สวัสดีครับ

วันนี้ผมจะมารีวิวการไปเที่ยวต่างประเทศครั้งที่สอง คราวนี้ผมเลือกไปที่ประเทศมาเลเซียครับ



ถ้าหากมีข้อผิดพลาดก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ



เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาเรามาเริ่มเข้าสู่การเดินทางในทริปนี้กันดีกว่าครับ...



การเดินทางของเราอยู่ในช่วงวันที่ 12-15 ส.ค. 2560



กำหนดการคร่าวๆดังนี้



วันที่ 12 ส.ค. 2560

- เดินทางไป KLIA2

- Shopping แถว Bukit Bintang

- ไปถ่ายรูปตึก Petronas Twin Tower



วันที่ 13 ส.ค. 2560

- Masjid Jamek

- Merdeka Square

- KL City Gallery

- Putrajaya



วันที่ 14 ส.ค. 2560

- Batu Caves

- ไป Genting Highlands

- แวะ Chin Swee Caves Temple



วันที่ 15 ส.ค. 2560

- เดินทางกลับ



กระทู้นี้ถ่ายด้วยกล้อง Sony A7

เลนส์ Sony SEL2470Z Vario-Tessar T* FE 24-70mm F4 ZA OSS และ Sony SEL55F18Z Sonnar T* FE 55mm f/1.8 ZA



เตรียมความพร้อมก่อนการเดินทาง

ศึกษาเส้นทางรถไฟฟ้า ไป-กลับ สนามบิน

เพิ่มเติม

แผนที่รถไฟฟ้าล่าสุด 2560

อ้างอิงจาก http://klcityguide.my/kuala-lumpur-train-map/



ไป-กลับ Genting

- สามารถซื้อตั๋วรถบัส ได้ที่ KL Sentral ชั้นล่าง ควรจองตั๋วล่วงหน้าก่อนที่จะเดินทางนะครับ เพราะตั๋วเต็มเร็วมาก

จองที่พัก

- My Hotel @Sentral 2 คืน (230MYR/2คืน)

- Resorts World Genting - First World Hotel 1 คืน (9xxบาท/คืน)



แลกเงิน

- แลกเงินที่ Superrich และ Value+ ที่ central ลาดพร้าว อัตราแลกเปลี่ยนประมาณ 7.75-7.9 บาท/ริงกิต

อื่นๆ

- AIS Sim 2 Fly 4Gb/8 Days 299 บาท(ไม่รวม Vat)

- ประกันภัยการเดินทาง 5xx บาท/คน



วันแรก

เดินทางไปสนามบินดอนเมือง เพื่อไปขึ้นเครื่องบิน ไฟลท์ FD311

ซึ่งเป็นไฟล์ทเช้าสุดเลยครับ เพื่อจะได้มีเวลาเที่ยวได้ในช่วงบ่าย

เนื่องจากตรงกับช่วงเวลาอาหารเช้า เราเลยสั่งจองอาหารล่วงหน้าไว้กินบนเครื่อง (สั่งล่วงหน้า 100บาท/เมนู รวมน้ำดื่ม)

ใช้เวลาบินประมาณ 2 ชั่วโมงก็ถึง KLIA2

(เวลาที่ประเทศมาเลเซียเร็วกว่าประเทศไทย 1 ชั่วโมง)

ใช้เวลาผ่าน ตม. ไม่นานมากครับ ประมาณ 30 นาทีได้

จากนั้นก็ตรงเข้าเมืองเลยครับ

แต่คราวนี้มีเพื่อนมาด้วยอีก 2 คน เพื่อนจึงชวนนั่ง Uber ไปลง KL Sentral ราคาประมาณ 80 ริงกิต

มาถึง KL Sentral ก็หาอะไรกินกันก่อนเลยครับ

ร้าน Old Town White Coffee สาขา Brickfields

สาขานี้เปิด 24 ชั่วโมงด้วย แถมอยู่ติดกับ รร.ที่เราจองไว้เลยครับ

มากัน 4 คนเลยสั่งกันคนละ 1 อย่างจะได้ชิมอาหารได้หลากหลาย

Nasi lemak

เครื่องดื่ม

ชามะนาว รสชาติหวานมาก ไม่แนะนำครับ

ค่าเสียหายของมื้อนี้ 75.25 ริงกิต / 4 คน

จากนั้นเราก็แยกย้ายกับเพื่อน เพื่อไปเช็คอิน รร. My Hotel @Sentral ซึ่งอยู่ข้างๆร้าน Old Town White Coffee สาขา Brickfields

บรรยากาศภายในห้องพัก



หลังจากเก็บของสักพักเราก็ไป Shopping แถวย่าน Bukit Bintang เดินทางโดย Monorail ไปลงที่สถานี Airasia Bukit Bintang
สามารถซื้อตั๋วได้ที่ตู้เลยครับ

แถวนี้มีห้างมากมายเลยครับ เช่น Low yat Plaza,Sungei Wang Plaza, Berjaya Times Square, Lot10, Fahrenheit 88, Pavillion
หลังจากเดินเล่นกันจนเหนื่อย เราจึงแวะหาอะไรรองท้องกันนิดหน่อยที่ร้าน J-CO ชั้น 1 ที่ Berjaya Times Square

โดนัทราคาประมาณ 2-3 ริงกิต/ชิ้น
ส่วนช็อคโกแลตปั่น ราคาประมาณ 15 ริงกิต ครับ



แวะเข้าไปดูในมินิมาร์ท มีไมโลแบบขวด เลยซื้อมาชิมดูครับ

หน้าห้าง Pavillion ครับ

หลังจากนั้นเดินเล่น+Shopping แล้วเราก็เดินไป KLCC ครับ
มีทางเดินจากห้าง Pavillion ไปจนถึง KLCC เลยครับ
Landmark : Petronas Twin Tower

เราถ่ายรูปเล่นกันสักหน่อยก็ไปหาที่นั่งรอน้ำพุครับ น้ำพุเริ่มตั้งแต่เวลาประมาณ 19.00-20.00 น.



ถ่ายรูปได้ไม่นาน เพื่อนก็มาหาครับ
ก็เลยถ่ายรูปเล่นกับเพื่อนอีกสักพักใหญ่



แล้วฝนก็ตกลงมา
ขากลับก็กลับโดย LRT ไปลงที่สถานี KL Sentral ครับ
แล้วก็เพิ่งนึกขึ้นได้ว่ายังไม่ได้กินข้าวเย็น


เลยจบด้วยบะหมี่กึงสำเร็จรูปครับ

ราคาประมาณ 3 ริงกิต/ถ้วย



เช้าวันที่สอง

หลังจากพักผ่อนกันอย่างเต็มที่แล้ว ก็พร้อมออกไปเที่ยวตามแผนที่เตรียมไว้ครับ

โดยแวะชิม KFC ที่ KL Sentral

KFC ที่นี่มีซอส Thai ด้วยครับ รสชาติเหมือนน้ำจิ้มไก่

ก่อนที่เราจะไปเที่ยว เราก็จัดการไปซื้อตั๋วรถบัสไป-กลับ Genting ล่วงหน้าก่อนที่ KL Sentral ชั้นล่าง ครับ

ราคา 4.3 ริงกิต/คน/เที่ยว

สถานที่แรกที่เราจะไปคือ Masjid Jamek ไปโดย LRT ลงที่สถานี Masjid Jamek เลยครับ

การเข้าไปในมัสยิดที่นี่

- ผู้หญิงจะต้องสวมเสื้อคลุมครับ (ไม่เสียค่าใช้จ่าย)

- ผู้ชายถ้าใส่กางเกงขายาว ก็เข้าได้เลยครับ

สถานที่ต่อไป คือ Merdeka Square

แต่ตอนที่ไปเหมือนกำลังจะจัดงานอยู่ครับ

สถานที่ต่อไป KL Gallery อยู่ใกล้ๆกันเลยครับ

ที่นี่จะเสียค่าเข้าชม 10 ริงกิต/คน แต่จะได้คูปอง 5 ริงกิต สามารถนำเอาไปแลกซื้อของข้างในได้ครับ

จากนั่นก็ไปเดินเล่นกันต่อที่ Central Market ครับ
ส่วนใหญ่จะขายของที่ระลึกครับ

จากนั้นก็เดินไปขึ้นรถไฟฟ้า LRT ไปยัง KL Sentral เพื่อตอนบ่ายเราจะไป Putrajaya กันครับ
เมื่อถึง KL Sentral ก็ได้เวลากินข้าวพอดี เลยหาอะไรกินกันครับ

ค่าเสียหายมื้อนี้ประมาณ 32 ริงกิตครับ

หลังจากอิ่มกันแล้วเราก็นั่งรถไฟฟ้า KL Transit ไปลงที่สถานี Putrajaya & Cyberjaya

เราจะไป Putrajaya Sightseeing Tour กันครับ (เพราะว่าเราเดินไม่ไหวแล้วครับ)
ราคา 50 ริงกิต/คน ใช้เวลาประมาณ 2.30-3.00 ชั่วโมงครับ
มี 2 รอบต่อวันครับ 9.00 น. และ 15.00 น. ยกเว้นวันศุกร์ จะมีรอบ 15.00 น. รอบเดียวครับ

ระหว่างรอก็หาอะไรเย็นๆกินครับ

จุดจอดแรก Seri Wawasan Bridge ทุกจุดจะจอดให้เวลาประมาณ 10 นาที (ยกเว้นมัสยิดสีชมพูให้เวลา 40 นาที)

จากสะพานนี้สามารถมองเห็นมัสยิดสีชมพูนะครับ

จุดจอดที่ 2 มัสยิดสีชมพู (Masjid Putra)
ถ้าเป็นผู้หญิงที่ไม่มีผ้าคลุมผมต้องไปต่อคิวรับเสื้อคลุมด้านข้างก่อนนะครับ ซึ่งคิวค่อนข้างจะยาวมากครับ

มองกลับไปสะพาน Seri Wawasan Bridge

จุดจอดที่ 3 Prime Miniter Resident

จุดจอดที่ 4 Moroccan Pavilion



จุดจอดที่ 5 Palace of Justice และ Putrajaya Corporation Complex

จุดจอดที่ 6 Putrajaya International Convention Centre (PICC)


จุดจอดที่ 7 Seri Gemilang Bridge

หลังจากนั้นรถบัสก็พากลับไปที่สถานี Putrajaya & Cyberjaya

เมื่อมาถึงสถานีรถไฟฟ้า ก็หาของกินรองท้องกันก่อน

Donut ชิ้นละ 2-3 ริงกิต

หลังจากนั้นก็ว่าจะไปถ่ายรูปตึก Petronas Twin Tower อีกด้านครับ

แต่ฟ้าฝนดันไม่เป็นใจ ฝนตกครับ เลยได้แต่เดินเล่นภายในห้างแทนครับ



เช้าวันที่สาม

เช้าวันนี้เราก็เช็คเอ้าท์ กันตั้งแต่เช้า เพราะวันนี้เราจะเปลี่ยนที่นอนครับ

มื้อเช้าของเราก็กินที่ร้าน Old Town White Coffee สาขา Brickfields ร้านเดิมข้างๆโรงแรม

ค่าเสียหายมื้อนี้ประมาณ 50.1 ริงกิต

หลังจากนั้นก็ไปฝากกระเป๋าครับ เพราะว่าเราจะไปเที่ยว Batu Caves กันก่อนครับ
ฝากกระเป๋าที่ KL Sentral บริเวณทางที่จะไปขึ้น KLIA Ekspres ครับ
กระเป๋าเดินทางใบใหญ่ (ขนาด 24นิ้ว) + กระเป๋าสะพายหลัง 1 ใบ
Locker ขนาดใหญ่ ราคา 40 ริงกิต/24ชั่วโมง เป็นตู้รับฝากอัตโนมัติ ใช้งานไม่ยากครับ มีคนคอยช่วย สามารถเปิดได้แค่ 1 ครั้งเท่านั้นครับ
หลังจากฝากกระเป๋าเสร็จแล้วเราก็ไป Batu Caves โดย KTM Komuter ไปลงที่สถานี Batu Caves ครับ
KTM Komuter ความถี่ต่อขบวนจะประมาณ 30 นาทีครับ

เมื่อมาถึง ฝนก็ตกครับ
เราก็รอสักพักจนฝนเบาสักหน่อยครับ



จากนั้นเราก็กลับไปที่ KL Sentral ครับ เพื่อหาข้าวเที่ยงกิน
ก็ยังคงไม่พ้น Mc ครับ
ที่สาขา NU Sentral ชั้น 4 ครับ

ค่าเสียหายประมาณ 23.15 ริงกิต

จากนั้นก็เเวะเติมคาเฟอีนอีกนิดหน่อย
ที่ Starbuck @NU Sentral ราคา 21.7 ริงกิต

แล้วเราก็ไปนั่งรอเวลารถบัสออกที่ชั้นล่าง KL Sentral ครับ
รถออกเวลา 14.30 น. ครับ
รถบัสประมาณนี้ครับ

ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงนิดๆ ก็ถึง Awana Station
เมื่อมาถึงก็จัดการเอากระเป๋าไปฝากที่ชั้น 2 ครับ
กระเป๋าเดินทางใบใหญ่ (ขนาด 24 นิ้ว) ราคา 5 ริงกิต/24ชั่วโมง
จากนั้นก็ไปซื้อตั๋วขึ้นกระเช้าครับ เดินขึ้นไปชั้นบนสุดได้เลยครับ
สามารถซื้อได้ที่ตู้เลยครับ ราคา 8 ริงกิต/คน/เที่ยว
แล้วก็ไปต่อคิวขึ้นกระเช้ากันเลยครับ

โดยสามารถแวะลงที่สถานี Chin Swee Station ได้นะครับ (สามารถใช้ตั๋วเดิมขึ้นไปที่ Sky Avenue ได้ฟรีครับ)
ซึ่งเราก็แวะลงครับ เพราะกลัวว่าแสงจะหมดแล้วจะมองไม่เห็นอะไร
จากนั้นก็เดินตามบันไดเลื่อนลงมาเรื่อยๆครับ


หลังจากนั้นก็ถ่ายรูปไม่ได้เลยครับ หมอกมาเต็ม

เราจึงขึ้นกระเช้าต่อไปที่สถานี Sky Avenue

ข้างบนนี้มี ตู้ Kios (ขายตั๋วกระเช้า)

ช่องขายตั๋ว

ใกล้ๆจุดขายตั๋วกระเช้าก็มีตั๋วขายตั๋วรถบัสด้วยครับ

มี 7-11 ด้วยนะครับ อยู่ใกล้ๆกับจุดที่ลงจากกระเช้า

ขึ้นมาถึงสถานี Sky Avenue ก็เดินตามป้าย First World Hotel ไป
เพื่อเช็คอิน เข้าพัก รร.ครับ
ต้องไปให้พนักงาน update ข้อมูลของเราก่อนครับ ถึงมาเช็คอินที่ตู้นี้

First World Hotel เป็นโรงแรมที่มีห้องพักเยอะมากครับ
1 ชั้น ยังมีห้องเยอะขนาดนี้

ห้องที่ผมเลือกมาเป็นห้องที่มีวิวภูเขา (จ่ายเพิ่ม 5 ริงกิต)
วิวก็ประมาณนี้ครับ

บรรยากาศภายในห้อง


ห้องที่นี่จะไม่มีแอร์นะครับ แต่มีพัดลมแทน แต่ผมก็คิดว่าคงจะไม่ค่อยได้เปิดเท่าไหร่ เพราะอากาศน่าจะเย็นตลอดครับ

จากนั้นก็ไปเดินเล่นแล้วก็หาอะไรกินครับ
บนนี้มีร้านอาหารหลายร้านเลยครับ จนเลือกไม่ถูก สุดท้ายก็ไปกินที่ Malaysian Food Street ครับ

สั่งอาหารแล้วจะได้อันนี้มา เมื่อถึงคิวเราก็จะมีเสียงเตือนครับ

หน้าตาอาหารเย็นวันนี้ครับ

ราคาอาหารทั้งหมด 40 ริงกิต


เช้าวันสุดท้าย

เราก็เช็คเอาท์ ซึ่งก็ง่ายมากครับเพียงแค่สอดบัตรเข้าไปในตู้นี้ก็เสร็จแล้วครับ

จากนั้นก็เดินเล่นกันนิดหน่อย เพราะเราจองตั๋วรถบัสไว้รอบ 10.30น.ไป KL Sentral ครับ

อาหารเช้า แบบง่ายๆ ที่ 7-11

แก้หิวก่อนนั่งกระเช้าลงครับ


หมอกฟุ้งกระจายเต็มไปหมด


ที่ Awana Station ชั้นล่าง สุดก็มีที่ขายตั๋วรถบัสครับ

กลับมาถึง KL Sentral ก็ไปหาอาหารกลางวันกินครับ
ไก่ทอด 4 Fingers

set นี้ 13 ริงกิต

จากนั้นก็นั่ง KLIA ekspres ตรงไป KLIA2 ครับ

จาก KL Sentral ถึง KLIA2 ใช้เวลา 33 นาที ราคา 55 ริงกิต/คน

เรารีบมาที่สนามบินเพราะว่าจะมาซื้อของฝากที่สนามบินครับ
เนื่องจากขี้เกียจหิ้วไป-มา และราคาที่สนามบินก็ไม่ได้แพงกว่าข้างนอกมากมาย หรืออาจจะเท่ากันด้วยซ้ำครับ
ภารกิจอีกหนึ่งอย่างที่ต้องทำนั่นก็คือ Tax Refund
การทำ Tax Refund อยู่บริเวณ Row Y ครับ แล้วจะได้ใบ ให้ไปรับเงินที่ด้านในครับ
สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่เลยครับ http://www.gstmalaysia.org/touristrefund/
จากนั้นก็เช็คอินครับ

ใช้เวลารอในการผ่าน ตม. พอสมควรนะครับ ควรเผื่อเวลาสักหน่อยครับ


หลังจากผ่านเข้าไปข้างในก็เข้าไปรับเงิน Tax Refund แล้วไปหาอะไรรองท้องก่อนขึ้นเครื่อง

ลองกินไก่ Popeyes Louisiana Kitchen

ราคา 12.9 ริงกิต



จบไปสำหรับทริปนี้แล้ว ผมก็ขอลาไปด้วย รูปนี้แล้วกันนะครับ



ขอขอบคุณที่เสียสละเวลามาอ่านกระทู้ด้วยนะครับ



ฝากติดตาม ติชม กระทู้ของผมด้วย แล้วพบกันใหม่กระทู้หน้า

ขอขอบคุณและสวัสดีครับ

https://www.facebook.com/panisin000



เพิ่มเติม ค่าใช้จ่ายที่มาเลเซียไม่ได้แพงหรืออาจจะใกล้เคียงกับที่กรุงเทพฯเลยนะครับ

สรุปค่าใช้จ่ายทั้งหมด

- ตั๋วเครื่องบิน Airasia (ไป-กลับ) 56xx บาท/2คน

- ค่าที่พัก

My Hotel @Sentral 230 ริงกิต ประมาณ 18xx บาท/2คืน

Resorts World Genting - First World Hotel 1 คืน (9xxบาท/คืน)

- AIS Sim 2 Fly 4Gb/8 Days 319.93 บาท

- ค่าใช้จ่ายต่างๆ (กิน,เดินทาง,ของฝาก) รวมประมาณ 1350 ริงกิต/2คน (ประมาณ 10,xxx บาท)

Mike Speed

 วันพฤหัสที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2560 เวลา 16.59 น.

ความคิดเห็น