ครั้งเเรกกับการลงสนามคีบโซเมนกระบอกไม้ไผ่รับซัมเมอร์ญี่ปุ่น ที่คิบุเนะ, เกียวโต

lemonade tripvisor in Kibune, Kyoto

"เห็นกล้องเเว๊บๆไหมในรูป กำลังจะตั้งท่าถ่ายเเต่ต้องมาคีบเส้นโซเมนสะก่อน"
เชื่อว่าใครที่ไปที่นี่ ทั้งสองมือคงไม่ต่างกับในภาพใช่ม้ายยย

เพราะถ้าปล่อยกล้องถ่ายรูปไป คิดเหรอว่าจะได้ภาพมาเขียนรีวิวเหรอ เหอะๆ
เเล้วถ้าปล่อยตะเกียบล่ะ? เงินที่จ่ายไป1,300เยนก็เสียไปฟรีๆหน่ะสิ อดกิน ปล่อยก็บ้าเเระ

การเดินทางของวันนี้ ไปกันสบายๆ ไม่เร่งรีบอะไรนัก หลับกันเต็มตื่น

"ถึงจะไม่เร่งตื่นเช้า...เเต่ยังไงเทอก็...ต้องออกให้ทันก่อนที่ร้านไฮไลท์ของเราปิดบริการไปสะก่อนละ"

"อืม...ไม่สายๆ เทอภาวนาขออย่าให้ฝนตกเป็นพอ ไม่งั้นร้านปิด จะเซ็งมากกว่าไปทัน 555"

จริงๆเเล้วที่คิบุเนะสามารถเที่ยวได้เต็มวันนะคะ

ไว้จะมาใส่สถานที่เที่ยวเพิ่มเติมให้ว่าไปไหนดีหรือสอบถามมาหลังไมค์ได้คะที่

lemonade tripvisor

เเต่ถ้าใครอยากจะเที่ยวเเค่ครึ่งวันเเล้วไปที่อื่นนอกเหนือจากที่เราไปก็ได้เช่นกันคะ

ครั้งนี้ที่ไปเก็บหลักๆ คือ

"ร้านโซเมนHirobun ตลาดนิชิกิ จบด้วยกินขนมวาราบิโมจิหนึ่งในเจ้าดังย่านกิออน"

สำหรับการเดินทาง

เรากับเพื่อนเลือกนั่งจากสถานีเกียวโตมาลงที่สถานี Kokusai Kaikan (国際会館)

<Karasuma Line (烏丸線)ไม่ใช่สายJR อย่าขึ้นผิดล่ะ>

จำง่ายๆเเค่ว่าถึงเเล้วออกประตู3 เดินเลี้ยวซ้ายมาหน่อยหันซ้ายก็เจอป้ายรถเมล์เบอร์3 รอขึ้นรถเบอร์52

จุดสังเกตุ บรรทัดล่างสุดKurama via Kibuneguchi


รอไม่นาน รถถึงเเล้วขึ้นนั่งไปลงที่ป้าย คิบุเนะคุจิ(Kibuneguchi)

16ป้าย ใช้เวลาประมาณ20นาที

กดกริ่งลงป้ายนี้กันได้เลย หลังได้ยินประกาศ คิบุเนะคุจิๆ ก่อนคนขับรถจะขับถึงป้าย

หน้าตาของป้ายรถเมล์ที่พวกเราลงกันคะ

V

< หน้าตาป้ายรถเมล์ขากลับ>

ตอนนี้เราก็ใกล้ถึงคิบุเนะกันเเล้ว

พอทุกคนที่นั่งรถบัสมาถึงป้าย คิบุเนะคุจิเสร็จ ก็เดินตรงเลี้ยวโค้งซ้ายมาขึ้นอีกคันต่อไปคิบุเนะ

คิบุเนะคุจิเป็นเพียงเเค่ปากทางเข้าเท่านั้น คำว่า คุจิ ในภาษาญี่ปุ่น เเปลว่า ปาก

เดินเลี้ยวโค้งไม่ทันไรก็เจอป้ายขึ้นรถเมล์เเล้วคะ

ขึ้นเบอร์นี้เลย เบอร์33

ส่งไปกล้บจาก คิบุเนะ-คิบุเนะคุจิ

หน้าตาด้านหน้ารถเมล์ที่เราจะเป็นเเบบนี้

ขากลับก็มาขึ้นคันนี้กลับจากจุดที่เค้าส่งลง

(ค่าบริการ: ผู้ใหญ่160เยน เด็ก80เยน ตั๋วOne day pass Kyoto ใช้ร่วมไม่ได้น้า)

จากบริเวณที่ลงรถเมล์ที่คิบุเนะ ช่วงขาขึ้นระหว่างทางเดินไปร้านHirobun

ไม่ต้องกลัวเบื่อเลยคะเพราะมีให้เราได้เเวะหลายจุด เพลินไปกับธรรมชาติได้ตลอดเส้นทาง

มีทั้งร้านอาหารที่เสริ์ฟเซ็ทอาหารญี่ปุ่นในบรรยากาศดีๆ ร้านคาเฟ่

รวมไปถึงวัดคิบุเนะที่เป็นไฮไลท์ไม่ต่างกับร้านโซเมน

หลังจากที่เดินมาได้สักพัก เเวะที่ศาลเจ้าคิบุเนะกันสักหน่อยคะ

ทางเดินขึ้นศาลเจ้า

ขอพรเเล้วต้องมาเสี่ยงเซียมซี่ลอยน้ำสะหน่อย

ถ้าไม่โดนน้ำข้อความไม่ขึ้น เกร๋อ่ะ

ซื้อมาเเล้ว ก็มาลอยน้ำกันดีกว่า

ใส่ไปเลย ไม่ต้องกลัวกระดาษเปียก

ใส่ไปไม่ทันไร ข้อความก็เริ่มปรากฎ

สำหรับคนที่เเปลภาษาญี่ปุ่นไม่ออก ไม่ต้องกลัวนะคะว่าถ้าเสีย200เยนค่าเซียมซี่เเล้วเเปลไม่ออก

ใบเซียมซี่เค้ามี QR Codeให้เเสกน เเปลเป็นภาษาอังกฤษ เกร๋อ่าาาาาาา ชอบบบบบ

ถ้าเพื่อนๆมาช่วงหิมะตก ก็สวยไปอีกเเบบ มาเเล้วจะได้เห็นโคมปกคลุมด้วยหิมะ เเต่ก็จะอดคึบโซเมนหน่ะสิ

ไม่รอช้า หลังจากหยุดไหว้พระ เล่นเซี่ยมซี่ลอยน้ำเสร็จ เรากับเพื่อนก็ตรงมาที่ร้านในทันที

เจอหน้าร้านเเล้ว ไปซื้อตั๋วที่หน้าเคาน์เตอร์กันได้เลยคะ

ราคาที่1300เยน

ทางร้านจะเปิดบริการโซนนี้ตั้งเเต่1พค ไปจนถึงปลายกันยาของทุกๆปี

ยังยืนยันคนมาหน้าหนาวหมดสิทธิ์นะคะ

สนใจดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ทางเว็ปไซต์ของร้านคะ http://hirobun.co.jp/menu/index.html

ทางร้านนี้ยังมีอีกโซน สำหรับคนที่อยากทานอาหารเซ็ทไว้ด้วยคะ

เผื่อใครอยากเปลี่ยนจากคีบเส้นไปกินอาหารชุดพิเศษ

ซื้อเเล้วจะได้รับบัตรคิวเก๋ๆ เป็นพัด มีเบอร์คิวเขียนอยู่ พร้อมเเผ่นคำอธิบาย

เห็นข้อความตรงกลางๆไหม

Please do not get frustrated if you have to wait a long time for your turn

มีความน่ารัก

รับบัตรคิวเเล้วเดินลงบันไดไปรอกันข้างล่างได้เลยคะ

พี่ๆพนักงานเค้าจะมีจัดที่นั่งไว้รอได้ที่ด้านหลัง

ก็รอเค้าเรียกเบอร์เเล้วรอกินโซเมนกันได้เลย

\นี่เซ็ทของเราเอง/

ที่นั่งจะติดชิดขอบสนามโซเมนเเบบในรูป

มาดูในส่วนอุปกรณ์ที่เค้าเตรียมให้เรากันดีกว่า

อุปกรณ์ที่ขาดดดดดดไม่ได้ เห็นจะเป็น ตะเกียบ

น้ำซอสที่ใช้กินคู่กับเส้นโซเมน

ด้านซ้ายเป็นวาซาบิ ด้านขวาถ้วยสีชมพูที่ใส่ขนมวาราบิออนท๊อปด้วยผงชาเขียว

บรรยากาศ นั่งเเถวตอนเรียงกัน

ไหลมาเเล้ว ก็คีบกันรัวๆได้เลย

เทคนิคการกิน

คีบขึ้นมา เเล้วใช้ท่าสะบัดเส้น สะเด็ดน้ำออกก่อนจิ้มกับซอสกิน

เดี๋ยวผสมน้ำเยอะไปจะจืดสะก่อน เส้นสีชมพูคำสุดท้ายมาถึง

ท่าดักเส้น เราขอกั้นไว้ด้วยตะเกียบสักเปป ขอถ่ายรูป 1 ช๊อต

เส้นย๊าววยาว ได้ใจ

คีบไปหลายครั้งมาก จำไม่ได้ว่ากินไปกี่คำ ก่อนจะมาปิดท้ายด้วยเส้นสีชมพู คำสุดท้ายของมื้อนั

ของคนต้นทางเค้ามาเเย้ว คนนั่งท้ายเตรียมรอคิวคีบได้เยย

ไหลมาเเล้ว รางเเรก เตรียมพร้อม คำสุดท้ายเเล้วต้องห้ามพลาด

จะคีบทันไหม ทันไหม ทันม๊ายยยยย

เออ พวกเรามัวเเต่ตื่นเต้นจนลืมไปว่าของพวกเรามันรางที่สองหนิหว่า 555

งั้นรีบถ่ายเส้นก่อนที่ รางของเราจะไหลมาดีกว่า

ครั้งนี้เห็นได้ชัดเจนเลยว่า ปริมานเส้นน้อยกว่าปรกติ

เเล้วขอบสนามรางโซเมนของเราก็มีน้ำที่ถูกสะบัดเต๊มไปหมด 55

เส้นสีชมพู(ถึงต่อให้ป้ายอธิบายเขียนคำว่า colored redก็เถอะ)

สีนี้มันเป็นตัวส่งสัญญาณบอกเราว่า คำนี้จะเป็นคำสุดท้าย

เเถมเป็นคำสุดท้ายที่ให้รสชาติที่เเตกต่างจากทุกคำที่กินมาสะด้วยละ

อยากรู้ว่าเป็นยังไงต้องลองไปกินดูกันนะ สนุกกันจนเพลินถึงคำสุดท้าย

..................................................................................................................

กินเสร็จเเล้วก็มาเดินกินของคาวเล่นสะหน่อยที่ตลาด ก่อนจะไปตบท้ายด้วยขนมที่กิออน
มาเดินเล่นก่อนร้านปิด6โมง ที่ตลาดNishikiคะ

เราเลือกมาลงที่สถานี Karasuma (烏丸)

ตลาดNishiki

มีจุดเด่นที่เเตะตามากคือ เพดานที่มองไปจนสุดสายเป็น เเดง เหลือง เขียว

ไม่รู้ว่าได้เเรงบันดาลใจจาก สัญญาณไฟจราจรรึเป่า

เเต่ที่เเน่ๆคือมาเเล้ว ทุกคนหยุดเเวะหยุดซื้อกินกันเเทบจะทุกร้าน

ไม่ได้สนใจว่าจะไฟเขียวผ่านตลอดหรือไหม เเละที่สำคัญสายกินไม่ควรพลาดอย่างยิ่งนะ

ที่นี่เค้ามีร้านอาหารยาววววววตลอดเเนวรวมมากกว่า 100ร้านค้า

อาหารหลากหลายเอาใจเหล่านักชิม หลงมาเเล้วรับรองติดใจ อิ่มอร่อยกลับไปเต็มๆคะ

เจอร้านหนึ่งเค้าขายกุ้ง มันสะดุดตาเรามากๆ เเวะซื้อหน่อยสักไม้

โรยเกลือ พร้อมกิน

ได้มาเเล้ววววววว พร้อมถ่าย พร้อมกิน

ถึงจะหนักเกลือไปนิด เเต่กุ้งเนื้อเน้นๆ สด กรอบ อร่อย เริส คะ

.........................................................................................................

ร้านgion tokuya

ร้านgion tokuya ร้านเจ้าดังขึ้นชื่อขนมวาราบิย่านกิออน เเหล่งเกอิชา

ถึงเเล้วคะที่รอคอย ร้านนี้คนญี่ปุ่นบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าเนื้อวาราบิโมจิอร่อยไม่เหมือนใคร
ตอนนี้ร้านนี้เปิดสาขาในโตเกียวเเล้วด้วยนะ ไม่ไกลมาก เเนะนำลงจากสถานี ฮาราจุกุ

ยังมีน้ำเเข็งใสด้วยนะ

สดชื่น! ^^

เมนูจากทางร้านคะ


ขนมตบท้ายมันยังเหมือนขาดอะไรไป เลยเดินย้อนกลับมาหาของกินต่อ

เเถวซอยที่ติดริมเเม่น้ำKamo นั่งกับคู่ๆเชียววว

เดินเข้าซอยไปได้สักพัก เรากับเพื่อนเลยตัดสินใจตกลงเข้าร้านHello Dolly หาอะไรดริ้งค์เบาๆกันต่อ

ผ่อนกายผ่อนใจด้วยเพลงเเจสเบาๆก่อนกลับไปทำงานในวันรุ่งขึ้น

ปิดท้ายค่ำคืนนี้ด้วย Kyoto Towerคะ

ต้องขึ้นรถบัสกลับเเระคะ เดี๋ยวไม่ทัน: )

ทริปครั้งนี้ ขอขอบคุณเพื่อนๆ สำหรับทุกการอ่าน ทุกการเเชร์
ติดตามการเดินทางครั้งใหม่ ที่ใหม่ ได้ที่lemonade tripvisor

รีวิวนี้ รีวิวโดย lemonadetripvisor
เเล้วเจอกันอีกในกระทู้ถัดไ

วันนี้ขอตัวลาไปก่อน

......สวัสดีคะ......

Lemonade Tripvisor

 วันศุกร์ที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2560 เวลา 09.41 น.

ความคิดเห็น