พูดถึงพัทยา หลายคนคงนึกถึงแสงสียามค่ำคืน

แต่พอได้มาพักที่ ‘ Cape Dara Resort

เรากลับได้เห็นพัทยาในมุมที่เราไม่เคยเห็น..

รีสอร์ทนี้ตั้งอยู่บนแหลมที่เป็นส่วนตั๊วส่วนตัว

ในฝั่งนาเกลือ เป็นหนึ่งในไม่กี่ที่ในพัทยา

ที่เราสามารถมองเห็นดาวตอนกลางคืน

ที่นี่มีห้องพักทั้งหมด 11 ประเภท ทุกห้องเป็นวิวทะเล

รีวิวนี้เราจะพาไปดู 3 ประเภทพีคๆ ก็คือ Dara Deluxe,

Dara Private Pool Suite, Top Star Private Pool Residence

ตอนท้ายรีวิวมีคาเฟ่ + ร้านอาหารแนะนำ 5 ร้าน

พร้อมแล้ว ไปดูกันเลยค่ะ : )



เล่า background ของรีสอร์ทให้ฟังก่อนแล้วกัน..

Cape Dara เป็นรีสอร์ทระดับ 5 ดาว ในพัทยา

เพิ่งเปิดได้ไม่กี่ปี แต่กวาดรางวัลมาเยอะพอสมควร

ห้องพักที่ทำให้โรงแรมนี้กลายเป็นที่รู้จัก ก็คือ

ห้อง Dara Deluxe ที่ปิงนั่งชมวิวพัทยาในรูปหน้าปก

แต่จริงๆห้องประเภทอื่นๆก็สวย มีดีไซน์ชัดเจน

คือจะเน้นเรื่องดวงดาว ความโค้งมน และ โทนสี

ขาว เทา ฟ้า ทอง เป็นหลัก



-------- CAPE DARA RESORT --------


เริ่มจาก lobby ซึ่งสร้างความประทับใจให้คนที่

เพิ่งมาถึงมากๆ เพราะทำเป็นโถงกว้าง เพดานสูง

เชื่อมกับสระว่ายน้ำโดยตรง ทำให้มีลมพัดตลอด

เดินทางมาเหนื่อยๆ เข้ามาถึงก็หายเลยยย <3



มาต่อกันที่สระว่ายน้ำ ที่นี่มีสระว่ายน้ำส่วนกลางทั้งหมด 2 สระค่ะ

สระแรกจะเป็นสระใหญ่ อยู่ติดกับ lobby และ ห้องอาหาร

สระนี้เปิดยาวถึงเที่ยงคืน ส่วนอีกสระหนึ่งอยู่ติดหาด และ

อาคาร Beachfront เป็นส่วนตัวกว่าสระใหญ่ เปิดถึง 1 ทุ่ม

ซึ่งทั้ง 2 สระ มีบาร์เครื่องดื่มให้บริการด้วยนาจาาาา



มุมนี้ห้ามพลาด ถ่ายแล้วดูชีวิตดี



จากสระว่ายน้ำ เราเดินมาที่อีกอาคาร Beachfront

เพื่อเข้าห้อง ‘ Dara Private Pool Suite ‘ ค่ะ



ห้องนี้ขนาดประมาณ 40 ตร.ม. มี 1 ห้องนอน

1 ห้องน้ำ และ 1 สระว่ายน้ำ ซึ่งมองลงไปเห็น

สระส่วนกลาง ( สระเล็ก ) และชายหาด

ที่ชอบคือพื้นสระว่ายน้ำในห้อง ทำเป็นพื้นทราย

ลงไปเล่นแล้วได้ฟีลเล่นน้ำทะเลดีค่ะ55555




สิทธิพิเศษของคนที่พักห้องพักประเภทนี้ คือ

เพื่อนๆสามารถใช้ Dara Club Lounge ได้

ขึ้นไปทานมื้อเช้าแบบ private ได้

เช็คอิน เช็คเอ้าท์ แบบไม่ต้องแย่งกับคนอื่น

ได้บริการ afternoon tea และ sunset cocktail

แถมบริการซักผ้าวันละ 2 ชิ้น อีก เอาสิ !

เข้าไปดูราคาและข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่

http://www.capedarapattaya.com/





ที่เลิฟมาก คือ ทางรีสอร์ทจับมือกับแบรนด์น้ำหอม

BVLGARI เพื่อทำครีมอาบน้ำ ยาสระผม ครีมนวดผม

เก็บกลับบ้านเป็นของที่ระลึกได้ด้วย เลิศศศศศศ




เกือบลืมบอกไป ตอนเข้ามาในห้อง

บนเตียงจะมีนิตยสารเล่มเล็กๆ ชื่อ Happening

ที่ทางรีสอร์ททำขึ้นมาเอง ในเล่มจะบอกว่าเดือนนี้

มีอีเว้นท์อะไรในพัทยา รวมถึงที่เที่ยว / ร้านอาหารใหม่ๆ

ใครไม่มีแพลนก็ไปตามนิตยสารเล่มนี้ได้เลย




และนี่คือหน้าตาของ afternoon tea *O*



นอนเล่นในห้องสักพัก เราก็ออกไปสำรวจรอบๆ

เริ่มที่สระว่ายน้ำสระเล็กที่อยู่หน้าห้องพักของเรา

ช่วงบ่ายๆเย็นๆแบบนี้คนกำลังเยอะเลย ชิลมาก !



ขออีกสักรูปๆ555555



ใครอยากทานขนมก็มาได้ : D



ถึงแล้วววววววว ‘ Dara Deluxe

โชคดีที่เพื่อนเรานอนห้องนี้ เลยได้เข้ามาถ่ายรูป

ส่วนตัวเราชอบห้องนี้มากกว่าห้องเราอีก5555

เพราะถึงมันจะเล็กกว่า แต่วิวมันดี ! มันมองเห็นทะเล

จากมุมสูง แล้วด้วยความที่ผนังด้านนึงเป็นกระจก

ทำให้แสงส่องเข้าห้องตลอด มันดูโปร่งอ่ะว่าง่ายๆ



และนี่ก็คือออออออออออ ห้องน้ำในฝัน <3

มาที่นี่ต้องได้รูปมุมนี้ บอกเลยยยยยย

เหมือนเดิมค่ะ ราคาห้องพักเปลี่ยนแปลงตาม

ช่วงเวลาที่เข้าพัก แนะนำให้เช็คกับทางเว็บไซต์

ของที่พักโดยตรง http://www.capedarapattaya.com/



นี่วิวจากระเบียงห้อง Dara Deluxe..



มาสำรวจส่วนกลางกันมั่ง

ห้องสปาที่นี่ชื่อ Luminous Spa มีทั้ง indoor

และ outdoor ค่ะ ทั้ง 2 แบบมองเห็นวิวทะเล

มีบริการ Luminous Signature Massage,

นวดแผนไทย นวดน้ำมัน ทำผม ฯลฯ

เปิด 11.00 – 20.00 น. โทรสอบถามได้ที่ 03893388

ส่วน Fitness ก็อยู่ชั้นเดียวกัน มีพนักงานดูแลตลอด

ไม่ใหญ่มาก แต่ก็มีอุปกรณ์เบื้องต้นครบบบบ !



อย่างที่รู้กันว่า ห้องพักจะรวมอาหารเช้าไว้ให้

ส่วนมื้อเที่ยงกับมื้อเย็น เพื่อนๆจะทานที่ที่พักก็ได้

เพราะเขาก็มีห้องอาหารหลากหลาย หรือ จะใช้

บริการรถรับ – ส่ง เข้าไปหาอะไรกินในเมืองก็ได้

ให้เขาไปส่งที่ วงเวียนโลมา ไม่ก็ Mike Shopping Mall

ใกล้ๆ walking street ไม่มีค่าบริการเพิ่มเติมนะจ๊าาาา



ไว้จะรีวิวร้านอาหาร + คาเฟ่ ที่เราไปให้อ่าน

ตอนท้ายทีเดียว แต่ตอนนี้ขอรีวิวที่พักให้ทั่วก่อน

และนี่คือบรรยากาศรอบๆที่พัก ตอนกลางคืนค่ะ..



เนื่องจากเราพักห้องแบบ Dara Private Pool Suite

เราเลยเลือกได้ว่าจะทานมื้อเช้าที่ห้องอาหาร หรือ ที่

Dara Club Lounge ก็เลยทานทั้ง 2 ที่เลย เพราะมา

พัก 2 คืน ฮ่าๆ ขอเริ่มจากห้องอาหาร ซึ่งกว้างมากกก

เหมือนโรงอาหารเลยแหละ55555 รองรับแขกได้เยอะ

มีทั้งโซนที่มีแอร์ และ โซนรับลมธรรมชาติ




ส่วนตัวต้องขอรีวิวตามจริงว่ามื้อเช้าที่นี่ยังไม่ปัง

ก็มีให้เลือกเยอะ แต่รสชาติยังไม่ประทับใจ

ถ้าเทียบกับโรงแรม 5 ดาวอื่นๆที่เราเคยไปพัก

แต่ก็ไม่แย่ค่ะ พนักงานบริการดี วิวดี : )



เช้าวันสุดท้าย เราพาเพื่อนๆมาส่อง Dara Club Lounge

ถือเป็นมื้อเช้าที่ Private มากๆ และ วิวก็สวยๆมากๆ

แต่บนนี้มีอาหารให้เลือกน้อยกว่าห้องอาหารด้านล่างนะ



กดชัตเตอร์รัวๆ..



สุดท้าย ห้อง ‘ Top Star Private Pool Residence

ขอบคุณทาง Cape Dara มากๆที่อนุญาตให้ปิง

เข้าไปถ่ายภาพห้องพัก type นี้มาให้เพื่อนๆดู

มันคือที่สุดอ่ะ ! ถ่ายรูปไปขนลุกไป5555555

ล่าสุดเข้าไปดูราคาห้องพักปกติประมาณ 270,000 บ.

ต่อคืน แต่นี่ช่วง low ก็ประมาณ 194,000 บ.

ภายในมี 3 ชั้น มีห้องนอนทั้งหมด 5 ห้อง

ทุกห้องนอนมีห้องน้ำในตัว และ ทุกห้องน้ำมีอ่าง !

ยังไม่รวมครัวห้องนั่งเล่น และ สระว่ายน้ำส่วนกลาง

เกือบลืมบอก ห้องนี้รองรับได้ 15 คน หารกันก็พอได้นะ5555

ดูข้อมูลเพิ่มเติมที่ http://www.capedarapattaya.com/ ค่ะ




นี่ห้องครัวววววววววววว




ห้องนอน และ ห้องน้ำจะตกแต่งคล้ายๆกันค่ะ

ที่โดดเด่นคือมีห้องนอนหนึ่งที่เปิดเพดาน ดูดาวได้

อะเมซิ่งงงงงงงงงงงง !



ห้องน้ำทุกห้องมีทั้ง ฝักบัว และ อ่างอาบน้ำ

โถส้วม ปรับระดับน้ำและอุณหภูมิน้ำได้



ทางเดินชั้นสองค่ะ



อ่ะ ให้ดูๆๆๆ



ไปต่อกันที่ชั้นล่าง



ยังคงความดูดีมีระดับ





จากการสอบถามพนักงาน เขาบอกว่าห้องนี้

ก็มีคนมาพักเรื่อยๆค่ะ มีทุกเดือน ส่วนใหญ่จะเป็น

นักธุรกิจในประเทศไทย ยกมาทั้งครอบครัว

แต่ที่พีคมากคือ DJ ระดับโลกอย่าง DJ Zedd

ก็เคยมาพักที่ห้องนี้ด้วย ได้ไปเห็นถือเป็นบุญตามากๆ



จบแล้ว รีวิว Cape Dara Reosrt โรงแรม 5 ดาวในพัทยา

หวังว่าจะถูกใจเพื่อๆ เพราะปิงก็ตั้งใจถ่ายมาให้ครบ

ทุกซอกทุกมุม คอนเฟิร์มว่าโรงแรมสวยจริง

พนักงานบริการดีจริง แต่ที่อยากให้ปรับปรุงคืออาหาร

และความเร็วของ wifi ฮี่ๆ เอาเป็นว่ามาเถอะ มาลอง <3



—— 5 CAFES & RESTAURANTS in PATTAYA ——

ร้านแรก ชื่อ ‘ BABA Eating House

ร้านนี้เป็นคาเฟ่เล็กๆที่ตกแต่งสไตล์ออสเตรเลีย

ทางร้านมีมื้อเช้า, brunch, แซนวิช, เครื่องดื่ม

เราสั่ง iced chocolate ไป ดีงามมากกกก

เค้าใช้นมสด กับ ช็อคโกแกลตเหลว แล้วใส่

ไอศกรีมช็อคโกแลตลงไป โดยไม่ต้องคนให้เข้ากัน

เพราะสุดท้ายเนื้อไอศกรีมก็จะละลายรวมกับนมเอง

+ ที่อยู่ : ปากซอยนาเกลือ 25 ถนนพัทยาเหนือ

+ เปิด – ปิด : 7.00 – 20.00 น. ปิดวันอังคาร ( ส, อา ปิด 18.00 น. )

+ แฟนเพจ : https://www.facebook.com/babaeatinghouse/

+ เบอร์ติดต่อ : 080 562 6670




ร้านต่อไป คือ ‘ Skoop Beach Cafe

หลายคนอาจจะเคยเห็นร้านนี้ทางอินเทอร์เน็ต

แต่ยังไม่เคยไป เพราะร้านอยู่ไกลพอสมควร

รอบนี้เพื่อนเราขับรถมา เลยได้มาซะที !

ร้านน่ารักมาก เป็น box 2 ชั้น อยู่ติดหาดเลย

เสิร์ฟเมนูของหวาน อย่าง waffle, ไอศกรีมแซนวิช

แต่ที่สาวๆน่าจะชอบคือไอศกรีมโคน ที่เขาทำเป็น

ลายต่างๆ เหมาะแก่การถ่ายรูปลงไอจี <3

+ ที่อยู่ : หาดจอมเทียน ข้างโรงแรม Veranda

+ เปิด – ปิด : 11.00 – 21.00 น.

+ แฟนเพจ : https://www.facebook.com/skoopbeachcafe/

+ เบอร์ติดต่อ : 091 725 4569



ร้านที่สามมมมมมมม ‘ ริมผา ลาภิน

ร้านนี้ถือเป็น a must ของคนมาเที่ยวพัทยาเลยยย

ขายอาหารไทย + ซีฟู๊ด ตั้งอยู่บนหน้าผาแถวหาดจอมเทียน

ทำให้ร้านต้องทำที่นั่งเป็นระเบียงลงไปตามหน้าผา ซึ่งมองเห็น

วิวทะเลและเมืองพัทยาแบบเต็มๆ อีกอย่างคืออาหารที่นี่สด

อร่อย ราคาเหมาะสม ใครยังไม่เคยมา แนะนำ !

+ ที่อยู่ : ซอยนาจอมเทียน 36 กม. 160 บ้านอำเภอสัตหีบ

+ เปิด – ปิด : จ – ศ 16.00 – 24.00 น., ส – อา 14.00 – 24.00 น.

+ แฟนเพจ : https://goo.gl/vxUFe9

+ เบอร์ติดต่อ : 038 235 515



ร้านต่อไป ใกล้ที่พักหน่อย ชื่อ ‘ Yellow Submarine

เป็นร้านไอศกรีมโฮมเมดที่น่ารักที่สุดในสามโลกกกกก

ถึงร้านจะเล็ก แต่ คอนเซ็ปต์ร้านชัดมาก ชอบ

ตกแต่งด้วยสีเหลือง ชมพู และ เจ้าฟลามิงโก้

ในร้านมีที่นั่งแค่ 3 – 4 ที่เท่านั้น เพราะเมนูส่วนใหญ่

เป็นแบบ takeaway ไอศกรีมมีหลายรส แต่ที่ชอบ

คือรสยาคูลท์และรสมะพร้าวอัญชัน สดชื่นมากๆ

+ ที่ตั้ง : ซอยนาเกลือ 16/2 ติดกับ Prima Villa Hotel

+ เปิด – ปิด : ทุกวัน 12.00 -21.00 น.

+ แฟนเพจ : https://www.facebook.com/yellowsubmarinepty/

+ เบอร์ติดต่อ : 089 003 4343



ร้านสุดท้ายยยยยยยยยย ‘ Blue Tang Cafe & Bar

เขยิบจากร้าน yellow submarine มานิดเดียว

ก็จะเจอคาเฟ่สีขาวสะดุดตา ด้านในตกแต่งด้วย

สีขาว ดำ เทา น้ำเงิน เป็นหลัก ออกไปทางเกาหลีๆ

ร้านเปิดโล่ง นั่งสบาย แต่เราสั่งเมนู ลิ้นจี่โซดาไป

ไม่อร่อยเลย หวานมากกกก แทบไม่มีรสโซดา

ใครเคยไปลองเมนูอื่นก็เอามาเล่าต่อได้น้า

+ ที่ตั้ง : ข้างร้าน Yellow Submarine

+ เปิด – ปิด : 8.00 – 21.00 น.

+ แฟนเพจ : https://www.facebook.com/bluetangcafeandbar/

+ เบอร์ติดต่อ : 081 900 0051



จบแล้ว ทริป 3 วัน 2 คืน เที่ยวพัทยาในมุมใหม่ๆของเรา

หวังว่าเพื่อนๆจะถูกใจ อยากไปตามรอยกันน้า

อย่าลืม ติดตามรีวิวอื่นๆของปิงได้ที่ http://www.blissoutthere.com/

และ อย่าลืมกดติดดาว / see first เพจเราไว้จะได้ไม่พลาดรีวิวต่อไป

https://www.facebook.com/BlissOutThere/

แล้วเจอกันใหม่ทริปหน้าค่ะ บายยยยยยย <3


Bliss Out There

 วันพฤหัสที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2560 เวลา 14.40 น.

ความคิดเห็น