ทริปป่าหน้าฝนมันจะดีหรอ มันอันตรายนะ มันคุ้มค่าไหม ? แล้วทำไมต้องกลัวล่ะ ฝนตกก็เปียกแค่นั้นเอง
" ตั้งใจจะทำก็ต้องทำ อย่าได้ลังเลสิ ลุยยยยย "
เริ่มต้นการเดินทางของเรา
วันที่ 1
โดยเราได้นัดรวมตัวกันตรงที่จอดรถ BTS หมอชิต เวลาประมาณ 22.00 น. เพื่อที่เราจะได้ขึ้นรถตู้และออกเดินทาง ไปยังอุทยานแห่งชาติภูสอยดาว ได้ทันเวลาขึ้นภูตอนช่วงเช้า
และ ช่วงเวลาประมาณ 6 โมงเช้า เราก็มาถึงตลาดชาติตระการ เราก็ต้องแวะเตรียมความพร้อม ล้างหน้า-แปรงฟัน และเติมพลังของเราก่อน
นี่ไงเติมพลังเรา ชานมเย็น - ไข่ลวก - ข้าวเหนียวไก่ย่าง
เสร็จเราก็เดินทางกันต่ออีก จนมาถึงที่ทำการอุทยาน คิดว่ามาเช้าคนจะไม่เยอะนะเนี้ย ตะลึงเลย
เราก็มาเตรียมความพร้อมรอชั่งน้ำหนักกระเป๋า และของที่จะให้ลูกหาบแบกขึ้นภูกัน
พอเรียบร้อยแล้ว เราก็มานั่งรอรถเจ้าหน้าที่มารับไปส่งตรงจุดน้ำตกภูสอยดาวเพื่อที่จะได้เดินขึ้นภูกันเลย
นั่งบังป้ายกันซะไม่เห็นชื่อน้ำตกเลย
ตอนนี้ก็ถึงเวลาขึ้นภูของเราแล้ว เตรียมตัวพร้อมลุย.......
โดยระยะทางที่เราต้องเดินขึ้นภูสอยดาวนั้น เราต้องเดิน 6.5 กม. และ ภูสอยดาวสูงจากระดับน้ำทะเล 2,102 เมตร ซึ่งสูงเป็นอันดับ 4 ของประเทศไทย โดยจะมีทั้งหมด 5 เนิน (จำถูกไหมหว่า)
1. เนินส่งญาติ
2. เนินปราบเซียน
3. เนินป่าก่อ
4. เนินเสือโคร่ง
5. เนินมรณะ
โดยเนินส่งญาติ กับ เนินมรณะ นี่ขึ้นชื่อเรื่องความโหดเลยล่ะ
และเราก็มาถึงเนินสุดท้ายของเรา " เนินมรณะ "
เราต้องเดินข้ามยอดเขาที่เรามองเห็นนั้นเพื่อจะให้ถึงลานสนและจุดกางเต็นท์ของเราในคืนนี้
เราก็มุ่งหน้าสู่จุดกางเต็นท์กันเลย
ถึงแล้วเราก็พักเหนื่อยกันซักแปบ ช่วยกันกางเต็นท์เก็บของ และ เตรียมตัวทำกับข้าวกันดีกว่า
ได้เวลาแล้วกลับไปอาบน้ำเตรียมทำกับข้าวกันดีกว่า
แม่ครัวเยอะแล้ว งั้นไปอาบน้ำกันดีกว่า
( อาบน้ำที่นี่ต้องเช่าถังกับขัน แล้วไปตักน้ำมาอาบเองนะครับ น้ำดื่มก็ไม่มีขายเช่นกันถ้าน้ำฝนหมด ก็ต้องกินน้ำลำธารนี่แหละ )
คืนนี้ฟินกัน 1 มื้อ อากาศหนาวเหมือนกันนะคืนนี้ หมอกลงหนาตั้งแต่ 4 โมงเย็นแล้ว
กลางคืนพวกเราก็มีกิจกรรมสนุกๆมานั่งเล่นด้วยกันยัน 4 ทุ่มครึ่ง ฟินเลย
หมดไป 1 วัน และ ทำไมเวลามันผ่านไปไวแบบนี้
พุ่งนี้ ตี 5 เจอกันนะภูสอยดาว
วันที่ 2
ตี 4.45 น. อากาศข้างนอกเต็นท์เย็นสบาย อุณหภูมิอยู่ที่ 17 องศา
เราออกจากเต็นท์ไปเตรียมตัวล้างหน้าแปรงฟันที่ลำธาร เตรียมตัวไปดูพระอาทิตย์ขึ้นที่จุดชมวิว
เราไปนั่งรอพระอาทิตย์ขึ้นกันที่จุดชมพระอาทิตย์ตก เพราะพี่ลูกหาบบอกเราว่ามุมนั้นก็มองเห็นพระอาทิตย์ขึ้นเหมือนกัน
เราก็นั่งรอกันจนประมาณ 7 โมง พระอาทิตย์ก็ยังคงไม่ออกมาให้เราเห็น มีเพียงหมอกหนาปกคลุมทั่วทั้งภูเหมือนเมื่อวาน
ซักพักก็มีแสงของพระอาทิตย์ออกมาให้เราได้เห็น ประมาณเพียงแค่ 2 นาที
และเราก็กลับเต็นท์เรา ไปกินข้าวเช้ากันดีกว่า
เช้านี้เมนูมาม่าต้ม กับ ผัดหมี่ ดูลีลาแต่ละคนก็รู้อร่อยแค่ไหน
กินเสร็จเรียบร้อยก็ช่วยกันเก็บของให้ฝากลูกหาบ และเดินทางลงกันเลยยย
ขาลงใครว่าไม่เหนื่อย เกร็งขากันเพลินเลยทีเดียว
เป้าหมายสุดท้ายของเราคือไปโดดน้ำตกภูสอยดาว
เย็นสบาย ฟินกันเลย
ห้องน้ำส่วนตัวก็มาจ้า พี่เค้านอนอาบน้ำมองชมวิวแบบ ฟินคนเดียวเลย
และก็ถึงเวลาเดินทางกลับกันแล้วสินะ รู้สึกเหมือนพึ่งมาได้แแปบเดียวเอง
ทริปนี้ตอนมาเราต่างคนต่างมา ไม่รู้จักกันมาก่อน
แต่ถึงตอนขากลับเราเป็น ทั้งพี่ ทั้งเพื่อน ทั้งน้อง ที่ร่วมกันเหนื่อยมาดูแลกันและกัน
มิตรภาพที่ดีมักเกิดขึ้นระหว่างการเดินทาง
PeatParin
วันอาทิตย์ที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2560 เวลา 21.01 น.