15 วันที่ใช้ชีวิตลุ้นรายวัน บนดินแดนที่แม้แต่คนจีนบางคนก็ไม่อยากไป ต่างบอกกันว่า น่ากลัว
“ซินเจียง” เชื่อว่าหลายคนที่มีเพื่อนเป็นคนจีน หรือว่าเพื่อนที่เรียนอยู่ที่จีน พอบอกเพื่อนว่าจะไปซินเจียง จะโดนเสียงห้าม เสียงเตือนว่าแน่ใจนะว่าจะไป "รู้ใช่ไหม มันอันตรายนะ!!!" แต่มันคือเป้าหมายของเรานะ งั้นก็ระวังตัวนะ ส่วนที่คนไม่รู้จักก็จะคิดว่ามันคือ ซีเจียง ซึ่งมันคนละที่กันจ้าาา
หนีฮ่าว ขอต้อนรับเข้าสู่ซินเจียงไดอารี่ บันทึกการเดินทาง 15 วันกับ 3 มณฑล 1 การปกครองพิเศษ ที่ประเทศจีนค่ะ
- Shaanxi (Xi’An)
- Gansu (Zhangye,Dunhuang)
- Yunnan (Kunming)
- Xinjiang (Urumqi,Altay,Burqin,Beitun,Xinyuan,Yining,Kuqe,Kashgar)
มารู้จัก ซินเจียงเป็นที่การปกครองพิเศษของจีนไปพร้อมๆกัน ที่นี่เป็นพื้นที่อ่อนโยนเคยมีการประทะกันมาก่อน ไม่แนะนำให้ไปสุ่มสี่สุ่มห้า เด็ดขาด!!! ก่อนไปเคยอ่านข้อมูลเก่าๆที่มีไปมาบอกว่าเราเตือนคุณแล้วนะ เราก็อยากให้คุณอ่านและพิจารณาเองว่าน่ากลัวจริงไหม
เราจะใช้เวลา 15 วัน บนเส้นทางสายไหม ซึ่งโดยปกติแล้ว เส้นทางนี้ต้องมีเวลาประมาณ 1 เดือน เราเลยวางแผนค่อนข้างเปะ จัดเวลาทุกอย่างเท่าที่ทราบ แผนจะต้องห้ามพลาด ถ้าพลาดต้องหาแผนสองสำรองเอาไว้ เนื่องด้วยมีเวลาน้อย การเดินทางเราคร่าวๆจะเอาที่เราสองคนอยากไปจริงๆเท่านั้น
ลำดับที่ไปจะเป็นแบบนี้ วางแผนหลายเดือนกว่าจะลงตัว
Xi An > Zhangye > Dunhuang> Ürümqi > Altay > Burqin > Jiadengyu > Hemu Village >Kanas >Beitun > Ürümqi > Tianchi > Xinyuan > Yining> Kuqe > Kashgar > Urumqi > Kunming > Bangkok
เริ่มต้นทริปที่ซีอานแวะมาต่อเครื่อง 1 คืน นอนได้แปปเดียวก็ต้องรีบตื่นเพื่อไปท่ารถไฟ Zhangye West ท่ารถไฟ ต่อไปจางเย่ Zhangye มณฑล Gansu
Zhangye 张掖
ใช้เวลาเดินทาง 8 ชั่วโมง ระหว่างทางกำลังจะหลับอยู่ดีๆจากทุ่งหญ้าสีเขียวก็แห้งแล้ง และจากนั้นก็ปกคลุมไปด้วยหิมะ ตื่นตาตื่นใจมาก สวยงามมากเป็น 8 ชั่วโมงที่สวยงาม ก็มาถึง Zhangye เรานอนโรงแรม Ibis เปิด Baidu เดินมาได้ ไม่ไกลมาก Ibis Zhangye Gov Station
วันรุ่งขึ้นนัดกันตี 5 ตื่นแล้วก็ยังออกไม่ได้เพราะท้องฟ้าไม่สว่าง แถมหนาวมาก ต้องรอยัน 7.30 วันนี้เราจะไป Danxia ภูเขาสีรุ้งนั่นเอง
การเดินทาง คือ นั่ง Taxi ต่อไป Zhangye West Bus Station ราคาที่ได้ คือ15 หยวน ต่อคน เป็นรถ Van วันที่ไป คนรอเกือบเต็มอยู่แล้ว พอเราสองคนขึ้นก็ออกเลย เวลาอาจเปลี่ยนแปลงตามสภาพอากาศ ถ้าท้องฟ้ายังไม่สว่างก็เปลี่ยนเวลารอบแรกสายแบบวันที่เราไปค่ะ ใช้เวลาประมาณ 1 ชม ก็ถึง ค่าเข้าอุทยาน คนละ 74 หยวน
ก่อนเข้าต้องจำทางเข้าให้ดีกว่าคุณเข้ามาทางไหน North หรือ West เรากับเพื่อนออกผิดประตู คาดว่าทุกคนจะต้องออก North แต่ดันมาออก Westซะได้ เลยเดินออกมาถามคนจีนที่หลงมาเหมือนกัน เขาบอกว่าต้องคอยไปถามว่ารถบัสคันไหนไป เรียกได้ว่าเดือดร้อนแรกมาแล้วเพราะว่าเราจองรถไฟไว้ กลัวไม่ทัน รอรถได้เป็นชั่วโมง ก็มีรถมา คนละ 15 หยวนเหมือนกัน แต่ว่ามาลงในเมืองและเดินกลับโรงแรมจ้า
Dunhuang 敦煌
ตอนเย็นพวกเราต่อรถไฟมาอีกเมือง คือ Dunhuang ถึงค่อนข้างดึก แนะนำว่าที่นี่ให้กด Didi ไว้เลย เพราะว่าเรากับเพื่อนไปเรียกคันไหนก็ไม่มีใครรับ เพราะว่าทุกคน โดนเรียกมาจาก Didi แล้ว รถผ่านไปเป็นร้อยคันได้ เราก็ยังไม่ได้ขึ้นเพราะว่า ตอนนั้นเราไม่เก็ทว่า ใช้ยังไง เลยเรียกโบกมาได้จนคนอื่นไปหมดแล้ว เราพักที่ Right Here Hotel(Dunhuang International Youth Hostel) ห้องน่ารักสามารถเดินไปตลาดกลางคืนได้ อากาศหนาวลมแรงเช่นเคย แนะนำให้กินองุ่น กับแคนตาลูป ผลไม้ในตลาดกลางคืนดูค่ะ หวานและเย็นอย่างกับแช่ตู้เย็น ฮ่าๆ
เช้าอีกวัน เราสามารถนั่ง Taxi ไปได้เลย หมิงซาซาน ค่าเข้าอุทยานคนละ 110 หยวน อาหารเช้ากินข้างหน้าอุทธยานได้เลย อร่อย ฮ่าๆ เมื่อเข้าอุทยานให้เดินเลาะมาทางขวาถ้าหากว่าจะขี่อูฐเข้าอุทยาน เสียคนละ 100 หยวน หาตู้ขายตั๋วก่อนนะ จะมีเลขบอกว่าเราจะได้นั่งตัวไหน ใช้เวลาประมาณ 1 ชม กระเป๋าทุกอย่างต้องคาดเอวปิดอย่างดี วางท่าให้ถนัดนะ เพราะว่าถ้าของตก คนลากอูฐจะไม่แวะให้นะจ๊ะ เพราะว่าเขาจะบอกเราแต่แรกแล้วว่าต้องเก็บของให้มิดชิด อูฐจะมาส่งเราครึ่งทาง มีรถไฟฟ้าด้วยหากไม่อยากนั่งอูฐ สักพักเดินต่อไปเราก็จะเจอทะเลสาปพระจันทร์เสี้ยว ถ้าเป็นติ่งซีรีย์แบบเรา จะอินมากจ้า น้ำตาไหล ประทับใจ
ของจริงของทริปคือหลังจากนี้!!!!
เพราะเรากำลังจะไปซินเจียง ก่อนไปดูไฟท์ ที่จอง ดีเลย์เป็นปกติ ซึ่งเราไปก็ดีเลย์จริงๆ ดังนั้น ถ้าคุณจะบินภายในซินเจียง ขอให้เผื่อเวลาดีเลไปเลยหลายชั่วโมง ไม่ได้ขู่ แต่ให้คิดแผนสำรองเอาไว้ด้วย ถ้าตกรถไฟทำยังไง ถ้าถนนขาดทำยังไง ถ้าติดด่านตำรวจไม่ปล่อยให้ออกทำยังไง ถึงบอกกับหลายๆคนว่าไปทัวร์เถอะ ไกด์เธอจะเป็นคนพาเธอผ่านไปอย่างง่ายดาย ไม่ต้องมาต่อสู้เองแบบพวกฉัน ฮ่าๆ
นอกจากไฟท์ดีเลย์แล้วยังมีการเปลี่ยนเทอร์มินอลยุบไฟท์รวมกันอีกจ้า เอาซิ หากใครใช้ App Trip.com ก็จะมีการบอกเตือนมาให้แอพ ซึ่งเราคิดว่าดีมากเลยสำหรับการเดินทางภายในจีน ดังนั้นการเดินทางหลังจากนี้จะต้องหูไวตาไว
Welcome to Xinjiang at Urumqi จ้า 烏魯木齊市
เขาต้อนรับฉันรึเปล่าฉันไม่รู้ แต่ฉันมาแล้วนิ และจะไม่กลับง่ายๆด้วย ฮ่าๆ
บอกกับเพื่อนแบบนี้ เนื่องจากทริปเราเวลาน้อย วันนี้เราเลยจะนอนที่สนามบิน!!! เอาตั้งแต่เริ่ม เครื่องลงที่ Terminal 1 คือต้องเดินไปหา Terminal 3 เพื่อ รอเวลาต่อเครื่องเลย มาถึงตอนตีสาม เดินออกมาถึงแล้ว แต่ Terminal 3 ปิด ใช่จ้า ปิดแบบไม่มีแสงไฟใดๆ ลอดออกมา หนาวก็หนาว เอาไงล่ะ เขาบอกว่าเปิด เกือบ ตี 5 เราก็มานั่งรอที่อื่น
แล้วถึงเวลาเราก็ขึ้นไปด้านบน ของจริงที่เขาว่ากันก็ได้เริ่มขึ้นคือ พอเห็นเราถือ Passport ก็ให้เราแยกแถวออกมา สองคน แล้วเดินตามเข้าไปช่องแสกนที่มีแต่ตำรวจ หลังจากนี้คือ จีนเท่านั้น เราจะบอกคำถามที่คุณจะโดนถาม เรียกว่ามีกี่ด่าน คุณต้องลงไปตอบทุกด่าน มาเพื่ออะไร? มากี่วัน? ไปไหนต่อ? มากันกี่คน? เป็นคนประเทศอะไร? พูดภาษาจีนได้ไหม? ถ้าตอบว่าไม่ได้เลย ก็จะมีภาวะเสี่ยงติดด่าน เพราะว่าหลังจากนี้คือคุณจะต้องพูดจีนตลอด เขาจะดูการเอาตัวรอดว่าถ้าปล่อยคุณไปคุณจะไม่หลงไปที่อื่นสุ่มสี่สุ่มห้าใช่ไหม แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะผ่านไปไม่ได้ ผ่านได้ แต่ว่าคุณต้องหาทางตอบเค้าให้ได้ไม่ว่าจะเป็น App หรือว่าแปลมาแต่แรกและให้เขาอ่านก็ได้นะ โรงแรมจองมารึยัง? ถ้าไม่มี บางเมืองก็ต้องจองเดี๋ยวนั้นให้เขาเห็นไปเลย ไม่งั้นไม่ปล่อยไปสุ่มสี่สุ่มห้านะจ๊ะ
Hemu Village
เมื่อต่อเครื่องมา Altayนี่คือของจริงแล้วจ้า ออกมาทุกคนมีรถมารับ แต่เรากับเพื่อนไม่มี และต้องทำเวลาไปให้ถึง Hemu Village คืนนี้ เราเลยไม่มีตัวเลือก เหมารถ ไปเมือง Burqin เพื่อไปต่อรถอีกที เพราะว่าลองถามเขาดูว่าเธอสามารถไปส่งฉันในอุทยานได้เลยไหม เขาบอกว่าไม่ได้ได้แค่ Burqin เพราะว่ามันไกล ค่อนข้างไกล เกือบ 2 ชั่วโมง
ถึงท่ารถ Burqin มาถึงก็ไม่มีตั๋วรถขาย แถมตอนนี้เราฟังเค้าไม่ค่อยออกแล้วหน้าตาคนแถวนี้เริ่มออกฝรั่งๆแล้ว สำเนียงยากเกินไป เลยมีป้าคนฮั่นมาช่วยพวกเรา บอกว่าจะไปไหนมานี่ๆ พาพวกเราไปหารถข้างนอก ใช่จ้า !! หลังจากนี้เราจะไม่มีรถประจำทางหรือ Taxi อีกแล้ว รถที่ไปหลังจากนี้ จะต้องถามเอาเอง ว่าหนี่จะไปไหม ถ้าไปไปด้วยซิ เรามีสองคน เธอผ่านเมืองนี้ไหม กี่บาท เป็นบททดสอบที่ยากไปอีก สุดท้ายก็เจอ คนขับที่มีคนจะไปอยู่แล้วสองคน ถ้าเราไปอีกก็สี่คน หารค่ารถกันก็ถูกลงไปอีก ได้คนละ 150 หยวน ไปถึงในหมู่บ้านเลยจ้า แต่!! เรื่องยังไม่จบ คือเราจองที่พักไปหลายครั้งเขาไม่รับชาวต่างชาติ ก่อนออกรถคนขับถามเธอนอนที่ไหนกัน เราตอบว่าไม่ได้จอง เท่านั้นแหละ สีหน้าทุกคนมองหน้าเราสองคนแบบ แน่ใจนะ!!! แน่ใจจ๊ะ เธอหาให้ฉันหน่อยได้ไหมละ ฉันคิดว่าได้นะ แต่ว่าเธอต้องผ่านด่านไปให้ได้ก่อน ความพีคเริ่มมาพอมาถึงด่าน Jiadengyu 贾登峪 เสียค่าเข้าคนละ 100 หยวน อันนี้แหละ แบบทดสอบแรกที่ต้องผ่านไปให้ได้ตำรวจออกเอกสารให้ ให้แยกช่องจากคนปกติ ไปข้างหลังใน อาคารด้านใน เพื่อตอบคำถามต่างๆ ตอนแรกเห็นตำรวจหน้าฝรั่งนึกว่าจะมาช่วย ที่ไหนได้ ออกมาพูดจีนใส่รัวๆ ให้เราไปตามคนขับรถมายืนยันว่าเธอมาไม่มีไกด์ต้อง ให้คนขับรายงาน ว่าจะพาไปนอนที่ไหน ที่แน่ๆ ที่เราจะต้องมีคือเบอร์โทร ตำรวจจะเอาเบอร์เราไป เผื่อกรณีฉุกเฉิน
พอมาถึงหมู่บ้าน Hemu Village 禾木村 เราก็ต้องเอาเอกสารที่ตำรวจออกให้ไปหาตำรวจในหมู่บ้านก่อน และจากนั้นก็ให้เจ้าของโรงแรมเขียนรับรองให้ ความตื่นตาตื่นใจหลังจากเข้าหมู่บ้านทำให้ ลืมไปเลยว่าไม่ได้นอนมาหนึ่งคืนเต็ม!!!
Kanas
เดินเต็มที่เมื่อคืนในหมู่บ้าน วันนี้เรานัดกับลุงคนขับคนเดิมว่าพาเราไป Kanas หน่อยนะ เสียอีกคนละ 150 หยวน คนจีนที่มาพร้อมกันก็จะไปเหมือนกัน ใช้เวลา 2 ชั่วโมง ก็ถึงอากาศชื้นและฝนตก ดึกๆหิมะตกอีกจ้า เรียกได้ว่าหนาวสุด ลมแรงสุด หูแทบแตกพึ่งเข้าใจคำนี้ เราจองโรงแรม Taiga International Youth Hostel อยู่เกือบท้ายหมู่บ้าน สวยมาก และหนาวด้วย ที่นี่มีทั้งน้องหมา น้องแมว น้องแพะ เดินไปทั่ว น่ารัก อาหารอร่อย สถานที่แต่ละที่ต้องเดินทางโดยรถเพราะคนข้างไกล พวกเราเลยตกลงกันว่าเดินวันนี้พรุ่งนี้เหมารถออกไปทีเดียว แวะเที่ยวด้วย แนะนำว่าถ้าเดินผ่านร้านสหกรณ์ในอุทยาน ซื้อ โยเกิร์ต กินดี เย็นและหอมมาก
วันนี้เราต้องไปเมือง Beitun ซึ่งพยายามหารถแล้วแต่พนักงานที่โรงแรมบอกว่าให้ไปถามเอาตามถนน เช่นเดิม ถามจนได้รถ ต้องเหมาไป แต่ยังไปไม่ได้เพราะว่าเราไม่สามารถออกอุทยานได้เพราะว่าหิมะเมื่อคืนตกหนักมาก รถตำรวจตรวจเส้นทางกว่าจะให้ออกมาได้ก็ปาไป 4 ชั่วโมง ระหว่างทางมีอุบัติเหตุที่เกิดจากรถลื่นหิมะหลายคันอยู่ แถมรถที่เรานั่งไปก็มีเร่งไม่ขึ้นด้วย ต้องโซ่ไปพันล้อ
Tianchi 天池
เมือง Beitun 北屯區 ใช้เวลานานมากกว่าจะมาถึง แถมลงมาท่ารถไฟ ลมพัดแรงมากเรียกว่ากระเป๋าเกือบปลิว รถไฟนอนสามชั้น ปีนขึ้นไปจ้า สักพักจะมีพนักงานเอาบัตรตัวจริงเราไปและเอาบัตรแข็งแบ่งเป็นสีว่าเราอยู่เตียงไหนมาให้ ถ้าใกล้จะลงเขาก็เรียกเก็บบัตรคืน สายนี้ไม่มีคนสูบบุหรี่เลย เรียกว่าดีกว่าหลายๆครั้งที่ผ่านมา
มาถึง Urumqi烏魯木齊市 นอนแปปนึงเราก็รีบออกมา ท่ารถบัส หารถไป Tianchi คนละ 40 หยวน พร้อมไกด์ เหมือนทัวร์จอย รวมๆกัน เราต้องเขียนชื่อเบอร์โทร และจำทะเบียนรถไว้ เพราะว่าขากลับรถจะจอดเยอะมาก เราต้องจำเอง และจำคนในรถด้วย เราสองคนเป็นประเด็นของรถอีกเช่นเคยเพราะว่าเราต้องแยกไปด่านตำรวจก่อน ไกด์เลยบอกว่าเธอเดินเองได้ใช่ไหม เลยแยกกันเลย นั่งรถไฟฟ้า เข้าไป 10 หยวน เพราะตอนไปหิมะละลายลื่น เลยนั่งรถไปดีกว่า และไปนั่งเรือ ชมทะเลสาบต่อ คนละ 95 หยวน ใช้เวลาบนเรือแค่แปปเดียวแต่ตื่นตาตื่นใจคุ้มค่ามาก หน้าอุทยานะมีร้านขายของฝาก อยากจะแนะนำให้ซื้อนมอัดเม็ด เท่าที่เจอมาที่นี่ถูกที่สุดในทริปแล้ว
Nalati那拉提
Nalatiหลังจากลงสนามบินก็โดนแล้ว เพราะว่าเรากะว่าวันนี้ครึ่งวันเช้าจะเที่ยวที่ Xinyuan และสี่โมงเย็น นั่งรถไป Kuqe ซึ่งมีวันละรอบ ก็อธิบายตำรวจไป แต่ว่าเขาไม่ให้ผ่านไปเพราะว่าแผนที่เราคิดทำไม่ได้ เนื่องจากถนนขาด หิมะตกหนักรถผ่านไปไม่ได้ เราเลยต้องจัดการแผนสองที่คิดไว้คือ หารถไปเมือง Yining และเพื่อขึ้นเครื่องต่อไป Kuqeรถเหมาได้จากคุณตำรวจที่สนามบินหาให้พาไปอุทยานแล้วไปส่งเราต่อเลย
นาลาถี ที่นี่คือที่เป้าหมาย ต้องมา ให้ได้ ต้องฝ่าทุกด่านที่ว่าโหดมาให้ได้ ตำรวจจะดุเคร่งแค่ไหน ขอให้ฝ่ามาเถอะ คือคุณจะได้รู้ว่าที่สวยๆแบบนี้มีจริงบนโลกนี้ ถ้าใครคอหนังจีน จะรู้ว่าเรื่องนี้เป็นหนึ่งในทำเล เรื่อง#EverNight
ทั้งทุ่งหญ้า ฝูงวัว ม้า กระทิง มันดีมากจริงๆ แต่ห้ามเข้าใกล้นะ เพราะว่าไม่ใช่สัตว์ที่เลี้ยงมากับคน มันโตมากับธรรมชาติ คนขับรถในอุทธยานจะคอยเตือนตลอดว่าอย่าเข้าใกล้นะ
Kuqe库车
ตั้งแต่ลงเครื่องมาตำรวจก็ดักพวกเราไว้เลย เพราะว่าถนนขาดต้องบินมาเท่านั้น เราก็อธิบายไปเราอยากไปที่ไหนก็ตอบไป The Mystic Grand Canyon of the Tianshan
ยืนยันว่าเรามาเที่ยวจริงๆนะ ก็ตอบคำถามแบบเดิมๆ แต่นี่ต้องมีโรงแรมที่แน่นอน ดีนะไหวตัวทันจองมาแล้วจ้า เมืองนี้ตำรวจจะประกบเราทุกฝีก้าว เน้นว่าทุกฝีก้าว!!! เดินตามแบบติดๆกันไปเนี่ยแหละ ตอนแรกก็ทำตัวไม่ถูก ที่นี่มีตำรวจเยอะมากนอกเครื่องแบบ แถมมีการแอบเป็นคนขับรถอีก ความน่ากลัวมันจะมีถ้าเราคล้อยตามทำตามที่เค้าบอกการท่องเที่ยวเราจะราบรื่นมาก ก่อนจะนั่งรถไฟมาเมืองต่อมาก็คิดถึงคุณตำรวจเค้าเหมือนกันนะ อยู่ด้วยกันมาทั้งวันเลย
Kashgar 喀什
เมืองต่อมานั่งรถไฟมา ครัชการ์ Kashgar แต่คนท้องถิ่นเรียก คาร์ชิ ตอนแรกก็งงว่าใช่ที่เดียวกันไหม สรุปใช่จ้าเมืองนี้มีฝรั่งด้วยนะ แนะนำว่าอาหารที่นี่ถูกมากเรานอนที่ Kashgar Pamir Youth Hostel เดินลอดสะพานใต้ดินข้ามถนนไปตรงข้ามมัสยิต์ไปตอนนกลางคืนจะมีอาหารขายเต็มถนนไม่ต้องไปที่อื่นไกลๆก็ได้อาหารมากมาย แถมผลไม้อบแห้งพวกลูกเกดราคาถูกด้วย
Ürümqi 烏魯木齊市
เรานั่งเครื่องกลับมาที่ Ürümqi ก่อนกลับอยู่ที่นี่ 2 วัน 1 คืนเต็มๆ แผนคือไปแค่ urumqi grand bazaar ดังนั้นเรามีเวลาเหลือครึ่งวันตอนเช้า ไม่รู้จะไปไหนดีเลยตัดสินใจ นอนโรงแรมม้าไปเลย Yema Desert Silk Road ตอนแรกเลือกโรงแรมที่ใกล้ในเมืองที่สุด แต่พออ่านรีวิวเท่านั้น เฮ้ย ในโรงแรมมีโรงม้า สนามม้า น่าสนใจมาก เลยบอกเพื่อนว่าจ่ายแพงหน่อยแต่เที่ยวในโรงแรมไปเลย ซึ่งก็ไม่ผิดหวังจริงๆ โรงแรมสวยมาก ประทับใจม้าเยอะ บรรยากาศแบบนี้ไม่เคยเจอจากที่ไหนจริงๆ เดี๋ยวก็ว่าจะทำกระทู้รีวิวแยกไปเลย ชอบมาก ประทับใจ ฮ่าๆ
ครึ่งบ่าย urumqi grand bazaar บอกคนแถวนี้ว่า ต้าบาร์ซาร์ ก็เข้าใจจ้า ซึ่งที่นี่ จะเน้นของฝากซึ่งเรากับเพื่อนคิดว่าเหมือนกับหลายๆเมืองที่ผ่านมาและราคาค่อนข้างแพง แต่ว่าที่สะดุดตา คือ ครีมจ้า รกแกะ น้ำมันมา ลาเวนเดอร์ นมวัว นมอูฐ มีหมด ใครอยากได้แบบไหน ลองเลยสักอันหน้าไม่แห้งตึงใสเหมือนสาวๆแถวนี้แน่ๆ
ขากลับแวะต่อเครื่องคุนหมิง ช็อปปิ้งรอเครื่องกลับ กรุงเทพฯจ้า
ถ้าใครอ่านจบจนมาถึงตรงนี้ ก็ต้องขอขอบคุณมากๆ ไดอารี่อันนี้จะขอเล่าความตื่นเต้น มาลุ้นและพจญภัยและเดี๋ยวเราจะแบบรวบรัดฉบับพกพาอีกอัน เพราะคิดว่าข้อมูลที่หามาและอัพเดทมากขึ้นมีประโยชน์กับคนที่อยากไป เพราะว่าตอนเราไปหาข้อมูลได้ค่อนข้างยากค่ะ กลับมาก็จะบอกหลายๆคนว่าไปทัวร์เถอะ แต่ถ้าคุณอยากไปเอง ก็อยากให้ศึกษาให้ดี ที่นี่เป็นพื้นที่อ่อนโอนไม่แนะนำให้ไปสุ่มสี่สุ่มห้า เด็ดขาด!!! ก่อนไปเคยอ่านข้อมูลเก่าๆที่มีไปมาบอกว่าเราเตือนคุณแล้วนะ เราก็อยากให้คุณอ่านและพิจารณาเองว่าน่ากลัวจริงไหม แต่สำหรับเรากับเพื่อนคือไม่ได้น่ากลัวขนาดนั้น แต่ก็ห้ามละสายตา
ถ้าถามว่าอยากไปอีกไหม คำตอบคือ ไป!!! จะกลับไปอีก แน่นอน!! ฮ่าๆ
Mallibell
วันพุธที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2562 เวลา 21.17 น.