ใครต่อใครมักบอกว่า "เชียงใหม่" ไปกี่ครั้งก็ไม่เบื่อ เราก็ว่าจริง เพราะเชียงใหม่นับเป็นจังหวัดยอดฮิตของนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะหน้าหนาว ที่ใครๆต่างก็อยากมาสัมผัสลมหนาวบนดอยสักครั้ง นอกจากหน้าหนาวแล้วเชียงใหม่สามารถมาเที่ยวได้ตลอดทั้งปี เพราะนอกจากแหล่งท่องเที่ยวตามธรรมชาติแล้ว ยังมี วัดวาอาราม ร้านอาหารพื้นเมือง ร้านกาแฟเก๋ๆ มากมาย ซึ่งทริปนี้เป็นทริปที่เราตั้งใจมาไหว้พระ และพักผ่อน ชิลๆในตัวเมืองเชียงใหม่กัน

ที่พักของเราในทริปนี้ เราเลือกพักที่ " Pause and Play Hotel " ตั้งอยู่บนถนนเลียบคันคลองชลประทาน ไม่ไกลจากแยกภูคำ ซึ่งเป็นถนนที่ค่อนข้างเงียบ ไม่พลุกพล่าน เหมาะแก่การพักผ่อน แถมอยู่ไม่ไกลจากแหล่งท่องเที่ยวอย่าง ถนนนิมมานฯ อีกด้วย โรงแรมนี้ถือว่ายังใหม่อยู่พอสมควรเพราะเปิดบริการมายังไม่ถึงปี ตัวโรงแรมจะอยู่ติดถนนใหญ่เลย ซึ่งถือว่าการเดินทางสะดวกมาก




ทางโรงแรมมีรถตู้คอยอำนวยความสะดวกให้แขกที่มาเข้าพัก อย่างทริปนี้เราแค่แจ้งกับทางโรงแรมว่าเราจะมาถึงสนามบินกี่โมง ทางโรงแรมก็จัดรถตู้มาคอยรับถึงสนามบิน โดยค่าบริการจะคิดเป็นเที่ยว เที่ยวละ 400 บาท เมื่อมาถึงโรงแรมแล้ว สำหรับใครที่อยากเช่ารถขับ ตรงล็อบบี้ของโรงแรมจะมีบริการ ซึ่งมีให้เลือกทั้งรถยนต์ และ รถมอเตอร์ไซด์ ราคาก็มาตรฐานตามบริษัทรถเช่าทั่วๆไป แถมมีพนักงานมาส่งรถให้ถึงโรงแรม และตอนคืนรถก็สามารถคืนรถได้ที่โรงแรมเลย สะดวกสบายมากๆ



หรือถ้าใครไม่อยากเช่ารถ และต้องการเดินทางไปยังจุดต่างๆในตัวเมือง ทางโรงแรมก็มีบริการรถตู้ ( Shuttle Bus ) บริการส่งฟรีตามจุดต่างๆรอบเมือง เช่น ห้างเมญ่า ถนนนิมมาน ประตูท่าแพ ถนนวัวลาย โดยจะมีรอบให้บริการตั้งแต่ 10 โมง - ประมาณ 1 ทุ่ม


ชมบรรยากาศแบบคลิปสั้นๆกันก่อนค่ะ


เมื่อมาถึงโรงแรมเราก็ต้องมาเช็คอินตรงล็อบบี้กันก่อนค่ะ ซึ่งจะมีพนักงานคอยต้อนรับ และแนะนำรายละเอียดของโรงแรมค่ะ ที่นี่ wifi ฟรีสามารถล็อคอินได้เลยโดยไม่ต้องใส่รหัส สะดวกมากๆค่ะ

ตามมาดูภายในโรงแรมกันบ้างดีกว่า ถัดจากล็อบบี้ จะเจอกับพื้นที่ส่วนกลางของโรงแรม มีโซฟา เก้าอี้ สำหรับนั่งพักผ่อน และโต๊ะสนุ๊กเกอร์ให้เล่น



มีมุมนั่งเล่น และเครื่องกดกาแฟ ชา ช็อคโกแลต พร้อมขนม น้ำเปล่า น้ำสมุนไพร และเยลลี่ ซึ่งอยู่ในตู้แช่ ทุกอย่างสามารถหยิบทานฟรีได้ไม่อั้น ถือว่าดีงามมาก เราเปิดตู้หยิบเยลลี่มากินบ่อยมากๆ
แถมเวลาจะออกไปเที่ยวไหนก็สามารถหยิบน้ำจากโรงแรมติดมือไปกินได้อีก เริ่ดตรงนี้

ห้องอาหารของโรงแรมจะเปิดบริการตั้งแต่เช้า ถึงบ่ายสอง โดยจะให้บริการอาหารเช้าแบบบุฟเฟ่ต์และมีบริการอาหารกลางวันตามสั่ง

ขึ้นลิฟท์ไปดูห้องพักของที่นี่กันบ้าง โรงแรมจะมีทั้งหมด 4 ชั้น โดยชั้นล่างเป็นส่วนกลางและชั้น 2-4 จะเป็นส่วนของห้องพัก และชั้นบนสุดจะเป็นดาดฟ้าของโรงแรม


การตกแต่งภายในโรงแรมจะออกโทนสีขาว เรียบ ทันสมัย ห้องพักมีทั้งแบบ 2 คน และแบบห้อง family สำหรับครอบครัว หรือเพื่อนฝูงที่มากันหลายคน





มาที่ห้องแบบแรกกันก่อน ห้อง Deluxe เตียงเดี่ยว พักได้ 2 ท่าน มีทั้งแบบเห็นวิวสวน และวิวเมือง ห้องพักขนาดกว้างขวาง โปร่งสบายตาด้วยกระจกใสขนาดใหญ่ พร้อมเตียงนอนขนาด 6 ฟุต โซฟานั่งเล่น โต๊ะเครื่องแป้ง ไดร์เป่าผม ตู้นิรภัย ห้องน้ำแบบมีกระจกใสกั้นทำให้ดูโล่งไม่อึดอัด



ห้อง Deluxe เตียงแฝด มีทั้งฝั่งวิวสวน และ วิวเมืองเช่นกัน การตกแต่งห้องและสิ่งอำนวยความสะดวกคล้ายกับห้องดีลักซ์เตียงเดี่ยว


ห้องแบบ Tripple room พักได้ 3 ท่าน มี 2 ห้องนอน ห้องแรกเป็นเตียงเดี่ยวขนาดใหญ่ 6 ฟุต ส่วนอีกห้องเป็นเตียงเดี่ยวขนาดเล็ก 3.5 ฟุต ห้องนอนอยู่ฝั่งวิวสวน ส่วนห้องรับแขกจะเห็นวิวถนนและวิวของดอยสุเทพอยู่ไม่ไกล บางวันในยามเช้า สามารถมองเห็นสายหมอกบางๆจากยอดเขาได้



ห้อง Family room เหมาะสำหรับมาพักแบบครอบครัว หรือเพื่อนฝูง ที่ต้องการพื้นที่โซนห้องรับแขกที่กว้างขวาง โดยแบบนี้จะมีทั้งหมด 2 ห้องนอน พร้อมเตียงขนาดใหญ่ 6 ฟุต ห้องครัว ห้องน้ำ ตู้นิรภัย








มาที่ห้องแบบสุดท้ายกัน โดยเราพักที่ห้องนี้ เรียกว่าห้อง One Bedroom Suite เป็นห้องสำหรับ 2 คน แบ่งเป็น 1 ห้องนอน และมีพื้นที่ใช้สอยส่วนห้องรับแขกที่แยกออกมาเป็นสัดส่วน ห้องครัว มีไมโครเวฟ กาต้มน้ำร้อน จาน แก้วน้ำ พร้อมระเบียงชมวิว และภายในห้องน้ำของห้องนี้จะมีอ่างอาบน้ำเพิ่มขึ้นมา









สำรวจห้องกันครบทุกแบบแล้ว ลงมาดูส่วนของสระว่ายน้ำกันบ้าง สระว่ายน้ำของที่นี่เป็นสระเกลือ ซึ่งดีต่อผิวอีกด้วย นอกจากจะมาว่ายน้ำเล่นแล้ว หาหนังสือซักเล่มมานั่งอ่าน นั่งชิลริมสระก็เพลินดี






นอกจากนี้ทางโรงแรม " Pause and Play Hotel " ยังมีจักรยานไว้สำหรับบริการฟรี ให้แขกที่มาพักสามารถยืมขี่ไปยังสถานที่ใกล้เคียงอีกด้วย



ช่วงเช้าที่ห้องอาหารโรงแรมจะจัดเตรียมอาหารไว้ให้แขกที่มาพัก เป็นไลน์บุฟเฟ่ต์ มีทั้งอาหารแบบอเมริกัน เบรคฟาส พวกไข่ดาว ไส้กรอก แฮม ซึ่งเป็นเมนูยืนพื้นหลักเหมือนกันทุกวัน ส่วนอาหารไทย พวกกับข้าวต่างๆ ทางโรงแรมจะมีเมนูสลับ สับเปลี่ยนกันไปในแต่ละวัน ซึ่งหลากหลายและรสชาติอร่อยมาก นอกจากนี้ยังมี สลัด ผลไม้ ขนมปัง ชา กาแฟ บริการ และพนักงานที่ห้องอาหารจะคอยดูแลเติมอาหารอยู่ตลอด







มุมเครื่องดื่มมีเครื่องกดกาแฟอัตโนมัติ มีให้เลือกทั้ง ลาเต้ มอคค่า เอสเปรสโซ ช็อคโกแลต ชา และน้ำส้ม คอยบริการด้วย


ชั้นบนสุดของโรงแรมเป็นดาดฟ้าสามารถขึ้นมานั่งเล่นชมวิว ช่วงเช้าๆของบางวันจะสามารถมองเห็นสายหมอกลอยอยู่บนดอยสุเทพอีกด้วย แถมอากาศก็เย็นสบายกำลังดี




โรงแรม" Pause and Play Hotel " ตั้งอยู่ไม่ไกลจากแหล่งท่องเที่ยว ทริปนี้เราเลยได้เช่ามอเตอร์ไซด์ขี่เล่นในเมือง ซึ่งสามารถติดต่อสอบถามรถเช่าได้ที่ล็อบบี้ได้เลย เค้าจะมีรถมาส่งให้ถึงโรงแรมใช้หลักฐานแค่บัตรประชาชนใบเดียวสะดวกมาก



โดยเริ่มจากไปไหว้พระธาตุดอยสุเทพ จากนั้นขี่เลยขึ้นไปอีกหน่อยที่ดอยปุย ช่วงที่เราไปเป็นหน้าฝน ข้างบนดอยจะมีหมอกบางๆและอากาศเย็นสบายมากๆ



วัดพระธาตุดอยสุเทพเป็นวัดคู่เมืองเชียงใหม่ นักท่องเที่ยวนิยมมานมัสการพระบรมธาตุกันทุกคน ใครที่มาเชียงใหม่แล้วยังไม่เคยแวะมาไหว้พระธาตุเค้าถือว่ายังมาไม่ถึงเชียงใหม่น๊า





เลยจากวัดพระธาตุดอยสุเทพขึ้นมาไม่กี่กิโล เราก็มาต่อที่หมู่บ้านม้งดอยปุย เดินเล่นชมสินค้าชาวเขา ที่นี่มีชุดชาวเขาให้เช่าใส่ถ่ายรูปด้วยนะคะ ชุดละ 50 บาท ถือว่าช่วยอุดหนุนชาวเขาแล้วยังได้รูปสวยๆด้วยค่ะ






จากนั้นมาต่อกันที่วัดพระสิงห์ ซึ่งเป็นวัดที่ประดิษฐาน พระสิงห์ (พระพุทธสิหิงค์) พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่เมืองเชียงใหม่และแผ่นดินล้านนา



ด้านหลังวัดยังมีเจดีย์เก่า ที่ปัจจุบันได้ทำการลงรักปิดทองใหม่สวยงามอร่ามตามาก



ถัดจากวัดพระสิงห์ เรามาต่อกันที่วัดสวนดอก หรือวัดบุฟผาราม ซึ่งเป็นวัดคู่เมืองล้านนา และยังมีกู่เจ้าหลวงเชียงใหม่ ตั้งแต่ปฐมกษัตริย์ถึงพระองค์สุดท้าย ในตระกูล ณ เชียงใหม่



วัดพระธาตุดอยคำ เป็นอีกหนึ่งวัดที่คนนิยมมากราบไหว้ขอพรหลวงพ่อทันใจ ตั้งอยู่บนดอยคำ มีอายุกว่า 1300 ปี และเป็นวัดที่เก่าแก่ที่สุดในเชียงใหม่


ปัจจุบันมีชื่อเสียงมากในเรื่องความศักดิ์สิทธิ์ หลายคนมาขอพร บนบาน แล้วประสบความสำเร็จ ก็จะนำพวงมาลัยดอกมะลิ มาไหว้แก้บน




วิวจากด้านหลังวัดพระธาตุดอยคำ สามารถมองเห็นเมืองเชียงใหม่จากมุมสูงที่สวยงามอีกมุมนึง


วัดสุดท้ายที่เราแวะคือวัดอุโมงค์ จุดเด่นของวัดนี้ คือมีอุโมงค์ที่มีทางเดินเชื่อมต่อถึงกันได้ และมีบรรยากาศที่ร่มรื่นเงียบสงบ



สระน้ำด้านหลังวัดค่อนข้างร่มรื่น และยังสามารถให้อาหารปลาและนกพิราบได้อีกด้วย


ออกจากวัด เราแวะกินขนมปังสังขยา เจ้าดัง ชื่อ ร้าน โกเผือก โกดำ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากโรงแรมมากนัก ร้านนี้คนจะเยอะทุกวัน เมนูเด่นของที่นี่คือ สังขยา 4 สี นอกจากนี้ยังมีขนมปังชาโคลน้ำตาลอ้อย และก๋วยจั๊บญวน

ย่านถนนนิมมาน ยังมีคาเฟ่เก๋ๆอยู่หลายร้านมาก รอบนี้เราได้มานั่งชิล ที่ The Baristro by Guu เป็นอีกสาขานึงของร้านกู โรตี ที่โด่งดังย่านนิมมาน แต่สาขานี้จะเข้ามาในซอยไม่ได้ติดถนน คนจะน้อยกว่า และตกแต่งร้านดูสวยงามกว่า ใครที่ชอบถ่ายรูปสวยๆแนะนำมาร้านนี้จะค่อนข้างเป็นส่วนตัวดีค่ะ


มาต่อกันที่ร้าน Seaol mind อยู่ถนนศิริมังคลาจารย์ ซอย 11 ร้านตกแต่งน่ารักสีหวาน สไตล์เกาหลี มีเมนูอาหารและเครื่องดื่มให้เลือกมากมาย และมีมุมถ่ายรูปสวยๆเยอะมาก

เครื่องดื่มร้อน สีหวาน หอมมากๆ

Ristr8to คาเฟ่ย่านนิมมานยอดฮิตอีกร้านของเชียงใหม่ ซึ่งเจ้าของร้านเป็นแชมป์ลาเต้อาร์ทระดับโลกเลยทีเดียว ที่นี่คนเยอะทุกวัน ทั้งลูกค้าคนไทยและต่างชาติ จุดเด่นคือลายอาร์ทสวยๆที่กาแฟนั่นเอง นอกจากสวยแล้วรสชาติก็อร่อยด้วยนะ

Flat White กาแฟนมหวานเบาๆ แก้วโปรดของเราเลย



จบรีวิวทริปเชียงใหม่แบบเที่ยวในเมืองชิลๆแค่นี้ก่อนนะคะ

สำหรับใครที่กำลังมองหาที่พักเชียงใหม่เราอยากให้ลองเก็บ Pause and Play Hotel ไว้ในลิสต์ เพราะสำหรับเราที่นี่ถือว่าเป็นโรงแรมที่สะดวกสบาย ห้องพักสะอาด อยู่ไม่ไกลจากแหล่งท่องเที่ยว ราคาไม่แพงเมื่อเทียบกับการบริการและสิ่งอำนวยความสะดวกที่ได้รับ โรงแรมมีรถตู้คอยบริการรับส่งฟรี ใช้เวลาเดินทางเพียง 5-10 นาที ก็ถึงถนนนิมมาน

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

Pause and Play เชียงใหม่ https://www.facebook.com/pauseandplayhotel

Tel. 053 224 535

เว็ปไซด์ www.pauseandplayhotel.com

ทริปหน้าเราจะพาไปเที่ยวไหนคอยติดตามอัพเดตได้ที่เพจ

https://www.facebook.com/somewheresomeone/

หากรีวิวถูกใจเพื่อนๆอย่าลืมแวะเข้าไปกด Like&Share เพจเป็นกำลังใจให้เราบ้างนะคะ


Somewhere Someone

 วันพฤหัสที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2560 เวลา 23.07 น.

ความคิดเห็น