เมื่อเอ่ยถึงประเทศญี่ปุ่น หากเป็นสาว ๆ เชื่อว่าหลายคนคงจะนึกถึงการช้อปปิ้งเครื่องสำอางเป็นอันดับแรก ส่วนหนุ่ม ๆ ก็คงจะนึกถึงพวกหุ่นยนต์กันดั้ม หรือหากเป็นสายฮาร์ดสักหน่อยอาจจะคิดไปไกลถึงเซ็กซ์ทอยอันเลื่องชื่อ ฮ่า ๆ แต่วันนี้ หยกจะพาเพื่อน ๆ ไปเที่ยวภูเขาไฟฟูจิ แลนด์มาร์ก ตามธรรมชาติที่สวยงาม พร้อมให้นักท่องเที่ยวมาชมกันได้ไม่ว่าจะเป็นฤดูไหนก็ตาม


ครั้งนี้หยกเดินทางมาเที่ยวโตเกียวในช่วงเดือนกรกฎาคม ซึ่งถือว่าเป็นการเดินทางมาในช่วงหน้าร้อน และถือเป็นการเดินทางมาทัวรฺ์โตเกียวระยะสั้น ๆ เพียงแค่ 3 วัน 3 คืนเท่านั้น แต่ก็ถือว่าคุ้มค่าค่ะ เพราะถึงจะไม่ได้มาสัมผัสอากาศหนาวของญี่ปุ่น แต่ก็ถือว่าโชคดีมาก ๆ เพราะวันที่เดินทางมาชมภูเขาไฟฟูจิ เราออกเดินทางกันออกมาแต่ช่วงเช้า ทำให้แดดไม่จ้าจนร้อนเกินไปและยังไม่มีนักท่องเที่ยวมากนัก แถมอากาศยังเคลียร์มาก แทบจะไม่มีเมฆและไม่มีหมอกมาบดบังความสวยงามของภูเขาไฟลูกนี้เลย

เริ่มต้นเรามาทราบประวัติของภูเขาไฟฟูจิกันสักหน่อย ภูเขาไฟลูกนี้ถือเป็นภูเขาที่สูงที่สุดในประเทศญี่ปุ่นอยู่ทางตะวันตกของเมืองโตเกียวซึ่งเป็นเมืองหลวงของประเทศญี่ปุ่นนั่นเอง พื้นที่โดยรอบภูเขาลูกนี้มีทั้งทะเลสาบ อุทยานแห่งชาติ และน้ำตก ขึ้นชื่อว่าภูเขาไฟแล้ว หลายคนคงแอบสงสัยว่าเจ้าภูเขาไฟลูกนี้มีโอกาสจะประทุรึเปล่า แต่ไม่ต้องกลัวไปค่ะเพราะนักวิทยาศาตร์ได้จัดให้ภูเขาไฟลูกนี้เป็นภูเขาไฟที่มีโอกาสประทุได้ต่ำ เพราะครั้งล่าสุดที่ประทุนั้น เกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อปี พ.ศ. 2250 หรือเมื่อ 310 ปีที่แล้วโน้นค่ะ

จุดแรกที่ทัวร์พามาจอดชมวิวของภูเขาไฟฟูจิ เรียกว่า ฟูจิสเตชั่น ซึ่งบริเวณสเตชั่นนี้ นอกจากจะเห็นวิวของภูเขาไฟได้ทั้งลูก พร้อมกับทะเลสาบใสแจ๋วที่ตั้งอยู่ตรงหน้าแล้ว ยังมีแปลงดอกลาเวนเดอร์และการจัดสวนดอกไม้ทหลากสีสวยงาม ให้นักท่องเที่ยวได้ใช้เป็นพร็อพถ่ายรูปพร้อมกับมีฉากหลังเป็นฟูจิซัง แลนมาร์กของประเทศญี่ปุ่นได้อย่างงามงด เรียกว่าได้ชมความงามของธรรมชาติกันอย่างเต็มอิ่มเต็มตาเลยทีเดียว

หลังจากชมวิวของภูเขาไฟฟูจิบริเวณด้านล่างกันแล้ว เราก็ขึ้นไปชมภูเขาไฟลูกนี้ให้ใกล้เข้าไปอีกนิด ก็คือบริเวณฟูจิ สเตชั่น 5 ซึ่งใช้เวลาขับรถขึ้นไปจากจุดแรกประมาณ 20 นาที ชั้นนี้เราจะได้ชมความสวยงามของภูเขาไฟลูกที่ตั้งตระหง่านอยู่ตรงหน้าได้อย่างชัดเจนยิ่งขึ้น ตรงแถบสีขาว ๆ บนยอดภูเขาไฟนั่นคือเศษหิมะที่ยังละลายไม่หมด ทิ้งความสวยงามเอาไว้จนถึงหน้าร้อนทำให้เราได้เก็บภาพสวย ๆ กลับมาค่ะ

สำหรับคนที่ชอบเดินป่า ขึ้นเขา ชอบผจญภัย นักท่องเที่ยวสามารถเดินขึ้นไปยังยอดภูเขาไฟฟูจิ เพื่อค้างแรมชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามได้ด้วยนะคะ แต่คงต้องใช้เวลาเป็นวันอาจจะ 1-3 วัน ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ รวมถึงต้องฟิตร่างกายมาเป็นอย่างดีและต้องมีไกด์นำทางด้วยค่ะ

ไม่เพียงเท่านั้น ชั้นนี้ยังมีศาลเจ้าให้นักท่องเที่ยวได้สักการะ รวมถึงยังมีวิวเชิงภูเขาไฟฟูจิชั้น 5 ให้ได้พักผ่อนดื่มด่ำ ชมบรรยากาศของเทือกเขาเขียวตัดกับท้องฟ้าที่แสนสดใสของประเทศญี่ปุ่นในยามหน้าร้อนกันด้วย

ปิดท้ายกับภาพคู่ฉากหลังฟูจิซังช่วงซัมเมอร์ซักหน่อย เดี๋ยวจะหาว่าไม่ได้มาจริง อิอิ

แน่นอน ไม่ว่าใคร ๆ ช่วงนี้ก็มีแต่ไปเที่ยวญี่ปุ่น เพราะประเทศนี้ฟรีวีซ่าให้กับคนไทยเที่ยวได้ตั้ง 15 วัน แถมยังมีทัวร์แข่งกันทำราคาน่าสนใจอีกต่างหาก เพราะฉะนั้น นอกจากมาช้อปปิ้งแล้ว ก็อย่าลืมมาชมความงามของฟูจิซังกันด้วยนะคะ รับรองว่าต้องหลงรักความสวยงามของภูเขาไฟลูกนี้เหมือนกับหยกแน่นอนค่ะ

ภาพ : Samsung Galaxy Note 4

แต่งภาพ : Adobe Photoshop Lightroom

https://www.facebook.com/YokoGoAround/


Time2Travel

 วันจันทร์ที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2560 เวลา 19.22 น.

ความคิดเห็น