แบกเป้ไปเที่ยว"ลาว" ณ วังเวียง ( PART 2 )

04 DECEMBER 2016

: ตื่นสายนิดหน่อย :

เช้าวันใหม่วันที่ 2 ที่วังเวียง ยังแอบเพลียเลยตื่นสาย ตื่นมาตอน 6 โมงเช้ากว่า ซึ่งอันที่จริงคือตื่นช่วงเช้ามืดมากๆ เพื่อมารอดูพระอาทิตย์ขึ้น แต่ฝนตกไม่แรงมาก เลยแว้บบบบเข้ามานอนก่อน แล้วก็หลับๆตื่นๆ เห็นว่าฟ้ายังไม่สรางและฟ้ามัว คิดว่าคงไม่ได้เจอพระอาทิตย์แร่ะ เลยหลับไปสักตื่นพักใหญ่ๆ55

บรรยากาศยามเช้าของที่พัก จะสดชื่นมากหลังฝนตก


เดินถ่ายรูปเล่นบริเวณหน้าที่พัก จะติดกับแม่น้ำซอง

แสงแดดยามเช้าหลังฝนตก เหมือนให้ชีวิตมีพลังอีกครั้งไม่ว่าจะอยู่ที่ใดของโลกใบนี้...มาเดินเล่นรับแสงเช้าริมแม่น้ำซองหน้าที่พัก บรรยากาศเงียบสงบเช่นเคย คนเมาก็เริ่มสร่าง มาเดินเล่นหลายคน ฝูงวัวแวะมาเดินเล่นหาของกินแถวที่พักจะมีความเป็นธรรมชาติค่อนข้างสูง คนกับวัวใช้ชีวิตร่วมกัน


ในบริเวณรอบที่พักจะมีที่พักอยู่หลายแห่งตามฝั่งริมแม่น้ำซอง









เดินเล่นชมวิวรอเวลา ไป Adventure ตาม package ที่เลือก คือ พายเรือคยัค และไป ฺ Blue lagoon ซึ่งไม่ ADventure เท่าไร่หรอก 5555 อยากพายเรือคยัคมากกว่า นัดให้รถมารับตอน 9 โมงเช้า เลยต้องเดินหาของกินตอนเช้าฆ่าเวลาไปพลางๆ ก่อน บนถนนตอนเช้ายังคงไม่วุ่นวาย ต่างคนต่างใช้ชีวิตตามวิถีของตนเอง



: ไปพายเรือคยัค กันดีกว่า :

รถมารับเก้าโมงกว่า แอบเลทนิดหน่อย รถพาเราออกมาตามถนนนอกเมือง

วิ่งเข้าสู่ถนนลูกรัง ดินแดง ที่เต็มไปด้วยฝุ่นมหาศาล

เตรียมตัวพิชิตฝุ่นมาอย่างดีเลยแหล่ะ แต่แทบต้านทานไม่ค่อยไหว

ดีนะที่อ่านรีวิวมาก่อน เตรียมผ้าปิดจมูกมาอย่างดี แต่ก็ไม่สามารถต้านทานได้ หลับหูหลับตาปิดจมูก จนถ่ายรูปช่วงที่ฝุ่นคละคลุ้งไม่ไหว

" แค่หายใจยังลำบากเลย " 55555

สภาพทางดินแดงและฝุ่น

ก่อนจะพายคยัค เจ้าหน้าที่ จะเขียนรหัส ลงบนแขน ว่าใครเล่นอะไรบ้าง เป็นโค้ด ชื่อกิจกรรม ที่ต้องทำวันนี้ ของเราเขียนว่า K.B .นั่นคือ พายเรือ Kayak กับ Blue lagoon


บรรยากาศที่จุดรวมพล

รถพาเรามาถึง จุดปล่อยตัวของหลายๆกิจกรรม และเตรียมของเตรียมอุปกรณ์ แจกน้ำดื่ม ให้พกไปด้วย ส่วนนักท่องเที่ยวคนอื่นก็จัดแจงกับอุปกรณ์ที่ได้รับ มีนักท่องเที่ยวเย่อะมาก ส่วนมากจะเป็นชาวเอเชียแทบทั้งนั้น



สองพ่อลูกชาวญีปุ่น กำลังเล่นปาหินกระเด้งบนพื้นน้ำ

มาช่วงนี้ไม่ค่อยเจอคนไทย ในหมู่คนที่มาที่นี่ เจอแค่ 3 สาว ที่มาด้วยกันเองเป็นคนไทย มาพายเรือคยัคเหมือนกัน เลยคุยกัน ทักทาย ถ่ายรูปให้กันตามประสาสักพัก รถบรรทุกเรือมาถึง เราก็มาเตรียมตัว ลุยยยยยยย กันดีกว่า.....





เรือคยัคมารอเราแล้ว

ถึงเวลาต้องแจวเรือน้อยไปตาเกาะแก่งแล้วละ !!!

พาเรือ ล่องไปตามแก่งน้อยใหญ่ แอบตื่นเต้นตลอดเลย เวลาเจอแก่งน้ำเชี่ยวไม่ชอบแนวนี้ แต่เห็นเป็นแก่งไม่เชี่ยวมาก พอไหว ก็พายไป แม้จะเถียงบ้างไรบ้างกับเพื่อน เรื่อง พายขวา พายซ้าย บางทีก็แอบหงุดหงิดที่เพื่อนมันพายไม่ค่อยเป็น 555


: ความเอ๋ย ความร้อนนน :
ความร้อนเป็นอุปสรรคไปแล้วตอนนี้ คือทั้งร้อนและแสบหน้า ไปหมด ใส่ขายาวมา แต่ลืมใส่เสื้อแขนยาว ปรากฏว่า ผิวสีแทนอยู่แล้วก็เริ่มเกรียมทันที




ความร้อน ทำให้เราไม่สนุกเท่าไหร่ ต้องควักน้ำลูบหน้ารูปตัวตลอด รู้อย่างงี้ ไปพายตอนช่วงเย็นดีกว่านอกจากพายเรือแล้ว ใครชอบเอาก้นแช่น้ำ ลอยไปตามกระแสน้ำก็ได้ จะมี Tubing คือการลอยห่วงยางนั่นเอง ทั้งฝรั่งและคนไทยจะชอบมาก เห็นลอยจับกลุ่มอยู่หลายกลุ่ม ตามริมฝั่งก็มีบาร์น้ำเย็น เพลงมันส์ให้เข้าไปพักผ่อนคลายด้วย

ใกล้ถึงที่หมายตอนเที่ยงวัน

พายgเรือคยัคใช้เวลาประมาณ เกือบ 3 ชั่วโมง ก็พายมาถึงที่หมายซึ่งจะเป็นการพายวนตามแม่น้ำซอง แต่ไม่ได้บรรจบจากจุดปล่อยตัว






ถึงจุดหมายปลายทาง

เกือบบ่ายโมงกว่าจะได้กินข้าว ซึ่งมีขนมปัง Bagette อยู่ในแพ้คเก็จพอดี ทีแรกเห็นขนมปังอันใหญ่ๆ ก็ดูไม่น่ากินแล้ว แต่เมื่อวันรวมอยูในแพ็คเก็จทริป ก็ต้องกินจะไปหากินตอนเที่ยง


ขนมปังที่อร่อยมาก เนื้อ ไข่เน้นๆเต็มคำ

นั่งกินขนมปังเสร็จก็ขอตัวไปพักผ่อนที่บ้านพัก ซึ่งอยู่ไม่ไกลมาจากจุดรับตัวเพื่อไปเที่ยว Blue Laggon ตอนบ่าย 2 โมง และเราจะเดินมาที่จุดรับอีกทีตอนบ่ายสอง ตอนนี้อยากนอนพักแล้วคิดถึงเปลญวนหน้าห้องพักจัง


กลับมานอนเล่นบนเปลที่บ้านพัก

เมื่อเวลาใกล้รถมารับ เราก็เผื่อเวลาเดินไปยังจุดที่รถมารับ เดินมารอรถเพื่อรับไป ที่ Blue lagoon พี่คนขับรถ ให้เวลาอยู่ที่นี่เกือบ 2 ชั่วโมง


- ฺBLUE LAGOON -

น้ำเป็นสีฟ้าอย่างที่เห็นตามรูปเช่นนั้นเลย น้ำในช่วงนี้เย็นมาก เพราะเป็นช่วงหน้าหนาวแต่นักท่องเที่ยวที่ตั้งใจมากระโดด Blue lagoon ไม่มีความหวั่นไหวเลย

ได้แต่นั่งถ่ายรูป ไม่กล้าเล่น ไม่กล้ากระโดด และน้ำก็เย็นมากกกด้วย เลยส่งเพื่อนเป็นตัวแทนกระโดดระยะสั้น ไม่ใช่บนกิ่งไม้นะ เพราะมันก็ไม่กล้าเหมือนกัน ฮ่าๆๆๆ

บรรยากาศที่ BLUE LAGOON

ระหว่างรอเพื่อนเล่นน้ำ ส่วนเราก็หาน้ำกินแก้กระหาย ราคานี่พอๆกับพวกร้านน้ำคาเฟ่ที่บ้านเราเลย สนนราคาเริ่มต้นที่ 70 กว่าบาท เมื่อคิดเป็นเงินไทย

สั่งน้ำพันซ์ปั่นมากิน

ได้เวลากลับที่พักแล้วละ ตอนนี้อากาศเย็นมากแล้ว มีความหิวเข้ามาแทนที่ รีบกลับที่พักหาของกินอร่อยๆกินดีกว่า

เส้นทางวังเวียงขากลับนั้นสวยมาก นั่งอยู่บนรถถ่ายได้มา 2-3 ภาพอากาศตอนเย็นมีความดีงามมาก ครึ้มฝน ลมเย็นดีตลอดทางที่เห็น จะมีนักท่องเที่ยวฝรั่งชอบปั่นจักรยานมา Blue lagoon

เส้นทางวังเวียงขากลับจาก Blue Lagoon

- ด้านหลังที่พัก สวรรค์ของคนชอบดูพระอาทิตย์ตกดิน -

หลังจากกลับมาจาก Blue Lagoon ช่วงเย็น จึงเดินเล่นแถวที่พัก มีภูเขาทุ่งนาอยู่ด้านหลัง และใจก็หวังว่า จะได้ดูพระอาทิตย์ตกดินในวันนี้

รอบๆทุ่งนาจะมีรีสอร์ทกำลังสร้างใหม่ (ซึ่งตอนนี้น่าจะสร้างเสร็จแล้ว) มีบ้านชาวบ้านเลี้ยงเป็ด เลี้ยงไก่อยู่รอบๆ มีวิถีชีวิตให้นั่งมองการใช้ชีวิตช้าๆของคนที่นี่ บางทีชีวิตของคนบางคนก็ต้องการความสุขแค่นี้แหละ ความสุข คือ ความพอใจกับสิ่งที่เรามีอยู่ นั่นเอง

ทิวเขาด้านนี้เมฆกำลังตั้งเค้ามาแต่ไกล ส่วนอีกด้านนึงแสงสุดท้านกำลังลาลับขอบฟ้า


ยืนดูพระอาทิตย์ลาลับขอบฟ้า

ในที่สุดเวลาที่รอคอยก็มาถึง การกระโดดโลดเต้น เหมือนเด็กๆ จนเพื่อนชินตาแร่ะ ยืนมอง สูดหายใจลึกๆ แสงจะนำพลังมาให้เรา

ส่วนอีกด้านของขุนเขา มีเพียงก้อนเมฆตั้งเค้ามาแทนที่

เมฆหมอกมาพร้อมสายฝนปรอยๆ

แสงตอนเย็นที่ไร้เงาแสงจากดวงอาทิตย์ ยังพอให้ได้เก็บบรรยากาศต้นไม้ ดอกไม้ ใบหญ้า ก่อนที่จะเดินออกมาจากท้ายหมู่บ้าน เดินให้ทันก่อนฝนจะตกหนัก (คิดเอาเอง)


แมว ดอกไม้ ใบหญ้า ต้นข้าว



: มื้อเย็นริมแม่น้ำซอง :

มื้อนี้ไปกินไกลจากที่พักหน่อย แม้จะมีอาหารแบบเดียวกัน แต่ไร้ซึ่งความเงียบสงบ แสงไฟ และเพลงจะดังไปไหน

เมนูในใจคือส้มตำและอาหารแซ้บๆๆ มันก็จะโรแมนติคและมีลมแรงพัดแสงเทียนดับตลอดเลย กินท่ามกลางความมืดก็ได้นะ ฮ้าๆๆๆ

บรรยากาศชิวๆนั่งทานมื้อเย็นริมแม่น้ำซอง




-------------------------------------------------------------------------

" โปรดติดตามตอนต่อไป PART 3 เที่ยวส่งท้ายที่วังเวียง

-------------------------------------------------------------------------




แมวพเนจร : Coco's Journey

 วันเสาร์ที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2560 เวลา 18.28 น.

ความคิดเห็น