"เกาะเสม็ด" ไปกันบ่อยแล้วเนอะ...เราเองก็ไปบ่อยจนช่วงหลังจะไปทะเลทีไร เสม็ดจะกลายเป็นตัวเลือกท้ายๆ ทุกที แต่นึกไปนึกมาบอกปัดเสม็ดมาหลายปี ป่านนี้จะมีอะไรเปลี่ยนไปบ้างนะ ว่าแล้วก็ไปดูสักหน่อยดีกว่า ตอนนี้เกาะเสม็ดที่เราคุ้นเคยจะเป็นยังไงบ้างนะ

ป่ะ...ไปเที่ยวกัน ^^

DAY 1.

ทริปนี้ตั้งใจไปพักผ่อน เลยตื่นสายๆ เดินทางแบบไม่รีบร้อนนั่ง BTS ไปลงเอกมัยเพื่อขึ้นรถตู้ หลังจากจัดระเบียบรถตู้ที่อนุสาวรีย์ชัยฯ ตอนนี้ใครจะไปเสม็ดต้องมาขึ้นที่นี่ มาถึงก็ไม่ต้องงงเดินตามป้ายโลด

เชิญรับยาช่อง 2 จ้าาาา


ซื้อตั๋วเสร็จก็มาจับจองที่นั่งกันได้เลยที่ชานชาลา 22 ตั๋วไม่ระบุที่นั่ง ถึงก่อนมีสิทธิ์ก่อน ^^


เดินทางมาถึงเสม็ดก็เย็นแล้ว วันแรกก็เลยเลือกนอนพักผ่อนอยู่ที่ห้อง สำหรับทริปนี้เราพักที่ Ku at Sea เพิ่งเปิดใหม่ไม่นาน ตอนเราไปคือเดือนมีนาคมที่ผ่านมา พนักงานบอกว่าเพิ่งเปิดได้ไม่กี่เดือน อยู่ทางลงไปหาดทรายแก้วพอดี ห้องพักดีงาม ถึงจะไม่ติดหาดแต่สะดวกมากๆ


ถ้ายังนึกไม่ออกว่าอยู่ตรงไหน ที่นี่คือที่เดียวกับ Jump At Sea คาเฟ่สวยๆ แนวๆ ตรงทางลงหาดทรายแก้วนั่นแหละ สำหรับราคา โทรไปสอบถามได้ที่ 086 393 0329

ทางขึ้นจะอยู่ข้างๆ Jump At Sea เป็นประตูเล็กๆ ขึ้นมาจะเจอกับการตกแต่งที่น่ารักๆ แบบนี้

มาดูในห้องกันบ้าง

ขนมพวกนี้ฟรีนะ

มีคูปองอาหารเช้า พร้อมส่วนลดที่บาร์ริมหาดให้ด้วย

ใครที่เล่นน้ำเหนื่อยๆ กลับขึ้นมามีเครื่องชั่ง ให้ลองชั่งน้ำหนักดูว่าลดลงบ้างมั๊ย ^^


อย่างที่บอกว่าวันแรกมาถึงตอนเย็นมาก กว่าจะเก็บของ กว่าจะ Check in นู่นนี่นั่นก็มืด วันนี้เลยไม่ได้ออกไปไหน หาของกินแถวที่พักแล้วก็พักผ่อนอยู่ที่ห้อง


DAY 2.

ตื่นเช้ามาด้วยความหิวโหย ก็ลงไปกินอาหารเช้าที่ Jump At Sea ด้านล่างได้เลยสะดวกมาก


อาหารเช้ามีให้เลือกเป็น Set ก็เลือกเอาตามใจชอบ



มาดูบรรยากาศที่ Jump At Sea กัน

หลังจากกินอิ่ม ก็เช่ามอเตอร์ไซค์ขี่เล่นรอบเกาะ แวะดูความเปลี่ยนแปลงของเสม็ดตามหาดนู้นหาดนี้ไปเรื่อย พอใกล้เที่ยงก็มุ่งตรงมาที่ “อ่าวลุงดำ” อยากไปดูว่าสะพานไม้สุดคลาสสิคยอดนิยมของเหล่าวัยรุ่น ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง เพราะได้ข่าวว่าก่อนนี้พังไปส่วนนึง และอีกเหตุผลที่มาที่นี่ก็เพราะว่าตั้งใจมากินข้าวกลางวันพร้อมดื่มด่ำกับบรรยากาศสุดชิลที่ร้าน "อาปาเช่"

ที่อ่าวลุงดำมีบ้านพักที่ดูเรียบง่ายให้เลืกมากมาย แต่เราแอบชอบบ้านหลังนี้ ตื่นมานั่งดูวิวทะเลงามๆ หน้าบ้านได้เลย


ที่นี่มากี่ครั้งก็ยังบรรยากาศดีเหมือนดิม

ส่วนสะพานไม้ที่ตั้งใจมาดู ตอนนี้พังอยู่เหมือนเดิมยังไม่ได้ซ่อม แต่ก็ยังเดินไปถ่ายรูปได้ เราว่าสะพานไม้ขาดๆ แหว่งๆ แบบนี้ก็ดูแปลกตาไปอีกแบบ

หาดทรายกับน้ำทะเลที่อ่าวลุงดำ ถึงแม้ทรายจะไม่ขาวเท่ากับโซนอ่าวไผ่ หรือหาดทรายแก้วแต่ก็ถือว่าสะอาดน่าเล่นน้ำมาก


เดินเล่นถ่ายรูปอยู่สักพักก็ไปกินข้าวที่ร้าน "อาปาเช่" ที่นี่อาหารอร่อย ราคาดีงาม ที่สำคัญคือวิวนี่แหละ

ใครที่มองหามุมมสงบๆ บนเกาะเสม็ด แบบมานั่งทิ้งตัวปล่อยใจ แนะนำมาที่อ่าวลุงดำได้เลย ไม่ผิดหวังชัวร์


หลังจากเต็มอิ่มกับอาหารและบรรยากาศ เราก็ออกเที่ยวรอบเกาะกันต่อ ความเปลี่ยนแปลงที่สัมผัสได้ชัดเจนมากคือ “ถนน” ตอนนี้เส้นทางโดยรวมพัฒนาดีขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก แต่ก็ยังอดคิดถึงเสม็ดในสมัยที่ยังเป็นถนนดินธรรมดาๆ ไม่ได้ รู้สึกว่ามันคลาสสิคกว่า แต่มองในแง่ดีถนนแบบนี้ก็ทำให้ขี่รถได้ปลอดภัยและสะดวกมากขึ้น เผลอแป๊บๆ แวะครบทุกหาดแล้ว เราก็เลยวนกลับมาทางท่าเรือหน้าด่าน เพื่อแวะชิลดูวิวยามเย็นที่ร้านชื่อดัง "Bar & Bed Sleepless Society" ที่นี่นอกจากจะเป็นแหล่งท่องราตรีแล้ว ช่วงบ่ายๆ เย็นๆ ก็บรรยากาศดีไม่แพ้กัน

หลังจากนั้นก็กลับที่ไปพักผ่อน เตรียมตัวเดินทางกลับในวันรุ่งขึ้น

สำหรับเกาะเสม็ดครั้งนี้ถึงแม้บรรยากาศจะเปลี่ยนแปลงไปบ้างตามยุคสมัย แต่ต้องยอมรับว่ายังคงเป็นเกาะใกล้กรุงที่สามารถไปชาร์จแบตให้เราได้อย่างดีเหมือนเดิม ขอโทษนะที่ไม่ได้มาเยี่ยมซะนาน สัญญาว่าจะกลับมาใหม่เร็วๆ นี้นะเสม็ด

สุดท้ายต้องขอบคุณทุกคนที่อ่านมาจนถึงบรรทัดนี้ ระหว่างนี้มีข้อแนะนำติชม สามารถไปพูดคุยกันต่อได้ที่นี่เลย https://www.facebook.com/TheJourneyLover/

แล้วเจอกันใหม่นะ ^^


The Journey Lover

 วันศุกร์ที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2560 เวลา 17.35 น.

ความคิดเห็น