Readme.me - ทริป Honeymoon ที่ TOMORROWLAND

ทริป Honeymoon ที่ TOMORROWLAND | 2017

รีวิวทริป Tomorrowland 2017

เป็นทริปที่เคยฝันไว้ตั้งแต่สมัยเรียนอยู่ว่าจะต้องไปให้ได้สักครั้งก่อนจะแก่เกินไป ซึ่งในปีนี้ก็มีโอกาสได้ไปหลังจากแต่งงานได้ไม่นาน จึงถือว่าเป็นทริปฮันนี่มูนไปในตัว โดยรวมถือว่าเป็นทริปที่พีคมาก เพราะเราอินกับทุกอย่างตั้งแต่หนังสือพิมพ์ยันห้องน้ำค่ะ และที่ขาดไม่ได้เลยคือเพลงกับบรรยากาศภายในงาน ใครที่เป็นสาวก EDM นี้ห้ามพลาดสุดๆ

TICKET BOOKING:

สำหรับการจองตั๋ว แรกเริ่มเลยทาง Tomorrowland จะเปิดให้ลงชื่อสำหรับคนที่สนใจจองตั๋วค่ะ

ซึ่งสำหรับ 20 คนแรกของแต่ละประเทศที่ลงชื่อ จะมีสิทธ์ซื้อตั๋วได้ทั้งหมดคนละ 4 ใบในช่วง Pre-sale

ทางเว็ปไซส์ก็จะมี countdown ว่าจะสามารถลงทะเบียนได้เมื่อไหร่ ด้วยความที่เรากลัวจะไม่ได้เป็นยี่สิบคนแรก เราจึงให้ทุกคนในบ้านมานั่งเปิดคอมและรอลงทะเบียนพร้อมกัน อีกประมาณสองอาทิตย์ผ่านไปเราได้รับอีเมล์มาว่าเราได้สิทธ์ซื้อตั๋วเพราะเป็น First 20 ของประเทศ ตอนนั้นดีใจมากๆเพราะไม่คิดว่ามันจะง่ายขนาดนี้ค่ะ 555

หลังจากที่ได้สิทธ์แล้ว เรากับแฟนก็เลือกๆกันต่อว่าจะเอาแพคเกจแบบไหนดี จะนอนในงานเลยดีไหม หรือจะจองแบบแพคเกจท่องเที่ยวบวกตั๋วเข้างาน หรือจะเอาแต่ตั๋วเข้างานแล้วนอนข้างนอกดี

สุดท้ายตกลงกันได้ว่าไหนๆก็ไปแล้ว ก็เอาให้มันสุดๆแบบที่คนอื่นเค้าไปเลยกันละกัน โดยที่เราเลือกจะนอนในพื้นที่ Dreamville (เดินออกมาจากโซนงาน tomorrowland มานิดหนึ่งค่ะ)

สำหรับแพคเกจ Dreamville เราก็ยังต้องเลือกอีกว่าจะนอนแบบไหน จะนอนแบบแบกเต้นไปนอนเอง หรือเอาแบบที่มีเต้นกางให้พร้อมเข้าไปนอน หรือจะเอาแบบดูดีหน่อยก็จะเป็นห้องๆ ซึ่งราคาก็จะแตกต่างกันออกไปค่ะ (ใครที่สนใจสามารถดูราคาได้ในเว็ปไซส์ได้เลยนะค่ะ) เรากับแฟนตอนแรกเลือกที่จะเอาแบบห้องๆเพราะคิดว่าจะสบายหน่อย แต่สุดท้ายพอถึงวันจองตั๋วมันดันเหลือแต่ แพคเกจ Easy Tent ซึ่งคือแพคเกจที่มีเต้นกางให้พร้อมเข้านอน ตอนแรกก็กล้าๆกลัวๆว่าจะนอนได้ไหมเพราะเราก็ไม่เคยลุยนอนเต้น แต่ด้วยความที่ไม่มีทางเลือกก็เลยต้องจองไป 555 (ในใจก็คิดซะว่าดีกว่าไม่ได้ตั๋ว)

Bracelet เข้างานก็จะเป็นกำไลข้อมือแบบนี้นะค่าา

DREAMVILLE:

ในส่วนของ Dreamville นั้นเราสามารถเอาน้ำเอาอาหารเข้าไปเองได้ค่ะ ห้ามอย่างเดียวคือห้ามเอาอะไรก็ตามที่เป็นขวดแก้วเข้าไป เรากับแฟนก็กลัวว่าภายในงานเหล้าจะแพงเลยซื้อเหล้ากรอกใส่ขวดน้ำพลาสติกเข้าไปเพื่อที่จะพรีดริ้งก่อนเข้างานจะได้ประหยัดค่าใช้จ่ายหน่อย อันนี่ถือว่าเป็นเรื่องปกติสำหรับที่นู้นค่ะ ส่วนพวกอาหารเราก็ซื้อพวกขนมเข้าไปเพื่อที่ตื่นมาหิวๆจะได้มีอะไรกินรองท้อง ซึ่งบอกเลยว่าเวิคมาก ไม่ต้องรอต่อคิวซื้ออาหารนานๆ

ตุนเสบียงพร้อมค่ะ

อีกคนก็พร้อมเช่นกัน 55

คือเป็นที่ที่ทุกคนต้องมาให้ได้ ขนาดขาหักแล้วก็ยังต้องมาค๊า 555

รุ้งทางเข้าอันนี้ signature โคตรๆ ใครที่มาดรีมวิลต้องมาถ่ายกับรุ้งอันนี้ ถ้าไม่ได้ถ่ายนี่เฟลสุดๆ

พอเข้าไปใน Dreamville แล้วถ้าเราจองแพคเกจเดียวกันกับเพื่อนๆ แนะนำให้ไปเอาเต้นพร้อมๆกัน เพราะสำหรับที่พักทางทีมงานจะจัดให้เป็นแบบ first come first serve คือใครมาก่อนก็จะได้อยู่หน้าๆ ใกล้ๆกับทางเข้าออก ส่วนใครมาช้าก็เดินไปไกลเลยจ้าาา เรากับเพื่อนถือว่าโชคดีที่ได้เต้นไม่ไกลมากนัก พอได้เต้นเสร็จเราก็เดินดูรอบๆเลย ดูว่าฝรั่งข้างๆจะเถื่อนไหม เพราะแอบมีความกลัวอยู่บ้าง 55 สุดท้ายฝรั่งเต้นรอบข้างก็โอเค ต่างคนต่างอยู่ มีทักทายกันบ้าง ขอไฟชงไฟแช็คบ้าง ช่วยกันกางเบาะลมบ้าง พอเจอหน้าตาเพื่อนบ้านเสร็จเราก็เดินหาห้องน้ำกับที่อาบน้ำต่อ สำหรับที่อาบน้ำจะมีเวลาเปิดปิด ไม่ได้เปิดตลอดเวลา ฉะนั้นเราควรเลือกเวลาอาบน้ำให้ดี ถ้าอยากอาบน้ำอุ่นเราจะต้องเสียค่าอาบน้ำด้วย แต่ถ้าไม่คิดจะเสียตังก็มีที่อาบฟรีอยู่นะ (จะเป็นพื้นที่อาบน้ำแบบเวลาเราล้างตัวก่อนลงสระน้ำ) ในส่วนของห้องน้ำ ก็จะเป็นห้องน้ำ public ที่เป็นตู้ๆ (สะอาดมากกกกกกก) ในส่วนของพื้นที่ดรีมวิลคือจะมีพนักงานทำความสะอาดตลอดเวลา เข้าไปไม่มีกลิ่นเหม็นฉี่เลย สำหรับใครที่กลัวว่าจะอยู่ไม่ได้ ก็สบายใจได้เลย

บรรยากาศโซน Easy Tent ไม่ต้องแบกเต้นมาเองจ้า มีความเป็นหมู่บ้าน

แต่ละซอยจะมีชื่อถนนด้วยนะ จะได้ไม่หลงเวลาเดินกลับมาเมาๆ

นั่งหน้าบ้านกับเบาะลมซะหน่อย

ก่อนออกจากเต้นต้องล็อคเต้น ไม่งั้นเดี๋ยวคนเมาจะเข้ามาป่วนเปี่ยนได้

มีดีเจมาเปิดเพลงในโซนดรีมวิลตอนเช้าเบาๆ

ภายในที่พักธรรมชาติสุดๆไปเลยค๊าา

TOMORROWLAND 2017

มาดูกันต่อในส่วนของตัวงานกันเลยดีกว่าค๊าาา ให้ภาพมันอธิบายเองเลยเนอะ ;)

เวที Mainstage สวยและอลังการมากกกกกก

จังหวะนี้ตอนยืนอยู่ตรงนั้นคือโรแมนติกมากๆ

COMFORT PASS:

ในส่วนของ comfort pass จะเพิ่มราคาขึ้นมาอีกหน่อย ข้อดีของ comfort pass คือจะมีเลนพิเศษเวลาเข้างาน ไม่ต้องรอต่อคิวยาวๆ ตรงเวที mainstage จะมีตึกที่เราสามารถเข้าไปด้านในได้ ข้างในจะมีน้ำกับอาหารขาย ไม่ต้องไปต่อคิวซื้อด้านนอก นอกเหนือจากของที่สามารถซื้อได้แล้ว ภายในยังมีอาหารทานเล่นที่จะมีการเดินเซิรฟ์แจกฟรีอย่างต่อเนื่อง ห้องน้ำเป็นห้องน้ำแบบจริงจัง สะอาดสุดๆ แถมใครที่อยากจะแช่อ่างน้ำร้อนก็เตรียมชุดว่ายน้ำไปได้เหมือนกัน อารมณ์แบบแช่ออนเซ็น555

ของว่างแจกฟรี (คิดๆดูแล้วก็ไม่ฟรีหรอก 555)

ห้องน้ำดีเว่อออ ตอนแรกว่าจะไม่เข้าจนแฟนมาบอกว่าต้องเข้า 55

สำหรับงานนี้ใครว่าจะต้องลุยแบบเละเทะอย่างเดียว ที่นี่ร้านอาหารหรูๆก็มีนะค๊าาา แต่ต้องจองล่วงหน้าเท่านั้น เค้าจะเซิรฟ์อาหารเป็น คอร์ส พร้อมกับไวน์หนึ่งแก้วค่ะ แถมในส่วนของวิวก็จะเป็นวิว mainstage เลยค่าา สวยมากกกก (แต่ถ่ายรูปแล้วจะย้อนแสงสุดๆ TT)

มื้อนี้จะมีไวน์ให้คนละแก้ว สามารถเลือกได้จะเอาไวน์ขาวหรือไวน์แดง

Main course มาแล้วจ้าา

TIME TO GO HOME:

ช่วงเวลากลับบ้านแล้ววว ขนาดขากลับถ้าใครกลับด้วยรถไฟมุ่งหน้าไปยังประเทศอื่น เค้าก็มีหนังสือพิมพ์จากงาน Tomorrowland แจกด้วย ทำให้เรารู้สึกว่าเป็นงานที่ทางผู้จัดใส่ใจกับรายละเอียดหลายๆอย่างมากๆ สำหรับใครที่เป็นสาวกงาน EDM ก็ขอให้ได้ลองไปกันซักครั้งหนึ่งในชีวิตนะค๊าาา