จันทบุรี..เดี๋ยวนี้มีโฮมสเตย์เกิดขึ้นมากมาย ซึ่งแต่ละที่ก็จะมีทั้งข้อดีข้อเสีย
แตกต่างกันออกไป...หลักๆเลยที่แต่ละโฮมสเตย์จะต้องมีคือ พวกบุฟเฟ่ต์อาหารทะเล กิจกรรมต่างๆ
อาทิ ล่องแพ ให้อาหารเหยี่ยวแดง เล่นน้ำ ดูการเพาะหอยนางลม...เป็นต้น
ซึ่งมีเหมือนกันแทบทุกที่ เราในฐานะผู้บริโภคก็ต้องทำการบ้านหนักหน่อยในการจะเลือกพัก
แต่ละที่..ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคลว่าจะเลือกแบบไหน
ดังนั้นวันนี้เราเลยมีโฮมสเตย์ดีๆมาแนะนำให้เพื่อนๆรู้จัก
เพื่อเอาไว้เป็นแนวทางในการตัดสินใจจ้าา
สถานที่นี่ก็คือ"บ้านทะเลดาวโฮมสเตย์" อ.ขลุง นั้นเองงง..
สถานที่นี้ ตั้งอยู่ที่หมู่บ้านไร้แผ่นดิน ต.บางชัน
การเดินทาง
รถยนต์ส่วนตัว ควรออกเดินทางไม่เกิน 9.00 ขึ้นทางด่วนมอเตอร์เวย์ ไปทางเส้นระยอง
จากสามแยก อ. แกลง ขับตามมา ถ.สุขุมวิทเข้าตัวเมืองจันท์
แล้วมุ่งหน้าไปตามถนนทางหลวงหมายเลข3 ไปทางตราดเพื่อไป อ. ขลุง
จากนั้นให้ฝากรถกับวินรถแถวท่าเรือ บอกว่าเราพักบ้านทะเลดาว สถานที่จอดรถ
เป็นสถานที่ใหม่ กว้างขวาง ปลอดภัย ค่าจอด100บาท/คัน
สำหรับคนที่พักที่โฮมสเตย์ที่หมู่บ้านไร้แผ่นดิน ต้องนั้งเรือเข้าไปอีก ขึ้นได้ที่ท่าเรือขลุง
ค่าโดยสารคนละ 60 บาท เรือออกเพียงวันละรอบเท่านั้น คือรอบเที่ยง
ถ้าเกิดมาไม่ทัน ก็เหมาเรือเล็กไป ราคา500/เที่ยว (โดยสารได้ประมาน4-5 คน)
มีบริการตั้งแต่ 10.00-17.00(เรือแว๊นนนนมากซิ่งทีหัวแทบหลุด)
ตลอดเส้นทางที่เรือวิ่งผ่าน จะเป็นวิวป่าชายเลนทั้งสองข้างทาง สลับกับการเห็นชาวบ้านทำประมง
จับปลา ทำฟาร์มหอยนางลม และแล้วเราก็มาถึงค่ะที่ "หมู่บ้านไร้แผ่นดิน"
เหตุที่ชื่อว่าหมู่บ้านไร้แผ่นดิน เพราะไม่ได้ตั้งอยู่บนพื้นดินแต่จะเป็นลักษณะการตอกเสาสร้างบ้าน
ตามพื้นที่แนวป่าชายเลนใช้การคมนาคมโดยเรือ และประกอบอาชีพชาวประมง
ในหมู่บ้านนี่ส่วนใหญ่เราจะพบแต่คนสูงวัยซะมากกว่าส่วน วัยรุ่น วัยทำงาน จะพบได้น้อย
สงสัยไปเรียนหรือไปทำงานบนฝั่งกันหมด55 ที่หมู่บ้านแห่งนี้มีทั้งวัดและศาลเจ้าด้วย
พอเรามาถึงจะมีพนักงานคอยรอตอนรับและช่วยยกกระเป๋าไปห้องพัก
เมื่อเราเช็คชื่อกับที่พักแล้วก็ได้เวลาทานอาหารกลางวันพอดี
ซึ่งอาหารกลางวันนี้จะรวมอยู่ในแพคเกจ 1500บาท/คน
ในแพคเกจจะประกอบด้วย
ที่พัก 2วัน1คืน+อาหาร3มื้อ(รวมเครื่องดื่ม)+กิจกรรมล่องแพให้อาหารเหยี่ยว
เราว่าคุ้มนะ เพราะมื้อเย็นจะมีซีฟู้ดให้กินไม่อั้นด้วย555
หน้าตาอาหารเที่ยงก็จะประมานนี้ กินไปให้ฟิวเหมือนมากินข้าวบ้านแม่
หลังจากกินข้าวกลางวันเสร็จ เราก็เข้าที่พักนอนเล่นแปปนึง แล้วก็ออกไปเดินดูวิถีชีวิตชาวเล
ส่วนใหญ่จะเห็นเค้าลงอวน ตามพื้นดินก็จะมีการตากกุ้งตากเคยเอาไว้ทำกะปิ
ตลอดแนวทางเดินก็จะมีชาวบ้านนำของพวกกะปิ กุ้งแห้ง ปลาแห้ง มาวางขาย
ถูกใจแม่ๆป้าๆขาช๊อปจริงๆ...
พอเวลา 4โมงกว่า ก็ไดเวลาตามนัดที่เราจะไปล่องแพกัน เค้าเรียกกันว่าล่องแพเปียก(คือเปียกที่ก้น)
เพราะขณะแพวิ่ง จะมีน้ำทะลักเข้ามา แต่ที่นี่ดีอย่างคือเค้าจะมีแคร่ให้เรานั้ง
บนแพก็จะมีพวกเครื่องดื่ม น้ำแข็ง เสริพฟรีไม่อั้นตลอดงาน
อ้อ ขณะแพล่องไปมีดีเจค่อยเปิดเพลงตื้ดด้วยนะ เต้นกันมันส์เลย
แพจะลากเราไปเรื่อยๆใช้เวลาประมาน2 ชม. กว่าๆผ่านแนวป่าชายเลน แล้วนั้นเห็นเกาะลิบๆนั้นไหม
เค้าบอกว่าคือเกาะช้าง จ. ตราด นั้นเอง
ระหว่างที่แพล่องไปก็จะเปิดเพลงไปเรื่อยๆ
"เหยี่ยวแดง" ที่บินกันอยู่บนฟ้า
ก็เริ่มบินจับกลุ่มกันและบินขวักไขว่กันมากขึ้น เหมือนจะรู้ว่าได้เวลาอาหาร
เพราะเจ้าหน้าที่จะคอยโยน กากหมู ไปเรื่อยๆ คอยล่อให้นางมาโฉบกิน
เพื่อที่นักท่องเที่ยวจะได้ถ่ายรูปเป็นที่ระลึก
ว่าแต่นางเก่งเนาะ มันรู้ได้ยังไงว่าจะได้กินเวลานี้ หรือมันจำเสียงเพลงได้
เพราะโฮมสเตย์ที่อื่นๆก็มักเป็นแบบนี้ พอได้ยินเสียงเพลงมันเริ่มมาออกันละ
หลังจากให้อาหารเหยี่ยวแล้ว เป้าหมายต่อไปของเราก็คือ ชมทะเลแหวก
ซึ่งจะแหวกมีความยาวประมาน 200 เมตร พื้นทรายจะเป็นสีดำแต่ตอนเราไป
เสียใจ มันไม่ยอมแหวก น้ำขึ้น ฮือๆ ขณะนั้นก็มีฝนตกลงมาปรอยๆแต่ท้องฟ้ามืดเลย
ได้เวลากลับเข้าที่พักละ อาบน้ำอาบท่า และแล้วก็ถึงช่วงเวลาที่ทุกคนรอคอย
บุฟเฟ่ต์มื้อเย็นของที่ที่นี่จะเริ่ม 18.00 น. และแต่ละโต๊ะจะมีชื่อเราตอนจองติดไว้
เลือกนั้งตามชื่อตัวเองได้เลย
ไฮไลท์ของเราวันนี้จะเป็นปูไข่ ถ้ามาช่วง ก.ย -ต.คจะได้ฟินแน่นอน เสริพกันมา
แบบไม่อั้น ไข่เยิ้มๆทะลักทะลวง แงะกระดองเอาช้อนขูดแล้วเอาทั้งไข่ทั้งมันปู
มาคลุกข้าวสวยร้อนๆ ราดด้วยพริกเกลือ(คนจันท์จะเรียกน้ำจิ้มซีฟู้ดว่าพริกเกลือ)รสชาด
เปรี้ยว เค็ม เผ็ด ตัดกับไข่และมันปูที่หวานนน จังหวะนี้เอาอะไรมาแลกก็ไม่ยอม
และนอกจากนี้ยังมีกองทัพกุ้ง หอย ปู ปลา อีกมายมายให้เรากินแบบไม่อั้นเลยละ
เราแทบจะกลิ้งกับห้องพักเลย
ปูที่นี่จะเป็นปูเนื้อแต่ละตัวบิ๊กๆทั้งนั้น ลองเอามาทาบหน้าดูแล้วบางตัวใหญ่กว่าหน้าอีก555
ดูก้ามปูสิ น่ากัดจริงๆใหญ่มากๆ เต็มปากเต็มคำ (นั้งพิมไปน้ำลายไหลไป โอยย หิว)
ส่วนหน้าตาของอาหารอื่นๆก็จะมี
กุ้งสดลวก(หน้านี้ไม่ใช้กุ้งลายเสือเลยอด)
ต่อด้วยทอดมันปลากราย เนื้อแน่นเหนียว เคี้ยวหนึบ
ปลากระพงทอดน้ำปลาตัวเท่าท่อนแขน อร่อยกรุบ
โด๊บกันต่อด้วยหอยนางลมสดๆจากฟาร์มแถวๆบ้าน
ต่อด้วยยำทะเลจริงแล้วมีต้มยำปลากระพงด้วย แต่ลืมถ่าย
เราเพลิดเพลินกับอาหารกันไปเรื่อย ซึ่งสั่งอาหารได้ถึง21.00 น.
ระหว่างนี้จะมีพี่ๆพนักงานเดินถามตลอด ว่าจะรับ จะเพิ่มอะไรไหม
พอสั่งอะไรไป ก็ไม่มีอิดออดกระตือรือร้นบริการเราทันที
ที่นี่มีคาราโอเกะให้ร้องด้วยน๊า แต่จะใช้เสียงได้ถึง5ทุ่มเท่านั้น
ใครอยากโชว์ลูกคอ และพลังเสียงก็จัดเลยจ้า
กินเสร็จหนังท้องตึง หนังตาเริ่มหย่อม ใครอยากนั้งต่อก็นั้งต่อได้เลยจ้ายาวๆไป
แต่เราง่วง เลยขอตัวไปนอนดีกว่า
สำหรับใครที่ตื่นเช้า ที่นี่จะมีกิจกรรมทำบุญตักบาตรด้วย แต่เราไม่ตื่นน55
อาหารเช้าที่นี่จะเริ่ม 7.00 น โดยประมาน อาหารก็จะเป็นข้าวต้มทะเลรสเด็ด ส่วนชากาแฟ
มีให้ชงกินกันตามอัธยาสัย
เช็คเอาท์รอเรือออก9.00 น. ขากลับมีพี่ที่เป็นเจ้าของมาส่งที่เรือ ไหว้ขอบคุณ
และบอกโอกาศหน้ามาอีกนะ ซึ่งถ้ามีโอกาสเราจะไปอีกแน่นอน
ที่พักบรรยากาสโดยรวม ก็ให้อารมณ์รีโนเวทเป็นที่พักง่ายๆแต่สะอาดสะดวก
อย่าลืมว่า การมาโฮมสเตย์ คือการมาอยู่ มากินบ้านเค้า มาพักแบบเค้า
ซึ่งไปเปรียบกับการบริการและความสบายแบบโรงแรมนั้นไม่ได้อยู่แล้ว
อย่าคาดหวังว่ามันจะเป๊ะทุกอย่าง เพราะเค้าก็แค่ชาวบ้านธรรมดาที่จัดทำขึ้นมา
เป็นธุรกิจครอบครัวและกระจายรายได้ให้ชุมชน
ลากันไปด้วยบรรยากาสชุดชมวิวเนินนางพญา ที่อยู่บริเวณเส้นถนนเฉลิมบูรพาชลทิต
เพิมเติมนิดนึงถ้าใครมาแล้วอย่าลืมแวะทานหมึกแดดเดียวนะ จะเป็นร้านรถเข็นจอดอยู่ริมถนนก่อนทางที่ตัดขึ้นจุดชมวิว สดอร่อยและน้ำจิ้มแซบมาก
ที่พัก บ้านทะเลดาวโฮมสเตย์
พิกัด
มู่บ้านไร้แผ่นดิน บ้านทะเลดาว โฮมสเตย์
- ห้องพัก 2-10ท่าน/ห้อง แอร์ ทีวี ห้องน้ำในตัว WiFi
- แพเปียก
- อาหารทะเลสดๆ
- คาราโอเกะ
- ตกปลา
- วัดบางชัน
- เที่ยวชมทะเลแหวก
- นั่งเรือชมฝูงเหยี่ยวแดงนับพันตัว
- ชมธรรมชาติป่าชายเลนอีกมากมาย
- พายเรือคายัค
จองมัดจำล่วงหน้า 50%
ธนาคารกรุงเทพ
เลขบัญชี 7450053173
กรรณิการ์ วิเศษฤทธิ์
โทร 088 214 4424
เว็บไซต์https://l.facebook.com/l.php?u=http%3A%2F%2Fbantal
facebookhttps://www.facebook.com/pg/BanThaleDawHomeStey/
ติดตามการเดินทางอื่นๆของเรา
เที่ยวจนแม่ด่า
วันเสาร์ที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2560 เวลา 22.01 น.