาของมหาเศรษฐีทั่วโลกที่นิยมอวดร่ำอวดรวยโชว์ความมั่งมีให้คนอื่นเห็น


ว่ากันว่าวังของคนที่เคยเป็น Doge จะอยู่แถวๆ สะพาน Rialto เพราะส่วนใหญ่แล้วคนที่จะมาเป็น Doge ได้นั้นจะต้องเป็นพ่อค้าวาณิชมาแล้วทั้งนั้น นั่นคือต้องมีเงินมีฐานะ ไม่เช่นนั้นคงจะมาเป็น Doge ไม่ได้


การล่องเรือ water bus ชมวังกับหนูเล็กสามารถดูชื่อวังที่แต่ละภาพเพื่อทำความรู้จักกับวังและอาคารต่างๆ เท่าที่หนูเล็กพอจะเก็บภาพมาฝากได้ค่ะ อาคารมีสองฝั่งกระโดดไปมาเก็บภาพไม่ได้ทั้งหมดค่ะ อิอิ


เมื่อไปถึง Piazza San Marco เราก็ลงเดินเล่นบริเวณนี้เป็นการทิ้งทวน เพราะวันนี้เป็นวันสุดท้ายแล้วสำหรับการเหยียบย่างบนแผ่นดินกลางลากูนแห่งนี้ สองสามวันที่ผ่านมาบนเกาะเวนิสทำให้หนูเล็กไม่แปลกใจเลยว่าเพราะอะไรใครๆ ถึงหลงใหลกับดินแดนแห่งนี้ ไม่อาจบอกได้ว่าเป็นเพราะบรรยากาศ สถาปัตยกรรม ศิลปะ หรือผู้คน หรือเพราะทุกสิ่งที่มารวมกันเป็น "เวนิส" จึงทำให้เป็นเสน่ห์ที่ใครๆ ก็อยากเดินทางมาสัมผัส


ดูเหมือนว่าการเดินทางบนแผ่นดินของอิตาลีในทุกย่างก้าว จะมีแต่ศิลปะในทุกศาสตร์ทุกแขนงรายล้อมพวกเราเอาไว้ตลอดเวลา พอละสายตาจากตึกรามบ้านช่อง รูปปั้น ประติมากรรมต่างๆ ก็จะเห็นผลงานทางศิลปะที่วางขายตลอดสองข้างทางจนอาจเรียกได้ว่าเกลื่อนถนน ถ้าศิลปินฝีมือชั้นครูมาเดินดูก็คงตัดสินได้ว่าผลงานเหล่านี้เยี่ยมยอดเพียงใด แต่สำหรับสายตาและอารมณ์ติสท์แตกแบบหนูเล็กมองผลงานชิ้นไหน ไม่ว่าจะมาจากฝีมือศิลปินระดับโลกหรือข้างถนน ดูเหมือนว่ามันช่างเป็นผลงานที่วิจิตรตระการตาไปเสียหมด หรือว่าความสามารถทางศิลป์นี้เป็นยีนส์เด่นของผู้คนในดินแดนนี้ก็ไม่รู้ ถึงได้มีฝีมือเก่งฉกาจกันเต็มบ้านเต็มเมืองขนาดนี้

พวกเราเดินเล่นชมบรรยากาศทั่วๆ ไปสักพักก็จับเรือสักลำเดินทางกลับ เลือกเส้นทางที่แปลกๆ ไม่เคยนั่ง ซึ่งก็นับเป็นเรื่องดี เพราะเรือ water bus สายนี้พาเรากลับในอีกเส้นทางหนึ่งที่ไม่เหมือนขามา จากเดิมขามาผ่านแต่วังริม Grand Canal มากมายก่ายกองเก็บภาพมาไม่หมด แต่ขากลับเราพบแต่โบสถ์สวยๆ งามๆ ตลอดสองข้างทาง ได้เห็นบ้านเรือนสีส้มของชาวเวนิสตลอดเส้นทางที่เรือแล่นผ่านจนไปถึงที่หมาย


Water bus tour บ่ายวันนี้นับเป็นทัวร์ที่คุ้มค่าดีจริงๆ นับเป็นการทิ้งทวนการอำลาเกาะเวนิสและทริปเดินทางอันแสนยาวนานของพวกเราที่แสนสุขจริงๆ ค่ะ

และแล้ววันเวลาแห่งการผจญภัยบนเส้นทางสายยุโรปของพวกเราก็เดินทางมาถึงวันสุดท้าย ไม่มีงานเลี้ยงใดที่ไม่เลิกรา การเดินทางครั้งนี้ก็เช่นกัน อาจเป็นเพราะสิ่งนี้กระมังจึงทำให้ตลอดสิบกว่าวันที่ผ่านมาจึงเต็มไปด้วยความสุขบนเส้นทาง เพราะมีวันเริ่มต้นและมีกำหนดวันสิ้นสุด พวกเราทุกคนจึงเร่งตักตวงความสุขบนเส้นทางนี้กันอย่างเต็มเปี่ยม และบนความสุขนั้นยังมีร่องรอยของประสบการณ์ที่ให้ทั้งความรู้และความทรงจำอันทรงคุณค่ามากมายในทุกๆ เส้นทางที่ก้าวผ่านมา เพราะโลกนี้ไม่ได้มีแค่ World Wide Web : www ที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ ลองหาโอกาสออกไปสัมผัสกับสิ่งใหม่ๆ ที่รออยู่ แล้วจะรู้ว่าโลกเบี้ยวๆ ใบนี้ ยังมีที่กว้างๆ รอให้เราออกไปเดินค้นหาอีกมากมายจริงๆ

A bientôt France...

Arrivederci Italia...

แวะไปเยี่ยมชมภาพถ่ายจากการเดินทางและทักทายพี่ใหญ่กับหนูเล็กได้ที่

https://www.facebook.com/TravelWithPiyaiAndNoolek/

Piyai&Noolek

 วันเสาร์ที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 เวลา 22.05 น.

ความคิดเห็น