Wadi rum หรือที่เรียกว่า Valley of the Moon เป็นหุบเขาตัดเป็นหินทรายและหินแกรนิต อยู่ทางตอนใต้จอร์แดน 60 กม. Wadi Rum เป็นภาษาอาหรับหมายถึง หุบเขาโรมัน หรือ “Valley of the Rûm” เสมือนหลุดไปอยู่บนดาวอังคาร ก่อนไปเที่ยวจอร์แดน คิดว่า คงมีที่เที่ยวแค่ที่เพตราแค่นั้น คงไม่มีอะไรอื่นที่น่าสนใจ แต่พอได้ข้อมูลจากคุณสามี โอ้โห มีแบบนี้ด้วย แปลกดีอ่ะ
ถนนหนทางในจอร์แดน ส่วนใหญ่มี 2 เลนวิ่งสวนกัน จะมีบ้างที่ 4 เลน ขับทางซ้ายค่ะ รถไม่เยอะ ออกนอกเมือง คือเหมือนออกนอกโลกค่ะ แต่จะมีตำรวจในเครื่องแบบคอยโบก เพื่อตรวจความเรียบร้อยทั่วไป เราก็แค่ยิ้ม เซย์ไฮ แล้วไปต่อค่ะ
ข้างทาง นานจะเจอร้านอาหารนะคะ แต่ไม่ได้เข้า ส่วนใหญ่จะทานแถวที่ท่องเที่ยวเลย
ก่อนอื่นเราต้องไปติดต่อที่ Reception ก่อนนะคะ ถ้าเรามีจองที่พักไว้ หรือจะติดต่อซื้อทัวร์อะไรก็ด่านนี้ก่อนค่ะ ซึ่งถ้ามาตามgoogle map ก็จะมาถึงจุดนี้ก่อนอยู่แล้วค่ะ
บริเวณ ใน Wadi Rum ด้านใน เราไม่สามารถนำรถเข้าไปเองได้ ภายในพื้นที่มีแต่ทราย เค้าใช้รถ 4Wกัน ติดต่อตกลงทัวร์กันด้านหน้าค่ะ และถ้าเรามีจองที่พักในWadi rumด้วยแล้ว หลังจากทัวร์เสร็จเค้าจะไปส่งที่ที่พักให้ค่ะ
รถคันงามของเรา ด้านหลังกระบะทำเป็นที่นั่งมีเบาะรองให้ เด็กๆสนุกกันมาก
ถ่ายรูปกับคนขับไว้ก่อนนะ เพราะเหมือนจะจำได้ แต่เอาเข้าจริง หน้าเหมือนกันหมดเลยน้าาาา
บริเวณที่ตกลง ต่อรองทัวร์กัน คือภายใน Wadi rum กว้างมาก มีหลายจุดให้แวะ แล้วแต่เวลาของเราและที่เราชอบ
จะมีกิจกรรม ขี่อูฐ ขี่ม้า นั่งรถ 4W เป็นทัวร์ภายในนั้น ซึ่งกว้างขวางใหญ่มากนะคะ สุดลูกหูลูกตาเลย เสมือนหลุดเข้าไปดาวอังคารจริงๆค่ะ พาไปดูตามจุดต่างๆค่ะ ทั้งดูพระอาทิตย์ตก เดินบนเนินทราย ปีนเขา สนุกดีค่ะ ราคาก็แล้วแต่ตกลง ต่อรองได้นะ พยายามต่อ มีหลายเจ้า ไม่พอเจ้านี้ ก็ไปถามอีกคนได้ แต่จริงๆแล้วก็เหมือนจะเป็นญาติกันหมดนะ 55
ใช้เวลาเที่ยวในนี้ประมาณ หนึ่งวัน (สี่ถึงห้าชั่วโมง)ค่ะ เรามาถึงช่วงบ่าย ก็เที่ยวตั้งแต่บ่ายถึงพระอาทิตย์ตกเป็นจุดสุดท้าย แล้วเข้าที่พักในนั้นค่ะ
ภายในอุทยาน wadi rum ก็จะมีสภาพเป็นแบบนี้ สลับกันไป เป็นโลกที่ไม่เหมือนเรา
เนินเขาทราย เหมือนเตี้ยๆนะ แต่เดินยากอ่ะ เสียวด้วย
บางจุดมีร้านค้าด้วย
ในความศรัทธา กลางทะเลทราย เป็นภาพที่ดี น่ารัก
มีปีนหน้าผา ขี่อูฐ ขี่ม้า ดูทรายสีแดง เข้าช่องแคบ
รอชมพระอาทิตย์ตก เป็นจุดสุดท้ายของเรา
รร.ที่พัก Wadi Rum Night Luxury Camp, อยู่ที่ Anfeshiah , Wadi Rum Protected Area and Natural Reserve, Wadi Rum 00962, พวกเราลงทุนจองห้องแบบโดม จะได้นอนดูดาวทั้งคืน แต่ด้วยข้อกำหนดของ รร. เกี่ยวกับจำนวนเด็กอีกแล้ว ทำให้ต้องเสียตังค์เพิ่มจองแบบเต้นท์ด้วย คืนนี้เลยมีที่พัก 2 แบบ แบบเต้นท์ก็จะได้ฟีลแบบชาวพื้นเมืองค่ะ เข้าไปอุ่นๆ แต่เอาจริงๆพวกเรานอนโดมทั้ง 4 คนเลย เตียงใหญ่มาก ราคารวมอาหารเช้า และเย็นค่ะ
ภาพของที่พักแบบเต้นท์โบราณก่อนนะคะ
อาหารเย็น จะเป็นแบบบุฟเฟต์ค่ะ เป็นอาหารพื้นเมือง ผสม สลัด มีขนมบ้าง แต่พวกเราไม่ค่อยถูกรสขนมทางอาหรับเท่าไหร่ค่ะ จึงทานเฉพาะเนื้อ กับแป้งมากกว่า ก่อนอาหารเย็น จะเปิดเพลงพื้นเมืองคลอๆ รอเวลาที่นัดหมาย จากนั้น เค้าก็เริ่มอธิบายการอบเนื้อแบบโบราณด้วยเตาที่อยู่ในพื้นดิน เนื้อหอมมาก 555
คนที่นี่หน้าตาไม่ยิ้มนะ แต่ชอบคุยกะเด็ก
อาหารเช้าทานได้เยอะหน่อย เพราะมีไข่คน ^^ omelet จ้า อย่าคิดเป็นอื่น ชา กาแฟ ขนมปัง สลัด
เสื้อคลุมหนังสัตว์ที่ทางนั้นจัดให้ หนัก แต่อุ่นมากกกกค่ะ ในบริเวณนี้อากาศค่อนข้างหนาวค่ะ เราไปช่วงปีใหม่ด้วย ยิ่งหนาวเลย
มองดูดาว สวยจริงๆค่ะ แนะนำไปคืนเดือนมืดนะคะ จะamazing มากค่ะ ยิ่งดึก ยิ่งมืด ดาวก็จะมาปรากฏตรงหน้าเรา ฟินจริงๆค่ะ คิดว่าเด็กๆจะสนุกมั้ยคะ 555 หลับปุ๋ยเลย เพราะเหนื่อยจากกิจกรรม เดินเนินทะเลทราย แต่เค้าก็เห็นดาวกันตั้งแต่หัวค่ำแล้วค่ะ
ต่อไปนี้คือที่พักแบบโดม
ภายใน มีแอร์ เตียงใหญ่มาก มีห้องน้ำในตัว
ตอนเช้าเรานัดรถเมื่อวานมารับ แต่ปรากฏว่า ถึงเวลาก็ยังไม่มาสักที ทางโรงแรมเลยไปส่งให้ค่ะ เลยได้นั่งรถคันใหม่เลย
ที่นี่เป็นเพียงหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวของประเทศจอร์แดน ยังมีอีกหลายที่ที่น่าสนใจนะคะ เช่น นครเพตรา ทะเลเดดซี
ประเทศจอร์แดน พาเด็กเล็กไปเที่ยวได้นะคะ เราว่าประเทศเค้าไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิดกันนะ และตามสถานที่ท่องเที่ยวก็มีนักท่องเที่ยวจากหลากหลายประเทศมาเที่ยวนะ ที่จอร์แดนติดอันดับประเทศที่น่าเที่ยวในกลุ่มประเทศอาหรับด้วยนะคะ
หาเวลา พาลูกไปท่องโลกกันนะคะ
Girltravelstory, คนหันหลังนั่นใครกัน, creamcreremo
วันอังคารที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2562 เวลา 10.34 น.