เป็นทริปแรกที่ต้องเดินระยะทางไกลขนาดนี้ แต่เพื่อความฟิน เดี๋ยวจะมารีวิวที่นี่ กับสุดยอดเขาที่ใครๆก็อยากจะไป ''เขาช้างเผือก''

หลังจากเห็นรีวิว"เขาช้างเผือก"ตั้งแต่ปีที่แล้ว ก็คิดว่ายังไงก็ต้องไปให้ได้สักครั้งนึงในชีวิต จนถึงช่วงที่เขาใกล้เปิดให้ขึ้นก็ติดตามข่าวมาตลอด เพราะปีนึงเค้าเปิดให้ขึ้นแค่ครั้งเดียวในระยะเวลาสั้นๆ วันนึงให้ขึ้นแค่60 คนจองล่วงหน้าก่อนขึ้นเขา7 วัน เราก็รวมกลุ่มกับเพื่อนที่เค้าอยากจะไปอยู่แล้ว (ไปเกาะเค้านั่นเอง แฮร่~~) เมื่อได้วันแล้วเราก็ไปลุยกันเล้ยยยยย การเดินทางเราเลือกเหมารถตู้จาก กทม โดยออกเดินทางตั้งแต่ 21.30 น.ของคืนวันที่29 ธันวาคม เพื่อไปพักเอาแรงที่อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิก่อน นั่งรถไป แวะกินข้าวไปเรื่อย พร้อมกับแวะรับเพื่อนร่วมทางอีก2 คนที่กาญจนบุรี สรุปเราถึงที่อุทยาน ตี4 ครึ่ง จะได้นอนมั้ย กางเต๊นท์ตอนนี้คงไม่ทัน เราเลยเลือกที่จะนอนบนรถตู้กัน ส่วนใครยังไม่อยากนอนก็ตั้งกล้องถ่ายดาวกันไป ส่วนเรา หลับจ้าาา💤💤 ตื่นเช้าขึ้นมาพร้อมกันก็ล้างหน้าแปรงฟัน ใครจะอาบน้ำก็มีห้องน้ำให้ แต่น้ำเย็นมากกกก ไม่สู้!! เมื่อเรียบร้อยแล้วเราก็ไปลงทะเบียน กรอกรายละเอียดว่าเราจะเคารพกฏและบุคคลที่สามารถติดต่อได้ในยามฉุกเฉิน อืมมม.... พี่จะรอดมั้ยยย55 พร้อมบัตรประชาชน เจ้าหน้าที่ก็จะมีใบผ่านทางให้เรา พี่เค้าว่าแบบนั้นว่าห้ามทำหายนะ ลายมือเค้าศักดิ์สิทธิ์มากกก เมื่อเรียบร้อยเราก็ไปบ้านอีต่อง ซึ่งอยู่ถัดไปไม่ไกลเพื่อหาข้าวเช้าและเสบียงเตรียมขึ้นเขา...



ค่าใช้จ่าย และสิ่งที่อยากแนะนำ



1.ค่ารถตู้ (อันนี้แล้วแต่สามารถเดินทางโดยรถโดยสารได้)

2.ค่าเข้าอุทยานคนละ40บาท ค่ากางเต๊นท์40บาท ค่ารถคันละ30 บาท

3.ค่าเจ้าหน้าที่ดูแล1,800 ต่อกลุ่ม(กลุ่มละ10คน)

4.ค่าลูกหาบ 1 คน1,300บาทต่อน้ำหนัก30กิโลกรัม (กลุ่มเราใช้ลูกหาบ4คน และยังมีส่วนเกินอีก ไม่รู้ว่าหอบอะไรขึ้นไป5555 เทคนิคการจ้างลูกหาบ ให้เอาน้ำหนักที่ไม่มีการลดการเพิ่มให้แบกไป ส่วนของกิน น้ำ ที่ใช้แล้วจะทำให้น้ำหนักเบาลงเอามาเป็นส่วนเกินแทน เพราะพวกนี้เค้าจะชั่งต่างหากทั้งขึ้นและลง เราโดนมาแล้ว ช้ำ--" พวกขนมปังหรืออะไรที่จะนิ่ม เละ แตกง่ายไม่ต้องให้ลูกหาบไปนะคะ เพราะเค้าไม่ดูแล พังหมดค่ะ)

5.ข้าวเช้าควรทานให้อิ่มเพื่อจะได้มีแรงเดินพร้อมกับสั่งข้าวห่อเพื่อไปทานตอนกลางวันด้วย แต่กรุ๊ปเราไปทานตรงจุดกางเต๊นท์ เดินเร็วป่ะล่าาา 6.น้ำเปล่า ควรพกติดตัวอย่างน้อย2ขวด

7.ยาดม ลูกอม ช่วยท่านได้มาก

8.เสื้อแขนยาวและหมวกเพราะแดดร้อนมาก ไหม้ค่ะ

9.เสบียงสำหรับมื้อเย็นเอาไปพอประมาณนะคะ เพราะที่กรุ๊ปเอาไปเยอะมากกกกก คือขนสุกี้หมูกระทะขึ้นไปทำกันเลยทีเดียว แต่ก็ได้แบ่งให้คนอื่นได้ทานด้วยค่ะ^^

10.ทิชชู่เปียกลืมไม่ได้เลยค่ะ เพราะด้านบนไม่มีน้ำให้อาบนะคะ

11.ห้องน้ำถ้าไม่ใช่คนท่อตรงควรเข้าให้เรียบร้อยตั้งแต่ด้านล่างนะคะ ถ้าถ่ายเบาก็เข้าป่าไปค่ะ ห้องน้ำไม่ได้จริงๆ5555 กลิ่นลอยมาเลย

12.เต๊นท์ ถุงนอน ถ้าไม่มีอุทยานมีให้เช่าค่ะ

13.รองเท้าค่ะ โดนมาแล้วพังเลย555555555



ค่อยๆเดินกันไป ไม่ร้อนเลยยย


ในที่สุดเราก็ขึ้นมาถึงด้านบนของสันคมมีด ซึ่งก่อนหน้านี้เราต้องผ่านสันวันใจ ซึ่งเป็นทางขึ้นที่เราต้องปีนหินขึ้นไปในลักษณะเรียงเดียว ไม่ต้องกลัวนะคะ ตรงนี้จะมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลทุกฝีก้าวที่เราปีขึ้นไปค่ะ พอขึ้นไปยังตรงนั้นแล้วเจ้าหน้าที่จะให้เราคลานนะคะ ใช้คำว่าคลานค่ะ เพราะทางแคบมากและลมมแรงอาจจะพลัดตรงเขาได้ง่ายๆ ตรงนี้ต้องเชื่อเจ้าหน้าที่นะคะ อย่าดื้อ เราเลยไม่ได้หยิบกล้องออกมาถ่ายค่ะ 55555


นี่ไงคะสันคมมีดที่พูดถึง เป็นไงเสียวมั้ยคะ5555


ถึงแล้ววว ด้านบนมีธงชาติไทยให้เราถ่ายรูปด้วยนะคะ ว่าเรามาถึงจุดสูงสุดแล้ว


ชมวิวอิ่มกันแล้วเรามาถึงทางลงซึ่งต้องผ่านสันวัดใจอีกรอบ มาดูกันว่าเสียวขนาดไหน55555


ผ่านสันวัดใจแล้วเราก็ชิล แวะถ่ายรูปชมพระอาทิตย์ตกกันไปเรื่อยๆ ก่อนจะกลับไปที่เต๊นท์


กลับลงมาถึงเต๊นท์อีกความโชคดีก็คือฟ้าระเบิดเป็นสีชมพู โอยยยยฟินนนนนน


ถึงเวลากลางคืนจะมีอะไรดีไปกว่านอนนับดาวคะ อากาศดีๆพร้อมกับลมเย็นๆ กลับดาวที่พร่างพราวเต็มท้องฟ้า ใกล้จนคิดว่าเอื้อมถึง

ตื่นเช้ามากับอากาศดีๆ บางคนก็ตื่นมาถ่ายดาวช่วงเช้ากัน แต่เราเลือกที่จะตื่นมาถ่ายพระอาทิตย์ขึ้น รอเวลาที่จะพ้นขอบฟ้ามาทักทาย

มาแล้ววววววว

อย่างกับภูเขาไฟฟูจิ เช้านี้ก็ฟ้าสวยมากๆๆๆ ถึงจะไม่เจอหมอกได้แค่นี้ก็คิดว่าโชคดีมากแล้ว

ทำท่ายอดฮิตกะดวงอาทิตย์

ลาไปด้วยบรรยากาศธรรมชาติแบบสบายตานะคะ

สุดท้ายจริงๆกับรองเท้าเทพของเรา ขอบคุณที่พาเรากลับลงมาข้างล่างอย่างปลอดภัย ไปปีนเขาคราวหน้าคงต้องหารองเท้าที่ดีกว่านี้ T_T

แล้วเดี๋ยวทริปหน้าถ้าได้ไปไหนอีกจะมารีวิวแล้วพากล้องไปเที่ยวกับพวกเราด้วยนะคะ หรือติดตามเราได้ที่



https://www.facebook.com/Parklongtongtiew/

#พากล้องท่องเที่ยว

ฉัน มี กล้อง

 วันเสาร์ที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2560 เวลา 15.05 น.

ความคิดเห็น