บันทึกการเดินทางนี้มีแต่รูป ชอบให้ภาพเล่าเรื่องมากกว่า

ทริปนี้เกิดขึ้นเพราะอยากไปงานปอยส่างลองที่แม่ฮ่องสอน เป็นทริปที่เริ่มต้นที่เชียงใหม่ เรามีงานที่เชียงใหม่ยาวนานตลอด 2 เดือน เริ่มการเดินทางจากเชียงใหม่แล้วกัน


วันที่ 2 เมษายน 2559

เรามาขึ้นรถตู้เปรมประชาที่อาเขต รอบรถเรา 10:30 น. ใกล้เวลารถออกเราก็มารอใกล้ๆ เราจะได้ไปกับเบอร์ 12 คันนี้



พอรถออกเราก็หลับเลยง่วงมาก พอตื่นมาคนขับบอกให้เราคาดเข็มขัดจะได้นอนสบาย หลับๆ ตื่นๆ จนมาถึงบ้านจ่าโบ เริ่มซุกซนถ่ายวิวบ้าง



และแล้วก็ถึงสักทีสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดแม่ฮ่องสอน เราก็เลือกเดินออกมาที่หนองจองคำ มาเช่ามอเตอร์ไซค์ที่ร้าน P.A. เราก็เช่าร้านนี้บ่อยที่มาที่นี่ สภาพรถก็ตามราคา รอบนี้ไม่ได้ไปไหนไกลเราก็เลือกแบบออโตเมติก ค่าเช่า 180 บาท มัดจำ 1,000 บาทพร้อมบัตรประชาชน



จากนั้นเราก็ขี่ไปเรื่อยๆ ไปที่พัก Coffee Morning เราได้ห้องชั้นบน มาคนเดียวคิดคืนละ 300 บาท เป็นเรือนไม้ตรงข้ามเทศบาลเมืองแม่ฮ่องสอน



เราก็เก็บกระเป๋าเปลี่ยนเสื้อแบบมีแขนวันนี้ตั้งใจเข้าวัดพระธาตุดอยกองมูกับไปซูตองเป้ จุดแรกก็กราบพระธาตุดอยกองมูก่อน ทางขึ้นก็คงยากนิดหน่อยแถมรอบนี้มอเตอร์ไซค์ก็ไม่ค่อยโอเคนัก มีเสียวๆ อยู่ และแล้วเราก็ขึ้นมาถึงแบบมีลุ้น






มาชมวิวเมืองและสนามบินแม่ฮ่องสอนกันสักหน่อยนะ




พอเสร็จจากที่นี่เราตั้งใจไปดูอาทิตย์ตกที่ซูตองเป้ ก็แว้นซ์ออกนอกเมืองกลับมาเส้นทางไปปายอีก 9 กิโลเมตรถึงบ้านกุงไม้สัก เลี้ยงไปตามทางอีกประมาณ 2 กิโลเมตร ก็ถึงแล้ว ที่นี่ในแต่ละฤดูจะสวยแตกต่างกัน





เดินมาถึงจุดที่สะพานล่มครั้งที่เรามาตักบาตรเทโว เขาทำอันใหม่แล้วเชื่อมดูแข็งแรงมากขึ้น




จากนั้นเราก็ขึ้นมากราบพระบนสวนธรรมภูสมะ ที่นี่เราก็ชอบมาก เงียบสงบดี อากาศดีมาก






แสงเริ่มสวยแล้ว เป็นอีกจุดชมวิวที่สวยมากๆ ใครมาจะมาชมวิวอาทิตย์ตกก็ขอให้งดใช้เสียงดังด้วยนะครับ เพราะจะเป็นช่วงที่พระท่านทำวัตรเย็นพอดี





เราถามพระว่าไม่มีจุดตะเกียงหรือ แล้วตอนเช้ามีใส่บาตรไหม? ได้คำตอบว่างดทุกกิจกรรมถึงวันที่ 5 เมษายน 2559 เพราะในเมืองมีงานปอยส่างลอง งั้นเราควรกลับเข้าเมืองได้แล้ว ก่อนกลับถ่ายรูปอีกสักนิด





ระหว่างทางเราก็ไม่รีบร้อนอะไรค่อยๆ ขี่ไปปรากฏมีงูเห่าเลื้อยตัดหน้า ด้วยความโชคดีที่เราขี่แค่ 20 กิโลเมตร/ชั่วโมง งูเห่าเลื้อยเร็วกว่า เราก็เลยรีบบิดเลยเผื่องูเปลี่ยนใจอยากมาชูคอกลางถนนเราจะแย่เอา


เข้าเมืองมาเราก็ขี่ไปที่วัดม่วยต่อ ก็แค่มาดูบรรยากาศก่อนงานแห่ปอยส่างลองในวันรุ่งขึ้น





จากนั้นก็ไปอนุสาวรีย์พญาสิงหนาทราชา



จากนั้นเราก็มานั่งริมหนองจองคำ ลมเย็นมากเคลิ้มสุดๆ เกือบนั่งหลับเหมือนกันนะนี่ หลับก็คงจะตกน้ำแน่ๆ ก็เรานั่งริมน้ำเลย แถมตรงจุดที่นั่งก็ไม่มีที่กั้นด้วย





กลับมาที่พักของเรา Coffee Morning มืดๆ ก็สวยอีกแบบนะ เราชอบเรือนไม้แบบนี้มาก




วันที่ 3 เมษายน 2559

วันนี้ตื่นมาห่มผ้าและไม่คิดว่าอากาศจะเย็น 22 องศาในเดือนเมษายน

ตื่นลงมาล้างหน้าแปรงฟันแล้วก็แว้นซ์มาดูเขาตั้งขบวนสักหน่อย คุณตำรวจน่ารักมาก เราถามว่าจอดที่ไหนได้บ้างครับผมจะมาดูขบวน พี่เขาแนะนำให้เราจอดต่อท้ายรถตำรวจเลย






ขี่กลับมา Coffee Morning มานั่งจิบกาแฟกินครัวซอง รอขบวนแห่มาผ่านหน้าที่พักพอดี



ขบวนเริ่มเดินมาถึงหน้าเทศบาลเมืองแล้ว เรามานั่งดูบนระเบียงของ Coffee Morning และก็ตั้งกล้อง action camera ถ่ายภาพเคลื่อนไหวไว้



ตั้งกล้องเสร็จได้ภาพมุมสูงแล้ว เราก็อยากได้ภาพมุมใกล้ด้วยก็เลยลงมาจากระเบียง สนุกสนานเพลิดเพลินกับขบวนปอยส่างลองมากๆ ทุกคนดูมีความสุขหมดเราก็เพลินมาก ถึงเริ่มมีแดดแล้วแต่เราก็ยังสนุกมากๆ










พอขบวนผ่านไปหมดเราก็ขึ้นไปเก็บกล้อง รู้สึกว่ารูปเราไม่โอเคก็เลยเดินไปดักรอที่หนองจองคำ จุดนี้เราสนุกมาก ทุกกล้องน่ารักหมด แบ่งปันกันถ่ายรูป





แล้วเราก็เดินตามขบวนมาเรื่อยๆ จนมายืนรอถ่ายก่อนเข้าวัดม่วยต่อ วัดนี้เป็นแม่งานในการบวชปีนี้







พอจบก็แวะคุยกับชาวบ้านได้ความว่าเย็นนี้มีพิธีเรียกขวัญ พรุ่งนี้ก็บวชเลย ระหว่างทางกลับเจอร้านก๋วยเตี๋ยว 10 บาท อร่อยใช้ได้เลยนะ



เราก็เดินกลับที่พักมาอาบน้ำ เราก็ขอไปอาบห้องด้านหลังเหมือนเดิม อาบกลางวันก็ดีเหมือนกัน เก็บกระเป๋าเสร็จก็ลงมาคืนกุญแจ จากนั้นเราก็เอากระเป๋าไปฝากที่สถานีขนส่งจากนั้นเราก็ออกแว้นซ์ช่วงสุดท้าย


เริ่มด้วยวัดหัวเวียง กราบพระเจ้าพาราละแข่ง มารอบนี้มีกระจกกั้นแล้วนะ






แว้นซ์กลับมาที่วัดพระนอน ภายในพิพิธภัณฑ์ของวัดจะมีพระบัวเข็มที่นำมาจากอินเล ประเทศพม่า แต่วันนี้ไม่เปิดเนื่องจากเหนื่อยจากปอยส่างลอง






ต่อด้วยวัดก้ำก่อซึ่งอยู่ตรงข้ามกัน





เติมน้ำมันให้เต็มถังก่อนคืนรถ 40 บาท คืนรถเสร็จก็คุยกับพี่เจ้าของร้าน แกบอกอยากรู้มีงานอะไรช่วงไหนโทรมาถามได้ไม่ต้องเกรงใจ เราถึงรักแม่ฮ่องสอนไง ทุกคนมีน้ำใจเสมอ คืนรถเสร็จก็เดินมาวัดจองกลางถ่ายรูปนิดหน่อยกำลังบูรณะอยู่ด้วย





จากนั้นก็เดินไปสถานีขนส่งแม่ฮ่องสอน ห้องน้ำที่นี่บริการฟรีแล้วนะ หลายสถานีขนส่งก็ฟรีแล้วแต่อาจไม่สะอาดเท่าที่นี่



รถออกแล้วเราก็หลับเลย เหนื่อยมากๆ เพลียแดดสุดๆ ตื่นมาก็ด่านตรวจพอดี รอบนี้โดนถ่ายรูปด้วยสิ รถมาถึงจุดชมวิวปางมะผ้า ร้านกาแฟนี้ดูน่านั่งมากๆ คงต้องหาโอกาสมานั่งจิบกาแฟชมวิว



ความประทับใจในทริปนี้

- มิตรไมตรีที่ได้รับจากทุกคนที่แม่ฮ่องสอน เป็นอีกเมืองที่ต้องเก็บไว้ในลิสต์เมืองใจดี

- ความสนุกสนานของงานบุญที่ทำให้คนต่างถิ่นสนุกสนานมีความสุขไปด้วย

- ค่าอาหารไม่แพงและถูกปากมาก

- เป็นเมืองที่ปลอดภัยสุดๆ จอดรถเสียบกุญแจค้างไว้กลับมาก็ไม่หาย (เราตกใจเองนึกว่ากุญแจหาย)


ติดตามทริปเดินทางอื่นๆ ได้ที่

เพจ : ตะลุยเดี่ยวแบกเป้เที่ยว

IG : prapat / ตะลุยเดี่ยวแบกเป้เที่ยว



ตะลุยเดี่ยวแบกเป้เที่ยว

 วันพฤหัสที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2560 เวลา 22.20 น.

ความคิดเห็น