ทำไมต้องเขาค้อ?
นั่นสิคะ ทำไมต้องไปเขาค้อ???? คงเพราะเราเห็นคนแชร์ทริปที่เขาค้อบ่อยมั้ง คือมันสวยมากกกกก เมืองแห่งสายหมอกชัดๆ
อ้อ! ลืมบอกไป เราชอบทะเลหมอกมากกกค่ะ ก็มันสวยนี่เนอะ แต่จะให้นั่งดูแต่ในรูปมันจะไปฟินได้ไง ใช่ไหมคะ?
อีกอย่างงง เคยได้ยินประโยคนี้ไหม? “นอนเขาค้อ 1 วัน อายุยืน 1 ปี” ไอ่เราก็สงสัยแค่ไปนอนอายุจะยืดขึ้นตั้ง 1 ปีได้ไง
.
.
ก็นั่นแหละค่ะ อยากไปตามล่าหาหมอกกับไปหาคำตอบว่าอายุจะยืดขึ้นได้ไง คือเหตุผลที่เราไปเขาค้อ
วางแผนเที่ยว
ต้องประหยัดและประหยัดเท่านั้นค่ะ ทำไมแหนะหรอ เพราะเรายังไม่มีรายได้ เก็บเงินค่าขนมไปเที่ยวเอา
จะให้เที่ยวหรูหราคงไม่ไหวว T-T เราหาข้อมูลกันสองสามวันเลย “จะไปยังไง ขึ้นตรงไหน ลงตรงไหน มีรถสองแถวไหม
มีอะไรเที่ยวบ้าง นอนไหนถึงจะดี ?” สุดท้ายก็ไปเจอกระทู้รีวิวอันนึงค่ะ โดนนนใจเลย เพราะเขาตอบคำถามเราเกือบทุกข้อเลย
พร้อมกับแนะนำที่พักสุดแสนคุ้มให้ คุ้มยังไงแหนะหรอ ก็ห้องพักคืนละ 500บาทเท่านั้นแถมยังมีมอไซให้เช่าอีกด้วย
ที่พัก
เราพักที่นี่ค่ะ บ้านไร่เขาค้อ(โฮมสเตย์) เจ้าของชื่อ ลุงนันท์ ห้องพักมีเพียงแค่ 1 ห้องเท่านั้นนะ ส่วนมอไซต์ลุงเขาให้เช่าเฉพาะคนที่พักเท่านั้นค่ะ โดยคิดวันละ 300บาท ไม่ต้องมีค่ามัดจำด้วยย ที่อื่นแค่ ค่ามัดจำก็ 5000 บาทแล้วค่ะ ซึ่งไม่เหมาะกับสายประหยัดอย่างเราแน่นอน บ้านพักก็อยู่ห่างจากจุดชมวิวทะเลหมอกแค่ 5 นาทีและห่างจากจุดที่รถทัวร์จอดประมาณ 10กม.
การเดินทางไป
เราไปโดยรถทัวร์ค่ะ โดยซื้อตั๋วของ บ.พิษณุโลกยานยนต์ เวลาเดินรถจากหมอชิตไปเขาค้อมี 5 รอบคือ 10.30 13.00 19.00 20.30 22.00 ค่าตั๋ว335บาท ไป-กลับก็670บาทค่ะ
เราเลือกรอบ 22.00ค่ะ จะถึงจุดจอดประมาณ4.30 ส่วนจุดจอดให้บอกพนักงานว่า ลงสุดสายที่ตำบลทุ่งสมอหน้า7-11
หลังจากนั้นลุงจะมารอรับที่จุดจอดค่ะ เพราะที่นั่นไม่มีรถสองแถวผ่าน โดยลุงคิดค่ามารับ 100บาท ไม่แพงนะ เพราะจากจุดจอด
ไปที่พักห่างตั้ง 10กม. ถ้าเดินละก็ขาลากแน่นอนน หรือใครจะลองโบกรถดูก็ได้นะเพราะคนเพชรบูรณ์น่ารักมากก
สำรวจที่พัก
ก่อนจะเข้าที่พักลุงแกก็ใจดีขับรถพาไปดูทะเลหมอกที่จุดชมวิวก่อน แต่หมอกมันยังไม่เยอะมาก เราก็เลยเข้าที่พักไปเก็บของกันก่อน แต่ด้วยความที่เราถึงเช้ามากก คนที่พักอยู่ก่อนหน้าเราเขายังไม่ออก ลุงก็เลยกางเต็นท์ไว้ให้เผื่อเราจะนอนเล่นพักผ่อนกัน “ แต่จะมั่วมานอนได้ไงมาเที่ยวทั้งที ใช่ไหมคะ?” อีกอย่างง “ทะเลหมอกรอเราอยู่ ต้องรีบไปค่ะ5555”
เราจะเอามอไซต์ที่เช่าไว้ออกไปขี่เล่นกัน แต่โชคร้ายนิดหน่อยเพราะคนที่พักก่อนหน้าเราเขามาพักแล้วเกิดอุบัติเหตุมอไซต์ล้ม กระจกก็เลยหลุดทั้งสองข้างเลย แต่ก็ยังพอขี่ไปได้ค่ะ แต่ที่โชคร้ายกว่าเราเห็นที่จะเป็นคนที่มาพักก่อนหน้านี่แหละค่ะ
ไปเขาค้อไปไหนบ้าง?
พอได้มอไซต์มาแล้ว เราออกไปตามหาหมอกกันเลยยย เราตั้งใจจะไปดูพระอาทิตย์ขึ้นกับทะเลหมอกที่วัดกองเนียมค่ะ พอไปถึงแล้วผิดหวังนิดหน่อยเพราะทะเลหมอกไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ แต่ถึงยังไงวิวก็ยังสวยอยู่นะ เราก็นั่งถ่ายรูปชมวิวกันจนพอใจ
รูปวิวที่หน้าวัดกองเนียม
เราจะขี่มอไซต์กลับที่พัก แต่ระหว่างทางกลับที่พัก ดันเจอวิวสวยมากกก ก็แถวๆวัดกองเนียมอ่ะแหละ วิวจะคล้ายๆกัน แต่คนละมุมกัน มันก็สวยกันคนละแบบ ว่าไหมคะ?
วิวระหว่างทางกลับที่พักค่ะ
ก่อนที่จะถึงทางเข้าที่พักก็ผ่าน จุดชมทะเลหมอกอีกแล้วค่ะ อันที่ลุงพาเราแวะมาดูก่อนหน้านี้อะ ตอนแรกหมอกไม่เยอะ เท่าไหร่ แต่ตอนนี้เยอะมากเลยค่ะ (ถึงแม้จะไม่เยอะเท่าที่เคยดูในเว็บมา) มันสวยมากเลยนะ ขาวๆ เป็นปุ่ยๆ ดูนุ่มนิ่มมากเลย55555 เราใช้เวลาถ่ายรูปเล่นกันตรงนี้นานนนนนนนมากก่อนที่จะกลับเข้าที่พัก
วิวจากจุดชมทะเลหมอกค่ะ
ประมาณ 11โมง ในที่สุดเราก็เข้ามาถึงที่พักกันสักกกที หลังจากที่แวะตามทางกันมาเรื่อๆ5555 ลุงนันท์แกมาถามเราว่าเราวางแผนจะไปเที่ยวไหนบ้าง สนใจจะไปกับแกไหมม คืนนี้แกกับพี่คนนั้น (คนที่รถล้มอะค่ะ) จะไปค้างคืนที่ภูทับเบิกกัน ระหว่างทางไปก็จะแวะตามจุดต่างๆ แล้วก็ไปภูหินร่องกล้าด้วย เอาแล้วไงงงน่าสนใจจัง เพราะตอนแรกเราว่าจะขี่มอไซต์ไปเที่ยวกันเอง แต่จากสภาพรถแล้วคงไปไม่ถึง555 เราตอบตกลงไปกับลุงค่ะ ใจง่ายมากๆ><
.
.
.
ก็สรุปว่าคืนนี้เราไม่ได้นอนห้องที่จองไว้แล้ว แต่เราจะไปกางเต็นท์นอนกันที่ภูทับเบิก แล้วก็ยังได้ไป ร้านกาแฟพีโนลาต้า วัดผาซ่อนแก้ว ภูหินร่องกล้า แล้วก็แวะตามทางอีกหลายที่เลยค่ะ ก็ต้องเพิ่มตังกันอีกสักนิดสักหน่อย โดยที่หารค่ารถและค่าใช้จ่ายอื่นๆกันกับพี่คนนั้นค่ะ ก็คุ้มนะเพราะไม่ต้องขับเอง
ไม่ต้องเหนื่อย แถมยังไม่ต้องมานั่งลุ้นอีกด้วยว่ามอไซต์คันนั้นจะพาเราไปถึงไหม5555
รูปวิวที่ร้านกาแฟพีโนลาต้าค่ะ
รูปวัดผาซ่อนแก้วเราทานข้าวกันที่ร้านแถววัดผาซ่อนแก้วค่ะ สำหรับอาหารก็มีข้าวราดแกงกับก๋วยเตี๋ยว รสชาติพอใช้ได้ แต่วิวที่นี่สวยยยมากกกก
รูปที่อุทยานภูหินร่องกล้า
เรามากางเต็นท์นอนกันที่นี่ค่ะ ตอนแรกอากาศปรอดโปร่งมากก แต่พอประมาน17.30 เท่านั้นแหละ หมอกอยูรอบตัวเราเลยยย ฟินไปอีกแบบ5555
วิวช่วงกลางคืนค่ะ คนมานอนกันเยอะมากกกก
วิวในช่วงตอนเช้าค่ะนึกว่าจะตื่นมาแล้วเจอทะเลหมอกหนาๆ แน่นๆ แต่กลายเป็นว่าเรามาอยู่ในหมอกเฉยเลย
วิวระหว่างทางตอนลงจากภูทับเบิกค่ะ
หลังจากนั้น ลุงนันท์ก็ไปส่งเราขึ้นรถทัวน์กลับกรุงเทพ
.
.
.
ถึงแม้ว่าทริปนี้จะไม่เป็นไปตามแผนที่วางไว้ (แต่เอ้ะ! ก็ไม่เคยเป็นตามแผนสักกกกกะทริป5555)
จะไม่เจอกับทะเลหมอกเหมือนในเว็บที่ดูมา (แต่ก็ยังดีที่เจอบ้าง อิอิ)
แต่ทริปนี้ก็ ทำให้เราได้มิตรภาพดีๆจากลุงนันท์และป้า ได้เพื่อนใหม่(พี่คนที่รถล้ม)
ได้สัมผัสกับหมอกอันน้อยนิดแต่ก็ไม่น้อยมาก
ได้เข้าไปอยู่ในหมอก(ตอนนอนที่ภูทับเบิก) ได้เจอบรรยากาศดีๆ วิวสวยๆ อาหารอร่อยๆ
คำตอบของทริป
ส่วนคำตอบที่เรามาตามหา เราพบคำตอบแล้วค่ะ ว่าทำไม“นอนเขาค้อ 1 วัน อายุยืน 1 ปี” ก็เพราะว่าที่นี่อากาศสดชื่นนนนนนนนนนนนมากค่ะ สูดได้เต็มปอดไม่ต้องกลัวมลพิษ
.
.
.
เพราะงั้นตอนนี้อายุของเราก็ยืดขึ้น 1ปีแล้วนะคะ
เที่ยวไปทั่ว
วันศุกร์ที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2560 เวลา 15.59 น.