จันทบุรีเป็นเมืองเก่าแก่ที่มีประวัติศาสตร์สำคัญอันยาวนาน

มาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา กรุงธนบุรี รัตนโกสินทร์ จนถึงปัจจุบัน

จึงทำให้ที่นี่มีแหล่งท่องเที่ยวมากมายทั้งแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ

และแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรรม

มาในวันนี้ผมจะพาเพื่อนๆไปย้อนอดีต ท่องวันวาน กับพิพิธภัณฑ์ที่ยังมีชีวิต

ในสถานที่ที่มีชื่อว่า ชุมชนริมน้ำจันบูร


ชุมชนริมน้ำจันทบูร นั้น มีอายุมากกว่า 120 ปี และถนนตรงนี้ถือเป็นถนนสายแรกของจันทบุรี

สถาปัตยกรรมในชุมชนส่วนใหญ่นั้นได้รับอิธิพลมาจากตะวันตกและจีน


การเดินชมถนนประวัติศาสตร์เส้นนี้เราเริ่มจากฝั่งถนนสุขาภิบาล

ระหว่างทางเรายังเจอชาวบ้านทำกิจวัตรประจำวันอยู่


เดินเข้ามาอีกนิดเราจะพบกับร้านไอศกรีมตราจรวด

ซึ่งเป็นโรงงานที่ผลิตไอศกรีมด้วยเครื่องจักรแห่งแรกของเมืองจันท์


มีไอศกรีมขายหลายรสครับ ทั้งกะทิ มะนาว ส้ม นมเย็น และอื่นๆอีกเยอะ แท่งละ 10 บาทเท่านั้น


ใกล้ๆกันเราจะเห็นบ้านไม้เก่าๆ ซึ่งที่แห่งนี้คือร้านก๋วยจั๊บมหาอร่อย ชื่อว่า ร้านก๋วยจั๊บป้าไหม



ร้านนี้อร่อยจริงอะไรจริง หมูกรอบนี่เด็ดมาก...กรอบนานขนาดที่ว่าถ่ายรูปเสร็จแล้วหมูยังกรอบอยู่เลย


เยื้องกับ ร้านก๋วยจั๊บป้าไหม คือ บ้านหลวงราชไมตรี ซึ่งท่านเป็นพ่อค้าผู้บุกเบิกการปลูกยางพาราในภาคตะวันออก

ปัจจุบันที่นี่เป็น บ้านพักพิพิธภัณฑ์ หรือ พิพิธภัณฑ์ที่มีห้องพักนั่นแหละครับ และที่นี่จะเป็นที่พักของเราในคืนนี้

เพจ https://www.facebook.com/baanluangrajamaitri/

เวปไซด์ http://www.baanluangrajamaitri.com/th/

แผนที่ https://goo.gl/maps/sw8CC5XPc9x

ภาพแบบ 360 องศา https://goo.gl/5NgWnr


ภายในตัวของ บ้านหลวงราชไมตรีนั้นมีทั้งส่วนที่เป็นพิพิธภัณฑ์คือจัดแสดงของเก่า

และเล่าถึงประวัติความเป็นมาของ บ้านหลวงราชไมตรี




หน้าตารีเซฟชั่นเป็นแบบนี้ครับ

เราขึ้นไปดูห้องพักกัน..เดินเบาๆนะครับเพราะเป็นพื้นบ้านเป็นไม้ อาจมีเสียงดังได้


ในส่วนของห้องพักที่นี่มีห้องพัก 12 แบบ แต่ละห้องจะมีชื่อและเรื่องราวของห้องเป็นของตัวเอง

อย่างห้องที่ผมพักในวันนี้เธอมีชื่อว่า พลอย


ภายในห้องก็จะถูกประดับตกแต่งไปด้วยอะไรที่เกี่ยวกับ พลอย

เช่นตัวอย่างเอกสารซื้อขายพลอยในสมัยก่อน

ภาพแบบ 360 องศา https://goo.gl/yk6pBv

จากห้องพลอยเมื่อเปิดหน้าต่างไปก็ยังมีวิวแม่น้ำจันทบุรีครับ


ห้องพลอยนั้นเป็นห้องที่เล่นระดับ ด้านล่างเป็นห้องนั่งเล่น ด้านบนเป็นที่นอน

ภาพแบบ 360 องศา https://goo.gl/FN6IRv


ที่นอนด้านบนโดนแอร์จังๆ สะใจคนชอบความเย็นแน่นอนครับ


สิ่งอำนวยความสะดวกให้ห้องมีครบเหมือนโรงแรมทั่วไป ทั้ง TV ชุดชากาแฟ กระติกน้ำร้อน




ตู้เย็น ไดร์เป่าผม และผ้าขนหนูสุดน่ารักที่ทำเป็นรูปกระต่าย

ห้องน้ำที่นี่ก็เป็นสไตล์ย้อนยุคเช่นเดียวกัน ดูดีเก๋ไก๋ไปอีกแบบ


อ้อ..และก็ขอเล่าอะไรสักเล็กน้อยเกี่ยวกับการดำเนินการในการอนุรักษ์ชุมชนริมน้ำจันบูรสักหน่อยนะครับ

เพื่อให้การอนุรักษ์สถาปัตยกรรม และการรักษาวิถีชีวิตดังเดิมของชุมชนได้อย่างยั่งยืน

โดยไม่มุ่งไปแต่เรื่องของการค้าเพียงอย่างเดียว จึงมีการก่อตั้ง บริษัท จันทบูรณ์รักษ์ดี จำกัดขึ้น

ซึ่งเป็นการร่วมมือของ ชุมชนริมน้ำ บุคคลทั่วไปที่มีเจตนารมณ์เดียวกัน และ สถาบันอาศรมศิลป์

โดยรายได้บางส่วนจากการดำเนินกิจการจะถูกนำมาใช้เพื่อพัฒนาชุมชน

เราเรียกแนวคิดนี้ว่าธุรกิจสังคม (Social Enterprise)

ซึ่งผมคิดว่าแนวคิดนี้เป็นแนวคิดที่ดีมากๆ เพราะมันผมรู้สึกว่า เราได้ให้อะไรกับชุมชนบ้าง



จาก บ้านหลวงราชไมตรีเดินออกมาไม่ไกล เราจะพบซอยเล็กๆที่เชื่อมไปยังวัดเขตร์นาบุญญาราม

แผนที่ https://goo.gl/maps/JvmRGcpMvou

วัดนี้มีจุดเด่นที่แปลกและแปลกมาก..ที่นี่เป็นวัดของชาวญวนซึ่งเหลืออยู่ไม่กี่แห่งแล้วในประเทศไทย

สถาปัตยกรรมและศิลปะภายในวัด เหมือนกับเอาศิลปะของวัดไทยผสมกับวัดจีน


อย่างที่เห็น ตัวโบสถ์นั้นเป็นแบบไทย แต่มีซุ้มประตูจีนอยู่ด้านหน้า

ด้านบนมีพญาครุฑไทยกับมังกรจีน


ช่อฟ้าของวัดเป็นลักษณะเหมือนคลื่นซึ่งแสดงถึงชาวญวนโพ้นทะเล


ประตูเป็นงานศิลปะแบบไทย กำแพงเป็นกระเบื้องแบบจีน

ภาพแบบ 360 องศา https://goo.gl/EaH2vT


จากนั้นเราออกมาเดินสำรวจชุมชนกันต่อ





บางแห่งจะมีงานกราฟิตี้ปะปนอยู่ด้วย แหม..เป็นเมืองอาร์ทเหมือนกันนะนี่


บ้านขุนอนุสรณ์สมบัติก็เป็นอีกหนึ่งสถานที่ ที่ควรเข้าไปชม

เพราะเป็นบ้านหลัก ของแหล่งเรียนรู้ ชุมชนริมน้ำจันทบูร

แต่น่าเสียดายที่วาสนาของเรามันน้อยนักไปแล้วบ้านปิดจ้าาาาา

ไม่ได้เข้าไปด้านใน ถ่ายรูปข้างหน้าก็ยังดี



จากนั้นเราข้ามไปยัง อาสนวิหารพระนางมารีอาปฏิสนธินิรมล

ซึ่งเป็นอาสนวิหารประจำมิสซังโรมันคาทอลิกที่สวยที่สุดในภาคตะวันออก


มีกำหนดเวลาการเข้าชมด้านในโบสถ์ตามเวลาการถวายมิสซาในวันธรรมดา 2 ครั้ง

เวลา 6.00-7.00 น. และ 18.00 – 19.45น.

และในวันอาทิตย์ 3 ครั้ง เวลา 6.15 น. 8.30 น. และ 19.00 น.

ให้แต่งกายสำรวมสุภาพ หากไปช่วงกลางคืนจะมีการเปิดโคมไฟประดับสวยงาม

ภาพแบบ 360 องศา https://goo.gl/CCfwzg


กลับมายังฝั่ง ชุมชนริมน้ำจันทบูร เราเดินลงไปอีกนิดนึงเกือบสุดถนน

เราจะเจอร้านก๋วยเตี๋ยวชื่อดังนามว่า ร้านเจ๊อิ๊ดริมน้ำ ถ้าหาค้นหาดูในเน็ตจะมีหลายชื่อมาก

เจ๊อี๊ดริมน้ำมั่ง ป้าอี๊ดริมน้ำมั่ง ก๋วยเตี๋ยวริมน้ำมั่ง เยอะแยะไปหมด

แต่เอาเป็นว่ามันคือร้านเดียวกันก็แล้วกัน


จุดเด่นของร้านนี้คือก๋วยเตี๋ยวต้มยำทะเลที่ใส่เครื่องมาแน่นมาก ให้ใหญ่ ให้เยอะ สดจริง

รสชาติของน้ำต้มยำก็อร่อย ที่สำคัญราคาไม่แพงมาก

อย่างเมนูที่ผมทานมีชื่อว่า รวมเจ้าสมุทร ราคา 100.- ใส่เครื่องก็อย่างที่เห็นเลยครับ

ถือว่าเป็นอีกหนึ่งร้านดังที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือน ชุมชนริมน้ำจันทบูร



ยามเช้าของวันใหม่เราตื่นมาใส่บาตรกัน

พระของที่นี่จะเริ่มเดินบิณฑบาตรกันตั้งแต่ตี 5 ครึ่ง เรื่อยไปจนไปถึงประมาณ 7 โมง


จากนั้นเราก็มาทานอาหารเช้ากันที่ บ้านหลวงราชไมตรี อาหารเช้าที่นี่จะมีให้เลือก 3 แบบคือ

อเมริกันเบรคฟัส(ใครรู้ว่าเขียนยังไงให้ถูกรบกวนบอกหน่อย) โจ๊กจันทบุรี และก๋วยจั๊บ

เราจะต้องเลือกเมนูอาหารเช้าเมื่อทำการเข้าที่พัก

เราเลือก โจ๊กจันทบุรี กับก๋วยจั๊บ ในเซ็ตจะมี น้ำเต้าหู และขนมต้มด้วย


ส่วนเมนูประกอบอาหารเช้าอื่นๆก็จะมี ชา กาแฟ ปาท่องโก๋ ขนมปัง และกล้วยไข่


ทานอาหารเช้าเสร็จแล้วจากนั้นก็ได้เวลาเช็คเอ๊าท์กันแล้วครับ

หากใครสนใจมาพักที่ร์บ้า นหลวงราชไมตรี สามารถติดต่อได้ที่ 088 - 843 - 4516

เวปไซด์ http://www.baanluangrajamaitri.com/th/

เพจ https://www.facebook.com/baanluangrajamaitri/

สำหรับทริปนี้ถือว่าได้อะไรหลายๆอย่างในการเดินทาง

ที่สำคัญคือรู้สึกดีว่ายังมีชุมชนที่เข้มแข็งและพร้อมที่รักษาวัฒนธรรมที่ตัวเองมี

ไม่ไหลไปกับกระแสทุนนิยมจนลืมคุณค่าในตัวเอง ผมเชื่อว่า " ชุมชนริมน้ำจันบูร"

จะเป็นอีกหนึ่งสถานที่ ที่คุณจะต้องประทับใจแน่นอนครับ


Wefoto

 วันอาทิตย์ที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2560 เวลา 15.05 น.

ความคิดเห็น