วันนี้จะพามาชมรถไฟที่วิ่งระหว่างเมือง เตะหะราน ไป ชีราส ที่อิหร่านกันครับ ซึ่งรถไฟขบวนนี้เรียกได้ว่ามีความเป็นโลกแห่งอนาคตสูงมาก

ทำไมเหรอครับ เดี๋ยวในรีวิวจะสามารถเข้าใจได้เป็นช่วงๆว่ามีความเป็นโลกแห่งอนาคตสูงมากอย่างไร



รถไฟขบวนนี้เรียกง่ายๆว่า Fadak Trains ที่หลายๆคนในอิหร่านบอกว่าเป็น Luxury Trains ส่วน Fadak เองก็เคลมและตั้งชื่อโซเชียลต่างๆ

ทั้ง ไอจี เทเลแกรม เป็น fadak5startrains หรือเรียกว่าเป็นขบวนรถไฟ 5 ดาวนั่นเอง

สำหรับแพลนที่วางไว้ตอนแรก ก็ไม่ได้จะใช้บริการรถไฟเลย เพราะใช้เวลาประมาน 14 ชม. และรถไฟก็เป็นรถไฟธรรมดาแบบบ้านเรา

มีวันละ 1 ขบวน ออกทุกเย็นและไปถึงอีกเมืองตอนเช้า ซึ่ง จขกท ตั้งใจนั่งเครื่องบินที่ใช้เวลาเพียง 1 ชม.เท่านั้นเอง

แต่พอใกล้วันเดินทางก็หาข้อมูลท่องเที่ยวทั่วไป แล้วมาเจอข่าวแนะนำขบวนรถไฟใหม่ของ Fadak Trains ที่เพิ่งเปิดให้บริการ

เลยมีความอยากลองนั่งดูของใหม่บ้าง ซึ่งตอนแรกก็หาข้อมูลยากมาก เพราะขนาดคนอิหร่านเอง ยังไม่นิยมใช้บริหารรถไฟเลย

เพราะการนั่งเครื่องบิน และรถบัส ค่อนข้างสะดวกกว่ามาก และการจองตั๋วก็จองออนไลน์ไม่ได้ ต้องจองผ่านเอเจ้นท์ หรือคนในประเทศเท่านั้น

รวมทั้งมีการเดินรถขบวนพิเศษนี้ วันเว้นวัน ด้วย ซึ่งวันที่ จขกท จะเดินทาง ก็ไม่ตรงกัน สุดท้ายก็ไปบอกเพื่อนๆในกลุ่มขอเปลี่ยนวันมาให้ตรงกับวันที่รถไฟขบวนนี้เดินทางจนได้



ซึ่งรายละเอียดต่างๆ เกี่ยวกับ Fadak Trains นี้ ขอเอาไว้ท้ายรีวิวนะครับ ตอนนี้พาไปชมภาพบรรยากาศตลอดเส้นทางกันดีกว่าครับ

และอยากที่รู้ๆกันรอยู่แล้วว่า ที่อิหร่าน จะไม่ให้ถ่ายรูปตามสนามบิน สถานที่รถไฟ ขนส่งต่างๆ และสถานที่สำคัญๆ แต่ จขกท

ก็คิดว่าที่ชีราสคงไม่เป้นไรมั้ง เพราะอยู่ต่างเมือง ไม่ได้อยู่ที่เมืองหลวง สุดท้ายแล้ว ถ่ายไปไม่กี่ภาพเอง ก็ถูกเจ้าหน้าที่มาบอกว่าห้ามถ่ายรูป

ภาพที่ได้มาหลายๆๆภาพ ที่สถานีรถไฟชีราส และสถานีรถไฟเตหะราน ก็จะถูกถ่ายด้วยความรีบๆๆ ยกเว้นบนขบวนรถไฟ ที่สามารถถ่ายได้ปกติครับ



บรรยากาศด้านหน้าสถานีรถไฟชีราส และสวนด้านหน้าสถานีรถไฟ

ด้านหน้าดูใหญ่มาก แต่ทางเข้าเป็นประตูบานเลื่อนเล็กๆเท่านั้นเอง ซึ่งแยกทางเข้าและทางคนละประตู

เพราะการเข้าไปด้านในจะต้องผ่านด่านสแกนกระเป๋าและร่างกาย ซึ่งพอหลังจากผ่านการสแกนกระเป๋าเข้าไปแล้ว

ก็ถูกเจ้าหน้าที่เตือนว่าห้ามถ่ายรูปแล้ว ภาพหลัวจากนี้ก็เลยจะเป็นการรีบถ่ายมาแล้วครับ

เมื่อผ่านเครื่องสแกนมาแล้ว สำหรับนักท่องเที่ยวก็จะถูกพาไปที่ห้องข้างๆ เพื่อให้เจ้าหน้าที่เก็บข้อมูลส่วนตัวจากพาสปอร์ต

ซึ่งเป็นการจดข้อมูลใส่สมุดบันทึก ไม่ได้มีการบันทึกผ่านระบบคอมพิวเตอร์ (ไม่มีภาพถ่ายในห้องบันทึกข้อมูลมาให้ชมนะครับ)

เมื่อออกจากห้องบันทึกข้อมูลแล้ว ด้านห้างโถงใหญ่ จะเป็นเคานฺเตอร์ประชาสัมพันธ์ ส่วนด้านขวามือ จะเป็นโซนนั่งรอ

และด้านซ้ายก็เป็นโซนนั่งรอเหมือนกัน ส่วนห้องสี่เหลี่ยมที่เห็นอยุ่ไกล เป็นห้องขายตั๋วโดยสาร ที่ไม่มีเจ้าหน้าที่อยู่เลย

ซึ่งได้ถาม จนท.รปภ. ว่าอยากสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับบนรถไฟเรื่องอาหารหน่อย เพราะอยากรู้ว่ามีอาหารกี่มื้อ เพราะเราเดินทางข้ามคืน

แล้วจนท.ประจำเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ไปไหน ได้รับคำตอบว่าตอนนี้ยังไม่มี จนท. ให้ข้อมูล เพราะปกติมีแต่คนอิหร่านมาใช้บริการ

นักท่องเที่ยวมีน้อยมาก เร็วๆนี้ในอนาคตคงจะมีมาประจำครับ นี่คือ ความเป็นโลกแห่งอนาคต ครั้งแรกที่ได้รับการบอกกล่าว



มายืนข้างเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ มองลงไปด้านล่างจะเป็นโถง สำหรับเตรียมตัวขึ้นรถไฟ โดยตรงหน้าเป็นจุดตรวจบัตรโดยสาร

ก่อนเดินเข้าไปที่ชานชาลา ซึ่งจะเปิดให้เดินเข้าไปชานชาลาก่อนถึงเวลาออกเดินทาง 15 นาที มองไปทางขวาและซ้าย เป็นบันไดเลื่อนสำหรับลง

ไปที่โถงด้านล่าง ส่วนกรณีจะเดินขึ้นมาข้างบน ต้องใช้บันไดที่ขนานอยู่ข้างบันได้เลื่อน สำหรับผู้ที่ใช้บริการรถเข็น

หรือต้องการใช้ลิฟท์ก็มีลิฟท์ให้บริการอยู่ซ้ายมือ ส่วนห้องกระจกที่อยู่ไกลๆด้านขวามือเป็นร้านมินิมาร์ท ที่ขายของราคาเท่ากับร้านทั่วไปด้านนอก

ไม่มีขาร์จราคาสูงขึ้นเหมือนบ้านเรา 5555

ระหว่างถ่ายรูป ก็มีทีมพนักงานบริการบนรถไฟ ขบวน Fadak Trains กำลังลงไปที่ชานชาลาพอดี ขบวนนี้ดูจากภายนอกไกลผู้ชายทั้งทีม

แต่เมื่ออยู่บนขบวนรถไฟแบบใกล้ชิดกันแล้ว ก็ค่อยตัดสินอีกครั้งว่าผู้ชายทั้งทีมหรือไม่ 555555

ระหว่างนั่งรอที่ด้านล่าง ก็เดินไปตรงจุดตรวจบัตรโดยสาร ก็มี Roll up โปรโมทขบวนรถไฟ Fadak Trains ตั้งอยู่ ก็เลยถาม จนท. เรื่องเดิมคือเรื่องอาหารที่อยากรู้ จนท. ก็ตอบว่าโนอิงลิช พูดภาษาอังกฤษไม่ได้ ก็มี จนท.อีกคนเดินมา พยายามจะสื่อสารกับเราว่ายังไม่มี จนท. ที่พูดได้ 2 ภาษา

ถ้ามีคำถามอะไรให้รอถามที่ จนท.ต้อนรับบนรถไฟ และก็ขอโทษในความไม่สะดวก หวังว่าในเร็วๆๆนี้

จะมี จนท. ที่สามารถสื่อสารได้มาให้บริหารเพิ่มขึ้น เรียกได้ว่า นี่คือ ความเป็นโลกแห่งอนาคต ครั้งที่สอง ที่ได้รับการบอกกล่าว

พอใกล้ถึงเวลาออกเดินทาง จนท. ก็เปิดช่องให้เดินผ่านเข้าไป โดยตรวจบัตรโดยสารและบัตรประจำตัวหรือพลาสปอร์ตสำหรับนักท่องเที่ยว

แล้วปั๊มตรายางที่บัตรโดยสาร เมื่อเดินผ่านออกมาที่ประตู ก็จะเป็นบันได้เดินลงไปที่ชานชาลา ซึ่งเห็นได้ว่ามีเพียง 1 ชานชาลาเท่านั้นที่มีหลังคาและอุปกรณ์ต่างๆ ส่วนที่เหลือไม่มีหลัง ไม่มีอุปกรณ์ใดๆ เรียกได้ว่าใช้กันอยู่ชานชาลาเดียวเท่านั้น ส่วนด้านซ้ายมือเป็นทางลาดลงไป

สำหรับรถเข็น และถัดไปเป็นลิฟท์โดยสารลงไปชานชาลา

ยืนอยู่ชานชาลาด้านล่างมองกลับมาด้านบน จะเห็นอาคารที่เพิ่งเดินลงมาดูใหญ่โตและค่อนข้างใหม่

พอหันกลับไปที่ชานชาลาจะมีจอบอกขบวนรถที่... จากต้นทางไปปลายทาง สลับไปมา 2 ภาษาคือฟาร์ซีและอังกฤษ

เดินไปเรื่อยๆก็เตรียมตัวขึ้นรถไฟ ทุกตู้โดยสารจะมี พนง.ต้อนรับยืนประจำตู้เพื่อคอยตรวจดูบัตรโดยสารอีกครั้ง ว่าขึ้นตรงกับชั้นโดยสารที่ซื้อไว้หรือไม่ ขบวนนี้มีตู้โดยสารทั้งหมด 6 ตู้ / 1 ตู้มี 10 ห้อง 1 ห้องมีผู้โดยสาร 4 คน สรุป 1 ตู้มีประมาน 40 คน และขบวนนี้รองรับผู้โดยสารได้ถึง 240 คน

แต่วันนี้ที่เดินทางมีประมาน 60-80 คนเท่านั้น ซึ่งแยกกระจายไปตามแต่ละชั้นโดยสาร (ช่วงท้ายจะอธิบายเรื่องชั้นโดยสารให้อีกครั้ง)

ขบวนรถไฟ Fadak Trains เป็นตู้สีขาว มีลายสีเขียวข้างตู้ พร้อมกับโลโก้ Fadak ซึ่งเป็นชื่อขบวนรถไฟประเภทนี้

(ในอิหร่านมีรถไฟหลายประเภท มีชื่อเรียกแต่งต่างกันไป) ส่วนตู้ไหนเลขที่เท่าไหร่ สามารถดูได้ที่จอแอลอีดีด้านข้างตู้

เมื่อ พนง.ตรวจบัตรโดยสารแล้ว ก็เปิดประตูขึ้นรถไฟกันได้เองเลย ส่วนคนที่มีกระเป๋าใบใหญ่ ก็ต้องยกขึ้นเองผ่านประตูช่องเล็กๆนี้ขึ้นไป

ส่วนผู้โดยสารที่โดยสารชั้น Special class นั้นไม่ต้องเดินหาตู้โดยสารแต่อย่างใด คุณแค่สังเกตว่าตู้ไหนมีพรมแดงปูอยู่

นั่นแหละคือตู้โดยสารชั้น Special class ซึ่งจะมีอยู่เพียงตู้เดียวเท่านั้นที่มีพรมแดงปูอยู่ ซึ่งตอนเดินทางมัวแต่รีบขึ้นรถไฟ

เลยลืมถ่ายตรงพรมแดงมาให้ดู ก็เลยขอยืมภาพจากเวปของ Fadak มาให้ชมแทน ซึ่งเหมือนกันกับของจริงทุกอย่าง

ยกเว้นของจริงมี พนง.ต้อนรับยืนอยู่คนเดียวเท่านั้นเอง

พอขึ้นมาบนตู้รถไฟแล้ว ด้านหน้าห้องจะเป็นทางเดินยาว ฝั่งที่เป็นห้องโดยสาร จะมีหมายเลขบอกห้องโดยสาร

และเลขที่นั่งประจำห้อง ซึ่ง 1 ห้อง มี 4 คน

เข้ามาในห้องโดยสาร ก็จะแบ่งที่นั่งไว้ฝั่งละ 2 คนเหมือนกับรถไฟอื่นทั่วไป มีที่พักแขนและวางของตรงกลางระหว่างที่นั่ง

มีการจัดเตรียมน้ำดื่ม และ Amenity kit ไว้เรียบร้อยตามจำนวนผู้โดยสาร ซึ่งห้องนี้มีผู้โดยสาร 3 คน ก็เลยมีน้ำและ Amenity kit อยู่ 3 ชุด ส่วนขนาดห้องก็ขนาดเหมือนกับรถไฟที่อื่นๆ ซึ่งที่ไม่ค่อยชอบคือบันไดสำหรับขึ้นเตียงบน อยู่ตรงหน้าต่าง ทำให้มองวิวระหว่างทางไม่ค่อยสวยๆ

สำหรับ Amenity kit จะมีแจกให้สำหรับผู้โดยสาร Special class เท่านั้น ซึ่งเทียบเท่ากับ First class บนเครื่องบินนั่นเอง

ส่วนชั้นอื่นๆไม่มีแจก ในกระเป๋า มีแปรงสีฟัน ยาสีฟัน สลิปเปอร์ ที่ปิดตา หูฟัง รวมๆดูธรรมดา แต่ชอบกระเป๋าสีฟ้า ผ้ากำมะหยี่อย่างดี

และก็ยังมีคู่มือการให้บริการบนรถไฟต่างๆ ซึ่งมีแต่ภาษาฟาร์ซีทั้งเล่มเลย ไม่มีภาษาอังกฤษเลย ได้สอบถาม พนง.ต้อนรับ ได้รับคำตอบว่า

มีพิมพ์มาเพียงภาษาเดียว ในอนาคตหากมีนักท่องเที่ยวมาใช้บริการจำนวนมาก ก็คงจะมีแบบ 2 ภาษาด้วย

นี่คือ ความเป็นโลกแห่งอนาคต ครั้งที่สาม

มองจากด้านในห้องโดยสารมาที่ประตูห้อง ที่ประตูมีที่ล้อคอยู่ด้านบน พร้อมกับปุ่มควบคุมการทำงานต่างๆภายในห้อง

ปุ่มเปิด-ปิดไฟ เปิด-ปิดแอร์ ดูสถานะห้องน้ำ ปุ่มเรียก พนง.ต้อนรับ ส่วนด้านบนสุดเป็นช่องเก็บกระเป๋า และมีกระเป๋าเครื่องนอนวางอยู่

ด้านบนเพดานเป็นแผงไฟสีขาว พร้อมกับลายของขบวนรถไฟ

ที่ด้านนอกห้องโดยสาร จะมีห้องน้ำอยู่ที่หัวและท้ายตู้โดยสารฝั่งละ 1 ห้อง โดย 1 ห้องเป็นห้องน้ำแบบนั่งยอง

และอีก 1 ห้องเป็นห้องน้ำแบบชักโครก ซึ่งสามารถดูสัญลักษณ์ของห้องน้ำ ได้ที่เหนือประตูทางออกแต่ละฝั่งตู้โดยสาร


แบบนั่งยอง

แบบชักโครก

ระหว่างเดินกลับจากห้องน้ำ ก็ผ่านส่วนที่เป็นครัวสำหรับจัดเตรียมอาหาร ซึ่งล้อคอยู่ เลยถ่ายจากด้านนอกมาให้ดูกัน

ส่วนห้องโดยสารนี้ ไม่มีผู้โดยสาร ก็จะถูกจัดเตรียมไว้ปกติ ต่างกับห้องที่มีผู้โดยสารคือ

ไม่มีน้ำและอุปกรณ์อื่นๆตั้งไว้ให้ และพับโต๊ะกลางสำหรับ

วางของไว้ พอขบวนรถไฟออกเดินทาง พนง.ต้อนรับก็จะเดินมาปิดไฟและล้อคห้องโดยสารที่ไม่มีคน

สำหรับกระเป๋าเครื่องนอน ก็จะมีผ้าห่ม ผ้าปูที่นอน ผ้ารองหัวที่ใช้ปูกับหมอน

มีปลั๊กไฟอยู่ใต้ที่วางของ ซึ่งตอนแรกหาไม่เจอ แต่ไปเห็นจากห้องที่ไม่มีผู้โดยสารแล้วเขายกที่วางของขึ้น

แล้วมีปลั๊กอยู่ด้านล่างนั่นเอง

ส่วนเหนือศีรษะจะมีไฟสำหรับอ่านหนังสือ และช่องเสียบหูฟัง เพื่อไม่ให้รบกวนผู้อื่น

แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ได้ใช้ ยังไม่มีส่วนที่เป็น entertainment ให้บริการ มีแต่ฟังก์ชั่นอยู่ที่จอ

สอบถาม พนง.ต้อนรับ ก็ได้รับคำตอบเดิมอีกแล้วว่าจะมีให้บริการเร็วๆนี้

นี่คือ ความเป็นโลกแห่งอนาคต อีกแล้ว

สำหรับจอที่อยู่ในห้องโดยสาร ก็มีฝั่งละ 1 จอ ที่มีฟังก์ชั่นหลากหลายมาก แต่ก็ยังไม่สามารถใช้งานได้เลย

ที่กดๆเข้าไปดูทุกหมวดจะเห็นมีอัพเดทเคลื่อนไหวตลอดเวลาคือ Navigator

ที่จะเลื่อนไปตามเส้นทางตลอดว่าถึงไหนแล้ว ยกเว้นบางช่วงที่สัญญาณอาจขาดหายไป ก็จะหยุดนิ่ง

พอมีสัญญาณก้จะเด้งไปตรงตำแหน่งปัจจุบัน กับหมวดคัมภีร์ที่มีให้อ่านเป็นภาษาฟาร์ซี

และปิดท้ายฟังก์ชันด้วยหมด Pray time ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ที่บอกเวลาละหมาดแต่ละช่วง

ซึ่งอันนี้จุดที่ทำให้ตกใจคือ พอรถไฟจอดที่สถานี เราก็ออกมานอกห้องเพื่อดูบรรยากาศของสถานี

ซึ่งตอนนั้นตรงกับเวลาละหมาดพอดี พอออกมานอกห้อง ก็เห็นผู้โดยสารเกือบทั้งหมดวิ่งลงจากขบวน

รถไฟไปอย่างรวดเร็ว เราก้ตกใจ เฮ้ย วิ่งหนีอะไรกันลงไปกันเกือบหมดเลย ส่วน พนง.ต้อนรับก้ลงไปยืน

ข้างล่างที่ชานชาลากันหมดเลย เราก็งงเลยยยยยยย ก็เดินไปตรงประตูทางลง พนง.ต้อนรับ ก็โบกทักทาย

เราก็ทำท่าสงสัย เขาก็เลยเดินมาบอกว่า รถหยุดที่สถานีนี้ 10 นาที เพื่อให้ลงมาละหมาดกัน เราก็เลยบอกว่าน่า

จะมีประกาศบ้างนะ พนง.ต้อนรับบอกว่า ประกาศแล้วตอนรถหยุดที่สถานี แต่ไม่มีภาษาอังกฤษยูคงไม่รู้เรื่องอะ

ก็เลยบอกว่าควรประกาศ 2 ภาษาได้แล้ว เพราะเริ่มจะมีนักท่องเที่ยวมาใช้บริการแล้วนะ ก็ได้รับคำตอบยอดฮิตอีก

แล้วว่าในอนาคตคงจะมี นี่คือ ความเป็นโลกแห่งอนาคต อีกแล้ว

เดินกลับเข้ามาในห้องอีกครั้ง เพิ่งจะสังเกตเห็นถังขยะ เพราะมีถุงพลาสติกวางอยู่ที่ตรงหน้าต่าง

ก็ต้องจัดเตรียมถุงขยะใส่ช่องไว้ทิ้งขยะกัน

ผ่านไปสักพัก พนง.ต้อนรับก็นำเครื่องดื่มต้อนรับมาบริการ ซึ่งเครื่องดื่มและอาหารจะดูดีและหรูหราที่สุดในขบวนนี้แล้ว

เพราะเป็น Special class หรือชั้นสูงสุดนั่นเอง พอเข็นมาถึงหน้าห้อง ก็มีกาแฟ / ชา / น้ำส้ม ให้เลือก สุดท้ายเลือกน้ำส้มกันทุกคนเลย

ผ่านไปประมาน 5 นาที ก็มาเสริฟของทานเล่น ซึ่งมีทั้ง รวมมิตรถั่ว มาเบิ้ลเค้ก และฟรุ้ตสลัด สำหรับรวมมิตรถั่วคิดอร่อยสุดแล้ว

สุดท้ายไม่ใช่ เพราะเปรี้ยวทุกเม็ดเลย สรุปเป็นถั่วปรุงรสเปรี้ยวนั่นเอง ส่วนมาเบิ้ลเค้กก็เย็นๆแข็งๆนิดนึง

ที่ถูกปากที่สุดในตอนนั้นคือฟรุ้ตสลัด เพราะรสชาติเหมือนเจ้าดังบ้านเราเลย ซึ่งอาหารต่างๆที่ให้บริการ

ถูกจัดมาจากครัวชื่อดังของอิหร่าน คือ Dona นั่นเอง

ผ่านไปอีก 10 นาทีก็ถึงเวลาอาหารค่ำ รู้สึกว่ามาไวมากยังอิ่มของทานเล่นอยู่แล้ว แต่เข้าใจว่าเดี๋ยวจะดึกกว่านี้เลยต้องรีบเสิร์ฟ

ซึ่งเคยเห็นเอเจ้นท์บอกว่า อาหารจะมีให้เลือก 2 ชนิด และถูกเสิร์ฟมาด้วยภาชนะกระเบื้องเคลือบจากจีนอย่างดี

ซึ่งเรื่องภาชนะนี่จริง เพราะดูที่ใต้ภาชนะบอกเลยว่า โบนไชน่า 555555 ส่วนเรื่องอาหารนี่ไม่จริง เพราะมาถึงเสิร์ฟเลย

ไม่มีให้เลือก ถาม พนง. ได้รับคำตอบว่าตอนนี้มีแบบเดียว ยังไม่มีให้เลือก ในอนาคตถึงจะมีครับ

นี่คือ ความเป็นโลกแห่งอนาคต อีกแล้ว

หลังอาหารค่ำ พนง.มาเก็บภาชนะไปแล้ว สักพักก็มาเสริฟ ชา / กาแฟ ซึ่งขอน้ำผลไม้ พนง.บอกไม่มีแล้ว มีเสิร์ฟรอบเดียว

เพื่อนก็เลยสั่งชามา ส่วนเราไม่ได้สั่งมา สักพักก็เดินตาม พนง.ไปที่ครัว บอกมีน้ำอย่างอื่นอีกไหม เราไม่ดื่ม ชา / กาแฟ

เขาบอกว่ามีนมสดเอาไหม ก็เลยขอนมสดมาแทน

พอไม่มีอะไรทำระหว่างที่ยังไม่ง่วง กอปรกับก็ไม่มีอะไรให้ดูที่ทีวีเลย ก็ตั้งใจเล่นเฟสบุค ดูยูทูปแทน แต่บางช่วงคงเป็นนอกเมืองมีเขา

ล้อมรอบอะไรอย่างงี้ ทำให้สัญญาณอินเตอร์ขาดๆหายๆ หันไปมองที่ทีวี มีสัญลักลักษณ์ไวไฟนี่หว่า W-LAN ด้วย แต่หาสัญญาณไม่เจอ เลยเดินไปถาม พนง. ด้วยความเกรงใจเลยเดินไปเอง ไม่อยากกดปุ่มเรียกมาที่ห้อง พนง.บอกว่าขอโทษด้วย

ขบวนนี้ยังไม่มีให้บริการ สัญลักษณ์นั้นทำมาติดไว้ก่อน รอเร็วๆนี้จะมีให้บริการ นี่คือ ความเป็นโลกแห่งอนาคต อีกแล้ว


สุดท้ายก็ต้องนอนกลิ้งไปกลิ้งมาจนหลับไปเอง ช่วงนี้ไม่มีภาพบรรยากาศเตียงนอนให้ดูนะครับ ซึ่งก็เหมือนรถไฟตู้นอนบ้านเรา

มีชั้นบน กับชั้นล่างครับ เพราะกำลังโมโห พนง.อยุ่ว่า ไม่ยอมมาเก็บแก้วชากับอื่นๆที่ยังไม่เก็บไปสักที เลยกดปุ่มเรียกก็ไม่มา

สุดท้ายก็เลยเดินถือไปคืนที่ครัว ปรากฏว่าคุณ พนง.กลางเตียงผ้าใบนอนหลับแล้วคราบบบบ ด้วยความเกรงใจของเรา

ไม่กล้าปลุก เลยเดินถือกลับมาไว้ใต้เตียงนอนแทน 55555 ไม่รู้นี่คือ ความเป็นโลกแห่งอนาคต อีกแล้วหรือป่าว 555555

ตัดมาช่วงเช้าหลังจากตื่นนอนแล้ว ก็ได้รับอาหารเช้าอีก 1 มื้อก่อนถึงปลายทางครับ

พอประมาน 10 โมง ก่อนถึงปลายทาง 30 นาที พนง.ก็เดินมาบอกว่าใกล้ถึงสถานีแล้ว เตรียมตัวเก็บของได้แล้ว

พอถึงสถานีก็รีบลงจากรถไฟ เพราะอยากเดินที่โล่งๆกว้างๆแล้ว ชานชาลารอบข้างก็มีรถไฟแบบอื่นๆจอดอยู่

ส่วนทางออกต้องเดินขึ้นไปที่ชั้น 2 แล้วเดินทะลุออกนอกสถานีได้เลยครับ

เป็นไงบ้างครับ นี่คือภาพบรรยากาศทั้งหมดตลอดเส้นทาง ที่ จขกท ยอมเปลี่ยนแผนการเดินทาง และสลับวันใหม่

เพื่อให้ตรงกับขบวนรถไฟ Fadak Trains ที่มีเดินรถ ซึ่งมีอยู่วันเว้นวัน และทำให้ได้สัมผัสบรรยากาศโลกแห่งอนาคตมากมาย

นี่คือเท่าที่จำได้นะครับ จริงๆคิดว่ามีมากกว่านี้ครับ 5555555

ส่วนข้อมูลของรถไฟ Fadak Trains นี้ สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมต่างๆของการบริการ

และการจองตั๋วได้ที่ http://fadaktrains.ir/ ซึ่งแน่นอนว่าไม่มีภาษาอังกฤษ มีแต่ภาษาฟาร์ซีนั่นเอง 5555

ดังนั้นหากต้องการจองตั๋ว หรือเช็ควันที่มีการเดินรถ และราคา แนะนำให้ไปที่ http://www.iranrail.net/index.php

เพราะมีภาษาอังกฤษด้วย เป็นเวปของการรถไฟอิหร่าน

และหากอยากรู้ข้อมูลว่ารถไฟอิหร่าน มีกี่รูปแบบ มีของบริษัทอะไรบ้าง ก็กดไปดูที่หมวด Trains ได้เลย

จะมีภาพและชื่อเรียกของรถไฟแต่ละขบวนให้ดูกัน ซึ่งของ Fadak Trains เป็นขบวนเดียวที่ถูกเรียกว่า 5 Star trains

หากต้องการจองตั๋วหรือเช็คราคาตั๋วโดยสาร ก็กดไปที่หมวด Tickets แล้วเลื่อนลงมาด้านล่าง จนเจอให้กด Booking

ก็กดแล้วใส่ต้นทาง-ปลายทาง / วันที่เดินทาง / จำนวนผู้โดยสาร หน้าจอก็โชว์รายละเอียด ขบวน เวลา ที่นั่งและราคาแต่ละชั้นโดยสารมาให้

ซึ่งการจอง ซึ่ง 1 ห้องมี 4 เตียง หากต้องการเป็นส่วนตัวคนเดียว สามารถระบุตอนจ่ายเงินได้ว่า ต้องการ private

ระบบก็จะคิดเงินทีเดียวเลย 4 ที่นั่ง ซึ่งการจองตั๋วไม่สามารถจ่ายเงินผ่านระบบนอกประเทศได้ ต้องให้เอเจ้นท์หรือคนอิหร่านจองให้เท่านั้น

สำหรับรถไฟ Fadak Trains นี้มี 4 ชั้นโดยสารด้วยกันคือ Economy ไม่มีอาหาร / Economy มีอาหาร / Business class / Special class

ซึ่ง Special class เป็นชั้นสูงที่สุด หรือเทียบกับเครื่องบินก็จะเป็น First class นั่นเอง ซึ่งทุกชั้นจะมีห้องโดยสาร ที่นั่ง ที่นอน อุปกรณ์ต่างๆภายในห้องเหมือนกันหมด จะแตกต่างกันตรงที่การบริหารอาหารนั่นเองครับ และชั้น Special class เท่านั้นที่จะมี Amenity kit ให้ครับ

ซึ่งครั้งนี้ได้เปรียบเทียบตัวอย่างการบริการอาหารในชั้น Business class กับชั้น Special แต่ละมื้อมาให้ชมกันครับ

เพราะว่า จขกท ได้มีเพื่อน 2 คนแยกไปนั่งที่ Business class เพื่อสำรวจความแตกต่างของการบริการครับ

รวมๆก็เก้บข้อมูลและบรรยากาศมาฝากได้ประมานนี้ครับ ทำให้เห็นและเข้าใจ ความเป็นโลกแห่งอนาคต ได้มากขึ้น 5555

ส่วนบรรยากาศสถานที่เที่ยวไม่ได้นำมาให้ชมกันนะครับ เพราะที่ผ่านมามีรีวิวแล้วเยอะมาก แล้วก็ถ่ายภาพสวยๆๆด้วยครับ



ส่วนการมาทริปอิหร่านครั้งนี้ มีอีก 1 รีวิวที่นำมาฝากกันไปแล้ว ยังไงฝากด้วยนะครับ

https://pantip.com/topic/36362320 +++สาวๆๆอย่าเพิ่งไปอิหร่าน ถ้าหัวใจไม่ Strong +++



และถ้ามีเวลา จะรีวิวในมุมอื่นๆให้ชมกันอีกนะคราบบบบบบบบบบบบบ

Patboke

 วันพุธที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2560 เวลา 18.28 น.

ความคิดเห็น