ฝากติดตามผลงานรีวิวแชะ แชร์ ชิม ชิว ได้ที่ Facebook Where Am I นะคะ

https://www.facebook.com/whereamijourney/

มั่นใจชีวิตพนักงานออฟฟิศของใครหลายๆคนมันช่างแสนวุ่นวาย น่าเบื่อ จนบางทีอยากวาร์ปตัวหนีไปดาวอังคาร ใช้ชีวิตเงียบๆไร้หัวหน้าโทรจิก ลูกค้าโทรบ่น จะได้ไม่ต้องทำตัวเป็น7-11 ที่availableตลอด24ชม.

ทริปหนีงานไร้สัญญาณโทรศัพท์จึงเกิดขึ้น มันช่างวิเศษสุดๆที่นี่ไม่มีสังคมก้มหน้า ไม่ต้องคอยจ้องมองแต่โทรศัพท์ ไปใช้ชีวิตSlow Lifeแบบไม่มีอะไรมารบกวน มีแต่วิวภูเขา น้ำและสายลม

เขื่อนเชี่ยวหลาน หรือเขาสก คือหนึ่งในBucket List ของเราโห๊ะๆๆ เพราะไม่มีสัญญาณโทรศัพท์งัย คราวนี้ก็ไม่มีใครติดต่อเราได้แล้ว

อุทยานแห่งชาติเขาสก จะแบ่งจุดท่องเที่ยวออกเป็น 2 ส่วน คือ เขาสกส่วนของเขื่อนเชี่ยวหลานซึ่งนักท่องเที่ยวชม วิวทิวทัศน์ เหนือเขื่อน จากนั้น ลงเรือเพื่อไปนอนแพชมเขาสามเกลอ(ภูเขาหินกลางน้ำ) ซึ่งเรียกว่ากุ้ยหลินเมืองไทย เที่ยวถ้ำประการัง ถ้ำน้ำทะลุ กับ เขาสกส่วนที่เป็นที่ทำการอุทยานแห่งชาติเขาสกซึ่งเป็นจุดที่ไปชม น้ำตก เดินป่า และ ชมบัวผุด โดยทั้งสองที่อยู่ห่างกันประมาณ 60 ก.ม.

จริงๆทริปนี้เราไปมานานแล้วแหละ อยากมาแชร์ว่าบรรยากาศมันดียังงัย หากใครอยากใช้ชีวิตSlowlife เราขอแนะนำแพพันวารีย์ ที่พักดี วิวสวย ที่สำคัญเจ้าของใจดีมากๆ อันนี้เราซื้อทัวร์ให้ทางรีสอรต์จัดการหมดเลย

นอนแพพันวารีย์ 1วัน +เที่ยวตัวเมืองภูเก็ต 1วัน + เกาะไม้ท่อน แนะนำตีตั๋วขาไปลงสุราษฎร์ - ขากลับขึ้นเครื่องที่ภูเก็ตนะ จะได้ไม่เหนื่อยนะ

**แพคเกจทัวร์เค้ามีรถส่วนตัวมารับ คอยให้บริการตลอดทั้งทริปเลย สบายสุด**

แต่ไม่รู่ว่าตอนนี้ยังมีแพคเกจนี้อยู่ป่าวนะ ลองเข้าไปเยี่ยมชมในwebsite

https://www.thegreenerypanvaree.com/english-menu

แหกขี้ตาตื่นตี4 ต้องรีบไปเช็คอิน เพราะดอนเมืองนี่ขึ้นชื่อคนเยอะ คิวยาว รถติด ขนาดตื่นเร็วแล้วนะ ไฟลท์ออก7โมง ยังเกือบตกเครื่อง เอาแสงพระอาทิตย์ยามเช้าสวยๆมาให้ชม แถมมีสายรุ้งเล็กด้วย เห็นกันมะๆ

ก่อนไปลงเรือ ลองมาแวะจุดชมวิวเขื่อนรัชประภากันดูนะ วิวสวยมว๊ากกกกก ภาพภูเขาข้างหลังนี่เหมือนภาพวาดเลยอะ

ชอบวิวตรงหน้ามากที่สุด นี่คือไทยแลนด์นะยูว์

นั่งเรือไปที่พักเราดีกว่า นี่คือแพพันวารีย์ น้ำสีเขียวมรกต

วิวมุมกว้างหน้าที่พัก

Welcome Drink น้ำกระเจี๊ยบ สดชื่นนนนน

มาดูวิวห้องพักกัน เราชอบห้องนี้มาก จำไม่ได้ว่าห้องเบอร์อะไร แต่เป็นห้องที่ติดกับภูเขาหลังสุดท้าย มีความเป็นส่วนตัวมากๆ ตอนเช้าๆจะได้ยินเสียงนกร้อง วิวสวยโคตรๆๆ ประทับใจ ถ้าได้ไปอีกเราจะขอพักห้องนี้ห้องเดิม

ห้องนอน เตียงถือว่าโอเคอยู่นะ มีห้องน้ำในตัว ห้องน้ำจะอยู่หน้าประตูทางเข้า เราไม่ได้ถ่ายมาอะลืม มัวแต่ประทับใจกับวิว

นอนดูวิวกันแบบนี้เลย ตอนกลางวันไม่มีไฟใช้นะ ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ ไม่มีทีวีให้ดู ไม่มีมือถือให้เล่น มีแต่ใช้เวลาเสพสุขกับวิวที่อยู่ตรงหน้า ชีวิตดีเหมือนตัวเองกลับคืนสู่ธรรมชาติจริงๆ ตัดขาดจากโลกภายนอกไปเลย

โอ๊ยยยยยยย เห็นรูปแล้วยังฟินนนนนน ของจริงสวยกว่านี้100เท่า .....อยากกลับไปอีกครั้ง

มุมด้านข้าง ส่วนฝั่งนี้คือริมสุด ไม่มีบ้านพักของใคร ส่วนตัวมากๆ วิวหลักล้านจริงๆ

หน้าห้องมีเก้าอี้ ให้นั่งเล่น รับลมสบายๆ

ปลามาว่ายทักทายจร้าาาาา น้ำใสกิ๊งงงง เห็นแบบนี้น้ำลึกระดับหลายเมตรนะ พี่เค้าบอกระดับน้ำในเขื่อนนี้ลึกเอามากๆๆ เล่นก็ระวังกันด้วย เราไม่กล้าลงเลยหละ เพราะลมแรง ตอนพายเรือคายัคยังรู้สึกเอาไม่อยู่เลย เหมือนจะปลิวออกไปข้างนอก

นั่งเรือออกไปดูเขาสามเกลอ ระหว่างทางจะมีไกด์เล่าประวัติความเป็นมาของเขื่อนนี้ เราฟังแล้วขนลุกเลยอะ ไม่รู้เราไปอยู่รูไหนมา ทำไมไม่รู้ประวัติความเป็นมา ที่จับใจความได้คือที่แถบนี้เป็นหมู่บ้านของชาวบ้านมาก่อนและมีสัตว์ต่างๆอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก ต่อมาวันนึงชาวบ้านอพยพออกจากพื้นที่เกันไปหมดแล้ว แต่ก็ยังมีพวกสัตว์ป่าที่ยังเหลืออยู่ เมื่อถึงเวลาปิดเขื่อนน้ำก็สะสมอยู่เป็นจำนวนมาก จนท่วมพื้นที่ทั้งหมดและสัตว์ต่างๆก็ไม่สามารถหนีได้และเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก ซึ่งสืบ นาคาเสถียร เป็นวีรบุรุษผู้เสียสละชีวิตและลมหายใจให้กับพื้นป่าและสัตว์ป่าที่พยายามเข้าไปช่วยเหลือสัตว์เหล่านี้ ช่วยได้บ้าง ไม่ได้บ้าง มีสัตว์นับพันตัวที่เสียชีวิตจากการสร้างเขื่อน..... โอ๊ยยย ตอนฟังนี่เราน้ำตาจะไหล ตอนกลางคืนทางรีสอรต์มีจัดพาไปลอยกระทงด้วยหละ เพื่อขอขมากับสิ่งศักดิ์สิทธิ์และสัตว์ทั้งหลายที่สละชีพในการสร้างเขื่อนนี้

การท่องเที่ยวนอกจากวิวสวยๆ ยังทำให้เราได้เปิดหูเปิดตา รับรู้ประวัติความเป็นพื้นที่ที่สำคัญของประเทศเราจงเสพสุขด้วยตา และรับรู้ด้วยใจ

วันนี้แขกที่รีสอรต์ส่วนใหญ่เป็นคุณครูสอนอยู่ภาคใต้ เหมือนมีแต่เราไม่เข้าพวก55555 คุณครูน่ารักมากๆ เป็นกันเอง เฮฮาแบบเห้ยยย... เหมือนวัยเดียวกับเรา ลืมภาพพจน์ครูดุๆถือไม้เรียวไปเลย

ความประทับใจที่มีมาตลอดเวลามาภาคใต้ คือเจอแต่คนใจดี มีน้ำในใจ รู้สึกประทับใจกับมนุษยสัมพันธ์ของคนใต้ ทั้งๆที่ไม่รู้จักกันมาก่อน คุณลุงคุณน้าคุณป้าน่ารักกันทุกคน เราว่าคนใต้เป็นคนน่ารักจริงๆนะ

คุณครูใจดี แบ่งมะม่วงเบา น้ำปลาหวานให้เราทานด้วย กราบขอบพระคุณคุณครูทุกท่านนะคะ

ไม่อยากบอกนี่คือครั้งแรกเพิ่งเคยทานมะม่วงเบา5555555 หร่อยเหาะ

วิวยามเย็นก่อนพระอาทิตย์ตก

แสงสุดท้ายของวันแรก

ตอนกลางคืนทางแพพันวารีย์มีพาไปลอยกระทงเพื่อขอขมากับสิ่งศักดิ์สิทธิ์และสัตว์ทั้งหลายที่สละชีพ แต่เราไม่ได้ถ่ายมาเพราะมันมืดมากกก ไปลอยอยู่กลางเขื่อน แอบน่ากลัวนิดๆ55555

ท้องฟ้าใสมากก เห็นพระจันทร์ลูกใหญ่ๆ นี่ขนาดถ่ายระยะไกลนะ ยังเห็นชัดแจ๋ว

ตอนเช้าพาไปดูนกเหงือก แต่วันนี้ไม่ใช่วันของเรา ไม่เจอเลยสักตัวอะ แต่อากาศยามเช้านี่ดีมาก ได้ยินเสียงนก เสียงชะนีร้องตามป่า

นั่งเรือผ่านเห็นศาลพ่อตาโจงโดง ประวัติเค้าบอกว่าเป็นคนต้นน้ำคลองแสง มีเมียคนแรกชื่อแม่ยายทองตึง ต่อมาก็เกิดไปชอบแม่ยายแก้ว ขออนุญาตเมียคนแรกได้ ก็จัดขันหมากลงเรือสำเภาไปขอ ระหว่างทาง เรือแล่นไปชนโขดหินแตกหัก 2 ท่อน คนในเรือหนีตาย พ่อตาโจงโดงปีนขึ้นไปอยู่บนยอดเขา พร้อมกับแมวและหมา

ปัจจุบันชาวบ้านเชื่อกันว่า โขดหินบนยอดเขาเป็นรูปร่างแมวและหมา ส่วนขันหมาก 3 ขัน ที่ใช้ไปขอแม่ยายแก้วจมหายไปใต้น้ำ นั่นก็คือที่มาของเขาสามเกลอจุดท่องเที่ยว

รูปปั้นพ่อตาโจงโดง เป็นรูปตั้งแต่สมัยโบราณ เค้าว่ากันว่าถ้าไม่ขออนุญาตถ่ายรูปจะไม่ติดนะ

เกลือกกลิ้งให้หนำใจ ก่อนไปเกาะไม้ท่อน

วารป์มาที่เกาะไม่ท่อน ช่วเราไปคือเดือน พย.ยังมีฝนอยู่บ้างนะ คลื่นลมแรงปานกลาง น้ำทะเลสวยแต่ไม่ใส เพราะวันนั้นมีฝนประปราย

ใครไม่ไปดำน้ำก็นั่งชิว ถ่ายรูปเล่นอยู่ริมทะเล

น้ำทะเลสวยๆ ถ้าหน้าร้อนไม่มีฝน น้ำสวยกว่านี้เยอะ

รูปนี้ไกด์Love Andamanถ่ายให้ น้องๆพี่ๆไกด์ถ่ายรูปเก่งเอามากๆ พี่ปลื้มบอกเลย ใครไม่มีตากล้องไปดให้เค้าช่วยถ่ายได้นะ อะ..แอ๊กติ้งท่าตามน้องเค้าบอก โอ้วววววว ถ้าชุดนี้ได้ใส่บิกินี่ ทะเลจืดแน่ๆๆ โห๊ะๆๆๆๆ

นั่งทำใจ ไปทำงานต่อวันรุ่งขึ้น

ทริปนี้เราชอบนะมันมีแต่ธรรมชาติ ลองปลีกตัวไปในที่ที่ไร้สัญญาณโทรศัพท์ดูกันบ้างซิ จะรู้สึกได้ว่าเราใช้ชีวิตอยู่กับตัวเองและคนรอบข้าง มากกว่าหมกมุ่นอยู่กับเทคโนโลยีที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ มันเป็นความสุขทางใจและสงบทางจิตที่หาไม่ได้ง่ายๆในสังคมเมือง ลองไปกันดูนะ เราเชียร์เลยหละ

ฝากกดไลค์ กดแชร์ หรือติดตามผลงานรีวิวแชะ แชร์ ชิม ชิว ได้ที่ Facebook Where Am I นะคะhttps://www.facebook.com/whereamijourney/