..เหตุเกิดมาจากมีเวลาเกือบ 1 วัน เพื่อจะต่อเครื่องเลยต้องหาอะไรทำเพื่อไม่ให้เสียเวลาใน กทม.

เด็กต่างจังหวัดอย่างเราก็ต้องหาข้อมูลไว้ก่อนว่าการเดินทางท่องเที่ยวตามเส้นทางรถไฟฟ้า

จะมีสถานที่ให้ลงเที่ยวได้ตรงไหนบ้าง

....จากสนามบินสุวรรณภูมิไปรอขึ้น Airport link มุ่งหน้าไปลงสถานีพญาไท

เพื่อจะไปพิพิธภัณฑ์วังสวนผักกาด

...วังสวนผักกาด เป็นสถานที่แห่งแรกในประเทศไทยที่เจ้าของบ้าน คือ พลตรี พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจุมภฏพงษ์บริพัตร กรมหมื่นนครสวรรค์ศักดิพินิต หรือ เสด็จในกรมฯ และ หม่อมราชวงศ์พันธุ์ทิพย์ บริพัตร หรือ "คุณท่าน" ได้เปิดบ้านซึ่งหลายคนรู้จักในนาม "วังสวนผักกาด" พิพิธภัณฑ์วังสวนผักกาดตั้งอยู่บนพื้นที่ 6 ไร่ บริเวณถนนศรีอยุธยา ประกอบด้วยเรือนไทยโบราณ8 หลัง เรือนหลังที่ 1-4 จัดเป็นหมู่เรือนไทย โดยเรือนหลังแรกมีสะพานเชื่อมไปสู่เรือนหลังที่ 2, 3 และ4 ซึ่งอยู่ทางทิศใต้ ตามลำดับ ส่วนเรือนหลังที่ 5-8 ปลูกอยู่ห่างกันทางทิศตะวันตก และมีหอเขียนอยู่ทางทิศใต้ สำหรับพิพิธภัณฑ์บ้านเชียง ...ซึ่งรถลงไฟฟ้าไปตามถนนศรีอยุธยาเป็นระยะทางประมาณ 250 เมตร จะพบ วังสวนผักกาด อยู่ทางขวามือ



มีห้องบ้านเชียง ซึ่งแสดงโบราณวัตถุในวัฒนธรรมบ้านเชียง โบราณวัตถุที่จัดแสดง ได้แก่ ภาชนะดินเผาลายเขียนสี ภาชนะดินเผาลายเชือกทาบผสมลายขูดขีด อาวุธ เครื่องมือเครื่องใช้ที่ทำจากสำริด หินสีต่าง ๆ ห้องบ้านเชียงห้ามถ่ายรูปค่ะ แต่เราก็ได้ภาพรวมของห้องมา จริง ๆ ก็ไม่ได้ตั้งใจทำผิดข้อห้ามที่เค้าบอกไว้หรอกนะค่ะ แต่พอเดิน ๆ ชมแล้วเพลินตาค่ะ ทีนี้พอเพลินตาแล้วก็ลืมเผลอไปถ่ายรูปจนเจ้าหน้าที่เค้าเห็นเราผ่านกล้องวงจรปิด ต้องเดินเข้ามาบอก ณ.เวลานั้นทำหน้าไม่ถูกเลยค่ะ (อย่าทำตามนะค่ะมันไม่ดีค่ะ)


บ้านทรงไทยที่ถูกล้อมรอบไปด้วยตึกสูงระฟ้า..






ข้อควรระวัง ในการขึ้นชมเรือนนั้น ต้องถอดรองเท้า โดยทางวังได้จัดเตรียมถุงพลาสติกให้เราใส่รองเท้าหิ้วไปด้วยค่ะ และที่นี่ไม่อนุญาตให้ถ่ายรูปภายในแต่ละห้องนะคะ
เราสามารถถ่ายรูปได้แค่บริเวณภายนอกตัวเรือนเท่านั้นค่ะ

เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน เวลา : 09.00 -16.00 น.

ค่าเข้าชม : คนไทย 50 บาท ชาวต่างชาติ 100 บาท

วิธีเดินทาง : BTS สถานีพญาไท ใช้ทางออกที่ 4 เดินเลียบทางขวามือ ตรงไปยังถนนศรีอยุธยา
ประมาณ 5 นาที
เมื่อเดินเที่ยวดูจนครบทุกหลังแล้ว ก็ได้เวลาออกผจญภัยในเมืองกรุงต่อค่ะ


...อากาศร้อนระอุ แต่พยายามทำตัวให้เป็นนักท่องเที่ยว..คราวนี้ก็กลับไปขึ้นรถไฟฟ้าเพื่อต่อไปสถานีราชเทวี เพื่อจะไปยัง ภูเขาทอง เมื่อลงจากสถานีราชเทวี ก็มุ่งหน้าไปทางสะพานหัวช้างเพื่อใช้บริการเรือโดยสารจากท่าสะพานหัวช้าง ไปยังท่าผ่านฟ้า ค่าเรือรอบละ 10 บาท...



~~~พอถึงท่าผ่านฟ้า ก็ยังหาภูเขาทองไม่เจอหรอกค่ะ แต่ไปเจอ พิพิธภัณฑ์พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ก่อนก็เลยขอแวะเข้าไปชมสักหน่อยแต่ไม่ได้ถ่ายรูปมาค่ะ แอบไปรับลมแอร์เย็น ๆ สักหน่อย .. ก็เลยถามพี่ รปภ.ที่ดูแลพิพิธภัณฑ์ว่าจะไปภูเขาทอง ไปทางไหน??? เมื่อทราบแล้วก็ข้ามสะพานไปเ่ลยจร้า ..และแล้วก็มาถึงภูเขาทอง









หายเหนื่อยเลย วิวสวย ลมแรงพัดมาเย็นสบายจัง




##!*$ รับลมชมวิวจนหายเหนื่อยแล้ว ก็ถึงเวลาลงจากภูเขาทอง ไหนก็มาถึงเขตราชดำเนินแล้ว ก็เลยขอเดินเที่ยวใกล้ ๆ สักหน่อยแล้วกันจร้าาาา









...เดินเที่ยวสักพักก็กลับไปลงเรือที่ท่าผ่านฟ้า กลับไปขึ้นที่ท่าหัวช้างเหมือนเดิม พอดีตอนขาไปเราเห็น พิพิธภัณฑ์บ้านจิม ทอมป์สัน พอขึ้นท่าหัวช้าง ก็ไปพิพิธภัณฑ์บ้านจิม ทอมป์สันต่อเลยค่ะ
...พิพิธภัณฑ์แบ่งเป็น 2 ชั้น ชั้นบนเป็นห้องอาหาร ห้องนั่งเล่น ห้องอ่านหนังสือ ห้องนอนสำหรับแขก และห้องนอนของจิม ทอมป์สัน ภายในห้องเหล่านี้ จัดแสดงด้วยสิ่งของตกแต่งภายในที่สะท้อนถึงความสนใจในวัฒนธรรม และโบราณวัตถุของเอเชีย ส่วนชั้นล่าง จัดเป็นห้องเบญจรงค์ แสดงเครื่องเบญจรงค์ เครื่องเคลือบดินเผาสีน้ำเงิน ขาว ของจีนสมัยราชวงค์หมิง ศตวรรษที่ 13-17 ศิลปะของเวียดนาม และบ้านรูปภาพจัดแสดงภาพเขียนโดยช่างไทยในปี พ.ศ.2403 โดยแสดงให้เห็นชีวิตและความเป็นอยู่ในสมัยนั้น จุดเด่นอีกประการหนึ่งของที่นี่คือ ภาพสะสมที่เป็นภาพวาดพุทธประวัติ 100 ชิ้นซึ่งเขียนบนผ้า โดยฝีมือของช่างเขียนอยุธยาและช่างรัตนโกสินทร์
...วันนั้นเราเป็นคนไทยคนเดียวที่เข้าไปเที่ยว นอกนั้นเป็นต่างชาติหมดเลยอ่ะ คนขายตั๋วถามว่ามาทัศนศึกษากับมหาวิทยาลัยเหรอ อุอิงุงิ ปล่าวค่ะเป็นนักท่องเที่ยวคนไทยแต่อยากมาเที่ยวชมบ้านจิม ทอมสัน ค่ะ คนขายตั๋วเค้าบอกว่าปกติถ้าคนไทยจะมาเที่ยวเองนี่แทบจะไม่มีถ้ามีมาก็จะเป็นพวกนักศึกษา เพื่อมาหาข้อมูล
....จะต้องให้ไกด์นำเที่ยวชมนะค่ะ..แม้ว่าเราจะเป็นคนไทยคนเดียว ก็ต้องมีไกด์พาชมแต่ละจุดค่ะ...ไป 2 คนกะน้องไกด์ก็หัวเราะไป มันเหงา ๆ เดินกัน 2 คน

วันเปิดทำการ : ทุกวัน
เวลาเปิดทำการ : 09.00 - 17.00 น.
ค่าเข้าชม 100 บาท / คนไทย














ในเวลาอันจำกัด ไม่อยากเสียเวลา..ก็ลองเที่ยวไปตามเส้นทางนี้ดูนะค่ะ

---และแล้วก็ได้เวลาเดินทางกลับไปสุวรรณภูมิแล้ว...เวลา 1 วันนี่ช่างมีค่าเสียจริง..

อย่างน้อยเราก็ได้ไปถึง 4 สถานที่ด้วยกัน..

คนเหนือจวนแอ่ว

 วันศุกร์ที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2560 เวลา 16.04 น.

ความคิดเห็น