สวัสดีค่าาา สวัสดี วันนี้เราจะมารีวิวคาเฟ่บรรยากาศอบอุ่นและตอบคำถามที่ว่า ที่ kokotel นั้นมีอะไรที่ทำให้คุณนั้นต้องอยากไป ?! 5555 เดี๋ยวๆ อย่าเพิ่งส่ายหน้าแล้วปิดกระทู้ออกไป เอาเป็นว่าหลงเข้ามาแล้วก็เลื่อนดูรูป อ่านรีวิวกันหน่อยก็แล้วกันเนาะๆ



คาเฟ่แห่งนี้ตั้งอยู่ที่ถนนสุรวงศ์ สำหรับเพื่อนๆที่สะดวกเดินทางโดย BTS สามารถมาได้โดยการลงที่สถานีช่องนนทรี และใช้ทางออก 3 เดินต่อมายังถนนสุรวงศ์ เมื่อถึงทางแยกให้สังเกตร้านสมบูรณ์โภชนาที่อยู่ด้านซ้ายมือ เห็นร้านสมบูรณ์โภชนาแล้วเลี้ยวซ้าย เดินต่ออีกไม่ไกลก็จะเจอกับ kokotel แห่งนี้ ระยะทางไม่ไกลมากแต่ถ้าแดดร้อนๆ ก็อาจจะเหนื่อยนิดนึง5555555



มาต่อกันที่บรรยากาศภายในร้าน มุมมหาชนที่ใครๆก็ต้องถ่าย เราสังเกตว่าแกะดูเป็นแม่และลูก ถ้าให้เราทายนะทางร้านน่าจะสื่อว่าแม่ดูแลลูก มาทานอาหารหรือพักผ่อนที่นี่ก็อบอุ่นเหมือนแม่แกะดูแลลูกแกะน้อย อันนี้มโนไปเองบอกตรงๆ แต่คิดว่าน่าจะใช่นะ ถ้าเรามโนแบบผิดๆ รบกวนเตือนเรานิดนึงนะ 5555555



ร้านนี้ดูเป็นคาเฟ่เข้มๆ กำแพงอิฐสีส้มกับราวบันไดเหล็กสีดำก็สวยไปอีกแบบ ด้านบนตั้งแต่ชั้น 3 ขึ้นไปเป็นห้องพักสำหรับนักท่องเที่ยว ส่วนด้านล่างชั้น 1-2 เป็นคาเฟ่เปิดกว้างสำหรับลูกค้าทั่วไป



สถานที่ค่อนข้างกว้างและนั่งสบาย ถ้ามาเป็นครอบครัวเราแนะนำให้สั่งอาหารและขึ้นมานั่งทานที่ชั้น 2 นะ เพราะว่าค่อนข้างเป็นส่วนตัวและชั้น 2 ยังมีห้องของเล่นสำหรับเด็ก มีโซนบอลสี ครัวเล็กสำหรับแม่ครัวตัวน้อยและหนังสือสำหรับเด็กไว้คอยให้บริการด้วย



ทางเข้าห้องของเล่น ซึ่งที่นี่เขาใช้ชื่อว่า Let’s play at kid’s room ซึ่งอยู่ทางเดียวกันกับห้องน้ำหญิง เราว่าเป็นคาเฟ่ที่ดีมากๆอีกแห่งเลย เพราะถ้าเรามากับเด็กๆ ก็สามารถให้เด็กๆเข้าไปเล่นที่นี่ได้ ผู้ใหญ่ก็ทานอาหารหรือนั่งคุยกันอย่างสบายใจ



เป็นห้องของเล่นที่ดูเงียบเหงานิดนึงเพราะเรามาค่อนข้างเช้า ถ้าเป็นช่วงบ่ายๆ หรือเย็นๆ น่าจะคึกคักมากกว่านี้น้า น้องๆสามารถมาจัดกิจกรรมที่นี่กันได้ เพราะที่นี่รับจัดปาร์ตี้วันเกิดสำหรับน้องๆอีกด้วย



ด้านข้างห้องของเล่นจะมีห้องดูหนังซึ่งสามารถดูหนังหรือจะมาประชุมกันก็ยังได้เพราะมีกระดานไวท์บอร์ดและปลั๊กไฟคอยอำนวยความสะดวกให้ด้วย แต่ในกรณีที่จะมาเช่าเป็นห้องประชุมเราแนะนำให้ติดต่อกับทางร้านก่อนจะดีกว่าเนอะ


ภายในของห้องดูหนัง นั่งได้หลายคนอยู่นะเราว่า นอกจากนี้ยังมีโซฟาและโต๊ะสำหรับวางอาหารและเครื่องดื่มด้วย



บรรยากาศของคาเฟ่ ซึ่งมุมนี้เราถ่ายลงมาจากชั้น 2 ลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นชาวต่างชาติ คนญี่ปุ่นและคนไทยที่ทำงานบริเวณใกล้เคียง



บรรยากาศภายในร้านมุมอื่นๆ นอกจากบรรยากาศดีแล้ว พนักงานที่นี่ยังน่ารัก ยิ้มแย้มแแจ่มใสด้วยนะ



มาถึงอีกหนึ่งสิ่งที่สังเกตได้ชัดตั้งแต่เดินเข้าร้านมา นั่นก็คือ สไลเดอร์สีน้ำเงินขนาดใหญ่ เห็นแล้วนึกถึงสมัยเด็กๆเลยยย อารมณ์ประมาณว่า กินไปเล่นไป เล่นแล้วก็วิ่งไปกินต่อ สมัยนั้นยังเป็นร้านไก่ทอดที่มีของเล่นอยู่ นานแค่ไหนถามใจตัวเองดู 55555



ลองมั้ยล้าาา น้ำหนักไม่เกิน 90 กิโลกรัมก็เล่นได้นะ ไม่ว่าจะเด็กหรือผู้ใหญ่ เรามาเช้า คนในร้านยังไม่มาก ลองเล่นหน่อยแล้วกัน รำลึกความหลังวัยเด็กกันสักหน่อย เตรียมตัวเข้าอุโมงค์ทะลุมิติสีน้ำเงินกันจ้าาา 555555


หลังจากวนๆลงมาจากอุโมงค์ทะลุมิติ ภาพแรกที่เราเห็นคือ ตึง!! สวัสดี โคมไฟ เธอโอเคนะ เห็นดาวสีเขียวด้วยสองดวง คืออะไรหรออออพี่ชาย 5555555 มึนหัวนิดนึง ตามอายุ ฮ่าๆ



กระดึ๊บออกมาจากสไลเดอร์ด้วยความคูล กระดึ๊บออกมาพร้อมยกกล้องขึ้นมาถ่ายต่อจ้าาา พยายามไปอีก 5555


บรรยากาศบริเวณบาร์สั่งอาหารและเครื่องดื่ม ที่นี่ก็มีเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ไว้ให้บริการด้วยนะ สามารถแวะมาสังสรรค์กันได้เลย


เมนูเครื่องดื่มของทางร้าน ลองชมกันได้เลย ใครชอบเมนูไหนกันบ้างเอ่ย


ถ่ายบรรยากาศร้านมาพอสมควรกันแล้วเราเตรียมมาดูเมนูของที่นี่กันบ้างดีกว่า จะมีเมนูไหนกันบ้างมาดูกันเลย

มาเริ่มกันที่เมนูแรกกันเลยเนอะ สปาเก็ตตี้กุ้งผัดน้ำมันพริกกระเทียม หรือ Prawn Aglio Olio ส่วนประกอบของจานนี้ได้แก่ เส้นสปาเกตตี กุ้งตัวบิ๊กเบิ้ม มะเขือเทศ ขนมปังสองแผ่น หอมแดงทอดกรอบ (300 บาท)



ใกล้เข้าไปจ่ะ ซูมเข้าไปอีกถึงความละมุนของนาง แนะนำให้ขอจานแบ่งจากพนักงานแล้วกันทาน 2 คนนะจ๊ะ ปริมาณและคุณภาพของวัตถุดิบจัดเต็มมากๆ ขนมปังก็มี 2 แผ่นเช่นกัน เราชอบเลยรสชาติจานนี้อร่อยดี จะบอกว่าเผ็ดน้อย น้อยมากๆ เรากินเผ็ดกลางๆ ทานจานนี้แล้วรู้สึกว่าไม่เผ็ดเลย แนะนำเลยจ้าเมนูนี้



มีความพยายามกับการถ่ายภาพเมนู Prawn Aglio Olio นี้มาก หลายๆครั้งเรารู้สึกว่าเราชอบไปคาเฟ่ แต่ไม่ได้ไปเพื่อไปทานอาหารเท่านั้น เพราะเราชอบไปฝึกถ่ายภาพ เวลาเจอเมนูหลายๆ แบบ จานต่างกัน ความยาก ง่ายในการถ่ายก็แตกต่างกัน สนุกดี คราวนี้เลยไม่สงสัยเลยว่าทำไมฝึกไปฝึกมาแล้วน้ำหนักขึ้น 55555



สำหรับเครื่องดื่มที่สั่งวันนี้คือ ICED LATTE ชอบๆ จับถ่ายรูปไม่พักเลยแก้วนี้ 555555 กาแฟหอมละมุน แก้วนี้ไม่หวานเลยจ้าปกติเรากินหวานกว่านี้มากกก สำหรับคนชอบกาแฟเข้มๆหน่อยเราว่าถูกใจแน่ๆเลย (65 บาท)


อีกเมนูนึงที่สั่งมาคือ เมเปิ้ล กราโนล่า เมล็ดธัญพืช ด้านบนโรยด้วยทับทิม แต่เราว่าปกติด้านบนจะโรยด้วยสตรอเบอรี่กับบลูเบอรี่นะ เหมือนเราจะเห็นในเมนูแว้บๆ 55555 เอาเป็นว่าถ้าใครมาทานแล้วเป็นสตรอเบอรี่กับบลูเบอรี่ก็บอกกันด้วยนะ 555


เมนูเมเปิ้ล กราโนล่า เมล็ดธัญพืช มีเมล็ดธัญพืชด้วย สายเฮลตี้ก็มา สำหรับเมนูนี้จะเสิร์ฟพร้อมกับโยเกิร์ตและเมเปิ้ลไซรัป หอมดีเหมือนกัน แต่เราว่าถ้ามีให้เลือกเป็นนมจืดด้วยก็น่าจะดี ปกติเราทานกราโนล่าที่บ้านพร้อมนมจืดตลอด เลยชินกับการทานกับนมมากกว่ามั้ง ><



ใส่โยเกิร์ตก็ต้องถ่ายรูปไว้หรอ 5555 นี่ไม่ใช่ How To การใส่โยเกิร์ตนะเพื่อนๆ แค่เราถ่ายรัวๆ เพลินจนเกินไป โปรดให้อภัยข้าน้อยด้วย (เมนูเมเปิ้ล กราโนล่า เมล็ดธัญพืช 180 บาท)


ก่อนใส่โยเกิร์ต เราแนะนำให้แบ่งกราโนล่า ลูกเกด ทับทิม ไว้ส่วนนึง พอใส่โยเกิร์ตเสร็จแล้ว ก็นำส่วนที่เราแบ่งไว้โรยบนโยเกิร์ตนั้นอีกที 555555 โอ้ยยยย กว่าจะได้กินนนน กระบวนการมากมายหลายหลาก อย่าเพิ่งเบื่อกันเลยนะ เรามาฝึกถ่ายภาพด้วย ถือว่าแชร์เทคนิคกันเบาๆเนอะ ถถถถ



มาถึงเมนูเครื่องดื่มอีกเมนู ICED LEMON TEA แก้วทรงสวย ตามสไตล์สายคาเฟ่ ฝึกถ่ายภาพวนไปค่ะ จับๆ แล้วส่องทางนั้นที ทางนี้ที 5555


ส่องวนไปค่ะ ส่องไป กดไป 5555 แก้วนี้อร่อยดี เราชอบแบบเปรี้ยวๆ หวานๆ ไม่น่าเบื่อดี


มีความชิลถึงขั้นนำสมุดบันทึกมาจดเล่นด้วย อาจจะเป็นแบบที่หลายๆคนเป็นกัน เข้าร้านกาแฟแล้วรู้สึกสมองแล่น ไม่เหมือนตอนอยู่บ้านเลย จะหลับ (ความจริงแล้วเป็นข้ออ้างของเราเองแหละที่อยากไปร้านกาแฟ)


วางแผน นั่งทำ weekly plan กันตรงนี้เลยค่ะ55555 พร้อมแล้ว เริ่ม!!

สำหรับช่วง 11 โมงร้านนี้จะมีการขายเบนโตะกันที่หน้าร้านกันด้วย เราว่าต้องลองมาซื้อเบนโตะกันแล้วล่ะ เพราะคนขายสวยมากกก เกี่ยวมั้ย? ที่ป้ายเขียนไว้ว่า เวลาเป็นสิ่งสำคัญ เราชอบอาหารที่เตรียมเสร็จใหม่ๆเพื่อที่จะทานได้ทันที โอ้โห! ตอนนี้ 11 โมงแล้ว นี่แสดงว่าเรานั่งมานานมากเลย เกือบ 3 ชั่วโมง มัวแต่ฝึกถ่ายภาพอยู่ อิอิ



โคโคเบนโตะ ร้านนี้ให้คำจำกัดความว่าเป็นเบนโตะ อาหารออแกนิคสดใหม่ ทุกวันจากคุณแม่โคโค ดีต่อสุขภาพ ไร้ผงชูรส และที่ป้ายยังเขียนอีกว่า ราคาเป็นสิ่งสำคัญแต่ความสะอาดและสุขภาพสำคัญกว่า แต่ว่าน่าทานจริงๆนะ หน้าตาดูน่าทานมากเลยยย


ถ่ายป้ายอาหารมาฝากเพิ่มเติมเผื่อใครอยากมาลองชิมเนอะ ร้านตั้งอยู่แถวสุรวงศ์ บางรัก ถ้ากลัวหลงก็ลองเปิดแผนที่กันมาได้เนอะ เราว่าหาไม่ยาก มีป้ายติดเด่นชัดเลย


ลากันไปด้วยบรรยากาศภายในร้านภาพนี้ ไว้คราวหน้ามารีวิวใหม่ ใครมีร้านไหนแนะนำบอกกันบ้างน้าาา แล้วเราจะตามไปป 555555 สุดท้ายนี้เราแปะเว็บไซตของทางร้านไว้ให้แล้วกันเนอะ http://www.kokotel.com/ เผื่อใครอยากรู้รายละเอียดเพิ่มเติมหรือจองห้องพักก็ลองตามไปชมในเว็บไซต์กันได้เลยเน้อ บ๊ายบาย

Pikulham Chayapatch

 วันพุธที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2560 เวลา 17.16 น.

ความคิดเห็น