วันหยุดสุดสัปดาห์มาถึง ก็คงไม่พ้นคำถามเกิดขึ้นเบาๆทุกครั้งคือ ไปไหนดีนะ

และสำหรับสัปดาห์นี้ เรามาพักผ่อนชิลๆ กันที่ หัวหินๆๆๆ เมืองชิคๆ ถิ่นคนคูลๆ อยู่ๆไม่ใกล้ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ

เราเดินทางด้วยรถส่วนตัว สำหรับใครที่มาหัวหินไม่ถูก วิธีที่ง่ายที่สุดคือเปฺิด GPS แล้วขับตามมาเลย ใช้เวลาไม่นานแค่ประมาณ 4 ชม. ก็ถึงแล้ว

และที่พักของเราในทริปนี้ เป็นเกสเฮาส์เล็กๆน่ารัก ชื่อ Lemon house 51 ซึ่ง 51 ก็มาจาก หัวหินซอย 51 นั่นเอง หาไม่ยากเลยค่ะ ตรงเข้าซอยมาไม่ลึกมาก จะมองเห็นป้ายอยู่ซ้ายมือ ที่จอดรถตามอัธยาศัยเลยค่ะ เพราะติดกับถนนตรงไหนว่างก็จอดได้ยาวๆไปเล้ย

ที่เลมอนเฮาส์ 51 นี้ เพิ่งเปิดมาได้ไม่นาน (ประมาณ 2 เดือนเอง ) ทุกอย่างสะอาดใหม่เอี่ยม ที่นี่มีห้องพักทั้งหมด 6 ห้อง แบ่งเป็นห้อง Superior 2 ห้อง , ห้อง Deluxe 2 ห้อง , และห้อง Standard อีก 2 ห้อง จุดเด่นของที่นี่คือ เป็นห้องพักใกล้ทะเล แบบว่าเดินไม่ถึง 5 นาที ก็ลงเล่นน้ำทะเลได้เลย แต่ให้บริการใรราคาเบาๆ เริ่มต้นเพียง 800 บาทเท่านั้นเอง มีบริการรถรับ-ส่ง และมอเตอร์ไซค์ให้เช่าด้วย

ถึงแม้ว่าที่นี่จะเพิ่งเปิดมาไม่นาน แต่ขอบอกว่า วันหยุดยาว หรือแม้แต่วันเสาร์-อาทิตย์ ห้องพักจะเต็มเร็วมาก แนะนำว่าให้จองล่วงหน้านะ

ติดต่อจองห้องพักที่ Lemon House 51 ได้ที่เบอร์ 081-3692843 และ 0915648104 และยังสามารถติดตามโปรโมชั่นของที่พักที่มีอัพเดตเรื่อยๆ ได้ที่ www.facebook.com/lemonhouse51

มาถึงแล้วก็หลบร้อนเข้ามาตากแอร์เย็นๆด้านในก่อนเลย ตรงเข้ามาด้านในจะเป็นส่วนของ ล็อบบี้ ที่เป็นบาร์ด้วยคะ มีเครื่องดื่มน้ำผลไม้หวานๆเย็นๆใจ ขอแนะนำ เป็นสตอเบอร์รี่เลยค่ะสดชื่นที่สู้ดด

พักสักแป๊บก็ได้เวลาเอาสัมภาระไปเก็บ นี่เป็นทางเดินจะขึ้นไปที่ห้องพักคะ ตลอดทางเดินจะมีรูปภาพตกแต่งตลอดทางเดินเลย น่ารักมากๆ บรรยากาศอบอุ่นเหมือนอยู่บ้านที่ตกแต่งเป็นแกลลอรี่เล็กๆ

แล้วก็ขึ้นมาถึงห้องพักของเราแล้ว นี่เป็นห้อง Superior เดินทางมาเหนื่อยๆ เปิดประตูเข้ามาเห็นห้องกว้างๆแล้วอยากจะกระโดดทิ้งตัวลงไปเลย ห้องค่อนข้างกว้างมากๆ โล่ง โปร่ง และสบายตา มีเครื่องใช้ไฟฟ้า ทีวี ตู้เย็น ครบครัน

เก็บข้าวของเสร็จเรียบร้อย ก็กระโดดลงไปสัมผัสความนุ่มของเตียงคิงไซส์กันเลย นอนเล่นพอหายเหนื่อยแต่ก็เล่นเอาเกือบหลับเหมือนกันแฮะ


ส่วนอื่นๆของห้องอย่างห้องน้ำก็สะอาดดีมากๆ แถมยังใหม่เอี่ยมอีกด้วย

มีแชมพู กับครีมอาบน้ำให้ด้วยนะคะ กลิ่นหอมอ่อนๆกำลังดีสำหรับใครที่ลืมเอามาหรือขี้เกียจซื้อใหม่

และด้วยความซน เราก็ไม่อยู่แค่ห้องตัวเองค่ะ เราขอให้คุณอาย เจ้าของที่นี่พาเราไปดูห้องอื่นด้วย คุณอายเลยแนะนำเป็นห้อง Standard มุมดาดฟ้า แล้วพาเราขึ้นไปชมห้อง

เอาจริงๆนะ ห้องนี้ถึงจะบอกว่าเป็นห้องเล็ก แต่สำหรับเรามันไม่เล็กเลย บรรยากาศก็ดี๊ดี โล่ง โปร่ง สบาย เตียงใหญ่ น่าอยู่ ไม่แพ้ห้องที่เราพักเลย

ควมพิเศษของห้องนี้ คืออยู่ติดกับดาดฟ้าของเกสเฮาส์ บรรยากาศโล่งๆแบบนี้ มันชิลดีเหลือเกิน นี่ถ้าเช้าๆได้กาแฟอุ่นๆสักแก้วมานั่งจิบชิลๆตรงนี้คงฟินไม่น้อยเลย


สำรวจที่พักและพักผ่อนพอหายเหนื่อยแล้วก็ไปเที่ยวกันล่ะ มาถึงทะเลขนาดนี้ก็ต้องไปชมชายหาดสะหน่อย เดินตามถนนมาแป๊บเดียว ประมาณสองนาทีก็ถึงชายหาดแล้วค่ะ ใกล้มากๆ

พอถึงชายหาดก็เดินรับลมทะเลให้ชื่นใจสะหน่อย ซึ่งตอนช่วงที่เราไปถึง ก็เป็นเวลาประมาณบ่ายโมง ความจริงจะเป็นช่วงเวลาที่ร้อนมากๆ แต่วันนี้อากาศจะครึ้มนิดๆเป็นลางเหมือนฝนจะตก เที่ยวหน้าฝนก็แบบนี้แหละเนอะ แต่ก็ดีตรงที่ทำให้ไม่ร้อนมากเดินได้เรื่อยๆ ยาวปาย ยาวปายยย

เดินเล่นได้เรื่อยๆ เหนื่อยก็พัก ชีวิตสบายๆ ไม่ต้องเร่งรีบ แบบนี้แหละที่เรียกว่าพักผ่อน

เดินตามชายหาดมายาวๆ ก็จะถึงตรงสะพานปลา ตรงนี้ต้องเดินลัดเข้าไปข้างใน เพื่อเดินข้ามฝั่งไปเดินชายหาดต่อ

ข้ามสะพานปลา ลัดเลาะมาเรื่อยๆ เหนื่อยก็นั่งพักกัน ^_^

นั่นไง ตั้งเค้ามาแล้ว ^_^ ยิ้มให้อย่างคนคุ้นเคยเลยค่ะ ช่วงนี้เจอกันบ่อย ค่อนข้างสนิทเลยแหละ เจ้าฝน

ดูจากมวลอันหนาแน่นของก้อนเมฆ หนักแน่ๆ แว๊บกลับมาหลบฝนตรงศาลเจ้ากันสักพัก ก่อนเน้อ

ฝนไปแล้ว มาๆเดินกันต่อ ขนาดมีฝน คนก็ยังคึกคัก ออกมาเล่นน้ำบ้างเดินชายหาดกันประปราย

เดินมาเรื่อยๆก็จะเจอกับ แลนด์มาร์คของชายหาดก็ว่าได้ เจ้าม้าน้อยพวกนี้นี่เอง สำหรับคนที่เมื่อยๆ ไม่อยากเดินล่ะ ก็มาขี่ม้า ถ่ายรูปเช็คอินเก๋ๆ กันไป

พอเดินไปเดินมา มันก็จะค่อยๆค่ำลงๆเรื่อยๆ ไปไหนต่อดีน้า เริ่มหิวๆ ไปหาไรกิน ช้อปปิ้ง ถิ่นคูลกันดีกว่า ว่าแล้วก็โดดขึ้นสองแถว สิบห้าบาทไปโผล่ที่นี่เลย..... Cicada market

Cicada เป็นตลาดนัดกลางคืน ที่เต็มไปด้วยของแฮนด์เมด ชิคๆคูลๆ มากมาย ที่นำมาจำหน่ายให้ขาช๊อปได้ควักกระเป๋าเงินออกมาใช้จ่ายกัน

ที่นี่ยังเป็นแหล่งรวมตัวของศิลปินแขนงต่างๆมากมายท ที่เปิดพื้นที่ให้มาสรรสร้างโชว์ผลงานของตัวเองที่นี่กัน ใครชอบหรือถูกใจงานชิ้นไหนก็ติดต่อกับตัวเจ้าของผลงานได้เลย


เนื่องจากวันที่ไป ฝนพรำลงมาเรื่อยๆก็จะชื้นๆแฉะๆ แต่ละร้านก็จะมีม่านใสๆ มาบังฝนแบบนี้ แต่ร้านค้าก็ยังเปิดกันปกติก็เดินได้เรื่อยๆ ช้อปได้เรื่อยๆเลย


ถ้ามาถูกวัน(อย่างน้อยก็คือไม่ใช่วันฝนตกแบบเรา) ที่นี่เค้าจะมีการแสดงต่างๆให้ดูด้วยนะ ทั้งดนตรี ละครเวที แล้วแต่ตารางของที่นี่เค้าจัดมา


เดินไปเดินมา หิวอีกและ ตอนแรกก็กะจะหาอะไรทานแถวนี้ แต่ด้วยส่วนใหญ่แถวนี้จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติซะเป็นส่วนใหญ่ ราคาก้จะเป็นราคานักท่องเที่ยว ดุแล้วคงไม่เหมาะกับคนคูลๆ งบน้อยๆ อย่างเรา ได้แต่เดินถ่ายรูปมาฝากนี่แหละ

อันที่จริงก็มีตลาดข้างๆกันที่มีอาหารอร่อยๆเยอะแยะมากมายข้างๆกัน ชื่อตลาดต้นมะขาม อยู่ติดกันเลย น่าจะเป้นเจ้าของเดียวกัน แต่ราคาเป็นมิตรมากกว่า ก็แอบไปซื้อขนมกินแว๊บๆ ประจวบกับเวลามีน้อยเดี๋ยวจะเที่ยวไม่ทั่ว ใช้เวลาให้คุ้มค่า ใช้ความหิวเป็นแรงพลักดัน วิ่งฝ่าสายฝนขึ้นรถสองแถว มุ่งหน้าไปยังโต้รุ่งด่วนเลยจ้า

แล้วก็มาถึงแล้วจ้ โต้รุ่งของเรา นี่แหละ มีป้ายหัวหินที่แทบจะเป็นสัญลักษณ์ของหัวหินเลยทีเดียว จริงๆนะ ไปตรงไหนก็เจอป้ายนี้ ภาพติดตามากๆเลย


แล้วอยู่ดีดีเราก้อยากกินหอยทอดขึ้นมา จึงเกิดเป็นภาระกิจตามล่า หาหอยทอดกัน ไป!!!!!!

ระหว่างทางก็จะมีร้านอาหารมากมายตลอดทาง เรียกได้ว่าที่นี่คือสวรรค์ของคนรักสตรีทฟู้ดล่ะก็ ถ้ามาที่นี่รับรองต้องเพลิดเพลินแน่ๆ

แต่เป้าหมายของเรา คือ " หอยทอด " ทำเสียงแอคโค่ด้วยๆ ก็เดินเพลินๆไปเรื่อยๆ

เอ้า!!! เดินเพลินๆ มาถึงพม่ายซะแล้ว ....ย่างกุ้ง.... ตึกๆโป๊ะ!

ถัดจากพม่า ย้อนไปย้อนมา จนในที่สุด...ก็เจอๆๆ แล้ว หอยทอดดดดดดดดดดด

ตอนแรกเห็นคนเยอะแทบถอดใจ ก็ยืนรอน้ำลายยืดกันไป เพราะคิวเยอะมากๆ แต่ดูน่ากินมาก รอก็ได้ หิวว พอเราได้หอยทอดมาอยู่ในมือแล้วก็ เดินต่อปาย ผ่านร้านต่างๆมากมาย ทั้งของกิน ของใช้ ของที่ระลึก จนมาสุดทางแล้ว ไปก่อนนะ โต้รุ่ง


แปร๊บๆก็จะวันใหม่แล้ว กิจกรรที่ขาดไม่ได้ของทุกทริป คือ การตื่นเช้าไปถ่ายรูปแสงเช้าสวยๆกัน ตื่นตีห้าหกโมง เดินชิลๆมาแป๊บเดียวถึงชายหาด

โชคดีที่วันนี้ฟ้าสวย ได้รูปแสงเช้ากับทะเลสวยๆมาเพียบเลย


บรรยากาศยามเช้า วันชิลๆนี่สดชื่นที่สุดแล้ว ยืนมองพระอาทิตย์ค่อยๆขึ้นช้าๆ เป็นการเิตมพลังสำหรับไว้ใช้ในวันทำงานได้ดีที่สุดเลย

ถ่ายรูปกันตั้งแต่ฟ้ามืด จนฟ้าเริ่มสว่างขึ้นเรื่อยๆ

ผู้คนเริ่มออกมาตามชายหาดเรื่อยๆ บ้างก็เดินเล่น นั่งเล่น พาน้องหมามาออกกำลังกายรับโอโซน ยมเช้ากันไป

เดินถ่ายรูปมาตั้งแต่เช้ามืด หิวอีกแล้ว เดินกลับที่พักอบน้ำแต่งตัวเก็บของเรียบร้อย

เริ่มต้นวันใหม่ด้วยอเมริกันเบรคฟาส ฝีมือคุณอาย เจ้าของเกสท์เฮาส์ที่น่ารักของเรา

เริ่มต้นเช้าสดใสด้วย น้ำสตอร์วเบอร์รี่ ชื่นใจอีกแล้วว ในส่วนด้านหน้าของเกสเฮาส์ที่เป็นบาร์เครื่องดื่มต่างๆ ไม่จำเป็นต้องพักที่นี่ก็เข้ามานั่งสั่งอะไรเย็นๆดื่มให้ชื่นใจได้เลยนะคะ แถวเกสเฮาส์มีร้านอาหารอยู่หลายร้านอยู่เหมือนกัน ตั้งแต่อาหารอีสาน ตามสั่ง อาหารทะเล เลือกได้ตามใจชอบเลยค่ะ หรืออยากทานอะไรแบบไหนก็ปรึกษา คุณอาย ได้เลย

แล้วก็เก็บข้าวของเช็คเอาท์กัน...เราออกจากที่พักประมานเกือบๆเที่ยงค่ะ เพื่อไปเที่ยวต่อ ใช้เวลาให้คุ้มค่า ไปสถานีต่อไปกันนนนนน


สถานีรถไฟ หัวหินนน ป่ะต่อแถวซื้อตัวกลับกัน เอ้ย! ไม่ใช่ ไปเก็บภาพเป็นที่ระทึกกัน


บรรยากาศในชานชลา ให้ความรู้สึกเหมือนหนังย้อนยุคมากๆ นี่แต่งตัวแบบยุค60 เดรชฟูๆ เอาผ้าคาดผมสักหน่อย ยืนถือกระเป๋าเดินทางวินเทจสักใบแหม่ แบบว่าเรากำลังจะกลับพระนครน่ะเธอ..อินๆ


สถานีรถหัวหินนี้ ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในสถานีรถไฟที่สวยที่สุดในประเทศเลยทีเดียว แล้วมาสถานีรถไฟ ต้องทำอะไร.......ติกต่อกๆๆๆๆๆๆ ถ่ายรถไฟไงเดี๋ยวเค้าไม่เชื่อว่ามาจริงๆ


ตอนแรกจะถ่ายกับรถไฟ แต่ร้อนมากๆ เลยวิ่งกลับมจะเข้าร่มฝั่งชานชลา แต่กลัวไม่มีภาพ เอ่า สะหน่อยกลางรางรถไฟนี่แหละ จ้าาา


และตบท้ายด้วย สัญลักษณ์ หัวหิน ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหน มุมไหนของหัวหิน ตลาด ถนน สถานีรถไฟ คุณจะพบกับ....


แล้วก็ออกเดินทางออกจากสถาานีรถไฟ สถานีต่อไปมุ่งหน้าสู่ เขาตะเกียบๆๆๆ ขับรถตรงไปเรื่อยไม่ไกลมากเท่าไหร่ ทางก็สะดวกดีค่ะ แต่ถนนทางขึ้นไปที่วัดเขาตะเกียบจะค่อนข้างแคบหน่อยเวลารถสวนกันต้องค่อยๆไปใจเย็นๆกันนะคะ แล้วก็มาถึงทางขึ้นวัดเขาตะเกียบ


ที่วัดเขาตะเกียบนี้ นอกจากจะเป็นวัดที่ผู้คนเลื่อมใสศรัทธากันอย่างมากแล้ว วิวที่มองจากด้านบนวัดเขาตะเกียบลงมา จะเห็นชายหาดเขาตะเกียบ สวยงามแบบนี้เลย


ได้มุมมองจากด้านบนแล้วเราก็ลงมาสัมผัส มุมใกล้ๆกันดีกว่า



เสร็จแล้ว ร้อนแล้ว หิวอีกแล้ว กินไรดีน้า....ก๋วยเตี๋ยวแล้วกัน ร้อนๆแบบนี้ ห่ะ! คือ ความจริงอยากกินอะไรที่ไม่หนักท้องมากเพราะมีแพลนกินต่อ (นี่มาเที่ยวหรือมากิน หิวตลอด กินตลอด) เลยตกลงปลงใจว่าเป็นก๋วยเตี๋ยวแล้วกัน แล้วก็พอจะรู้จักร้านดังอยู่ร้านนึงนั่นก็คือ...ร้านก๋วยเตี๋ยวชมสวน... นี่เองๆ



ร้านก๋วยเตี๋ยวชมสวน เป็นร้านก๋วยเตี๋ยวเล็กๆ แต่คนเยอะมากๆ ต้องต่อคิวกันเลยทีเดียว อาจจะเพราะ รสชาติ หรืออะไร ไปพิสุจน์กัน


มาแล้ว ขอพูดด้วยภาพ ก่อน


รสชาติ ถือว่าดีเลยแหละ เครื่องก็เยอะ มีไข่ด้วย ดีค่ะ (เราเป็นมนุษย์ไข่กินไรต้องมีไข่) เอาเป็นว่าใครมาที่หัวหินก็อย่าพลาดมาแวะเช็คอินกินก๋วยเตี๋ยวกันที่นี่นะ


อิ่มเลย อิ่มมาก ไม่เบาแล้ว แทบจะไม่เหลือที่ให้สถานีต่อไปเลย แต่ไม่ได้หรอกชีวิตคนเราต้องไปต่อ แล้วเราก็ไปต่อกันที่.....เพลินวาน....


แหล่งรวมตัวของวัยรุ่น และทัวร์ ที่มาถ่ายรูป เชคอิน ชิคๆคูลๆ กับบรรยกาศย้อยยุค ของร้านค้า ไปจนถึง ขนม อาหาร ที่เหมือนนั่งทามแมชชีนย้อนไปในอดีต เพลิดเพลินกับวันวานไปกับ...เพลินวาน


นอกจากจะมาเดินถ่ายรูปแล้ว ที่นี่ยังมีสินค้าทั้งของกิน ของใช้ ของที่ระลึก ในแบบย้อนยุค วินเทจ ล่อตาล่อใจขาช๊อปอีกแล้ว



นเพลิดเพลินกันวันวาน กันแล้วก้ไม่ลืม สิ่งที่เราเผื่อท้องไว้ตั้งแต่ตอนกลางวัน เดินหาอยู่สักพัก ก็เจอแล้ว สิ่งนั้นก็คือ......ไข่กะโหลก....นั่นเอง


มันก็คือไข่เจียวที่มีใส่ข้างในเป็นข้าว มีเบคอน แซลม่อน บลาๆ หลายแบบ รสชาติต่างไปจากที่เคยกิน แต่ก็พอไหวและ เอาหล่ะไปต่อ หาของหวานล้างปากกัน


อาจริงๆนะ พึ่งรู้ว่าเค้าเปลี่ยนชื่อเป็นขนมถังเต็ม ก็วันนี้แหละ โอเค ถังเต็มก็ถังเต็ม เดี๋ยวนี้มีการฟิวชัน ไส้ให้หลากหลาย มีแบบ สตอเบอร์รี่ บลูเบอร์รี่เยอะแยะมากมายเลือกไม่ถูกเลย เอามะพร้าวน้ำตาล ฝอยทองแบบดั่งเดิมละกัน ปลอดภัยดี พี่ชอบย้อนยุค พี่ชอบเดิมๆ ใครชอบลองอะไรใหม่ๆก็ลองดูนะคะ น่าอร่อยดีเหมือนกัน ขอบอกว่าถังเต็มนี่ไส้เต็มถังจริงๆ


แล้วก็มาต่อกัน ที่บรรยากาศรอบๆ มีชั้นบน ชั้นล่าง มากมาย เดินกันให้เพลิดเพลินกันไป


คนไม่แน่นมากก็เลยได้มีโอกาสสำรวจและซึมซับบรรยากาศ ย้อนวันวาน ได้เต็มที่ อันที่จริง เดินทางจากที่พักมาที่เพลินวานนี่ แค่2กม. เท่านั้นเอง แต่เรามาเป็นที่สุดท้ายเพราะอยู่ทางเดียวกับที่เราจะต้องเดินทางกลับพอดี ใครที่ไม่ได้อยากไปไหนไกลๆมากก็แวะที่เพลินวานก่อนได้เลย


จบแล้วค่ะ สำหรับทริป กินอิ่มหลับสบาย นี่คือความชิลในถิ่นคนคูล 2 วันหนึ่งคืน ที่หัวหิน ที่นี่ยังมีอะไรให้เราประทับใจได้เสมอ ทั้งที่กิน ที่เที่ยว ที่ช๊อป ตอบโจทย์การพักผ่อนในวันหยุด



และสำหรับทริปนี้ ต้องขอขอบคุณlemon house51 เกสเฮาส์เปิดใหม่ ใกล้ชายหดหัวหิน เสำหรับใครที่ชอบที่พักราคาไม่แพง ห้องพักกว้างขวาง อบอุ่น แสนสบาย ติดชายทะเล ยังไงก็อย่าลืมแวะมาพักกันที่นี่นะ

จบทริปนี้ ด้วยความรูปสึกดีดี และเราก็มีควมสุขเสมอทุกครั้งที่ได้มาที่ทะเล เติมพลังไว้ใช้ในวันต่อไป เพราะทะเลจะปลอบใจให้เราหายเหนื่อย ด้วยเสียง สู้....สู้.....

ส่วนทริปหน้าเราจะไปเที่ยวที่ไหน หรือมีอะไรมาอวดกัน ก็เชิญติดตามกันได้ที่ เฟสบุคแฟนเพจ Journey Gallery (https://www.facebook.com/journeygallery/) จะพูดคุย สอบถามข้อมูล หรือแนะนำสถานที่ท่องเที่ยว ได้หมดเลย เข้าไปกดไลค์และติดตามกันไว้นะ

สำหรับรีวิวนี้ก็ขอจบตรงนี้ละกัน ขอให้ทุกคนสนุกกับการเดินทาง เพราะการเดินทางคือการพักผ่อนของเรา บ๊ายบายยย


Journey Gallery

 วันพฤหัสที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2560 เวลา 14.50 น.

ความคิดเห็น