อันที่จริงการไปชิมขนม จิบชาของเราในวันนี้ ควรจะไปช่วงบ่าย ๆ แลดูจะเหมาะกว่า เพราะหลายเมนูที่เราสั่งมาแคลอรี่คงเอาเรื่องอยู่ แต่เราไปร้าน Sense Tea Cafe กันในช่วงหัวค่ำ หลังอาหารมื้อใหญ่ แล้วเห็นเมนูน่าตาเย้ายวนเสียเหลือเกิน หักห้ามใจไม่ไหว ไปสองคน สั่งไปราวกับไม่ได้กินอะไรกันมาก่อนเลยทีเดียว

ระหว่างรอ เรามาชมบรรยากาศร้านกันดีกว่า เมื่อแรกเดินเข้ามา จะได้กลิ่นหอมอ่อน บรรยากาศดีเหมาะแก่การนั่งคุยสัพเพเหระมากเลย

มีจำหน่ายชาหลากหลายชนิดจากทั่วทั้งเอเชีย

อุปกรณ์ชงชาก็มี

ข้างฝาผนังประดับด้วยชุดชงชา น่ารักกิ๊บเก๋มาก

บรรยากาศช่วงที่เราไป ร้านใกล้ปิดแล้ว คนก็จะน้อย เงียบดี

เมนูแรกมาแล้ว Caramel Macchiato ของคุณเพื่อน อันนี้ไม่ได้ชิม เพราะเราไม่ดื่มกาแฟ ขวดใส่สวยมีสไตล์มาก

แก้วนี้ของเรา Ceylon Sunshine สีสันสดใส บาดใจมาก ผลไม้ก็ดูส๊ด สด สด

ซูมดูหน้าตาใกล้ ๆ กัน กลิ่นหอม รสชาติหวานเปรี้ยวลมกล่อมกำลังดี เหมาะสำหรับจิบคู่กับกองทัพอาหารหวานที่เราสั่งไปมาก

เนื่องจากเราจัดของหนักมาก่อนแล้ว มาร้านนี้เราเลยลองชิมแต่ของหวานเบา ๆ ไว้ครั้งหน้ามาลองชิมของคาวที่นี่บ้างเนอะ

เมนูนี้คือ Sense Tea Mushroom ข้างบนเป็นเมอร์แรงรสราสเบอรี่ ไม่หวาน ด้านล่างเป็นสปันจ์เค้กชาเขียว มูสวานิลลา แยมผลไม้ วิธีการกินคือ หักเมอร์แรงเป็นชิ้น ๆ กินคู่กับส่วนผสมด้านล่างที่คลุก ๆ ให้เข้ากันแล้ว ส่วนเครื่องประดับรอบ ๆ เห็ด กินได้หมดเลย

น่ารักอ่ะ ยังกับหลุดเข้าไปอยู่ในโลกของนิทาน

อีกเมนูที่เราสั่งมาคือ Pan Crepe Berry เราสั่งมา 2 รส เป็นแป้งเครป น่าจะเป็นสูตรเฉพาะค่ะ รสชาติไม่เหมือนที่เคยกินทั่วไป ใส่ครีมนมสด โปะด้วยผลไม้สด แป้งนุ่ม ไม่หวานเกินไป เข้ากันได้ดีกับเครื่องดื่ม

กินเสร็จคิดเงิน ราคาทั้งหมดราว 600 กว่าบาท (ราคาพอกับอาหารมื้อค่ำที่เพิ่งกินไปเลยอ่ะ)

กลิ้งออกจากร้าน ไว้มีโอกาสกลับมาลิ้มรสเมนูอื่น ๆ อีกแน่นอนค่ะ

พิกัดร้าน: โครงการ Health Land แจ้งวัฒนะ-ปากเกร็ด 29