กลับมาอีกครั้งตามคำเรียกร้อง (เหรอ) หลังจากปล่อยรีวิวแรกไปเมื่อปลายกุมภา 60 ก็หายเงียบไปเลยนับนิ้วไปมาเกือบครึ่งปี ระหว่างนั้นก็ออกรีวิวที่พักสั้นๆ ที่นั่นที่นี่ไปเรื่อย แต่ยังไม่มาต่อทริปนี้ซักที เพิ่งจะว่างค่ะ แปะของเก่า

https://pantip.com/topic/36135064

จากวันแรกจบที่กลางคืนในตัวเมืองปาย กระทู้นี้เริ่มที่เช้าของอีกวัน

วันที่ 2

ลอกแผนเดิมมาก่อน

1. ห้วยน้ำดัง

2. พระธาตุแม่เย็น

3. บ้านจ่าโบ่

4. ลีไวน์รักไทย

ทำได้จริง 3 ใน 4 ค่ะ ขาดพระธาตุแม่เย็น

ความเดิมตอนที่แล้ว จบที่ถนนคนเดินปาย ระหว่างเดินไปก็เจอทัวร์ค่ะเหมาไปห้วยน้ำดังดูพระอาทิตย์ขึ้นกับทะเลหมอก (1,500 บาท) คิดว่าให้คนพื้นที่ขับไปจะดีกว่าขับกันเอง นัดกับคนขับรถไว้ตีห้า สถานการณ์จริง มืดจริง มืดตืด คิดถูกที่ไม่มากันเอง

ก็รอแสงกันไป ตั้งแต่มืดตืดจนค่อยๆ มีแสงรำไร

ตอนแสงไม่มีนี่รู้สึกช้าจัง แต่พอแสงมาเท่านั้นแหล่ะค่ะ จ้าเลยถ่ายอะไรไม่ได้ย้อนแสงโล้ด ได้มาแต่ดอกไม้กับแมว

กลับออกจากห้วยน้ำดังประมาณแปดโมงเช้า ค่อยมองเห็นทางให้อุ่นใจมาหน่อย

จบมื้อเช้าแล้วเก็บกระเป๋าเตรียมเดินทางต่อ

จุดหมายต่อไปบ้านจ่าโบ่ เค้าว่ากันว่า เป็นร้านก๋วยเตี๋ยวที่วิวดี เรื่องอร่อยหรือป่าวไปพิสูจน์กัน เดินทางยาวๆ ชม.กว่าๆ

แวะเก็บอีก 1 จุดระหว่างทางกับจุดชมวิวกิ่วลม

สำหรับพิกัดก๋วยเตี๋ยวบ้านจ่าโบ่ :: 19.581442, 98.206105 จากกิ่วลมก็วิ่งยาวๆ ไป 40 กว่านาที

ด้านหน้าคือถ้าเลี้ยวขวาไปบ้านจ่าโบ่ ถ้าตรงไปไปแม่ฮ่องสอน (ตรงนี้ที่ เราและเพื่อนๆ ไม่สังเกตค่ะ เดี๋ยวมาเล่าความโก๊ะกัง ไปหาไรกินก่อน)

เลี้ยวขวาเข้ามาอีก 3 กม. ถึงร้าน

คำเตือน ก่อนถึงตัวหมู่บ้านเป็นทางลง ชัน คดเคี้ยวค่อนข้างยาว โปรดใช้ความระมัดระวัง ทางที่เห็นด้านหลังนั่นเลย อาจจะไม่ชัด แต่เรื่องความชัน ชัดเจนมาก

ร้านก๋วยเตี๋ยวเป็นเพิงๆ ข้างทาง สามารถจอดรถได้ริมถนนเลย

มาถึงแล้วจุดที่ถือเป็นแลนมาร์ค คือ ตรงนี้ค่ะ จะกินก่อนถ่าย หรือจะถ่ายก่อนกิน เอาที่สะดวก

ด้านในมีที่นั่งแบบปกติ คือ โต๊ะเก้าอี้ภายใน กับแบบพิเศษ คือ ได้วิวดีแต่แลกกับความเสียวนิดหน่อย เราเลือกอย่างหลังค่ะ มาหลายคนอาจจะต้องนั่งแยกๆ กันนะคะ ที่นั่งไม่เยอะมาก

วิวที่ได้ก็ประมาณนี้

วิธีสั่งก๋วยเตี๋ยว สั่งตรงเคาน์เตอร์ค่ะ (เรียกดูดีเข้าไว้) คนรับออเดอร์เค้าจดๆ ใส่กระดาษแล้วเราจำเลขคิวไว้ ระหว่างรอก็ถ่ายรูปท้าความสูงกันไปเพลินๆ

มื้อที่ 1

รอไม่นานคิวของเราก็ถูกเรียกค่ะ ไม่เสิร์ฟนะคะ ไปรับเอง สั่งแบบธรรมดาๆ ไป ให้เกียรติแม่ค้า

เส้นเล็กน้ำใส ต้มยำ รสชาติธรรมดา เฉยๆ คิดว่าไปถึงแล้วได้ดูวิวคุ้มกว่าไปกินค่ะ

แต่ถ้าใครคอกาแฟ แนะนำให้สั่งนะคะ รสชาติดี

ออกเดินทางกันต่อ จุดหมายต่อไป ลีไวน์รักไทย ปัญหามันเริ่มจากจุดนี้ค่ะ พวกเราขึ้นรถได้ก็ตรงไปเลยแล้วมาเซ็ทแผนที่ใน google map ระหว่างทาง แผนที่ก็ดี๊ดี เซ็ตตรงไปเลยค่ะ ตรงไป ยาวไป

จนมาเจอด่าน จนท.ที่ด่านก็ออกจะงงๆ นิดตอนบอกว่า ไป บ้านรักไทย แต่ก็ไม่พูดอะไรนะ (ทำไมไม่เตือนเราซ้ากกกคำ) เราก็ไปกันต่อค่ะ (ยัง ยังไม่รู้ตัว)

เลยด่านมาเท่านั้นแหละ ทางก็เป็นอย่างที่เห็น

มาดู google map อีกทีบอกอีก 2 ชม.กว่าถึงลีไวน์ ถนนที่วิ่งมาก็เลาะตะเข็บชายแดนพม่าเลย ส่วนเรื่องถนนก็แย่ๆ ไปเรื่อยๆ ตั้งใจว่าจะย้อนกลับแล้ว เจอรถขับสวนมาพอดีเลยหยุดถาม ได้ความว่า “โอ๊ย...มาผิดทางแล้ว ต้องย้อนกลับไปทางบ้านจ่าโบ่โน้นเลย”

จบค่ะ ท่านผู้ชม ถอยกลับโดยทันที สรุปคือ ขับเลยจากบ้านจ่าโบ่มา 15 กม.

และนี่คือเส้นที่เรามากันค่ะ เลาะชายแดนมาจริงๆ เราไม่ได้โกหก

เส้นฟ้าคือถนนปกติ เส้นแดงคือถนนที่เราบุกตะลุยกันเข้าไป

กลับเข้าเส้นทางปกติ แอบเลยทางเข้าบ้านรักไทยอีกหน่อย เส้นทางก่อนถึงบ้านรักไทยสำหรับเรานะคะ ถนนชันและค่อนข้างแคบ แอบไม่ปลื้มค่ะ ลากยาวๆ ไปหลายกีโลอยู่ กว่าจะถึงก็เกือบเวลาอาหารเย็น คือถ้าไม่มัวแต่ไปเลาะชายแดนมาก็คงถึงนานแระ

ลีไวน์รักไทย เห็นป้ายนี้ก็เลี้ยวเข้าไปเลยค่ะ แวะเชคอินตรงนี้ก่อน

ที่เห็นป้ายแดงๆ ลิบๆนั่นคือร้านอาหารของลีไวน์ค่ะ เราแวะกินที่นั่นมื้อเย็นกับเช้าอีกวัน เดี๋ยวพาไปดูหน้าตาอาหารเย็นกัน เก็บของแพรพ

ที่พักอยู่ด้านบน มีลานจอดรถอยู่ด้านบน ทางขึ้นเป็นแบบ one way คือ เลนเดียว ถ้าจะขึ้นข้างบนก็ห้ามลง แต่ถ้าข้างบนจะลงข้างล่างก็ห้ามขึ้น

กะจังหวะกันดีดี เท่าที่ดูจังหวะไม่ตรงกันหรอกค่ะ ไม่วุ่นวาย บ่นไปงั้นๆ

ลานจอดรถตามในรูปเลยค่ะ ซ้อนกันได้นิดหน่อย

บ้านพักของเราอยู่บนสุดค่ะ ทางเดินมีแยกซ้าย ขวา เดินไปเดินมา เดินเข้าบ้านคนอื่นซะงั้น

ถึงแล้ว บ้านดอกเหมย

ไปสำรวจในบ้านพักกัน

ตกแต่งแบบจีนๆ

สำหรับพัก 3 คน ต้องจ่ายเพิ่มค่าหมอน ผ้าห่ม และผ้าเช็ดตัว คือไม่มีเตียงเสริมนะคะ แต่ในห้องพักจะมีโซฟายาวติดหน้าต่าง นอนตรงนี้ได้

ในห้องพักมีทีวี ตู้เย็น ชากาแฟพร้อม (ชาอร่อย แนะนำให้ชงค่ะ มีวิธีชงบอกอยู่)

ถัดเข้าไปด้านในจะเป็นโซนแต่งตัวกับห้องน้ำค่ะ มีไดร์เป่าผมให้ด้วย สระผมได้ แต่หนาวๆ ก็อย่าเลย ลงพื้นราบค่อยว่ากัน

ผ้าขนหนูที่นี่สีไปได้ดีกับห้องพักมาก

ห้องน้ำแยกส่วนเปียกกับแห้งด้วยฉากไม้ค่ะ พื้นไม่เท่ากันแต่เวลาอาบน้ำแล้วเปียกเท่ากัน พื้นกระเบื้องในห้องน้ำตอนเช้ากับดึกๆ เย็นมาก รองเท้าที่ใส่ในห้องที่เตรียมไว้ก็สู้ไม่ได้

เครื่องทำน้ำอุ่นที่นี่เป็นระบบแก๊ส ใช้ทีไฟก็ลุกที

วิวด้านนอกก็ประมาณนี้ค่ะ

พรุ่งนี้เช้าจะรอชมหมอกขึ้นตรงหนองน้ำด้านล่าง

ไปดูหน้าตาและรสชาติอาหารเย็นของที่นี่กันค่ะ ร้านอาหารได้วิวริมน้ำน้อยๆ

อาหารที่นี่มีแบบเป็นชุด หรือจะสั่งเป็นจาน เท่าที่เห็นส่วนใหญ่มาเป็นทัวร์หมู่คณะค่ะ สั่งเป็นชุดก็สะดวกดี

ระหว่างรออาหารมาเก็บบรรยากาศยามเย็นริมน้ำมาฝาก จิบชาร้อนไป ดูวิวไป (ชื่อชายอดน้ำค้าง เป็นชาตัวเดียวกับในห้องพัก)

มื้อที่ 2

อาหารมาแล้ว ชื่อเมนูอาจจะไม่แม่น อย่างแรก ยำใบชา ใครชอบกินผักสมุนไพรเมนูนี้เหมาะมากค่ะ อุดมไปด้วยผักและผัก แต่รสชาติยำ เราว่ายังอ่อนไปนิดค่ะ

เมนูต่อไป ผักเห็ดหอมสด สดจริง อร่อยจริง กินเกลี้ยง

ผัดผักอะไรจำไม่ได้ละ คือใครชอบผักก็จะอร่อยเอร็ด แต่อันนี้ขอบาย

ปลาสามรส มั่นใจว่าตอนสั่งคิดว่าจะได้ปลาสามรสแบบที่เคยกินมา คือ เปรี้ยวนำ เผ็ดตาม หวานเค็มต่อมา แต่ผิดคาดไปไกลค่ะ อันนี้ออกแนวปลาราดด้วยน้ำพริกอ่อง รสก็เลยจะจืดๆ ไม่ค่อยเข้ากันเท่าไหร่ (นั่งมองปลากันตาปริบๆ)

ยำหมูยอ เป็นเมนูพื้นฐานที่ขอให้ได้กิน คล้ายยำใบชาค่ะที่รสชาติยังอ่อนไปนิด

โดยรวมๆ แล้วอาหารรสชาติพอได้ค่ะ แต่เราอาจจะไม่ได้สั่งเมนูแนะนำของทางร้านด้วย แบบอาหารยูนนานไรทำนองนั้นก็เลยตอบได้ไม่เต็มที่ว่าทำอร่อยหรือไม่อร่อยซะทีเดียว

ก่อนกลับซื้อซาลาเปาทอดกลับไปกินต่อที่ห้องด้วย (เดาว่าเดินจากร้านไปที่พักด้านบนก็คงหิวพอดี)

กว่าจะจบมื้อเย็นก็มืดพอดี ที่นี่ค่อยข้างเงียบค่ะ เดินกลางถนนไปยาวๆ ไม่มีรถมาซักคัน

ร้านกาแฟค่ะ เค้าว่ากันว่าวิวพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้าจากร้านนี้สวยงาม ไว้พรุ่งนี้มาดูกัน

แต่วันนี้เดินขึ้นห้องพักเก็บแรงไปก่อน

เช้านี้ที่ 10 องศาค่ะ

วิวหน้าห้องพักก็จะสวยๆ แบบนี้

ลงไปชมวิวกันต่อด้านล่าง

วิวสวยๆจากร้านกาแฟที่เห็นเมื่อคืน

แอบเสียดายที่ไม่ได้ขึ้นไปชมวิวจากชั้นสองของร้าน

มื้อที่ 3

อาหารเช้าที่นี่เป็นบุฟเฟ่ต์ มีชากาแฟโอวัลติน ขนมปัง ข้าวต้มเครื่อง หมันโถวทอด ปาท่องโก๋ และผัดหมี่ยูนนาน (มั๊ง อันนี้อร่อยสุด)

ก่อนกลับแวะซื้อของฝากกันเล็กน้อย (แนะนำขนมตุ๊บตั๊บพม่า อร่อยจริง)

ขึ้นมาเก็บวิวจากหน้าห้องพักอีกนิดก่อนเชคเอ้าท์แล้วเดินทางต่อ

ก็จบในส่วนของทริปวันที่ 2 จุดหมายต่อไปจากบ้านรักไทยเข้าสู่ตัวเมืองแม่ฮ่องสอนค่ะ (นี่ก็ยังไม่รู้ว่ารีวิวต่อไปจะคลอดเมื่อไหร่ โปรดติดตามรอชมอย่างอดทน)

ไปกินไปเที่ยว - หญิงเฮเทกระจาด

 วันพุธที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2560 เวลา 13.22 น.

ความคิดเห็น