- NooJo Art and Farm -

#NJAAF

by Seally-Go-Round


กาลครั้งหนึ่งไม่นานมานี้ ณ ดินแดนแห่งหนึ่ง . . .

ดินแดนที่มีแต่ความเงียบสงบ โอบล้อมด้วยธรรมชาติ ดินแดนที่มีผู้อยู่อาศัยเพียงแค่ 2 คน คือคู่สามีภรรยา และมีลูกบ้านเป็น สุนัขพันธุ์ทาง 5 ตัว และเหล่าเพื่อนรักสัตว์ปีกที่ทำหน้าที่หลักคือสร้างโปรตีนที่มีค่าให้ทุกๆคนได้กินกัน

เราขอนิยามดินแดนที่มีชื่อว่า ' NooJo Art and Farm ' ให้เป็น ' ดินแดนแห่งการพึ่งพาตนเอง'


ที่ดินแดน NooJo Art and Farm แห่งนี้ ตั้งอยู่ใน จ.สมุทรสงคราม เลยอัมพวามาไม่ไกลเท่าใดนัก มีผู้อยู่อาศัยเพียง 2 คน เท่านั้น

คนนึง คือ พี่โจ

ชายหนุ่มศิลปิน ที่รักงานศิลปะเป็นชีวิตจิตใจ ทั้งงานปั้น งานไม้ และศิลปะงานช่างอื่นๆ พี่โจใช้เวลาทั้งวันในการทำงานคราฟท์ที่เขารัก

ส่วนอีกคนก็คือ พี่หนู ภรรยาของพี่โจ ที่มุ่งมั่นในงานหนังสือ และงานเย็บปักถักร้อย

ทั้งสองคนใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย ณ ที่แห่งนี้

โดยมีสมาชิกในบ้านเป็นแก๊งค์ Dog Rangers ชื่อญี่ปุ่นทั้ง 5 ตัว คือ มูจิ - มาริ - ชิมารุ - คุมะมง - ทามาโงะ

พร้อมด้วยผองเพื่อนฝูงเป็ดก้าบ ที่คุมทีมโดยคุณห่าน และ เจ้าไก่ไข่ที่อยู่ในเล้า

สมาชิกทั้งหมด อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข จนวันนึง ได้มีคนแปลกหน้าสองคนเดินทางเข้ามาในวันที่ฝนฟ้ากระหน่ำแบบไม่ลืมหูลืมตา

การเดินทางมาของแขกแปลกหน้าผู้มาเยือน ได้ส่งสัญญาณแจ้งให้พี่โจพี่หนูได้พอรู้เบาะแสการมานี่อย่างคร่าวๆ ผ่าน airbnb ที่ที่พี่โจพี่หนูใช้เป็นช่องทางไว้รับข่าวสารการมาเยือนของกลุ่มคนแปลกหน้าที่อยากจะเข้ามาสำรวจบ้าน NJAAF

. . . เมื่อชายหญิงแปลกหน้าสองคนขับรถมาถึงในขณะที่ฝนยังเทลงมาอย่างต่อเนื่อง

ดินแดน NJAAF เงียบสงบเหมือนไม่มีใครอยู่ เมื่อคนแปลกหน้าเดินลงจากรถและเดินไปใกล้โรงนาที่ปิดประตูอยู่นี้


เหล่าdog Rangers ที่มีพลังวิเศษ หูดีเป็นเลิศ ไม่คุ้นชินกับเสียงแปลกๆ จึงส่งเสียงเห่าระงมดังลอดออกมาจากประตู

ทันใดนั้น พี่โจที่กำลังง่วนกับงานปั้นอยู่นั้น ก็เปิดประตูออกมาทักทายผู้มาเยือน ด้วยความเป็นมิตร เหล่า Dog Rangers ทั้ง 5 ก็กรูกันออกมาพร้อมส่งเสียงเห่าต้อนรับ วิ่งล้อมหน้าล้อมหลังชายหญิงแปลกหน้า โชคดีที่ผู้มาเยือนทั้งสองคนชอบหมาอยู่เป็นทุน การต้อนรับของเหล่าผู้พิทักษ์สี่ขาจึงไม่สร้างความตระหนกให้แก่พวกเขาเลยแม้แต่น้อย

พี่โจเดินออกมา และรีบพาคนแปลกหน้าทั้งสอง เดินฝ่าฝนพรำไปยังบ้านใต้หลังคาที่ไว้ใช้สำหรับรับรองการมาเยือนของคนที่แปลกหน้าทั่วสารทิศ


NJAAF เป็นดินแดนแห่งความเรียบง่ายและสงบอย่างแท้จริง เป็นที่ๆปราศจากสิ่งอำนวยความสะดวกทั้งสิ้น ผู้ที่มาเยือนต่างก็รู้ล่วงหน้ามาแล้วว่า การเดินทางมาที่นี่ จะไม่ได้มีห้องรับรองที่มีที่นอนนุ่มๆ แอร์เย็นๆ หรือมีทีวีตู้เย็น อ่างอาบน้ำ อินเตอร์เน็ทความเร็วสูง เหมือนดั่งที่เคยไปท่องเที่ยวในดินแดนอื่นๆ

. . . แต่ทุกคนที่ตั้งใจมาที่นี่ ก็เพื่อที่จะได้สัมผัสความเรียบง่าย ขั้นพื้นฐานของมนุษย์ ก็เท่านั้น

พี่โจเดินพาแขกแปลกหน้าสองคน ไปดูห้องพัก ที่ขึ้นไปแล้วเป็นห้องใต้หลังคา มีเพียงมุ้งและเสื่อ ให้ได้เป็นที่พักผ่อนของค่ำคืนนี้

โป๊ก!!! . . . เสียงอะไรบางอย่างกระแทกกับหลังคาอย่างจัง

พี่โจ ตะโกนขึ้นมาว่า "พอดีเป็นเพดานต่ำ เหมือนห้องใต้หลังคา เดินระวังหัวหน่อยนะครับ พี่ก็โดนไปหลายโป๊กแล้วเหมือนกัน"

ดูท่าจะไม่ทันแล้ว เสียงศีรษะของผู้มาเยือนเคาะกับหลังคาไปแล้วเรียบร้อย 😊

เมื่อชายหญิงแปลกหน้าเก็บสัมภาระเรียบร้อย เขาและเธอออกเดินสำรวจดินแดนNJAAF ทันที แม้ฝนจะยังโปรยปรายไม่หยุด

หน้าฝนที่หลายๆคนไม่น่าจะชอบ บ้างก็ว่าเฉอะแฉะ แต่ฝูงเป็ดก้าบและ คุณห่าน ไม่คิดอย่างนั้น

ต่างเริงร่ากลางฝนฉ่ำอย่างมีความสุข

บรรยากาศหน้าฝนที่ที่ป็นธรรมชาติมันแสนชุ่มฉ่ำ สดชื่นอย่างบอกไม่ถูก

ในระหว่างที่ชายหญิงแปลกหน้า ชื่นชมธรรมชาติอยู่นั้น พลันเหลือบไปเห็นศาลากลางน้ำ ที่มีรูปแบบเรียบง่ายแปลกตา พวกเขาจึงเดินเข้าไปดู


ศาลาที่มีกำแพงทำมาจากบ้านดิน เจาะช่องมองให้เหมือนว่าเป็นกรอบรูปบานใหญ่ที่ใส่รูปวิวธรรมชาติเอาไว้ แต่รูปที่เห็นมันน่าตื่นตาตื่นใจกว่ารูปภาพวิวทิวทัศน์ธรรมดาทั่วไป เพราะ . . . วิวที่เห็นมันเคลื่อนไหวได้ !!!

เหมือนภาพสี่มิติอย่างไงอย่างงั้นเลย ภาพธรรมชาติต้นไม้เขียวๆที่ฉ่ำฝน มีสายลมพัดเอื่อยๆ มีฝนโปรย มีนกบิน . . . มันเป็นกรอบรูปที่มีชีวิต !!!

ระหว่างนั่งชมภาพวาดธรรมชาติจากกรอบรูปมีชีวิตในศาลาริมน้ำอยู่นั้น เขาสองคนก็สงสัยว่า แล้วพี่โจล่ะ พี่โจหายไปไหน

เค้าเดินไปใกล้โรงนาหลังใหญ่ที่ปิดประตูอยู่ เสียงฝีเท้าของผู้มาเยือน เดินเข้าไปใกล้ประตูมากขึ้น กระทบหูเหล่า เจ้าdogs Rangers ทั้ง 5 อย่างไม่ต้องสงสัย ....โฮ่งๆๆๆๆ โฮ่งงงๆๆๆๆ .... ประสานเสียงกัน แล้วพี่โจส่งเสียงร้องเรียกชื่อแต่ละตัวเงียบเสียง แต่ไม่มีเรนเจอร์ตัวไหนเงียบเสียงลงเลย

ผู้มาเยือนเอ่ยปากถาม พี่โจว่า : ทำอะไรอยู่คะพี่

พี่โจยิ้มและตอบมาว่า : พอดีช่วงนี้กำลังเร่งมือสร้างผลงานศิลปะชิ้นใหม่ๆ เพื่อจะนำไปจัดจำหน่ายในเมือง ชื่องานว่า บ้านและสวนแฟร์ ช่วงสิ้นเดือนนี้ ช่วงนี้เลยต้องทุ่มเทเวลาที่มีไปกับงานซะมาก

ผู้มาเยือน : พวกเรามารบกวนเวลาทำงานพี่โจรึเปล่าคะ

พี่โจ หันมองลอดแว่น แล้วยิ้ม ขณะที่มีกำลังแต่งถ้วยดินปั้นอยู่ : อ่อ ไม่เลยครับ เชิญๆๆ มานั่งคุยกัน

ผู้มาเยือน ขยับตัวเข้าไปใกล้พีโจ เหล่า Dogs Rangers ก็มองตาขวาง พร้อมส่งเสียงคำรามในลำคอ โดยเฉพาะ เจ้ามูจิ และเจ้ามาริ สองพี่ใหญ่ ที่หวงที่มากๆ

ผู้มาเยือน ค่อยๆกระเถิบทีละนิดๆ พลางบอกเหล่า Rangers ทั้ง 5ว่า ขอคุยกับพ่อหนูๆหน่อยนะลูก เรามาดี เรารักหมานะ

บรรดา Rangersเงียบเสียงลง แต่ก็ยังคงนั่งล้อมพี่โจ และ มองคนแปลกหน้าอย่างไม่ละสายตา และมีเสียงหึ่มๆในลำคอเบาๆ

จากนั้นบทสนทนาของพี่โจและผู้มาเยือน จึงเริ่มขึ้น ต่างแลกเปลี่ยนประสบการณ์ของชีวิตที่ผ่านมา บทสนทนาลื่นไหลไปด้วยดีด้วยความที่พี่โจและคนแปลกหน้ามีแนวความคิดหลายอย่างที่ไปในทางเดียวกัน

ก่อนที่พี่โจจะมาใช้ชีวิตที่ ดินแดน NJAAF ได้เดินทางผ่านประสบการณ์มาหลายต่อหลายอย่าง เคยทำงานในกทม. เคยเปิดร้านกาแฟอยู่อัมพวา เคยขึ้นไปใช้ชีวิตอาสาบนดอย และได้เคยได้เดินทางไปใช้ชีวิตที่ญี่ปุ่นกับพี่หนูมาเกือบปี ซึ่งที่ญี่ปุ่นคงเป็นที่ที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับทั้งคู่ จนกลายเป็นดินแดน NJAAF แห่งนี้ก็เป็นได้

นั่งไปสักพัก เหล่าบรรดา Dog Rangers เริ่มง่วง แล้วก็เริ่มวางใจว่า หญิงชายแปลกหน้าคงไม่มีอะไรน่ากังวล ผู้มาเยือนจึงอาศัยช่วงที่แต่ละตัวค่อยๆหลับ เดินย่องไปดูงานศิลปะที่สร้างสรรค์โดยพี่โจ ภายใต้โรงนา ที่สร้างขึ้นหวังเป็นแกเลอรีแสดงงานมากกว่าเป็นยุ้งฉางเก็บผลผลิตทางการเกษตรเหมือนที่อื่นๆ

พี่โจหลงใหล ศิลปะทำมือ แทบทุกชนิด ทั้งงานช่าง งานไม้ งานดินปั้น ชื่นชอบถ้วยโถโอชาม และผลงานของพี่โจส่วนใหญ่ก็มาจากสิ่งรอบตัวนี่เอง ทั้งดินแดน NJAAF รวมถึงบรรดาเหล่า Dog Rangers สุดแสบทั้ง 5

ทั้งงานแกะไม้

งานดินปั้น

งานเหล็กดัด

และสิ่งที่รักยิ่งของพวกเราทุกคน . . . ' ในหลวงรัชกาลที่ 9 ' พระมหากษัตริย์ผู้ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจให้ใช้ชีวิตอยู่อย่างพอเพียง

ส่วนพี่หนู ก็มีงานหนังสือและงานเสื้อผ้า เย็บปักถักร้อย เป็นงานศิลปะที่เธอรักและชื่นชอบ

เป็นแนวทางศิลปะที่ถนัดต่างจากพี่โจ แต่ผลงานของทั้งคู่ คือ การทำมือ เป็นงานคราฟท์ ที่ลงมือสร้างสรรค์ทำด้วยมือของทั้งสองคน

"ผมเชื่อเรื่องการพึ่งพาตนเอง"

พี่โจพูดขึ้นมาระหว่างสนทนากับผู้มาเยือน . . . การเดินทางของพี่หนูพี่โจในหลายๆที่ ทำให้คนทั้งสองมองเห็นสิ่งที่สังคมบ้านเราควรจะต้องเปลี่ยนแปลง แต่การเป็นคนตัวเล็กสองคนที่ไม่มีอำนาจบารมี ไม่มีบทบาทในการขับเคลื่อนหรือพัฒนาสังคมระดับประเทศได้

สิ่งที่ทำได้ดีที่สุด ก็คือ การเริ่มจากการเปลี่ยนตัวเอง

"การจะเปลี่ยนสังคมให้ดีขึ้น มันทำได้ยาก อย่างน้อยเราต้องเปลี่ยนตัวเองให้ได้ก่อน"

พี่โจพูดประโยคนี้เสริมขึ้นมา ซึ่งถือเป็นประโยคที่สามารถอธิบายการสร้างอาณาจักร NJAAF ได้เป็นอย่างดี อาณาจักรที่อยู่ท่ามกลางธรรมชาติ อยู่โดยไม่ต้องไปเดือดร้อนใคร อยู่ด้วยตัวของตัวเอง สิ่งที่คนเราที่อาศัยอยู่บนโลกที่ขับเคลื่อนด้วยทุนนิยมยากที่จะเข้าใจ . . .

เมื่อฝนเริ่มหยุด อากาศเย็นๆ ได้กลิ่นไอดินหอมๆลอยมา ผู้มาเยือนขออนุญาตเดินออกจากโรงนา เพื่อให้พี่โจได้มีเวลาในการสร้างสรรค์งานศิลป์ได้อย่างเต็มที่

ในเวลานี้เหล่า Dog Rangers เริ่มจะคุ้นชินกับหญิงชายแปลกหน้าบ้างแล้ว ทั้ง 5 ตัววิ่งนำมาบนศาลากลางน้ำ และเริ่มที่จะสนิทสนมกับคนแปลกหน้ามากขึ้น

โดยเฉพาะ เจ้าทามาโงะ และเจ้าคุมะมง ที่ดูจะเป็นมิตรกว่าตัวอื่นๆ

ส่วนมูจิพี่ใหญ่สุด ยังคงไว้ท่า วางมาดเป็นเจ้าถิ่นที่น่าเกรงขาม

ผู้มาเยือนนั่งเล่น นั่งนิ่งดูความเคลื่อนไหวของธรรมชาติที่เป็นไปอย่างช้าๆ อยู่บนศาลาริมน้ำ นานเท่าไหร่แล้วที่พวกเขาไม่ได้ใช้ชีวิตแบบนิ่งๆ ช้าๆ แบบนี้


นานเท่าไหร่แล้ว ที่ไม่ได้นั่งมองนกบินไปบินมา เกาะกิ่งโน้นที เกาะกิ่งนี้ที

ดูปลาตะครุบเหยื่อผิวน้ำ

สายลมเย็นๆกับกลิ่นฝนฉ่ำ พาให้ตาค่อยปิดและหลับไปอย่างไม่รู้ตัว . . .

สักพักเหล่า Dogs Rangers วิ่งกรูไปหน้าบ้าน มีเสียงรถยนต์ขับเข้ามา ไม่ใช่ใครที่ไหน พี่หนู นี่เอง

เสียงเจ้าเรนเจอร์ทั้ง 5 ปลุกให้ผู้มาเยือนตื่นจากภวังค์ แล้วลุกขึ้นมาทักทายเจ้าบ้านอีกคนที่เพิ่งกลับมาจากไปทำธุระข้างนอก พี่หนูกล่าวสวัสดีด้วยรอยยิ้มของเจ้าบ้านที่เป็นมิตร แต่ที่แน่ๆไม่มีใครดีใจเท่าเหล่าลูกบ้านที่มาออต้อนรับการกลับมาของแม่ ทั้งหมา ทั้งเป็ดก้าบ ทั้งห่าน ทั้งไก่ เพราะเหมือนจะรู้เวลาว่า แม่กลับมาเมื่อไหร่ ก็จะได้เวลาอาหารเย็นของลูกๆแล้ว


ภาพน่ารักระหว่างคนกับสัตว์เลี้ยง เผยยิ้มเล็กๆคนผู้มาเยือนที่นั่งดูอยู่

พอจัดการสมาชิกในบ้านให้อิ่มหนำสำราญกันแล้ว พ่อบ้านแม่บ้านก็กลับมาทำงานของตัวเองต่อ ชีวิตประจำวันของทั้งสองคนที่คล้ายกันแทบทุกวันจนแทบจะลืมวันลืมคืน เพราะมันเหมือนไปหมดแทบทุกวัน

ฟ้าเริ่มมืด ที่นี่ยิ่งเงียบสงบ เจ้านกน้อยกลับรัง เป็ดก้าบเข้าเล้านอนกันหมดแล้ว เหลือแต่เพียงเสียงกบเสียงแมลงที่ส่งเสียงร้องเบา ให้ค่ำคืนที่นี่ไม่เงียบจนเกินไป

คืนนี้ท้องฟ้าสว่างกว่าปกติเพราะเป็นคืนเดือนเพ็ญ ท่ามกลางอากาศเย็นของต้นไม้ใบหญ้าที่ฉ่ำฝน บรรยากาศที่พาให้ผู้มาเยือนสองคนหลับไปแบบไม่รู้ตัว

zzzZZZzzZZ . . .

รุ่งเช้าของวันใหม่ ทีฟ้ายังไม่สว่างดี

อากาศกำลังเย็นสบาย โดยปราศจากเครื่องปรับอากาศ ลมธรรมชาติช่วงเช้าๆก็เย็นสบายจนทำให้ไม่อยากตื่น

เอ้ก-อี-เอ้ก-เอ้ก .... เสียงพี่ไก่ไข่ตัวผู้โก่งคอขัน รับเช้าวันใหม่ เสียงของมันดังพอที่ปลุกผู้มาเยือนที่กำลังหลับสบายอยู่ในมุ้งของห้องใต้หลังคา งัวเงียขึ้นมาหาที่มาของเสียง

แต่แล้วก็มีตัวประหลาดวิ่งเข้ามาหน้ามุ้ง ผู้มาเยือนตกใจหายงัวเงียทันที มองลอดผ่านมุ้งเห็นอะไรไหวๆกระดุ๊กกระดิ๊ก

คุ-มะ-โมงงงงงงง.... ใช่แล้ว คุมะมงทำหน้าที่มอร์นิ่งคอล ผู้มาเยือนแต่เช้าเลย


ไม่เฉพาะคุมะมง เหล่า ด็อกเรนเจอร์ทั้ง 5 มากันพร้อมหน้าที่ใต้ถุนของเรือนรับรอง

เช้าๆแบบนี้ อากาศที่ NJAAF ก็ยังคงเงียบสงบ ได้ยินเสียงนกร้องที่กำลังบิกออกไปหากิน

ส่วนพี่หนู พี่โจ ก็ตื่นมาจัดการกับสมาชิกในบ้านเหมือนเช่นทุกวัน

พี่หนูเช้านี้รับบทเป็นแม่ครัวเบเกอรี่ กำลังอบขนมปังเพื่อที่จะเสิร์ฟเป็นอาหารเช้าให้กับผู้มาเยือน

ครัวของดินแดน NJAAF ช่างเรียบง่ายอะไรเช่นนี้ ไม่มีเตาแก๊ส ไม่มีไมโครเวฟ

ผู้มาเยือนสงสัย อ่าว แล้วพี่หนูเค้าทำอาหารด้วยอะไรกันนะ

พี่หนูบอกว่า "ที่นี่เราใช้เตาฟืนในการทำอาหารค่ะ"

...เตาฟืน !!!

มันไม่ง่ายเลยนะ ที่จะใช้เตาฟืนทำอาหาร ผู้มาเยือนยืนตะลึงอยู่ในขณะที่พี่หนูก็นวดแป้งขนมปัง

โดยมีอารักขาเป็นเจ้ามูจิกับเจ้ามาริ และทามาโงะที่นอนเฝ้าอยู่รอบๆ

ส่วนพี่โจก็ทำหน้าที่ปล่อยให้ Mother Goose กับ ฝูงเป็ดก้าบ ออกมาเดินเล่นข้างนอกกัน


พอฝูงเป็ดก้าบออกพ้นเล้าไปแล้ว พี่โจก็จะเข้าไปเก็บไข่เป็ดมา เพื่อที่จะใช้เป็นวัตถุดิบอาหารเช้าของผู้มาเยือนในวันนี้

แค่มีฝูงเป็ดก้าบ

และพี่ไก่ไข่ พี่หนูพี่โจก็มีแหล่งผลิตโปรตีนชั้นดี จากแม่เป็ดแม่ไก่อารมณ์ดี ที่อยู่กันอย่างธรรมชาติ มีไข่ให้เก็บกินเหลือเฟือเลย

พอเก็บไข่เป็ดเรียบร้อย ถึงคราวที่พี่โจลุยสวนบ้างแล้ว

นอกจากคาร์โบไฮเดรตจาก ขนมปังที่นวดเอง อบเอง โปรตีนจากไข่เป็ดไข่ไก่ ที่นี้ถึงคราวของผักใบเขียวบ้าง

แปลงผักเล็กๆข้างศาลาริมน้ำ เป็นแหล่ง วิตามินชั้นดี ที่พี่โจปลูกและเก็บกินอยู่ทุกวัน ผักสลัดสดๆสะอาดๆ ไร้สารเคมี ทำได้ง่ายๆ ด้วยมือเราเอง

พี่หนู ถามผู้มาเยือนว่า หิวกันรึยังเอ่ย เดี๋ยวรออบขนมปังให้สุกก่อนนะคะ ... ผู้มาเยือน ตอบรับว่า ตามสบายเลยค่ะ พี่หนู ยังไม่ค่อยหิวค่ะ (แต่ในใจนี่ตื่นเต้น อยากเห็นหน้าตาของอาหารเช้าทำมือ มื้อนี้แทบไม่ไหวแล้ว)

ในระหว่างที่รอพี่หนูกับพี่โจ บรรเลงอาหารเช้ากัน ผู้มาเยือนก็นั่งเล่นที่ศาลาริมน้ำกับเจ้าทามาโงะ และชิมารุ 2 เรนเจอร์ ที่ดูจะผูกมิตรได้ง่ายที่สุด พยายามมาตีซี้กับผู้มาเยือน

แม้ว่าหน้าตาจะดูโหดๆ

ซึ่งตอนนี้สนิทจนเหมือนกับรู้จักกันมานาน

เบื่อๆก็ไปเล่นกันเองสองตัว จริงๆแล้ว ทามาโงะ-ชิมารุ-คุมะมง เป็นพี่น้องกัน เกิดจาก คุณแม่มาริ แต่เป็นพี่น้องที่ต่างกันไปคนฝาเลยก็ตาม

วันนี้อากาศดี มีแดดอ่อน ฝนไม่ตกแล้ว

นกน้อยออกมาบินเล่นกันอย่างสนุกสนาน

ระหว่างรออาหารเช้า ผู้มาเยือนก็ใช้เวลาตอนนี้สูดอากาศดียามเช้า ดีจนแทบจะหลับต่ออีกสักรอบ

กลิ่นหอมจากในครัวเตาฟืนเริ่มโชยมา ผู้มาเยือนเดินตามกลิ่นอาหารไปที่ครัว

พี่โจกำลังทำ แฮมเบอร์ก กับดาวไข่ ด้วยเตาฟืนอยู่

ผักสลัดสดที่ได้จากสวนครัวข้างศาลาริมน้ำเมื่อกี๊


ทันเวลาพอดีกับขนมปังที่เพิ่งอบสุกใหม่

เมื่อพี่หนูกับพี่โจประกอบอาหารเสร็จก็นำมาจัดจานวางเสิร์ฟ เมนูอาหารเช้าทำมือ ด้วยฝีมือของพี่หนูพี่โจก็พร้อมเสิร์ฟแล้ว

ผู้มาเยือนถือจานอาหารเช้าทำมือ มานั่งทานกันที่ศาลาริมน้ำ โดยมีทามาโงะมานั่งเฝ้าเป็นเพื่อน

มื้อนี้ ผู้มาเยือนได้ทานชุดอาหารเช้าทำมือ ที่ประกอบไปด้วย ขนมปังนุ่มๆที่อบสดใหม่ โดยพี่หนู และ แฮมเบิร์ก กับไข่ดาว พร้อมผักสลัดสดราดซอสบัลซามิคกาแฟสด และ มะละกอที่เพิ่งเด็ดมาจากต้น เป็นของหวานตบท้าย

อาหารมื้อนี้อิ่มท้องด้วย อิ่มใจด้วย เป็นมื้อเช้าที่มีประโยชน์ครบ 5 หมู่ จากวัตถุดิบในดินแดน NJAAF ดินแดนแห่งการพึ่งพาตนเองอย่างแท้จริง

สองซี้ ชิมารุกับทามาโงะ มาการันตีความอร่อย

หลังจากมื้อเช้าแล้ว ผู้มาเยือนเริ่มเก็บข้าวของเตรียมพร้อมเดินทางไปยังดินแดนอื่นกันต่อ

ก่อนจากลา ผู้มาเยือนนั่งคุยกับพี่หนูพี่โจสักพัก และเมื่อถึงเวลาต้องไป พี่หนูพี่โจต่างรีบวิ่งไปนำของที่ต่างก็เตรียมไว้ มาฝากให้ผู้มาเยือนได้นำกลับไปด้วย

พี่หนูเตรียมไข่เป็ดถุงใหญ่ ที่เพิ่งเก็บมาใหม่จากเล้าของพี่เป็ดก้าบ ใส่ถุงรองด้วยฟางอย่างดี ไข่ถุงนี้คงจะนำไปทานได้หลายวันเชียวหล่ะ

พี่โจก็รีบวิ่งไปหยิบของในโรงนามา เป็นโปสการ์ดทำมือ ในรูปก็ไม่ใช่ใครที่ไหน คือเจ้ามูจิกับมารินี่เอง

พี่โจยื่นโปสการ์ดพร้อมอธิบายภาพในการ์ดที่เค้าวาดเองว่า ในรูปนี้เป็นโรงนานี่แหล่ะ ตอนย้ายมาอยู่ใหม่ เวลาเปิดประตูทีไร เจ้าสองตัวนี่ก็จะวิ่งออกมาแบบในรูปนี้ทุกที พี่โจเล่าอย่างมีความสุข

ผู้มาเยือนยิ้มแก้มปริกับของฝากที่มอบให้จากใจ ความสุขของการแบ่งปันเกิดขึ้นทั้งคนให้และคนรับ ^^

ถึงเวลาที่ผู้มาเยือนสตาร์ทรถ และค่อยๆ เคลื่อนออกจากประตูดินแดน NJAAF แล้ว มองผ่านกระจกมอง พี่โจพี่หนูและเหล่า Dog rangers ยืนส่งผู้มาเยือนจนออกจากอาณาเขตของดินแดนนี้ไป

บัดนี้ . . . พี่หนูพี่โจกับผู้มาเยือนก็ได้เปลี่ยนสถานะ จาก คนแปลกหน้า กลายมาเป็น เพื่อนร่วมอุดมการณ์ แล้ว ที่เชื่อมั่นอย่างยิ่งว่า . . .

"การพึ่งพาตนเอง คือ วิถีที่จะทำให้เรามีชีวิตที่สงบสุข "

- THE END -


ก่อนจากกัน มีข้อคิดดีๆ ที่เจ้าทามาโงะ ฝากมาบอกว่า

" Self-Reliance makes your complicated life easier "

การพึ่งพาตนเองจะช่วยทำให้ชีวิตที่ยุ่งเหยิงของคุณง่ายขึ้นเยอะเลย ^^


. . . พบกันใหม่ครั้งหน้าค่ะ . . .

- Seally.Go.Round -

https://www.facebook.com/seallygoround/

*** ข้อมูลการเข้าพัก ***

- สนใจไปพักที่ NooJo Art and Farm ให้จองผ่านทาง Airbnb ได้เลยค่ะ https://th.airbnb.com/rooms/9909730

- การเดินทาง คือ ถ้าขับรถไป ให้ไปเส้นทางที่ไปสมุทรสงครามเลยค่ะ เลยอัมพวาไปไม่ไกลมาก ล็อกพิกัดใน google map ว่า NooJo art and farm ได้เลย ไม่หลงแน่นอน

- แต่ถ้าไม่ได้ขับรถไป ก็นั่งรถไฟจากหัวลำโพงไปก็ได้ค่ะ ไปลงที่สถานีปากท่อ จ.ราชบุรี ซึ่งอยู่ห่างจาก หนูโจฟาร์มไม่ไกลมาก แล้วอาจจะรบกวนให้พี่โจมารับที่สถานีรถไฟ เหมือนกับรีวิวนี้ที่มีคนเคยไปด้วยรถไฟ https://pantip.com/topic/36068671/comment7

- ส่วนค่าที่พัก อยู่ที่ประมาณ 500 บาท/คน ค่ะ มีอาหารเช้าให้

*** ที่นี่ไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกเหมือนที่อื่นๆนะคะ ตามที่เล่าไว้ในรีวิวเลยค่ะ เหมาะสำหรับคนอยู่ง่ายกินง่าย อยากมาใช้ชีวิตเงียบๆอยู่แบบฟาร์มสเตย์ค่ะ ***


ความคิดเห็น