วันดีดีอีกวันสำหรับการออกเดินทาง มันก็ไม่ใช่วันพิเศษอะไรมากไปกว่าวัน เสาร์-อาทิตย์ และบางทีการเดินทางก็ไม่ได้พิเศษอะไรไปกว่าการเปลี่ยนที่นอน คราวนี้พวกเรา Journey Gallery ลองเปลี่ยนจากเที่ยวป่าเที่ยวเขา มานอนโรงแรมหรู เปิดใหม่ ติดชายหาดพัทยากันดูบ้าง ที่โรงแรม MERA MARE HOTEL at PATTAYA

(อย่าลืมเข้าไปกดไลค์เพจ https://www.facebook.com/journeygallery/ เป็นกำลังใจให้พวกเราด้วยนะ ^^ )

การเดินทางทริปนี้แทบจะไม่ต้องอธิบายอะไรมากเลย เอาเป็นว่าจากกรุงเทพฯขับขึ้นมอเตอร์เวย์มุ่งหน้าไปเมืองพัทยาแล้วเลี้ยวเข้าสู่ถนนพัทยากลาง หรืออะไรที่ง่ายกว่านั้น เปิด GPS ตั้งพิกัดไปที่โรงแรม MERA MARE HOTEL ได้เลย

เอาล่ะ มาถึงกันแล้วที่ โรงแรม MERA MARE Hotel ก่อนอื่นก็จัดการเช็คอินให้เรียบร้อย ระหว่างที่รอห้องพัก ที่นี่มีบริการ Welcome drink รสชาติดีๆที่ช่วยให้สดชื่น หายเหนื่อยจากการเดินทาง เอาไว้บริการพวกเราด้วย

หายเหนื่อยแล้ว เราจะตรงขึ้นไปนอนบนเตียงแล้วส่งเสียงกรนเบาๆ...ซะที่ไหนล่ะ สัญชาตญาณนักสำรวจของเราเริ่มทำงานตั้งแต่มาถึงแล้ว เดี๋ยวเราจะพาไปดูมุมต่างๆของโรงแรมที่เปิดใหม่ยังไม่ถึงสองปีแห่งนี้กัน

ภายในนี้ตกแต่งได้อย่างสวยงามตั้งแต่เดินเข้ามา แบบที่เรียกว่าหรูหราเลยทีเดียว มีหลายมุมที่มีการดีไซน์เก๋ๆที่มองแล้วต้องเดินกลับมามองซ้ำ ใช้ไฟสีเหลืองสลัวๆแบบนี้ยิ่งดูแพงขึ้นไปอีก

ริมสุดของโถงรับรอง มีมินิบาร์เล็กๆให้นั่งผ่อนคลาย นั่งจิบอะไรเบาๆตรงนี้ก็ได้ด้วย

เอาล่ะ สำรวจโซนนี้เสร็จแล้ว ทางโรงแรมก็จัดการเรื่องห้องพักให้เสร็จพอดี เราขึ้นไปสำรวจห้องพักกันบ้างดีกว่า

ก็อย่างที่บอกว่า ที่นี่เพิ่งจะเปิดให้บริการได้ยังไม่ถึงสองปี เรื่องความสะอาดนั้นแทบไม่มีอะไรให้ติเลย ตั้งแต่ทางเดิน ก็รับรู้ถึงความใหม่ สด สะอาด ยิ่งกว่าอาหารในซุปเปอร์มาเก็ตอีกนะ

ที่ MERA MARE Hotel มีห้องพัก 80 ห้อง ส่วนห้องที่เราจะพักกันเป็นห้อง Delux วิวสวน

เข้ามาในห้อง ทุกอย่างมีความสะอาดใหม่เอี่ยม ห้องจัดไว้อย่าลงตัว ใช้สีโทนขาว-ดำ เน้นความเรียบหรู ของใช้ทุกอย่างก็เพียงพอสำหรับการอยู่ในห้องทั้งวันทั้งคืนเลยนะถ้าคุณไม่คิดจะออกไปไหน

ห้องน้ำก็สะอาดดี มีอุปกรณ์ทุกอย่างให้ครบครัน และมีอ่างอาบน้ำให้นอนแช่กันจนตัวเปื่อยก็ยังได้

มา!!! เซลฟี่กันซะก่อน...ก่อนที่จะนอนกลิ้งไปกลิ้งมาแล้วห้องนี้จะแปลสภาพไปตามความเละเทะของพวกเราเอง ฮ่าๆๆ

นอกจากห้องที่เราพักกันแล้ว เรายังมีโอกาสได้ได้เข้าไปชมอีกสองห้อง คือ ห้อง Suit ทั้งสองห้อง แต่คนละสไตล์ เริ่มกันที่ห้องแรกกันเลย

ห้องนี้เป็นห้อง suit Seaview เตียงเดี่ยว ตกแต่งไว้อย่างหรูหราเลยทีดียว

อยู่ในห้องนี้เรียกว่าพร้อมทุกอย่าง มาเที่ยวแล้วพักที่นี่ ไม่ออกไปข้างนอกเลยก็ยังได้

เตียงใหญ่ บรรยากาศในห้องก็ดี๊ดี

ห้องน้ำสะอาด และกว้างมาก แถมตรงอ่างอาบน้ำก็ยังเป็นกระจกใส ไม่ว่าจะในนี้มองไป หรือบนเตียงมองมาก็เห็นกันได้ชัดเจน นี่ถ้าเป็นคู่รักมาพักที่นี่นะ แหม่...คิดต่อกันเองนะ อิอิ

ความเจ๋งของห้องนี้ยังไม่หมด เพราะความที่เป็นห้อง Seaview จะไม่มีวิวให้ดูได้ไง ว่าแล้วก็ลองนั่งโซฟาตรงนี้ชมวิวชายทะเลพัทยากันให้อิ่มใจกันไปก่อน

บอกนิดนึง ที่นี่นะ ตอนเย็นถ้าอากาศดีดี จุดนี้แหละเหมาะสุดๆกับการนั่งชมพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าตัดกับทะเลพัทยา นั่งสบายๆตรงนี้ก็มีวิวสวยๆมาเสิร์ฟ

หยุดความฟินกับห้องสุดคูลห้องนี้ไว้เท่านี้ก่อน เราจะพาไปดูอีกห้องนึง บอกเลยว่าคูลไม่แพ้กัน คราวนี้ใาแบบเตียงคู่กันบ้าง

ห้องนี้จะตกแต่งไว้ให้ดูเรียบง่ายหน่อย สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆยังครบครันเหมือนเดิม

เตียงคู่ไซน์กำลังดี สำหรับคู่เพื่อนที่มาเที่ยวกัน หรือคู่แฟนที่อยากลองแยกกันนอน (ทำไมล่ะ) หรือจะด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแต่

ห้องน้ำก็ยังมองออกข้างนอกได้เหมือนกัน

หลังจากได้ชมห้องต่างๆแล้ว อยากจะเพิ่มเงินแล้วไปสัมผัสความรู้สึกหรูหราแแบบนั้นขึ้นมาเลย

ทันใดนั้นเอง เสียงท้องร้องต้องทำให้เราหยุดจิ้นกันไว้เท่านั้นก่อน มาหาอะไรอิ่มๆบริการกระเพาะน้อยๆของเรากันที่ Pastry Addiction และ October Sky ซึ่งที่นี่ก็คือห้องอาหารของโรงแรมเองนี่แหละ

บรรยากาศภายในร้านมันช่างเอื้อต่อความหิวในท้องซะเหลือเกิน ตกแต่งแบบเรียบหรูดูแพงทำเอาเราต้องคิดถึงความเริศของอาหารก่อนที่จะได้รับประทาน

ที่ห้องอาหาร Pastry Addiction และ October Sky มีอาหารหลากหลายเมนูให้เลือก ส่วนมื้อกลางวันของเรา ทางโรงแรมเค้าจัดให้

มาเริ่มกันที่เมนูแรกกันเลย กับ "ส้มตำผลไม้"

เมนูนี้ ส่วนตัวเราชอบที่สุดเลย ตามสไตล์คนเรื่องมากในการกินอย่างเรา เมนูนี้ถือว่าชนะขาด ไม่ว่าจะด้วยรสชาติความอร่อยไม่จัดเกินไป วัตถุดิบที่ผสมผสานกันอย่างลงตัว มนุษย์เรื่องมากผู้ไม่กินเผ็ดและไม่กินผักอย่างเราทานได้สบายๆ

เมนูต่อไปคือ "บะหมี่หมูตุ๋น"

อันนี้ออกจะเผ็ดไปสักนิดสำหรับมนุษย์ลิ้นบอบบางอย่างเรา แต่กินได้นะเพราะรสชาติก็อร่อยดี คนที่ไม่กินเผ็ดคงเข้าใจกัน

"ยำสลัดกุ้งกรอบ"

เมนูนี้หลายคนน่าจะชอบ กุ้งตัวโตๆชุบแป้งทอด เสริฟพร้อมผักสลัด กินกันแบบเต็มปากเต็มคำ (นี่ทำไมพิมพ์ไปก็หิวไปด้วยล่ะ ฮ่าๆๆ )

มาถึงอีกหนึ่งเมนูที่โดยส่วนตัวแล้วเราชอบมากๆเหมือนกัน นั่นคือ "อกเป็ดราดซอสส้ม"

บอกได้เลยว่า คือ ดี อกเป็ดที่อบมานุ่มกำลังดี ที่ราดด้วยซอสส้มตามชื่อ ทานคู่กับเครื่องเคียงที่เป็นผลไม่ที่เสิร์ฟมาในจาน อร่อยจนต้องจิ้มแล้วจิ้มอีก

ตบท้ายมื้อเที่ยวของเราด้วยเครื่องดื่มรสชาติดีสองเมนู คือ สตรอเบอรี่สมูทตี้ กับ King of Fruit

ถ้าอิ่มแล้วนอน คงไม่ใช่เรา...จะปล่อยเวลาว่างให้เปล่าประโยชน์ทำไม เดี๋ยวจะพาไปเดินเล่นถ่ายรูปมุมต่างๆของโรงแรมกันต่อ

ถามว่าทำไมเราไม่ออกไปเที่ยวข้างนอกล่ะ...คำตอบคือ ฝนตก ตกแบบไม่ลืมหูลืมตา เราก็เลยเลือกที่จะใช้ชีวิตขี้เกียจๆของเราในโรงแรมแบบนี้ล่ะ

บรรยากาศบริเวณทางเดินด้านนอก

ข้างบนมีสระว่ายน้ำด้วยนะ เดี๋ยวเราจะมาสาธยายความดีงามของตรงนี้ให้ได้อ่านกันต่อ

เดินไปเดินมา เวลาแห่งความเพลิดเพลินนี่ก็ผ่านไปเร็วเหลือเกิน...หิวอีกแล้ว!!!! เราเลยกลับมาที่เดิม ที่ Pastry Addiction นี่แหละครับ

วาร์ปมาที่โต๊ะอาหาร เมนูสุดเริศแบบคุณหรีดไม่ต้องการรันตีรอเราอยู่แล้ว

เริ่มกันที่ "เบอร์เกอร์ปูนิ่มทอดกรอบ"

ถึงจะกินยากไปสักนิดนึง แต่ถ้าได้กัด ได้เคี้ยวเข้าไปแล้ว รับรองว่าต้องอยากกินต่อเนื่องแน่ๆ

อีกหนึ่งเมนูที่อยากจะแนะนำ "สลัดเนื้อสันในย่าง"

เมนูนี้นักทานเนื้อห้ามพลาดเลยขอบอก เนื้อนุ่มๆย่างสุกพอประมาณ ราดด้วยน้ำสลัดญี่ปุ่น โอ้ยยยยย ลองนึกภาพตอนเคี้ยวแล้าตานี่พริ้ม คิดดูเองนะว่าอร่อยขนาดไหน

ใครที่ยังไม่อิ่มกับอาหารคาวก็มาต่อที่อาหารหวานกันได้ เค้ามีให้เลือกเพียบ ทั้งขนม เค้ก เบเกอรี่ สายคาเฟ่ของหวานไม่ต้องออกไปไหนไกลเลย

อิ่มแล้วมานั่งรับลมชมวิว ชิวๆที่สระว่าน้ำกันอีกรอบ ตรงนี้เป็นออีกที่ที่ถ้าหากอากาศดี คุณจะได้ว่าน้ำไปชมพระอาทิตย์ตกไปพร้อมๆกันได้ด้วย

เสร็จจากตรงนี้ อากาศมันดีซะเหลือเกิน ดีจนความง่วงเริ่มเข้าครอบงำละ ขอตัววาร์ปไปนอนก่อน

ตัดภาพมาที่ตอนเช้า คนแอคทีฟอย่างเรา ตรงไปเข้าฟิตเนสจร้า ถามว่าไปอออกกำลังกายหรอ...เปล่าแค่อยากรู้ที่นี่เป็นไงเฉยๆ

อุปกรณ์ฟิตเนสที่นี่ก็ครบไม่แพ้ฟิตเนสใหญ่เลย แถวยังดูใหม่เอี่ยมน่าใช้ ที่พิเศษสุดๆคงเป็นวิวด้านหน้าที่มองเห็นทะเลได้ (ถึงจะมีต้นมะพร้าวบังหน่อยๆก็เหอะ)

หลังจากจดๆจ้องๆมานาน และแล้วก็มาถึงเวลาปล่อยหมูลงสระซะที บรรยากาศตอนเช้านี่แหละเหมาะกับการเล่นน้ำที่สุด

ไปสิจ๊ะ อยากลงก็เปลี่ยนชุดให้เรียบร้อย

และภาพต่อไปนี้คือความฟินของหมูน้อยเล่นน้ำ

เล่นน้ำจนเหนื่อยและเปื่อย เราก็ลงมาจัดการกับกระเพาที่ต้องการอาหารเช้าของเรากันดีกว่า

มื้อเช้าเป็นอาหารแบบบุฟเฟ่ต์ ส่วนอาหารก็มีให้เลือกหลากหลาย สะดวกตักอันไหนก็เลือกได้ตามสบายเลย ทั้งของความ ของหวาน มีมาเติมแบบไม่ให้ขาด (แอบบอกว่าเรานี่กินจนคุ้มกันเลยล่ะ ก็เล่นอร่อยไปซะทุกอย่างนิ)

จบจากมื้อเช้า (อันที่จริงก็นั่งกินกันจนเกือบจะเที่ยง) ก็ใกล้ได้เวลาที่เราต้องเช็คเอ้าท์กันแล้ว เสียดายที่ทริปนี้ฝนตกเหมือนตั้งใจให้เราเสพความสุขที่โรงแรมนี้อย่างเต็มที่

พอเช็คเอาท์แล้ว ช่วงเวลาที่เหลือก่อนจะกลับไปนอนเตียงเดิมกับหมอนที่เปื้อนน้ำลายที่บ้าน เราก็ใช้ชีวิตง่ายๆให้สมกับเป็นทริปพักผ่อนแบบง่ายๆ อย่างเช่นการเดินเล่นบนชายหาดพัทยาที่อยู่หน้าโรงแรม ไปเดินช๊อปเพลินๆที่ Central Festival ซึ่งก็อยู่ไม่ไกลจากโรงแรมเช่นเดียวกัน

ออกไปไกลหน่อยก็พากันไปชมวิวอ่าวพัทยา ที่จุดชมวิวเขาพระตำหนักก็สบายตาดีเหมือนกัน

นี่คือความฟินสุดสบายตลอด 2 วันหนึ่งคืน ที่ MERA MARE Hotel at Pattaya ใครที่มาเที่ยวที่พัทยาแล้วอยากหาที่พักผ่อนสุดหรู แสนสบาย ติดชายทะเล ที่นี่แหละที่จะสนอง Need ของคุณได้เป็นอย่างดี ยังไงก็อย่าลืมจดไว้ในลิสโรงแรมที่น่าเช็คอินของคุณด้วยล่ะ


ส่วนทริปหน้าเราจะไปเที่ยวที่ไหน หรือมีอะไรมาอวดกัน ก็เชิญติดตามกันได้ที่ เฟสบุคแฟนเพจ Journey Gallery (https://www.facebook.com/journeygallery/) จะพูดคุย สอบถามข้อมูล หรือแนะนำสถานที่ท่องเที่ยว ได้หมดเลย เข้าไปกดไลค์และติดตามกันไว้นะ


สำหรับรีวิวนี้ก็ขอจบตรงนี้ละกัน ขอให้ทุกคนสนุกกับการเดินทางนะครับ บ้าย บายยยยยย

Journey Gallery

 วันพฤหัสที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2560 เวลา 19.27 น.

ความคิดเห็น