นั่งมองผืนป่า ไปไกลสุดสายตา อืมมม..ดีจังเลย ชอบมากมากกับช่วงเวลาแบบนี้ อากาศสดชื่น หายใจเข้าแรงๆหายใจออกเบาๆ หายใจเข้าแรงๆหายใจออกเบาๆ ทำวนไปเรื่อยๆ...ตอนนี้เราอยู่ที่ ด อ ย ห ล ว ง ต า ก นะ....
เส้นทางของ สายฝน ไอหมอก ลมหนาวและเพื่อนทากตัวน้อย...
ฝากติดตามด้วยครับผม....https://www.facebook.com/wildlife.feelfree/
เรื่องราวการเดินทางสู่ยอดดอยหลวงตาก...https://youtu.be/Dk7-jgu6vj8
จากเมืองหลวงประเทศไทย มุ่งหน้าสู่จังหวัดตาก จังหวัดนี้มาบ่อยมาก มียอดดอยยอดเขาให้มาพิชิตหลายที่เลย ครั้งนี้เป้าหมาย ด อ ย ห ล ว ง ต า ก...
ถึงจังหวัดตาก ไปต่ออีกนิดที่อำเภอบ้านตาก แล้วไปจบที่ เทศบาลทุ่งกระเซาะ อ.บ้านตาก สิ้นสุดการเดินทางจากเมืองหลวง ขั้นตอนต่อจากนี้คือ บทเริ่มต้นของการมุ่งหน้าสู่ยอดดอยอย่างแท้จริง....
มาถึงทุ่งกระเซาะประมาณตี 5 ทำไรล่ะ ก็นอนรอเช้าครับผม กว่าเจ้าหน้าที่นำทางกับลูกหาบจะมาก็ประมาณ เกือบแปดโมง ระหว่างรอขออธิบายเรื่องค่าใช้จ่ายไปพลางๆ..
ค่าเจ้าหน้าที่นำทาง คนละ 1000 บาทต่อนักท่องเที่ยว ไม่เกิน 10 ท่าน
ค่าลูกหาบ 1200 บาท รับได้ 20 กิโลกรัม
ค่ารถไปส่งยังจุดเดินเท้า 600 บาทไป-กลับ ระยะทางประมาณ 12 กิโลเมตร รวมไป-กลับ รถ 1 คัน รับได้ 7-8 คน รวมสัมภาระ ต้องนับรวมลูกหาบเจ้าหน้าที่ด้วยนะ เค้าก็ต้องนั่งรถไปกับเรา
ในส่วนการเดินทางไปยังทุ่งกระเซาะ ก็ว่ากันไปตามภูมิลำเนาของแต่ละคนเนอะ ค่าอาหารของกินก็เอาตามความเหมาะสมของแต่ละกลุ่มที่ไป
เมื่อทุกอย่างพร้อมได้เวลาลุยยยยย....
จัดเก็บภาพไว้เป็นที่ระลึก จุดเริ่มต้นการเดินเท้า
เกือบๆเก้าโมง รถกะบะสำหรับรับส่งนักเดินทางโดยเฉพาะ นำพวกเรามาถึงจุดออกเดินเท้า เส้นทางจากจุดเริ่มเดินถึงที่พักจริงๆไม่ถึง 11 กิโลเมตรอย่างที่หลายคนเคยมานำเสนอไปนะครับผม ประมาณ 8 กิโลกว่าเกือบ 9 นะครับ ถ้ารวมถึงยอดเลยก็ไม่น่าจะถึง 10 กิโลเมตร...
เส้นทางช่วงแรก เดินสบายมาก ผ่านลำห้วย อืมมม...น่าจะใช้นะ แต่ในวันนี้ไม่มีน้ำ มีแต่โขดหินโผ่ลให้เห็นเป็นระยะๆ ความชันยังไม่มี ก้าวเท้ากับฉับ ฉับ ฉับ ไวมาก ก่อนจะตัดเข้าสู่ป่า...
จุดชมวิวแรก เป็นป่าสน งามเงิบวิไล
ป่าหน้าฝน เขียวขจีขยี้ใจจริงๆ อากาศไม่ร้อน มีทางชันบ้างเล็กๆ ส่วนใหญ่เป็นเนินยาว เดินเรื่อยๆ ไม่ต้องใช้พลังเยอะ เดินเพลินมาก...
เที่ยงกว่าๆก็แวะพักกินข้าวระหว่างทางนั้นแหละ จากนั้นใช้เวลาอีกไม่นานก็จะโผล่มาเจอจุดชมวิวที่มีต้นสนเป็นฉากหน้า งามงด ตรงนี้เรานั่งพักร่าง ถ่ายรูปกันนานพอสมควร เพราะจากจุดนี้ใช้เวลาอีกไม่นานก็จะถึงแค้มป์ที่พักแล้ว
เดินจากจุดชมวิวต้นสน ก็จะมาเจอจุดชมวิวริมหน้าผา ก่อนจะเข้าป่ากล้วยฝ่าดงทาก ก็ถึงที่พัก...
จุดชมวิวริมผา ตรงนี้คือทีเด็ดเลย ผมชอบมากใช้เวลาอยู่นานจนเจ้าหน้าที่ต้องมาเร่งให้ไปให้ถึงที่พักก่อน เดียวพรุ่งนี้ค่อยมาใหม่ งั้นไปก็ได้พรุ่งนี้ค่อยแวะมาใหม่...
อลังการงานริมผา
ถึงแค้มป์....เออออ คนเยอะเหมือนกันแฮะ ได้จุดกางเต็นท์ ก็เริ่มเตรียมทำอาหารมื้อเย็น กะว่า ไปชมวิวบนยอดดอยก่อนแล้วค่อยลงมากินข้าว แต่....
สภาพอากาศเวลามาเที่ยวป่าหน้าฝนต้องทำใจ ไม่มีอะไรได้ดั่งใจ ทั้งลมทั้งฝน มาโดยพร้อมเพรียงกันโดยน่าจะมีการนัดหมาย ลมแรงมากกกกก ฝนก็เปาะแปะ เปาะแปะ กวนใจกวนการเป็นอยู่ตลอด
จุดกางเต็นท์ อากาศเย็นแต่อบอุ่นไปด้วยมวลมิตรสหาย ผู้รักการเดินทาง
สรุป วันนี้กินข้าว เสร็จประมาณ 5 โมงเย็น ก็อยู่กับลมกับฝน นั่งเล่นกับน้องทากที่แวะเวียนมาเดินเล่นแถวๆเต็นท์ที่พัก ใจก็ยังมุ่งมั่นนะ เดี๋ยวก็หยุด เดี๋ยวก็หยุด อีกเดี๋ยวก็น่าจะหยุด หึหึ...หยุดจริงด้วย แต่ประมาณตี 2 กว่าจะหยุด...
ก็ทำอะไรไม่ได้อยู่แล้วก็นอนสิครับ นอนฟังเสียงฝนทั้งคืน ลมก็แรง พรึบพรับ พรึบพรับ แรงจนสมอบกปักเต็นท์หลุดอ่ะ ต้องออกมาซ้อมตอนดึกๆอีก ในใจก็คิดนะ แล้วพรุ่งนี้จะได้เห็นอะไรบ้างป่ะเนี่ย
เช้าแล้ว....ทุกอย่างสงบ มีลมเบาๆ อากาศเย็นๆ แต่ยังมีหยดน้ำกระเด็นมาปะทะใบหน้าเป็นระยะ ไม่แน่ใจว่าเป็นเม็ดฝนหรือละอองหมอก แต่ที่แน่ๆ สดชื่นมากมาย
จัดการอาหารเช้าบวกเที่ยงเรียบร้อย เก็บของ เก็บเต็นท์ ให้เรียบร้อย แล้วมุ่งหน้าสู่ ย อ ด ด อ ย ห ล ว ง ต า ก ไปทั้งๆที่ไม่เห็นจุดหมายนี่แหละ ก็มันขาวโพลนไปทั้งเขาทั้งป่า แต่มาแล้วอ่ะ ยังไงก็ไปให้ถึง ไปให้เห็น....
การมาเที่ยวแบบคนรักธรรมชาติ มาชื่นชม เก็บกลับไปแต่ความทรงจำที่สวยงาม ธรรมชาติก็ไม่ทำร้ายทำลายความมุ่งมั่นกันหรอกเนอะ แม้จะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ ก็ก็พอเพียงและเพียงพอกับสิ่งที่น่าจดจำ ความงดงามของป่าเขา วิวทิวทัศน์ ความสดชื่นของอากาศ ความสนุกความสุขที่ได้มา ได้อยู่ท่ามกลาง ธ ร ร ม ช า ติ จริงๆ ดีมากมาย....
แล้วเราจะกลับมาพบกันใหม่เนอะ ธ ร ร ม ช า ติ....
คน ฟ้า ป่า น้ำ
วันศุกร์ที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2560 เวลา 15.55 น.