ราวกับเดินทางข้ามผ่านไปอีกมิติ ...
เพียงแค่ก้าวขาผ่านประตูไม้ ภายใต้ตัวอักษร the MUSTANG BLU
ใครจะเชื่อว่าการเดินทางครั้งนี้ ห่างจากบ้านของเรา แค่ไม่ถึง 20 กิโลเมตร
แค่ลงทางด่วนหัวลำโพง ตรงมาริมถนนไมตรีจิตต์ จะพบกับโรงแรมภายในอาคารเก่า ซึ่งถ้ามองผ่านๆ ก็เรียกว่าตึกร้างแหล่ะ จะสร้างความประทับใจราวกับเดินทางไปแสนไกล หลุดไปอีกโลกก็ว่าได้
เราเลือกนัดเดทกันที่นี่ฉลองวันแห่งความรัก
หลังจากที่ติดตาม"คุณจอย - อนันดา "เจ้าของโรงแรมมานาน ก็ได้เห็นความเคลื่อนไหวก่อนจะได้มาเป็น The Mustang Blu โรงแรมที่สร้างจากอาคารเก่าแก่สไตล์โคโลเนียล อายุกว่า100ปี ที่เดิมที ก็เคยเป็นทั้ง ธนาคาร โรงพยาบาล หรือแม้กระทั่ง อาบ-อบ-นวด
ณ วันนี้ ..ที่นี่ ได้กลายมาเป็นโรงแรมที่ให้บรรยากาศย้อนยุค เหมือนหลุดไปอยู่กลางคิวบา ทุกสิ่งอย่างถูกย้อมไปหมด ทั้งการตกแต่ง แสงสี แม้กระทั่ง เสียงเพลงที่เปิดคลอให้ได้ยินตลอดเวลา
เรียกได้ว่า พาอารมณ์เคลิ้มลื้ม... ลืมไปเลย ว่าที่นี่กรุงเทพ!!
ก้าวแรกหลังเปิดประตูโรงแรม .. ภาพบันไดวนวินเทจ กลางห้องโถง
เฟอร์นิเจอร์ไม้ โครงกระดูก หัวสัตว์ รวมถึงการจัดวางของประดับตกแต่งทุกรายละเอียดที่สร้างขึ้นมา รับรู้ได้ถึงความมีเสน่ห์ที่ซ่อนเร้น สวยงาม แม้จะผ่านความเจ็บปวดมาขนาดไหน
ราวกับพิพิธภัณฑ์
ทุกๆรายละเอียดที่ถูกนำมาจัดวาง ต่างสร้างบรรยากาศ ทำให้ที่นี่มีเอกลักษณ์อย่างไม่น่าเชื่อ ของประดับตกแต่งเอย เฟอร์นิเจอร์ไม้เอย บันไดวน แกรนด์เปียโน โต๊ะ ตู้ ตั่ง เตียง ไม่เว้นแม้แต่แก้วกาแฟ
ไหนจะรายละเอียดของโครงสร้างอาคารเก่า การรื้อฝ้าเดิมเพื่อเผยให้หัวเสาโบราณที่ถูกซ่อนไว้ราว 50 ปี พื้นผิวร่อนลอกของเพดาน และสีของผนัง ที่มีทั้งของเก่าและบางส่วนถูกซ่อมแซมเพื่อให้ใช้งานได้ดี แต่ยังคงกลมกลืนกับของเดิม
เพิ่มกิมมิคด้วย สัตว์สตัฟฟ์ต่างๆล้วนเป็นของจริง ไม่ว่าจะเป็นโครงกระดูกนกกระจอกเทศ คุณม้า (ว่ากันว่าเป็นพนักงานคนแรกของที่นี่) น้องยีราฟที่มาแค่คอ ซึ่งล้วนเป็นของที่เคยถูกใช้ในงานและกลายเป็นของสะสมจากเข้าของโรงแรม
หนังสือ ที่เห็นก็เป็นหนังสือจริงๆนะเธอ ไม่ใช่Mock upแกนโฟม
โรงแรมนี้ มี 3 ชั้น ซึ่งต้องใช้บันได ไม่มีลิฟต์
โรงแรมประกอบไปด้วยห้องพักทั้งหมด จำนวน 10 ห้อง มีห้องนอน 2 ขนาดคือ 60 - 30 ตรม.
แต่ละห้องจะมีการจัดวางและตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ที่แตกต่างกันไป แต่ยังคงไว้ซึ่งอารมณ์เดียวกัน และไม่ว่าจะอยู่ตรงไหนของโรงแรม จุดเชื่อมโยงความรู้สึกของเรา น่าจะเป็นเสียงดนตรีที่เปิดคลอบรรยากาศ ซึ่งมารู้ทีหลังว่า เป็นเพลงบรรเลงผสานกับบทสวดอาหรับ ซึ่งเราฟังแล้วเคลิ้มกันไป ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด
เรียกได้ว่า ข้าวของ เครื่องใช้ภายในห้อง ก็ครบครัน แต่ยังคงความสวยงามในธีมเดียวกัน การจัดพื้นที่ใช้สอย ที่แม้จะเป็นทรงสามเหลี่ยม แต่ก็เล่นกับสเปซ จัดวางได้อย่างดี โซนด้านหน้ากว้าง ใช้เป็นห้องนั่งเล่น ไล่ไปเป็นเตียงโดยมีโซฟาคั่น และจุดแคบสุดเป็นอ่างอาบน้ำให้ความเป็นส่วนตัว
ห้องพักที่นี่รวมอาหารเช้าไว้แล้ว ซึ่งก็จัดเต็ม อลังการงานสร้างมาก ทั้งการจัดจาน รวมไปถึงรสชาดอาหาร แค่จิบกาแฟในแก้ว willow pattern พร้อมบทสวดอาหรับ แค่นี้ก็หลุดโลกแล้ว
แค่คิดว่ามาพักผ่อนใกล้ๆ ถ่ายรูปเก๋ๆ เก็บไว้เป็นความทรงจำของเรา 2 คน ก็คุ้มค่ามากแล้ว เพราะหันกล้องไปทางไหน ก้กดชัตเตอร์ได้รัวๆ
แต่เมื่อได้มาซึมซับถึงบรรกาศ และรับรู้ถึงเสน่ห์ที่ซ่อนเร้น อยู่ภายใต้อาคารเก่าแก่ มีอดีตและเรื่องราวต่างๆเกิดขึ้นมากมาย ก็ยิ่งประทับใจและจะเก็บไว้เตือนตัวเองว่า....
ก็คงเหมือนกันความรัก ไม่ว่าจะผ่านกาลเวลามานานแค่ไหน เคยผ่านเรื่องราวหรือความเจ็บปวดเพียงใด
- ความรัก - ยังคงงดงามเสมอ ขอเพียงเรามองเห็นและเรียนรู้มัน
"รัก"
พิกัด : The Mustang Blu
721 ถนนไมตรีจิตต์ แขวงป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพมหานคร
Facebook : www.faceboook.con/themustangblu
Tuna Hyeena
วันอังคารที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563 เวลา 17.45 น.