เราเคยเที่ยวแบบเช้าไป-เย็น/ค่ำกลับ มา 2 ครั้งแล้ว ครั้งแรกก็สกลนคร ครั้งที 2 ก็ภูเก็ต ครั้งนี้ก็เชียงราย ทำไมนะหรือ เพราะสมัยนี้นั่งเครื่องไป-กลับ เท่ากับร่นระยะเวลาเดินทางไป 2 วันแล้วนะ ดังนั้นก็ไม่แปลกว่าทำไมจะเที่ยววันเดียวไม่ได้ หึ หึ หึ

จองตั๋ว 0 บาท เอาไว้เมื่อ กย.ปีที่แล้ว 9 ที่ แต่พอวันเดินทางจริงเหลือผู้กล้าแค่ 6 คนแต่ไม่มีอะไรขัดขวางอะไรเราได้

ที่จองไปเชียงราย เพราะมีสถานที่ท่องเที่ยว เกิดใหม่คือ Tree Top Walk ที่ดอยตุง อยากจะสัมผัสความสูง และความเสียว จึงเกิดทริปนี้ค่ะ

ถึงสนามบินแม่ฟ้าหลวง ก็ต้องแวะถ่ายรูปสติ๊กเกอร์กันสักหน่อย สนามบินอื่นน่าจะมีบ้างเนอะ

แต่ว่ากลับมาบ้านหลายวันแล้ว ยังไม่ได้รับ e-mail ภาพเลย 555 คุณหลอกดาว

โปรแกรมการท่องเที่ยวเดินทางของเราจะเป็นแบบนี้ค่ะ

รถตู้ที่จองไว้มารอรับตรงเวลา และก็พาเราไปทานอาหารเช้ากันค่ะ

มาเหนือทั้งที ต้องไม่พลาด ขนมจีนน้ำเงี้ยว กับข้าวซอย เด็ดขาด

ทานข้าวซอยมาก็หลายที่ เราว่าเจ้านี้อร่อยสุดค่ะ แถมราคาไม่แพง ไว้ผ่านมาจะแวะมาทานอีกค่ะ

ท้องอิ่มก็ไปที่แรกกันเลยค่ะ

เที่ยวหน้าฝน คนก็จะน้อย ๆ หน่อย

ไร่ชาสุดลูกหูลูกตา ต้องตื่นกี่โมงนะ ถึงจะเก็บหมด

แดดเริ่มร้อน มาหาอะไรเย็น ๆ กันดีกว่า

สมาชิกในทีมบ้าง

มาไร่ชาทั้งที ต้องไม่พลาดชิมชา หอม ๆ ด้วยค่ะ

และของฝากเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์จากใบชา

เขียวไปหมด ชุ่มฉ่ำดีจัง

ออกจากไร่ชา ก็ไปต่อกันเลยที่ ดอยตุง

กาแฟดอยตุง เค้าว่าเด็ด แต่อิ่มจากชาเขียวมาแล้ว เลยไม่ได้ชิม แต่ซื้อกลับบ้าน ไปเป็นของบรรณาการลูกพี่เก่าเสียหน่อย อิ ๆ

ซื้อตั๋วค่าเข้าสวนแม่ฟ้าหลวง คนละ 90 บาท(ส่วนที่อื่นไม่ได้ซื้อ เพราะเคยไปมาหมดแล้วอ่ะ)

ก้าวเข้ามาก็เขียวกันเลยทีเดียว

และก็มาซื้อบัตรค่าเข้า Tree Top Walk คนละ 150 บาท

เวลาเดิน จะมีเป็นรอบ ๆ เราได้รอบ 13.00 น. ยังมีเวลาเหลืออีก 15 นาที เลยมาถ่ายรูปเล่น ๆ ใกล้ ๆ กันก่อน

มาเที่ยวหน้าฝน คนก็จะไม่มี แต่ดอกไม้ก็จะยังไม่สวยนะคะ เพราะ จนท.กำลังเตรียมปลูก เพื่อให้บานทันหน้าหนาว ซึ่งเป็นฤดูการท่องเที่ยวของภาคเหนือมากกว่า

พอได้เวลาก็มาแต่งตัวกัน 55

ใส่อุปกรณ์เซฟตี้ เสร็จก็มานั่งฟัง เจ้าหน้าที่แนะนำการใช้งาน และข้อควรระวัง

รับรองไม่ดื้อ ไม่ซน รู้สึกเหมือนนักโทษลากตรวน ยังไง ยังงั้น 55

ลุย

เจ้าเหล็กอันนี้ จะตามเราไปตลอด แรก ๆ จะใช้งาน งง ๆ แต่สักพักก็จะคุ้นเคยกับเค้าค่ะ

จะงง นิด ๆ ตรงช่วงรอยต่อ แต่ก็สนุกดีนะ

สำหรับเรา ว่าไม่ค่อยเสียวนะ เพราะเค้ามีตาข่ายมาคลุมไว้ตลอด เลยเดินได้สบาย ๆ (แต่คนกลัวความสูงหล่ะ ไม่แน่ อิ ๆ )

ใช้เวลาเดินไม่นานหรอก แต่ที่นานคือหยุดถ่ายรูป 55

และก็ถึงทางออก

แต่ละรอบ ใช้เวลาประมาณ 30 นาที ของพวกเราก็เป๊ะ ๆ เลย

ออกมาก็ถ่ายรูปนิดหน่อย

หลังจากนั้นก็ลงจากดอยแวะหาอะไรทาน และตรงไปวัดร่องขุ่นกันเลยค่ะ

เข้าห้องน้ำที่สวยที่สุดกันสักหน่อย สะอาดดีค่ะ เพราะมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลตลอด ๆ

รอให้ทัวร์จีน เดินเข้าไปก่อน แล้วสถานที่นี่จะเป็นของเรา

สวยทุกมุม

นักท่องเที่ยวต่างชาติ เสียค่าเข้าชม 50 บาท เราคนไทย ฟรีค่ะ

วัดปิด 5 โมงเย็นนะคะ

เพิ่ง 5 โมงเอง เวลาเหลืออีกเยอะ เพราะขึ้นเครื่อง 21.40 น. เลยไปเที่ยวไร่บุญรอดต่อค่ะ

ตอนแรกพวกเรายังเสียวไม่พอ เลยจะมาโดดหอต่อ แต่พอเห็นความสูงแล้ว ....

กระโดดถ่ายรูปก็พอเนอะ 5555

เหนื่อยหล่ะสิ กระโดดเสร็จ นั่งชมวิวกันต่อ (อันนี้สร้างภาพนะคะ หาเป็นความจริงไม่ เพื่อความบันเทิงล้วน ๆ)

ที่ไร่บุญรอด จะมีบริการรถรางให้นั่งเที่ยวชมไร่ หรือจักรยานให้ปั่น แต่ว่าเรามีเวลาจำกัด และมาเย็นมากแล้ว ฝากไว้ก่อนไว้จะมาใหม่นะ

ก่อนเข้าสนามบิน แวะทำบุญไหว้พระกันสักนิด ที่วัดห้วยปลากั้ง (วัดปิด 21.30 น.)

มาตอนเย็น ๆ ก็จะดี เพราะวัดจะเปิดไฟ สวยงาม มาก ๆ ค่ะ

ไม่ได้หวังรางวัลเลยจริงจริ๊งงง

ที่วัดจะมีบริการรถรางขึ้นฟรี ไปไหว้เจ้าแม่กวนอิมข้างบนนะคะ แต่เรามาดึกแล้วเลยไม่ได้ขึ้น

และแวะซื้อของฝากและส่งสนามบิน กลับกรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ 12 ชั่วโมงในเชียงราย คงยังไม่พอ ไว้มีโอกาส จะมาเยือนอีกนะ บ๊าย บาย

ค่าใช้จ่ายสำหรับทริปนี้