กอดตัวเองมันเหงา ออกไปกอดเขาดีกว่า @เขาล้อมหมวก เที่ยวคนเดียว แบบไม่ง้อรถส่วนตัว กับ งบสบายกระเป๋า

เรายังคง Concept เดิม ไม่มีรถแล้วไง อยากไปก็ต้องได้ไป!

BackPackหนีเที่ยว : 2 วัน 2 คืน กับ เงินแค่ 1,500 บาท

ทุกครั้งที่ไปต้องมีคำถาม ? ไปเที่ยวคนเดียวมันจะสนุกหรอ - มันอันตรายรึเปล่า - ทำไมไม่รอเพื่อนไปด้วยละ

เราก็จะตอบไปทุกครั้งว่า :

- เราว่าเราไปคนเดียวมันก็สนุกในแบบของเรานะ เราอยากทำอะไรเราก็ทำ เราอยากกินไรเราก็กิน เราอยากนั่งมองคนอื่นเฉยๆเราก็นั่ง เราไม่ต้องมานั่งห่วงใคร สบายใจจะตายไป ส่วนเพื่อนใหม่ถ้าเราคุยเราก็หาได้ตลอดนั่นแหละ

- ส่วนเรื่องอันตราย เราว่าถ้าดวงมันซวยนั่งอยู่บ้านมันก็ซวย อยากทำไรกะทำไปสบายใจจะตาย

- รอเพื่อนหรอ...... ถ้านั่งรอเพื่อนจะได้ไปไหม

เริ่มต้นการเดินทางกันดีกว่า

วันที่ 7 ก.ค. 2560

การเดินทางของเราจะเดินทางด้วยรถทัวร์ของบางสะพานทัวร์ รอบ 23.59 น.
( เราเลือกออกเดินทางรอบนี้เพราะเรากะว่าจะไปถึงประจวบตอนประมาณ 4.00 กว่าๆ เพื่อเราจะขึ้นเขาแต่เช้าเลย โดยเราได้นัดกับพี่เจน
พี่เจ้าของ Hostel ที่เราพักมารับเราจากจุดลงรถพี่เค้าก็แนะนำเราทุกอย่างเลยน่ารักมาก )

โดยรถจะออกจากสายใต้ใหม่รถจะออกตรงเวลานะครับ วันที่เราไปคนมาไม่ทันเต็มเลยล่ะ และพอรถออกพนักงานเดินมาเก็บตั๋วเค้าก็จะถามว่าเราลงไหนเพื่อมาเรียกให้ลงตามจุดได้ถูกคือเราไม่ต้องกลัวหลับเลยไป ของเราบอกเค้าว่าลง " จุดจอดทางหลวงประจวบ "

และแล้วเวลา 4.12 น. เราก็มาถึงจุดลงรถของเราแล้ว

มาถึงเราก็โทรหาพี่เจนว่าเราถึงแล้ว พี่เจนเค้าก็มารับเราจากจุดที่เราลงรถ ตอน ตี 4 ยังมารับน่ารักม่ะละๆ

และเราก็เดินทางไปที่พักของเรากัน โดยเราพักที่ De Hostel

เป็นห้องพักที่น่ารักๆ เงียบสงบไม่วุ่นวายกับใคร เหมาะสำหรับการมาพักผ่อนแบบส่วนตัวมาก

เผื่อใครสนใจเบอร์โทรสอบถามได้ตามนี้เลยนะ ของเค้าดีก็อยากแนะนะ

พอใกล้ๆ 6 โมง เราก็เตรียมตัวอาบน้ำ ออกไปดูพระอาทิตย์ขึ้น และก็ไปขึ้นเขากันดีกว่า

นี่คู่หูการเดินทางของเรา เช่าพี่เจนมา 200 /วัน สายแว๊น

ออกมาใส่บาตรก่อนเลยวันนี้วันอาสาฬบูชานี่หน่า พอเสร็จเราก็มานั่งดูพระอาทิตย์ขึ้นริมทะเล

และก็มุ่งไปสู่เป้าหมายของเรากันเลย ที่เขาล้อมหมวก โดยเขาล้อมหมวกจะตั้งอยู่ในกองบิน 5

สิ่งที่เราต้องเตรียมไปตอนเข้ากองบินคือบัตรประชาชน เพราะเค้าจะให้แลกบัตรก่อนเข้ากองบิน และ

ถ้าเราขี่มอเตอร์ไซต์ไปต้องใส่หมวดกันน๊อคด้วยไม่งั้นไม่ได้นะ

สิ่งที่เราต้องเตรียมตอนเราจะขึ้นเขา ต้องใส่รองเท้าผ้าใบ , น้ำดื่ม กับ ถุงมือ

(ถุงมือตอนขึ้นอ่ะไม่ต้องก็ได้แต่ของลงนี่มันเป็นเชือกมันจะเจ็บมือมากเลย ตอนเราไปนี่ไม่ได้ใส่เจ็บหมดเลย)

ไปคนเดียวมันจะยากก็ตอนถ่ายรูปนี่แหละเนอะ ต้องวานคนอื่นเค้าถ่ายให้ แฮร่รร

ตอนเราไปก็ลุ้นกับฝนอยู่นะเพราะก่อนหน้านี้ตกทุกวันเลย แต่ก้โชคดีไม่ตก

ตอนนี้เวลาประมาณ 11 โมงแล้ว เราก็ลงมาถึงตีนเขาแล้ว
ได้เวลาเช็คอินห้องพักพอดีเลย มาดูกันดีกว่าว่าห้องพักจะเราจะสวยเหมือนในรูปไหมน๊าาา

พอเปิดห้องมา โอ้ววว!!! ห้องนอนสีชมพู สีมันช่างหวานเหมาะกับผู้ชายอย่างเราเหลือเกิน

อ๊ะๆ จะบอกว่าห้องพักที่นี่จะมีทั้งหมดแค่ 4 ห้อง เองนะ ( ถามราคาห้องอื่นมาให้ด้วยเผื่อใครจะไปพัก )

ห้องทั้งหมดจะอยู่ที่ชั้น 2 โดยข้างล่างที่พักเป็นร้านกาแฟเล็กๆ ตามในรูปเลย ตอนช่วงบ่ายๆคนจะมานั่งกันกันเยอะเลย

อย่างห้องที่เราพักราคาแค่ 550 บาท เอง เป็นห้องเตียง 2 ชั้น ตามรูปอ่ะ ตั้ลล๊ากม๊ะๆ

ห้องใหญ่ก็มีนะสำหรับคนที่มาเที่ยวกับเพื่อน เป็นห้องนอนได้ 3 คน ราคาแค่ 890 และ อีกห้องนอนได้ 4 คน ราคา 1,100 บาท

เก็บของเข้าห้องกันดีกว่า จะได้อาบน้ำ และออกไปหาอะไรกินดีกว่า หิวแล้วววว

ข้าวผัดปูร้านใกล้ๆ ราคา 50 บาท ปูเยอะดีด้วย และก็มากินโกโก้ที่ Hostel เรานี่เองเห็นคนเยอะดีลองซะหน่อยๆ

นั่งกินเสร็จกำลังจะออกไปขี่มอไซค์เที่ยว ไปทางอ่าวน้อย ซะหน่อยฝนดันตกลงมาซะงั้น

เลยต้องกลับมานอนที่ห้องเลยไปไหนไม่ได้

และเราก็เผลอหลับไปตอนไหนไม่รู้ ตื่นอีกที 4 โมงเย็น เวรกำจิงเลย

เลยออกไปขี่รถเล่นตามชายทะเลไปเรื่อยๆจนถึงทางอ่าวน้อย

พอช่วงเย็นเราก็มาเที่ยวถนนคนเดินริมทะเลกันดีกว่า บรรยากาศครึกครื้นเลยที่เดียวเพราะเป็นวันหยุดยาวด้วย

มะพร้าวนี่ ลูกละ 35 บาทเอง ยืนต่อคิวตั้งนานกว่าจะได้มา

หมดแล้ววันแรกของการเดินทางของเรา วันนี้คงต้องพักเก็บแรงก่อนแล้ว พุ่งนี้ต้องตื่นไปขึ้นเขาช่องกระจกแต่เช้า

วันที่ 8 ก.ค. 2560

ในวันนี้เราตั้งใจจะมาดูพระอาทิตย์ขึ้นที่ริมทะเลแต่เช้า เราก็ตั้งนาฬิกาปลุกไว้เรียบร้อย 6 โมงเช้า
คิดว่ายังไงเราก็ได้ดูแน่นอน แต่พอถึงเวลา 6 โมง มีการเลื่อนจ้า

6.15 น. อีกนิดละกันยังง่วงอยู่เลย

6.30 น. ออกมาดู อ้าวเอ้ย! ฟ้ายังไม่เปิดเลยฝนจะตกเปล่าเนี้ย

7.00 น. อ้าว! แดดมาไวว่ะเนี้ย สว่างจ้าเลย

รีบแปรงฟัน เปลี่ยนชุดเลย ( น้ำค่อยกลับมาอาบละกันเนอะ ยังหอมอยู่เลย )