เชี่ยวหลาน สุราษ ไปแบบฟินๆๆ
ทริปนี้มานำเสนอเชี่ยวหลาน หรือ กุ้ยหลินเมืองไทย สมดั่งคำล่ำลือมาก เราไป 3 วัน 2 คืน (17-19 มิถุนายน 2560 ที่ผ่านมา)
แหล่งเที่ยวนี้คงไม่มีใคร....ไม่รู้ เราจะไม่เอาแบบละเอียด แต่จะบอกช่องทางการเดินทางไปละกัน
เริ่มจากการเดินทาง การเดินทางไปสุราษธานี เมืองทางใต้ของประเทศไทยนั้น ไปได้หลายช่องทาง สำหรับเรา...เราเลือกที่จะเดินทางโดยเครื่องบิน เนื่องจากสะดวก และเลือกเอาช่วงที่มีโปรโมชั่น จะถูกมาก จองข้ามปีไปเลย ไม่ห่วง มีทั้งนกแอร์ แอเอเชีย ไทยเกอร์ เลือกได้ตามใจชอบมีหลายเที่ยวบินหลายช่วงเวลา หรือชอบรถทัวส์ รถไฟ ก็มีบริการเลือกได้เลย
ได้เที่ยวบิน วัน พร้อมก็ไปกันเลย
การเดินทางครั้งนี้เราพักที่ ภูตะวัน ซึ่งปัจจุบันพัฒนาไปมาก เห็นได้จากเจ้าของแพเล่าให้ฟัง ว่าตอนนี้เราพัฒนาที่พักและความสะดวก สะบายให้ผู้เข้าพักจากเดิมพอสมควร สำหรับแพนี้ ถือว่าดี อาหารอร่อย การบริการเป็นกันเอง...ใครต้องการอะไร ก็แจ้งได้ เช่น เรื่องอาหารใครทาานเจ ไม่ทานอะไร หรือทานอะไรไม่ได้ แจ้งเขาก่อนเข้าที่พัก
สำหรับเบอร์หรือที่พักที่นี้ คงไม่แนะนำมากนัก เพราะหาข้อมูลได้
พอเราเลือกแพได้ เราก็เลือกแพกเก็จ 3 วัน 2 คืน ต้องบอกว่า แพที่เชี่ยวหลาน มีทั้งหมด 16-17 แพ โดยอุทยานเขาสก อนุญาตให้มีเพียงเท่านี้ รวมของอุทยานเองแล้ว เราก็เลือกแพที่ชอบ ที่สนใจและเลือกเข้าพักได้เลย และการเข้าพักจะต้องเลือกเป็นแพกเกจ จะสะดวกมาก สำหรับคนที่จะไปเที่ยว เนื่องจากจะรวมการรับ-ส่ง จากท่าเรือไปแพ อีกทั้งการนำเที่ยวแต่ละจุดด้วย
ยกเว้น พักที่แพของอุทยาน จะต้องเสียค่าเรือ รับ-ส่ง เหมาไปเอง ซึ่งนั้นหมายความว่า คุณได้จองแพของอุทยานแล้ว ซึ่งราคาถูก แต่จะไม่มีเรือ รับ-ส่งจากท่า ราคาก็อาจจะเป็นราคาเหมา แต่มองว่า หากไปในกลุ่มคน 3-4 คน ก็โอเคนะ เนื่องจากเรือนั้น จะพาเราเที่ยวอยู่กับเรา อีกทั้ง เวลาออกเที่ยวก็ไม่ต้องร่วมกันใคร เที่ยว หยุด ถ่ายรูป ไม่ต้องแย่งกัน ไปน้อยๆดี
แต่สำหรับแพของเอกชน เมื่อเลือกแล้ว ก็จะรวมเป็นแพกเก็จ พร้อม อาหาร รับ-ส่ง นำเที่ยว แต่เวลาเที่ยว ต้องรวมกรุ๊ปอื่นด้วย ไปเยอะน่อย ถ่ายรูป ก็อาจจะไม่สะดวก ต้องเอาใจเขา ใจเรา ด้วย เพราะไปกันหลายคน ดังนั้น เลือกเอาที่ชอบ และเจรจา พูดคุย ก่อนจองที่พักให้ดี ไปไหน ทำอะไร พักกี่คืน ไปเที่ยวไหนบ้าง
จบ...สำหรับเกร็ดความรู้เลือก
อ้อ...ลืมบอกอีกประเด็น ที่พักแต่ละที่ไม่ได้มีบริการ รับ-ส่ง สนามบินนะ ต้องถามเขาน่อยว่า มี...ไม่มี แล้วมีเบอร์ที่เป็นรถตู้คอยบริการไหม และก็ขอเบอร์เขาเลย ซึ่งจะมีรถตู้ขนส่ง ไว้คอยบริการ สนามบิน-เชี่ยวหลาน ราคาก็ประมาณ 200 บาท (ราคาจริงจำไม่ได้แต่ไม่แพงมาก)จอดที่ท่าเรือเลย
เมื่อมาถึง สุราษ รถตู้ที่เราโทรจอง เขาก็มาจอดรอเรา เพื่อจะจะมุ่งหน้า..ไป เชี่ยวหลาน เขาสก เรามาเที่ยวบิน สายมาก และมาถึงก็เที่ยงแล้ว แนะว่า เลือกไฟล์เช้าน่อยยจะดีกว่านะ
เมื่อมาถึง..เราก็บอกให้เขาแวะที่ออฟฟิส เพื่อจรจาค่าใช้จ่ายส่วนที่เหลือ เราไป 3 วัน 2 คืน ตกคนละ 4,000 บาท รวม เรือ รับ-ส่ง ค่าอุทยาน อาหาร เรือนำเที่ยว ราคานั้น เช็คกันอีกทีนะ ทราบว่าแต่ละช่วงราคาก็จะมีความแตกต่างกันออกไป ตามซีซั่น
เมื่อมาถึงอุทยาน เราก็เดินลงไปเลย ไม่ต้องไปเสียค่าอุทยานแล้ว เต้นก็จะอยู่ฝั่งซ้าย ก่อนของท่าเรือ เดินลงไปหน่อย จะรวมๆรวมแพ อยู่ที่นี้ ส่วนสำหรับ ใครไม่ได้จองไว้ ก็ต้องไปจ่ายค่าอุทยาน ส่วนก่อนลงแพ ก็จะมีร้านอาหาร ร้านขายของ ห้องน้ำ เราก็จัดแจง ซื้อตุนไว้ก่อนก็ดี เนื่องหากจะไปซื้อที่แพ ราคาจะแพงหน่อย
ิ
เมื่อจัดการ ซื้อของ ค่าใช้จ่ายก็ไปโล๊ด....
นั่งเรือออกไปไม่นานเพราะ แพภูตะวัน นั้นเป็นแพ ต้นๆของ เขื่อน ส่วนแพ อื่นๆ ก็จะอยู่ห่างออกไปหน่อย
เมื่อเรามาถึงที่พัก
เราพักที่ห้อง แคปซูน..จัดแจงข้าวของเสร็จ
ก็จะเริ่มอาหารมือแรก ส่วนใหญ่ อาหาร แต่ละแพ ก็ไม่ต่างกัน จัดเป็นจุด จะมาเดี่ยว มาก น้อย เขาก็จะจัดมาให้ 1 ชุด กินเต็มที่
ก็จะได้ประมาณนี้ทุกมื้อ สำหรับ 6 มื้อ ของ 3 วัน 2 คืน ส่วนมื้อเช้า ก็จะเป็นกาแฟ ข้าวต้ม ข้าวผัด จะไม่ใช่มือหนัก มื้อหนักๆแบบนี้ จะเป็นเที่ยง และเย็น
สำหรับบรรยากาศ ของห้องพัก ที่พักนั้น ก็ตามนี้
วันแรกที่ไปถึง จะยังไม่มีกิจกรรมใดๆ จะมีเพียง นั่งเล่น นอนเล่น ให้แดด อ่อนๆ ก็จะเป็นเวลา พายเรือคยัก เล่นน้ำ กฎการเล่น หลัง 6 โมงเย็นจะไม่ให้เล่นน้ำม เล่นทุกครั้งต้องใส่เสื้อชูชีพ ที่นี้ มีจุดโดดน้ำด้วย หากสนใจ การพายเรือคยัก จะให้เช่าไม้พาย 200 บาท เมื่อนำไม้พายมาคืน จะได้รับเงินคืน เช่าได้ ยันกลับ แต่เรือต้องไปจอดที่ ส่วนกลาง ไม่มีการนำไปจอดเอาไว้เป็นของส่วนตัว ยกเว้น ไม้พาย ที่เช่าแล้ว เอาไปได้ จนกว่าจะคืน
เข้าวันที่ 2 ของการเที่ยว กิจกรรม ก็นั่งเรือ ออกชม กุ้ยหลิน เมืองไทย เขา สามเกลอ
(ตอนไปดูไม่ออกเลยว่าใช่ อดไปตามสภาพ ไม่ได้ถ่ายรูป ไปพร้อมกรุ๊ปอื่น เราก็จะเออ ค่อยถ่าย สุดท้าย อ้าว จุดมาร์ค สำคัญ ไม่ได้ถ่าย กรรมแท้)
ก็นั่งชมไปเรื่อยๆ ตามเส้นทาง สอง ข้าง ทาง ก็เป็น วิว ที่สวยมาก
อ่อ ขอย้ำหน่อยว่า ที่เชี่ยวหลาน นั้น จะเป็นการมาพักผ่อน โครตผักผ่อน เพราะจะตัดจากการสื่อสารทั้งหมด เน็ต โทรศัพย์ แม้จะมีก็อ่อนแอ มาก ดังนั้น มีมือถือ ไม่ได้ช่วยใดๆ จะมีคลื่น พอให้อัพรูป โทหาเพื่อน ญาติ ก็ต่อเมื่อ อยู่กลางเขื่อนไปแล้ว เล็งสัญญาณกันให้ดี
สักพัก เราก็ไปจุดต่อไป เดินป่า ล่องแพ ชมถ้ำ หินงอก หินยอย บรรยากาศ ก็ต่างออกไปอีก ดูดี มีความสุข เดินป่าไม่ไกล เพื่อไปต่อ แพ
พอเที่ยง...ก็กลับเข้าที่พัก กินข้าว พักผ่อน จนกว่าจะตกตอนเย็น ไปล่องเรือ อีกครั้ง เพื่อดูพระอาทิตย์ตก และส่องสัตว์ เผื่อดวงดีจะเห็นกันบ้าง
สำหรับกรุ๊ปเราอดเห็น ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะมีโอกาสเห็นสัตว์ กะทิง นก แต่เราก็รื่นรมย์ไปกลับ พระอาทิตย์ตกแล้วกัน ดูก็สบาย สำหรับล่องเรือเย็น เราก็คุยกับเรือ นำเที่ยวให้ดี มี...ไม่มี ออกกี่โมง
หากไม่ไป ก็เล่นน้ำ พายเรือ ชมบรรยากาศ ไป สูดเอาโอโซน จ้า
เข้าวันสุดท้าย วันนี้ ก็ตามอัธยาศัย เล่นน้ำ ถ่ายรูป เพราะเราจะต้องขึ้นฝั่งกันแล้ว
เมื่อเราเก็บของ ขึ้นฝั่งแล้ว เวลาเหลือไปนั้นดี แนะว่า หากไปกันเยอะ หรือร่วมกับกร๊ปอื่น เหมาะรถตู้เลย
ซึ่ง แพภูตะวัน มีคอยบริการ รถตู้เหมา นำเที่ยว ในสุราญฯ ราคาก็ต่อลองพูดคุยได้เลย ไปกันเยอะ หายค่าใช้จ่าย ก็ตกกันละ 400 กว่าบาทเท่านั้น (ราคาต่อคัน ก็ 2,000 บาทขึ้นไป เท่าไร เช็คกันอีกที)
หากคนน้อย เดินขึ้นไป สังเกต ฝังขวาจะมีรถ 2 แถว สีขาว ไว้คอนบริการ จะเหมาไปเที่ยวใกล้ๆ คือ ชมเขื่อน และภูเขารูปหัวใจ สะพานแขวน ซึ่งเป็นจุดที่ ต้องไปถ่ายให้ได้ก่อนกลับ
แต่สำหรับ กลุ่มที่เหมารถตู้นั้น นอกจาก 2 จุดนี้ ที่ได้ไปแน่ๆ ก็จะมีจุดอื่น ขึ้นอยู่กับการต่อรอง ราคาและเส้นทางที่ตกลงกันก่อนหน้านี้
เนื่องจากเราบินกลับ ดีก เราก็จัดเส้นทางไปเที่ยวคุ้มกับ ค่าราคาที่เหมาหน่อย ก็จะมีไปวัดดังของสุราษฯ ไปซื้อของฝาก ไปดูเขาทำไข่เค็มไชยา ชื่อดัง และตบท้ายด้วยแวะไปริมทะเล ชมวิว ก่อนกลับมาขึ้นเครื่องกลับ
เต็มที่...จุใจ
จบละเจอกันทริปหน้า
Earn Mat
วันอังคารที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2560 เวลา 15.27 น.