“บางกะเจ้า”

คือ พื้นที่ส่วนหนึ่งที่เป็นบริเวณโค้งน้ำของแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งมีรูปร่างคล้ายกระเพาะหมู ครอบคลุมพื้นที่กว้างถึง 6 ตำบลของ อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ ได้แก่ ต.บางกะเจ้า บางน้ำผึ้ง บางกอบัว บางกระสอบ บางยอ และ ทรงคะนอง คิดเป็นพื้นที่ประมาณ 12,000 ไร่ เมื่อวันที่ 14 ก.ย. 2520 ได้มีมติคณะรัฐมนตรี กำหนดให้ “บางกะเจ้า” เป็นพื้นที่สีเขียว หมาะแก่การเพาะปลูก โดยไม่อนุญาตให้ทำการก่อสร้างตึกหรืออาคารที่มีความสูงเกินกว่าที่กำหนด และเมื่อปี 2549 นิตยสาร Time ได้ยกให้พื้นที่บางกระเจ้าเป็น The best Urban Oasis of Asia หรือที่เรียกว่า เป็นปอดกลางเมืองที่ดีที่สุดในเอเชียนั่นเอง แม้ระยะเวลาจะผ่านมาหลายสิบปี สถานที่แห่งนี้ยังถือว่าเป็น “ปอด” ฟอกอากาศให้กรุงเทพฯ และจ.สมุทรปราการ ได้อย่างดีเสมอมา


สถานที่ท่องเที่ยวในคุ้งบางกะเจ้า

- ตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง

- สวนศรีนครเขื่อนขันธ์

- พิพิธภัณฑ์ปลากัดไทย

- บ้านธูปหอมสมุนไพร

- เส้นทางสีเขียว หรือ เส้นทางมรกต

ร้านอาหารและคาเฟ่



การเดินทางมายังคุ้งบางกะเจ้า โดยเรือ

การเดินทางเข้าสู่คุ้งบางกะเจ้าที่ได้รับความนิมยมมากในระยะหลังๆมานี้ คือการเดินทางโดยเรือข้ามฟากแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งสามารถลงเรือได้จากท่าเรือ 4 ท่าด้วยกัน คือ

1. ท่าเรือวัดบางนานอก - ท่าเรือวัดบางน้ำผึ้งนอก

ท่าเรือวัดบางนานอก อยู่ที่ ถนนสรรพาวุธ แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร เรือข้ามฟากที่นี่เป็นเรือโดยสารขนาดใหญ่ สามารถนำรถจักรยานและมอเตอร์ไซค์ลงเรือไปได้ ให้บริการตั้งแต่เวลา 05.00 น. หรือถ้าขับรถยนต์ไปทางบางนา ก็สามารถจอดไว้ที่วัดบางนานอกได้ แต่ถ้าไม่มีรถส่วนตัว สามารถขึ้น BTS มาลงที่สถานีบางนา ทางออกที่ 2 ตรงมาทางสี่แยกบางนาแล้วเลี้ยวซ้ายเข้ามาใน ถ.สรรพาวุธ จากนั้นตรงเข้ามาจนสุดทาง ก็จะพบกับท่าน้ำวัดบางนานอก ค่าโดยสารแค่ 4 บาท (6 บาท สำหรับคนที่มีจักรยานมาด้วย) เมื่อข้ามไปถึงแล้ว จะมีร้านเช่าจักรยานอยู่ทางด้านซ้ายของทางออกท่าน้ำวัดบางน้ำผึ้งนอกเลยค่ะ คันละ 80 บาท ปั่นได้ทั้งวัน แถมได้แผนที่บางกะเจ้าพร้อมคำแนะนำด้วยนะคะ

2. ท่าเรือวัดคลองเตยนอก - ท่าเรือบางกะเจ้า(กำนันขาว)

ท่าเรือวัดคลองเตยนอก อยู่ที่ ถนนเกษมราษฎร์ แขวงคลองเตย เขตคลองเตย เรือที่ท่านี้จะเป็นเรือหางยาว สามารถนำรถจักรยานลงไปด้วยได้ แต่จะได้ไม่กี่คันเนื่องจากไม่ใช่เรือใหญ่ ค่าโดยสารคนละ 20 บาท ถ้ามาทางนี้จะใกล้พิพิธภัณฑ์ปลากกัด และสวนศรีนครเขื่อนขันธ์

3. ท่าเรือ ข้างธนาคารกรุงเทพ สำนักงานพระราม 3 – ท่าเรือวัดบางกะเจ้านอก

ท่าเรือ ข้างธนาคารกรุงเทพ สำนักงานพระราม 3 อยู่ที่ ถนนพระรามที่ 3 แขวงช่องนนทรี เขตยานนาวา อยู่ระหว่างท่าเรือธนาคารกรุงเทพ กับ ท่าเรือตรงท่าน้ำสาธุประดิษฐ์ เป็นท่าเรือใต้สะพานภูมิพล (อยู่ในสวนสาธารณะใต้สะพาน ฝั่งพระราม 3) ค่าเรือข้ามไป คนละ 3 บาท สามารถนำมอเตอร์ไซค์ หรือจักรยาน ลงไปด้วย 10 บาท เป็นเรือขนาดใหญ่ เรือจะไปขึ้นที่ท่าเรือใต้สะพานตรงประตูระบายน้ำคลองลัดโพธิ์ ท่าเรือที่นี่จะหาค่อนข้างยาก ถ้าใครไม่รู้จักละแวกช่องนนทรี อาจหายากไปสักหน่อย แต่ดีตรงที่ไม่ค่อยมีคนให้เบียดเสียดกันมากนัก

4. ท่าเรือสาธุประดิษฐ์ – ท่าเรือวัดโปรดเกศเชษฐาราม

ท่าเรือสาธุประดิษฐ์ อยู่ที่ ถนนพระรามที่ 3 แขวงบางโพงพาง เขตยานนาวา มีเรือใหญ่ให้บริการทั้งวัน ออกเป็นรอบๆ แต่ข้ามมาแล้วจะมาถึงถนนเพชรหึงษ์ช่วงต้นๆ ถ้าอยากจะปั่นเที่ยวจุดท่องเที่ยวเด่นๆในคุ้ง อาจจะต้องปั่นเข้ามาไกลพอสมควรค่ะ


การเดินทางมายังคุ้งบางกะเจ้า โดยรถเมล์

เดินทางด้วยรถสาธาณะ สามารถนั่งรถเมล์สายต่างๆได้ดังต่อไปนี้

สาย 6 : บางลำภู-พระประแดง จอดเทียบที่ท่าเรือพระประแดง

สาย 35 : พระประแดง - สายใต้ใหม่ (ตลิ่งชัน) สายนี้จะไปสิ้นสุดที่ วัดรวก ต้องต่อมอเตอร์ไซค์รับจ้าง รถเมล์ หรือรถสองแถวที่วิ่งเข้าท่าน้ำพระประแดง

สาย 82 : พระประแดง-พาหุรัด มาจอดเทียบที่ท่าเรือพระประแดง

สาย 138 : พระประแดง – จัตุจักร ขึ้นที่ ป้ายรถเมล์บริเวณ BTS หมอชิต ฝั่งสวนจตุจักร นั่งยาวไปจนถึงวัดกลาง พระประแดง หน้าวัดจะมีวินมอเตอร์ไซค์รับจ้างอยู่ ให้ไปส่งบริเวณท่าน้ำพระประแดง หรือเดินไปประมาณ 600 เมตร

สาย 506 : ปากเกร็ด – พระประแดง รถจะวิ่งไปสุดสายที่ตลาดพระประแดง


เมื่อมาถึงที่บริเวณท่าน้ำพระประแดง จะมีรถสองแถวเล็กๆที่เป็นรถกระป๊อวิ่งไปยังจุดต่างๆในคุ้งบางกะเจ้า ลองถามคนแถวนั้นได้เลยนะคะ รถจะวิ่งเข้าถนนเพชรหึงษ์ เป็นเส้นหลักยาวๆเข้าไปในคุ้งบางกะเจ้า บางสายก็ตรงเข้าไปจอดในวัดบางน้ำผึ้งใน ติดกับตลาดน้ำบางน้ำผึ้งเลยค่ะ


การเดินทางมายังคุ้งบางกะเจ้า โดยรถยนต์ส่วนตัว

ส่วนใครที่มีรถส่วนตัวก็สามารถขับไปได้สบายๆเช่นกันค่ะ ใช้เส้นทาง ถนนวงแหวนอุตสาหกรรม ข้ามสะพานภูมิพล 1 เข้าซอยทรงธรรม และเข้าสู่ถนนเพชรหึงษ์ วิ่งตรงเข้าคุ้งบางกะเจ้าได้เลยค่ะ


การเดินทางภายในคุ้งบางกะเจ้า

โดยส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาที่นี่ จะนิยมเช่าจักรยานปั่นลัดเลาะไปเรื่อยๆ ซึ่งร้านเช่าจักยานก็มีอยู่หลายร้านหลายจุดมาก เรียกว่าจะเดินไปทิศทางไหนก็หาร้านเช่าจักรยานกันได้ง่ายๆเลยค่ะ ราคาส่วนใหญ่จะอยู่ที่ ชั่วโมงละ 20 บาท ถ้าเช่าเหมาวันก็ 80 บาท แต่ต้องปั่นกันด้วยความระมัดระวังนะคะ เนื่องจากที่นี่เป็นเขตชุมชนที่มีทั้งรถยนต์และมอเตอร์ไซค์สัญจรไปมาทั้งวัน จะไม่มีเส้นคั่นทำทางเฉพาะจักรยานแต่อย่างใด




ติดตามบันทึกการเดินทางครั้งต่อๆไปได้ที่

GowithAmp

ลิ้งค์ : https://www.facebook.com/GowithAmp

http://www.http://gowithampth.com




หลายปีที่ผ่านมาได้เห็นรีวิวของที่นี่เยอะมาก ส่วนใหญ่จะนั่งเรือข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาไปกัน วันนี้เราจะพาไปทางบก โดยรถยนต์ ด้วยเวลาจำกัดที่มีอยู่แค่ 3 ชั่วโมง เวลาว่างก็มีน้อย จะอ้อยอิ่งก็ไม่ได้ ฉะนั้นต้องใช้เวลาให้คุ้มค่าที่สุด จุดมุ่งหมายของเราวันนี้คือ ตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง และ สวนศรีนครเขื่อนขันธ์ เป็น 2 จุดที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนคุ้งบางกะเจ้าค่ะ



เริ่มต้นที่ ขับรถไปโดยใช้เส้นทาง ถนนวงแหวนอุตสาหกรรม ข้ามสะพานภูมิพล 1 เข้าซอยทรงธรรม และเข้าสู่ถนนเพชรหึงษ์ วิ่งตรงเข้าคุ้งบางกะเจ้า


แนะนำให้ดูแผนที่ของ "บางกะเจ้าไบค์ แอนด์ โบ๊ท" ค่ะ เข้าใจง่ายดี


จุดมุ่งหมายแรกของเราคือ "ตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง" ค่ะ จะหิวหรือไม่หิว มาที่ตลาดน้ำแห่งนี้ คุณจะอดใจไม่ไหวเหมือนเรา อันนั้นก็น่ากิน อันนี้ก็น่าซื้อ สามารถเข้าได้หลายเส้นทางนะคะ แต่เราเลือกไปทางนี้มีที่จอดรถเยอะ เดินเข้าไม่ไกลด้วย


ได้ที่จอดรถแล้วก็เดินตามถนนไปเรื่อยๆ จนถึงตรงนี้ เดินลงไปตามทางได้เลยค่ะ


ระหว่างทางเดินเข้าไป มองเห็นศาลาทรงไทยสวยๆแบบนี้ด้วย


ตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง

จัดตั้งขึ้นโดยความร่วมมือของชาวบ้านร่วมกับผู้นำท้องถิ่น และ อบต.บางน้ำผึ้ง เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และสนับสนุนให้ชาวบ้านมีรายได้จากการนำผลผลิตในท้องถิ่นของตนเองมาจำหน่ายเพื่อสร้างรายได้ และก่อให้เกิดการสร้างงานภายในชุมชน มีเฉพาะ เสาร์ – อาทิตย์ ตั้งแต่เวลาประมาณ 08.00 – 16.00 น.



ไม่นานก็ถึงmk'เข้าแล้วค่ะ เริ่มเตรียมใจไว้ได้ ต่อไปนี้จะได้พบกับของน่าทานมากมายไปหมด


อะไรกันนี่ เดินเข้ามาได้แป๊บเดียว ท้องร้องจ๊อกๆขึ้นมาซะอย่างนั้น!! ฮ่าๆๆๆ แวะร้านก๋วยเตี๋ยวก่อนก็แล้วกัน ขอกระซิบบอกว่าร้านนี้ราคาประหยัดที่สุดแล้ว รสชาติก็ใช้ได้เลย คนเข้าเยอะแต่บริการไม่มีขาดตกพกพร่องค่ะ


จัดมาเบาๆก่อน 1 ชาม เผื่อท้องไว้ทานอย่างอื่นต่อ ชามนี้ 25 บาท อร่อย อิ่มกำลังดี


อย่างที่บอกข้างต้นว่า ที่นี่ของกินน่าทานเยอะมากๆ สองข้างทางเดินยาวๆไปมีแต่ของกิน ต้องแกร่งแค่ไหนถึงจะห้ามใจไม่ให้ซื้อนั่นทานนี่ได้ ฮ่าๆๆๆ ร้านอาหารก็มีให้เลือกนั่งทานกันได้ตามอัธยาศัย ชอบริมน้ำ หรือชอบนั่งด้านใน มีหลายร้านและอาหารหลายอย่าง เห็นแล้วหิว.... อิ่มแล้วก็ยังรู้สึกหิว... ><


เดินๆไปเห็นคนมุงดูอะไรบางอย่าง ด้วยความอยากรู้ ขอเดินไปมุงกับเขาบ้าง พอเข้าไปใกล้ๆถึงได้รู้ว่า อ๋อ........ มุงร้านนี้จ้า


ขนมเบื้องญวนปิ้ง น่าทานมาก.. ราคาก็ไม่แพงมากนะคะ เลือกไส้ได้หลากหลายเลยด้วย


ขนมหม้อแกง ในเรือปั้นดินเผา มันดูน่าทานแบบเก๋ๆดีอะ มีทองหยอดวางอยู่บนหน้าซะด้วย


คุณเคยเห็นกุ้งหวานแบบนี้ไหมคะ... เราเพิ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรกเลย


มะม่วง น้ำปลาหวาน - กะปิหวาน แค่มองก็น้ำลายสอแล้ว ซี้ด....


อ่า... ที่นี่ไม่ได้มีแค่ของกินนะจ๊ะ ต้นไม้นานาพันธุ์ก็มีให้เลือกซื้อด้วยเช่นกัน ถ้าอยู่ใกล้บ้านจะสอยกลับสักสี่ซ้าห้าต้นนะ ราคาไม่แพงด้วย


และสำหรับสาวกแคกตัส ไม่ควรพลาดร้านนี้ค่ะ ราคากลางๆนะ หรือคนที่ไม่ใช่สาวกแคกตัสอย่างเรา จะซื้อกลับไปสักต้นสองต้น เอาไปวางไว้ข้างๆจอคอมพิวเตอร์ เพื่อละสายตามาพักที่ต้นไม้น้อยๆแบบนี้ก็ดีไปอีกแบบ เนอะ


หรือจะซื้อแบบมุ้งมิ้งพร้อมแขวนแบบนี้ก็น่ารักดีนะคะ


และนี่ค่ะ ร้านขายผักที่ราคาย่อมเยามาก อารมณ์แบบ เดินในตลาดนัดตามต่างจังหวัดเลย


ส่วนร้านนี้จะขายพืชผักสมุนไพรตากแห้ง สำหรับชงชา ต้มน้ำ คั้นสี ส่วนเราจัดดอกอัญชัญมาด้วย 1 ถุง ไว้ใช้ต้มเอาสีทำขนม ทำน้ำดื่มค่ะ


เดินๆไปจู่ๆก็ปวดฉี่ขึ้นมา ทำไงดีๆๆๆๆ เดินไปถามแม่ค้าได้ความมาว่า เดินออกไปอีกหน่อยไปเข้าในวัดบางน้ำผึ้งในได้ค่ะ รีบไปเลย วิ่งสิวิ่ง!!


เดินออกมาจากวัดบางน้ำผึ้งใน เข้าตลาดกันต่ออีกทางเลยค่ะ ทางนี้เราจะไปพบกับร้านรวงหลากหลายมากขึ้น


เดี๋ยวๆๆๆ มีนกเหยี่ยวด้วย ใช่ไหมคะ เรียกว่าเหยี่ยวใช่ไหม ... นั่นน้องเกร็งหรือนกเกร็งคะ ^^


เมื่อเดินมาจากทางเข้าเมื่อสักครู่จะพบกับทางแยกซ้ายขวาค่ะ เราเลือกเดินไปทางขวาก่อน ทางด้านนี้จะมีทั้งร้านขนมและร้านขายของใช้ทั่วๆไป


ขนมตาลจ้า ขนมตาล... เหลือง อวบ ฟู อู้หู อร้อย..อร่อย ^__^


เดินต่อไปอีกหน่อยเห็นสะพานเล็กๆข้ามคลองทางขวามือ เจอกับมุมนี้เข้าค่ะ สวยอ่า ดูชิลดีมากเลย


ที่นี่เรียกว่า "เรือนนมสด" ค่ะ คนเยอะมาก เดินเข้ามาทำอะไรกัน


สายตาลอกแลกมองซ้ายมองขวาด้วยความสงสัยว่าเขามาทำอะไรกัน เมื่อมองไปเห็นมุมนี้จึงเข้าใจทันที


ที่นี่มีร้านขายเครื่องดื่มอยู่นั่นเองค่ะ และไม่ใช่เพียงเครื่องดื่มนะ มีเมี่ยงคำที่ใส่ถาดเอาไว้เป็นคำๆแบบนี้ขายด้วย ชุดเล็ก 20 บาท ชุดใหญ่ 30 บาท ถ้าซื้อกลับบ้าน 35 บาท ซื้อแล้วก็เดินไปหาที่นั่งได้ตามสบาย มีให้เลือกนั่งได้หลายมุม


ธรรมดาซะที่ไหน... มีตู้หมุนไข่ด้วยนะคะ!!! หยอดเหรียญแล้วหมุนๆๆจนไข่ตกลงมา หยิบออกมาเปิดดูว่าข้างในมีอะไร เคยเล่นกันไหม สมัยเด็กๆนี่เล่นบ่อยเชียวแหละ ^^


ไปค่ะ ไปกันต่อ แวะกินรายทางไปเรื่อยๆค่ะ ชอบจังเลย ^_____^ เดินมาต่อแป๊บๆก็เดินย้อนกลับทางเดิม เจอร้านสวนน้อยในขวดแก้วด้วย สวยจัง (เขาเรียกกันว่าอะไรก็ไม่รู้ เราเรียก "สวนน้อยในขวดแก้ว" ฮ่าๆๆ)


และได้เจอกับร้านนี้เข้าค่ะ "ชนม์ณิชา" ขายถั่วตัด งาตัด ตุ๊บตั๊บ เคยออกรายการ "ครัวคุณต๋อย" ด้วยนะค้า ธรรมดาซะที่ไหน


เราซื้อตุ๊บตั๊บกลับมาด้วย 2 ชิ้น (มากินหลังจากกลับแล้วถึงได้รู้ว่าอร่อยมาก!!! อยากกินอีก....)


ถัดมาจากร้านชนม์ณิชา จะเป็นร้าน "ปังพอนด์" วันที่เราไป พ่อค้าบอกว่า "รายการครัวคุณต๋อยเพิ่งจะมาถ่ายทำไปเมื่อช่วงเช้านี้เอง"


จากนั้น เราเดินกลับไปอีกแยกหนึ่ง อารมณ์ก็จะคล้ายๆกันค่ะ มีของขายหลากหลายดี


มาเจอเมี่ยงอีกแล้ว ปกติเราชอบกินเมี่ยงใบทองหลาง แต่หายากมาก มาเจอเมี่ยงใบชะพลูตอนที่อยากกินอีกแบบนี้ จัดเลยค่ะ เรียกว่าที่กินไปก่อนหน้านี้ยังไม่พอก็ได้ ฮ่าๆๆๆๆ


เครื่องประดับดินปั้น สวยๆน่ารักๆเยอะแยะเลยค่ะ หยิบอันนั้น จับอันนี้ เลือกแทบไม่ถูกเลย


สุดท้ายก็ได้ต่างหูคู่นี้มา น่ารักไหมล่า......... ^_^


เดินเพลินมากค่ะ พอมองดูเวลาแล้วก็ต้องเดินกลับ กลับทางเดิมนะคะ คราวนี้ได้เห็นของกินอีกเพียบ เพราะตอนขามาดูไม่ครบเองหงะ แฮ่!!



นี่!!! มะม่วงกวน .... ไม่เอา ไม่เล่นมุกดีก่า ^^"


กล้วยปิ้งก็มีค่ะ กล้วยหักมุกสีเหลืองสวยมาก กลิ่นหอมๆ ทานตอนอุ่นๆ มันใช่อ้ะ!


หอยครกก็มีจ้า หยอดกันใหม่ๆร้อนๆเลย กลิ่นหอมชวนหิวมาก ขนาดอิ่มมาหลายอิ่มแล้วยังรู้สึกหิวได้อีก เหอะๆๆๆ


มาถึงทองม้วนสด สีสันคัลเลอร์ฟูล ดูละมุนลิ้น ใส่มะพร้าวอ่อนและข้าวโพดด้วย คือไม่เคยเห็นทองม้วนสดที่ไหนมีสีสันสดใสขนาดนี้มาก่อน


และกล้วยปิ้งหน้ายิ้ม อ๊า..... ทำไมหน้าตาจิ้มลิ้มขนาดนี้เนี่ย


เดินไปเกือบจะถึงทางออกแล้ว มองไปเห็นมุมนี้เข้า ดูน่าสนุกมาก อยากเล่นด้วยเลย "หนังสติ๊ก"


จะยิงกี่ลูกก็ตามสบายเลย ลูกกระสุนดินปั้นราคาลูกละ 1 บาทเอง


จะเดินกลับรถ ใกล้ถึงถนนอยู่แล้ว เจอพี่เห้เข้า (ตัวเงินตัวทอง) น่ารักมุ้งมิ้งกันเลยทีเดียวเชียว


จากตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง ขับรถไปต่ออีกหนึ่งสถานที่ ที่ต้องมาเยือนเมื่อมาคุ้งบางกะเจ้า นั่นก็คือ "สวนศรีนครเขื่อนขันธ์" ค่ะ เราจะไปตามหาสีเขียวรอบด้านกัน




สวนศรีนครเขื่อนขันธ์

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชการที่ 9 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯพระราชทานนามว่า “สวนศรีนครเขื่อนขันธ์” โดยมีพระราชดำริไว้สำหรับกรมป่าไม้ได้ใช้เป็นแนวทางในการจัดการพื้นที่สีเขียวโครงการสวนกลางมหานคร หรือการอนุรักษ์พื้นที่สีเขียวบริเวณบางกระเจ้าให้เกิดประโยชน์ต่อส่วนรวมอย่างยั่งยืน มีเนื้อที่ราว 200 ไร่ มีต้นไม้นานาพันธุ์อยู่ทั่วพื้นที่ เป็นสวนที่นักท่องเที่ยวชอบแวะมาเดินเล่น ออกกำลังกาย และมาปั่นจักรยานกัน มีสะพานไม้ทอดยาวให้เดินชมพื้นที่อันสงบร่มรื่น มีหอดูนกสูง 7 เมตร โดยสวนศรีนครเขื่อนขันธ์เป็นสถานที่ยอดนิยมสำหรับนักดูนกที่ไม่ต้องออกไปต่างจังหวัดไกลๆอีกด้วย



สวนศรีนครเขื่อนขันธ์สามารถเข้าได้ 2 ทางคือทางซอยเพชรหึงษ์33 และซอยเพชรหึงษ์57 ค่ะ

เปิดเวลา 06.00-20.00 น.


"โครงการฟื้นฟูป่าเพื่อการเรียนรู้เชิงนิเวศสวนศรีนครเขื่อนขันธ์ ตามแนวพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนะราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี"


ใครที่ขับรถมา สามารถนำรถมาจอดบริเวณนี้ได้เลยนะคะ หรือจะขอเข้าไปจอดด้านในก็ได้เช่นกัน แต่ต้องหยุดบอกเจ้าหน้าที่ตรงป้อมทางเข้าก่อน


เมื่อจอดรถแล้ว เดินออกมาหาเช่ารถจักรยาน เจอที่ร้านนี้เลยค่ะ อยู่ใกล้สวนที่สุดเลย มีน้ำ ขนม และอาหารปลาขายด้วย


พร้อมไหมๆๆๆๆ เดี๋ยวๆๆ ไม่ต้องตกใจนะคะนี่ไม่ได้แขนยาวขนาดนั้น ใช้กล้องแอคชั่นแคม เปิดมุมไวด์ ไม่มีไม้เซลฟี่ แขนก็เลยยาวเกินไปจริงๆ ฮ่าๆๆๆ


ปั่นเข้ามาแวะดูแผนที่กันก่อนสักนิดค่ะ อยากไปจุดไหนก็เล็งๆไว้ได้เลย ถ่ายรูปเก็บไว้ดูอีกทีก็ดีนะคะ เผื่อลืม


ที่นี่อากาศร่มรื่นมาก เขียวชะอุ่มเย็นตาเย็นใจไปหมด ปั่นมาเรื่อยๆกระทั่งจอดเดินเล่นที่จุดนี้เป็นจุดแรกค่ะ "สะพานเขื่อนขันธ์มรรคา"


มีสะพานไม้ทอดยาวพาดผ่านคุ้งน้ำ สามารถเดินเล่นกันได้ตามอัธยาศัย อากาศดีมาก!


มีต้นไม้ใหญ่อยู่ในน้ำด้วย สวยมาก วิวดีมากๆเลย


ใช้เวลาอยู่ที่จุดนี้นานเป็นพิเศษเลยค่ะ ชอบมากจริงๆ อยากทำสะพานแบบนี้ พาดบนคุ้งน้ำแบบนี้ ไว้ที่บ้านเลยแหละ ^^


มีน้ำ มีต้นไม้ ต้นหญ้า ดอกไม้ แล้วก็จะมีผีเสื้อบินโฉบไปมาเยอะเลยค่ะ


มองไปไกลๆ เห็นมุมนี้ สวยจัง


ชอบมองคนที่มาเที่ยวกันเป็นคู่ ไม่ว่าเขาเหล่านั้นจะกำลังทำอะไรยังไงอยู่ แต่มันก็จะทำให้เราอมยิ้มตามเสมอ สงสัยลึกๆในใจอยากมีบ้าง ^_^


อยู่ชมวิวเดินเล่นจุดนี้จนหนำใจก็เดินกลับออกไป ทันใดนั้น เห็นอะไรแว๊บๆ.... พี่เห้!!! เจออีกแล้ว คุ้งบางกะเจ้ามีพี่เห้อยู่เยอะเลยแหละจะบอกให้ ยิ่งเข้ามาในสวนนี้จะเจอหลายตัวเลย แต่เขาจะไม่วุ่นวายนะคะ อาจจะว่ายน้ำโฉบไปโฉบมา รอกินขนมปังเผื่อมีคนโยนไปให้บ้าง เท่านั้นเอง


จากสะพานเขื่อนขันธ์มรรคา ปั่นไปต่อเรื่อยๆ จุดต่อไปของเราคือ "หอดูนก" ที่สูงถึง 7 เมตร


ถ้าเป็นช่วงฤดูหนาว หรือช่วงอากาศไม่ร้อนอย่างช่วงนี้ จะมีนกบินไปมาให้ชมอยู่บริเวณนี้ ดูชนิดของนกที่พบที่นี่ได้จากป้ายนี้เลยค่ะ


และลานกว้างๆนี้ หลายๆคนก็มักจะมาถ่ายรูปมุมนี้ ใครมาใครก็อยากได้มุมนี้ เชื่อสิๆๆๆ (แอบถ่ายเขามาอีกที ขออภัยด้วยนะคะ น่ารักดี ^^)


บริเวณรอบๆยังมีดอกไม้ให้ชื่นชมกันอีกด้วยนะคะ สวยไหม


ชอบบรรยากาศที่นี่จังเลยค่ะ มันดูร่มรื่น รู้สึกสบายมาก ปั่นจักรยานไปได้เรื่อยๆไม่รู้เหนื่อย เมื่อยก็แวะพัก หายเมื่อยก็ปั่นไปต่อ มองไปทางไหนก็มีแต่สีเขียวๆของต้นไม้ใบหญ้า


ปั่นไปปั่นมา แวะค่ะแวะ แวะทำไมคะเหนื่อยหรือเปล่า... เปล่าค่ะ "หิวน้ำ"


ในนี้ก็มีร้านน้ำอยู่เหมือนกันนะ มีน้ำแข็งไสด้วย แต่ตอนเราไปแวะนั้นน้ำแข็งไสหมด อดกิน ฮ่าๆๆ เดินไปหาพี่หมาทางนั้นเลยค่ะ ถ้าโชคดีก็จะได้เห็นพี่หมาออกมาต้อนรับกันแบบนี้นะ


ใช้เวลาอยู่ที่ทั้งหมด 3 ชั่วโมงกว่าๆ พอใกล้ค่ำก็ได้เวลากลับกันค่ะ ใช้เส้นทางตามนี้ได้เลยนะคะ จะผ่านท่าน้ำพระประแดง ผ่านตลาดพระประแดงออกไปค่ะ


ขับไปเรื่อยๆ เข้าสู่ถนนสะพานภูมิพล และขึ้นสะพานภูมิพล 1 เช่นเดิม สะพานของพ่อ งดงามจับใจมากจริงๆนะคะ


ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยากลับเข้าสู่กรุงเทพมหานคร ขอบคุณทุกคนที่อ่านมาถึงตรงนี้นะคะ ขอบคุณมากๆเลยค่ะ

GowithAmp

 วันพฤหัสที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2560 เวลา 13.30 น.

ความคิดเห็น