หลังจากกลับทริปตามฝัน 17 วัน สวิส-อิตาลีบอกกับตัวเองและประกาศให้โลกรู้ผ่านเฟสบุ๊คไว้ว่า
“ทริปนี้ทำให้รู้สึกอิ่มกับการเดินทางมาก…จากนี้คงหยุดเดินทางสักพัก"
แต่ผ่านไปไม่ถึงเดือนเกิดอาการอยากเที่ยวขึ้นมาอีกแล้ว
โอ้ย…อาการมันเรื้อรังสุดๆลองหาดูในเน็ตคนนั่งรถไฟฟรีไปชิคๆฮิปๆเต็มเลย เวลามีน้อยแค่เสาร์อาทิตย์ไปไหนดีหล่ะ
....อยุธยาก็เคยนั่งรถไฟไปคนเดียวมาแล้ว ไม่คูลเลยเพราะโคตรร้อน
....สังขละบุรีนี่น่าไปแต่ลองดูแล้วเสาร์อาทิตย์น่าจะไม่พอควรไปสัก 3 วันแฮะ
ลองคิดอีกที ทำไมมีแต่คนกรุงเทพนั่งรถไฟไปชิคต่างจังหวัด แล้วทำไมไม่เห็นจะมีลองนั่งรถไฟฟรีไปเที่ยวกรุงเทพบ้าง?
นั่นหล่ะครับทริปบังเกิด… คิดวันศุกร์แล้ววันเสาร์ก็จะออกเลยลองเอ่ยชวนพี่ๆตอนดึก เค้าก็ตามผมมาด้วยอีก 3 คน
. เนื่องจากผมนี่อยู่กรุงเทพ(ชานเมือง) นะครับก็เลยมาขึ้นรถไฟฟรี โดยเริ่มที่สถานีหัวหมากถ้าเพื่อนๆที่อยู่ต่างจังหวัดก็ขึ้นจากจังหวัดตัวเอง ตารางรถไฟก็ดูได้ที่เว็บ http://www.railway.co.th/checktime/checktime.aspได้เลย ปลายทางให้ใส่ว่า “กรุงเทพ" นะครับคือสถานีหัวลำโพง (ตอนแรกผมก็หาหัวลำโพงตั้งนาน )
. จุดเริ่มต้นทริปเป็นเวลาบ่ายๆ ที่สถานีรถไฟหัวหมาก โดยแผนคือไปถ่ายรูปที่หัวลำโพง เสร็จแล้วค่ำๆจะไปกินต่อที่เยาวราชครับ
สถานีรถไฟไทยนี่รักษาบรรยากาศ retro ได้ดีมากๆเลยครับ
13:37 คือเวลาที่รถไฟฟรีจะวิ่งเข้ากรุงเทพของเราจะออก ผมไปถึงก่อนเวลาประมาณ 15 นาที
รอสักพักเจ้าหน้าที่ก็จะมาแจกตั๋วตอน 13:38 (อ่านไม่ผิด…เกินเวลารถออกมาแล้ว 1 นาที) โดยเราก็ยื่นบัตรประชาชนให้ดูก็จะได้ตั๋วฟรีมาครับ
ได้ตั๋วมาแล้วก็เข้ากรุงเทพกันครับ
บรรยากาศในรถไฟ คึกคักดีสนุกครับ ใครไม่ได้นั่งมานานๆต้องลองนะ
มองมุมกลับไปยังวิธีการเดินทางแบบเดิมๆ รถไฟไทยวิ่งช้าแต่ก็วิ่งแซงรถเก๋งใน กทม. นะ
Graffiti แบบไทยๆ
พอผ่านแต่ละสถานี ก็จะหยุดให้คนขึ้นลงสัก 5-10 นาที พอจะออกนายสถานีก็จะมาโบกธงแบบนี้หล่ะครับ
( เวลาไปต่างประเทศเค้าก็มีแบบนี้เหมือนกัน แม้จะเป็นรถไฟความเร็วสูงแล้ว ก็ยังมีพนักงานเช็คว่าไม่มีผู้โดยสารอยู่ในเขตอันตราย )
พอเราผ่าน "โรงเก็บรถไฟมักกะสัน" ก็หมายถึงใกล้ถึงกรุงเทพแล้ว เตรียมเก็บสัมภาระได้เลย
และก็จอดที่หัวลำโพงแล้วครับ ลองเช็คเวลา...ไหนใครบอกรถไฟไทยไม่ตรงเวลาเลทไป 22 นาที “เอง"
รถไฟคันที่เรานั่งมาครับ
ตามแผนเดิมก็คือตั้งใจจะมาถ่ายภาพแนว street ที่หัวลำโพงครับ ลองมาดูภาพที่ผมได้มาเล็กๆน้อยๆ
จักรยาน ในสถานีรถไฟ
ในขณะที่หลายคนกำลังทำหน้าที่ บางคน...
ขะมักเขม้น
หัวลำโพง
หาหนทาง
ถ่ายภาพได้สัก 15 นาที ได้เวลาเลิกเป็น hipster กลับไปเป็นเหมือนเดิมดีกว่า
ชิล : พี่ผมถ่ายพอละ ไปเยาวราชกันดีกว่าหิวละ
พี่ๆ : อ้าวไหนบอกมาถ่ายรูปไง555
เส้นทางของทริปของเราไปแบบมึนๆงงๆตามใจ สุดท้ายเราเดินไปตามนี้นะครับ เป็นรูทที่ดีมากๆเลยเพราะมีพี่ในทริปเคยทำงานแถวนี้มาก่อนเป็นคนนำทางครับ
หัวหมาก – หัวลำโพง – วัดไตรมิตร – วัดเล่งเน่งยี่ – เสือป่าพลาซ่า – คลองถม – เยาวราช – หัวลำโพง
อกจากหัวลำโพงก็เดินไปวัดไตรมิตรกันครับ ระหว่างรอข้ามถนนก็เจอคนฝั่งตรงข้ามยืนกันได้ฮิปมาก
ระหว่างทางเจอรถที่โคตรเท่ แต่ไม่เหมาะกับเยาวราชเลยยยย
คำถามคือ : แล้วถ่ายมาทำไม?
ยังไม่ถึงวัด ก็เจอร้านแรกดักซะแล้ว “ห้องอาหารไทยบวร"
ร้านนี้หนึ่งในสมาชิกเราบอกว่า “ร้านนี้ก็อร่อยนะ"
โอเคร้านไหนอร่อยจะไม่พลาด วันนี้ตั้งใจจะกินให้ครบ 10 ร้าน นี่ร้านแรกเบาๆ
เราเข้าไปสั่งอาหารมา 2 อย่างบะหมี่หมูแดง กับ ข้าวผัดกุ้ง
บะหมี่หมูแดงผมว่าอร่อยครับให้ 9/10
ส่วนข้าวผัดกุ้งนี่ธรรมดามากไปให้ 6/10พอรองท้องหน่อยแล้วก็เดินไปวัดไตรมิตรครับ วัดนี้เป็นวัดดังที่มีพระทองคำอยู่ด้านบน
พอขึ้นบรรไดไปครึ่งหนึ่งก็จะเจอ “ศูนย์ประวัติศาสตร์เยาวราช"ดูหรูหราไฮโซน่าเข้ามากๆ ผมชะโงกหน้าไปถาม
ผม : ที่นี่เสียค่าเข้าไหมครับ
เจ้าหน้าที่ : คนไทยเข้าชมฟรีครับ
โอเค ของฟรีนี่เราจะไม่พลาด แอร์ก็เย็น สถานที่ก็ดูไฮโซ ดีเหมาะกะเราดีไปเดินชมสักหน่อย
บรรยากาศด้านในนี้ทำได้ดีมากๆเลยครับ เป็นแนวเล่าว่าเยาวราชเกิดมาได้ยังไง มีจัดแสดงว่าคนจีนอพยพมาตั้งรบรากช่วงไหนบ้าง ยุคไหนบ้าง
ความเห็นส่วนตัวคือที่นี่จัดแสดงได้ดีมากๆทำคล้ายพิธภัณฑ์ในต่างประเทศที่ผมเคยเข้ามาเลยครับ เอาเป็นว่าที่นี่ให้คะแนนเต็ม ยิ่งเข้าฟรียิ่งฟิน อย่าลืมมากันนะ
ออกจากศูนย์ประวัติศาสตร์เยาวราชก็เดินขึ้นบรรไดต่อไปไหว้พระทองคำกันครับ
หมายเหตุ : สำหรับผู้หญิงถ้าใส่กางเกง/กระโปรง ไม่เลยเข่าลงไปจะต้องเช่าผ้าถุงเพิ่ม
พอไหว้พระเสร็จก็ทำสังฆทานกับพระที่วัดไตรมิตรเสริมบุญกันหน่อย เมื่อเสริมบุญกันแล้วก็ต้องเสริมพุงกันบ้าง
เราเดินผ่านร้าน “ลอดช่องสิงคโปร์"มีหรือจะพลาดกินสิครับ
มา 4 คนก็ 4 แก้วกันไปเลยความอร่อยให้ 10/10 ครับ แนะนำให้มากิน
หมายเหตุ : ลอดช่องสิงคโปร์แบบนี้หากินที่สิงคโปร์ไม่ได้นะThailand only ครับ
แถวๆร้านลอดช่องนี่จะมีร้านรถเข็นขายของทอด พี่คนหนึ่งบอกว่าอร่อยนะ แล้วก็ไปซื้อมา มันเรียกว่า “อิ่วก้วย" ของว่างโบราณของชาวจีน ลักษณะเป็นแป้งห่อไส้แล้วทอด เวลาทานจะรู้สึกหนึบๆผสมกับไส้ที่คล้ายๆไส้กุ้ยช่าย ก็อร่อยดีนะครับ
จากนั้นก็เดินต่อเพื่อไปวัดมังกรกมลาวาส (วัดเล่งเน่ยยี่ ) กันระหว่างทางก็เจอร้านขายสมุนไพรจีน อะไรจีนๆตลอดแนว
เดินมาไม่ไกลก็ถึงวัดแล้วครับ ขณะนี้ก็ประมาณ 5 โมงเย็นคนแทบไม่มีเลยปกติที่ผมมาเจอแต่ควันธูป เดาน่าจะปิดแล้วครับ
แต่ผมชอบมากๆเลยช่วงที่ไม่มีคนเนี้ย เพราะผมแพ้ควันธูป ปกติดคือเข้าไปปุ๊ปไหว้แล้วรีบวิ่งออกมาเลยครับ
ไหว้พระเสริมสิริมงคลขอให้ปีนี้ปลอดภัย มีโชคมีลาภเข้ามาได้เดินทางเยอะๆนะครับ ^^
จากวัดเล่งเน่ยยี่ เดินต่อไปอีกนิดเดียวก็จะแยก เสือป่า ตรงแยกจะมี “เสือป่าพลาซ่า"ที่นี่ขายอุปกรณ์มือถือมหาศาล โดยเฉพาะเคสมือถือ โคตระถูก
ถ้าซื้อ 3-6 อันขึ้นไปลองถามหา “ราคาส่ง"ราคาจะถูกลงแบบ 30%เลย ที่นี่เราก็ช็อปกันอย่างเมามัน
พอช็อปกันเสร็จ พี่คนนำทางก็บอกว่า เนี้ยตรงไปอีกหน่อยก็จะเป็น “คลองถม"
โอเคไปลุยกัน เพราะยังไม่มืดเยาวราชยังไม่คึกคักไปเดินเรียกน้ำย่อยกันก่อน
บรรยากาศคลองถมก็จะดูเถื่อนๆนิดหนึ่งหนัง18++เต็มไปหมดCen/Uncenชาติไหนก็จัดหมวดหมู่กันอย่างชัดเจน
รวมทั้งของเล่น อุปกรณ์ไฟฟ้าอุปกรณ์นู้นนี่นั่นก็ขายเยอะแยะไปหมด( ตรงโซน 18+ ไม่ได้ถ่ายมานะ )
พอเดินชมของเพลินๆ เริ่มหัวค่ำได้เวลากำลังดี เราก็เดินต่อไปยังเป้าหมายสำคัญของวัน “ตะลุยกินเยาวราช"( เอิ่ม… ตอนแรกตั้งใจจะมาถ่ายรูป )
ระหว่างเดินไปเยาวราชก็เจอตุ๊กๆ พาหนะสัญลักษณ์คนไทย (ที่คนไทยไม่ขึ้น)
ถ้าเห็นป้ายแนวนี้คือถึงเยาวราชแล้วหล่ะ
ผ่านร้านน่ากินมาเยอะ แต่จิตใจไม่ว๊อกแว่กจะไปกินก๋วยจั๊บแล้วก็ถึง “ตลาดเก่า" ที่อยู่ของร้านเป้าหมายอันดับหนึ่งของผม “ก๊วยจั้บนายเล็ก"
เป็นร้านที่ผมชอบที่สุดในย่านนี้ครับ ให้ 10/10แต่..หมายเหตุไว้นิดหนึ่ง ร้านนี้เหมาะกับคนชอบกินพริกไทยจัดๆ เพราะน้ำซุปนี่ยั่งกะพริกไทยหกเลยครับ (ผมชอบแบบนี้แต่พี่ที่ไม่กินเผ็ดถึงกับน้ำตาจิไหลเลย )
หมูกรอบร้านนี้เด็ดมาก
พอนั่งปุ๊ป ตาก็เหลือบไปเห็นป้ายร้านข้างๆ “หอยจ้ออร่อยระดับภัตตาคาร"
เอาครับ สั่งมากินกันลองดู ถือว่าอร่อยมากครับให้ 9/10 แล้วกันเพราะเคยกินร้านอื่นอร่อยกว่าอีกหน่อย
กินคาวแล้วก็ต้องกินหวาน เดินมาเจอร้านนี้ครับน่าสนใจ จัดเลยครับคนละถ้วย
เฉาก๊วย
แปะก้วย นมสด
ทับทิมกรอบ
เต้าทึง
เฉาก๊วย 7/10ธรรมดาไป
แปะก๊วยนมสด(ร้อน)10/10อร่อยครับ รสกลมกล่อม แปะก๊วยไม่มีรสขม
ทับทิมกรอบ8/10 ก็อร่อยดีแต่ยังธรรมดาไปครับ
เต้าทึง8/10ก็อร่อยดีแต่ยังธรรมดาไปครับเดินมาอีกนิด.. ตอนนี้เริ่มอิ่มโคตรๆแต่คนมุงอะไรเต็มเลย ลองไปดูมันเป็นขนมปัง งั้นจัดมาเบาๆ “คนละแผ่น"
สาบานว่าอิ่มแล้ว ดูสั่งกัน
เราสั่งไป 4 ชิ้น
ขนมปังปิ้งหน้านมเนย10/10โคตรอร่อย
ขนมปังปิ้งสังขยา7/10ธรรมดาไป
ขนมปังกรอบนอกเนยถั่ว9/10อร่อย
ขนมปังกรอบนอกนมเนย9/10อร่อยจริงๆตั้งใจจะตะลุยกินให้ครบ 10 ร้าน แต่พุงมันไม่เข้าใจ ได้มาแค่ 7 ตอนนี้อิ่มมากๆงั้นกลับกันดีกว่าครับ เนื่องจากถนนเยาวราชเป็นแบบวันเวย์ จะขึ้นรถเมล์ต้องข้ามไปอีกฝั่งนะครับ พอเราข้ามมาก็เจอร้านอะไรสักอย่างคนเยอะมากๆๆไปแอบส่องมาได้ชื่อว่า “ต้อย คิด ซีฟู้ด" ครับเอาไว้มีโอกาสคงต้องไปลองมันอร่อยขนาดนั้นเลยเหรอ คนรอเยอะมากๆ
เดินมาอีกนิด… เจอเค้ากำลังหั่นหมูหันอยู่โคตรน่ากินเลยครับ
พอเราข้ามมาถึงอีกฝั่ง เราก็นั่งรถเมล์ฟรี กลับไปยังหัวลำโพงเพื่อกลับบ้านกันครับ
( ดูรอบรถไฟด้วยเพราะว่าดึกๆไม่มีนะครับ )
สรุปทริปครึ่งวัน จากเดิมที่ตั้งใจจะนั่งรถไฟไปชิคในกรุงเทพมันกลายเป็นทริปตะลุยกิน 7 ร้านที่เยาวราชไปได้อย่างไรก็ไม่รู้
มาสรุปค่าใช้จ่ายกันครับ
ค่ารถไฟ…………………………………..0 บาท
ค่ารถเมล์………………………………...0 บาท
ร้านห้องอาหารไทยบวร……………....174 บาท
ลอดช่องสิงคโปร์………………………80 บาท
หอยจ้อปู สูตรระดับภัตตาคาร………60 บาท
นายเล็ก(อ้วน) ก๋วยจั๊บน้ำใส……….200 บาท
อิ่วก้วย………………………………50 บาท
ร้านขนมหวานเครื่องยาจีน ……….....135 บาท
ขนมปังเจ้าอร่อยเด็ดเยาวราช ………..72 บาท
ยอดรวม……………………………….........771 บาท
หาร 4 คนละ =193 บาทถ้วนจบรีวิวทริปนี้เอาเท่านี้นะครับ หมดไป 193 บาทโคตรคุ้มเลย ไปตามรอยกันได้
แนะนำให้ชวนกันไปหลายๆคนหน่อยจะได้กินได้หลายร้านครับ
เพิ่มเติมสำหรับลายแทง
แค่นี้ครับ อ่านบันทึกเรื่องเที่ยวเรื่องกินมันส์ๆคลิกสิครับ !
Facebook Page :
http://www.facebook.com/ChillJourney
IG , Twitter : @ChillJourneyT
Chill Journey
วันอาทิตย์ที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2558 เวลา 12.40 น.