ฤดูฝนเป็นฤดูท่องเที่ยว ประโยคข้างต้นนี้จำไม่ได้แล้วว่ามาจากใคร แต่เท่าที่เที่ยวมา ถ้าไม่นับว่าเปียกเฉอะแฉะ มันก็จริงนั่นแหละ ฤดูฝนเป็นฤดูท่องเที่ยว เพราะ คนน้อย อากาศไม่ร้อน มีความเขียวขจี เขียวชอุ่มพุ่มไสว ต้นไม้ใบหญ้าก็ดูสดชื่นไปซะหมด


การเดินทางมันเริ่มต้นจาก ผมไม่เคยนั่งเครื่องบินเลย แฟนผู้หวังดีก็เลย จองตั๋วเครื่องบินข้ามปี ชนิดราคาถูกซะรถทัวร์เคือง เส้นทางดอนเมือง-เชียงใหม่ ในช่วงปลายๆ หน้าฝน ซึ่งส่วนตัวนึกไม่ออกเลยว่าจะไปเที่ยวไหน ในเชียงใหม่ดีไม่เคยคิดเลยว่าจะมานอนค้างในตัวเมืองเชียงใหม่ แต่จะทำไงได้ ลงเครื่องตอนสี่โมงเย็น อย่าหาเรื่องเลย หาที่พักในตัวเชียงใหม่นี่แหละ น่าจะดีกว่า ลงเครื่องปั๊บขี่รถเช่าเข้าที่พักเลยจ้า (โดยปกติประมาณ4-5โมง ผมจะต้องได้ที่พักแล้ว ไม่ค่อยอยากมาเสี่ยงหาเอาข้างหน้าในตอนที่จะค่ำ)


R1 Boutique Service Apartment Hotel Chiang mai


R1 อยู่ตรงข้ามกับนิมมานซอย5 ตรงนี้เรียกว่าถนน สุขเกษม หันหลังติดกับ มัลดีฟ สายเที่ยวสายตึ้มน่าจะชอบ เข้ามาจากนิมมานอาจจะลึกหน่อย แต่ถ้าเข้ามาจาก ฝั่งถนนชลประทาน ใกล้นิดเดียว เงียบสงบดี มีพื้นที่ส่วนกลางให้สามารถใช้สอยได้ อย่างว่าอะนะ นี่มันService apartment ด้านในห้องตกแต่งอย่างลงตัว ดูน่าพักผ่อน สะอาดสะอ้าน เอาของเข้าที่พักแล้วไปหาของกินดีกว่า





Lobby กว้างขวางรองรับคนได้เยอะ พนักงานอัธยาศัยดี ค่อนข้างเป็นมืออาชีพ ห้องพักที่ได้อยู่ตึกด้านหลัง ชั้น 7 ซึ่งเป็นชั้นบนสุด สามารถเดินผ่านทางเชื่อมได้เลย


เดินผ่านทางเชื่อมมาตึกหลัง จะพบกับพื้นที่ส่วนกลาง สามารถใช้นั่งทำงาน ประชุม Meetingได้ โต๊ะยาว โต๊ะสูง มีโต๊ะพลูด้วย มีร้านกาแฟที่ยังไม่เปิด มีเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญอยู่เป็นสัดส่วนดี น่าใช้งาน เอาเป็นว่าถ้าต้องมาทำงานอยู่ซักอาทิตย์ 2 อาทิตย์ อยู่ที่นี่น่าจะรู้สึกดี












ห้องพักอยู่ชั้น7 Liftนะครับ ขนาดliftไม่กว้างนัก ค่อนไปทางแคบ ยืนได้ประมาณ3คน เต็มที่ละ อ่อ มีLiftตัวเดียวครับ ขึ้นมาถึงชั้น7 การตกแต่งด้านนอกดูดีมาก เกินราคายิ่งเข้าไปในห้องยิ่งรู้สึกดี มีความน่าอยู่ รู้สึกอยากอยู่มากกว่า 1 คืน มีโต๊ะรีดผ้า สำหรับผู้ที่มาทำงานนานๆ มีเครื่องทำกาแฟสด ของNes Cafe Wifi Free TV เป็นกล่องDigital ติดที่ไม่มีตู้เสื้อผ้า ทดแทนมาด้วยราวแขวน และไม้แขวน


ด้านในห้องน้ำ มีน้ำอุ่น น้ำเย็นแยก พร้อมฝักบัวและอ่างอาบน้ำ ใช้งานได้ดี มีไดร์เป่าผมให้ด้วย นี่บริการระดับโรงแรมหรูแล้วนะเนี่ยยยย

ห้องไม่มีระเบียงนะครับ วิวฝั่งนี้ไม่มีอะไรนอกจากตึก แต่ดีที่ผ้าม่านหนา หนาจนมืด นอนได้ทั้งวันอะ








มุมมองจากหน้าต่างห้อง





ตามประสาคนไม่เคยเที่ยวและไม่ได้ตั้งใจมาเที่ยวเชียงใหม่ พักนิมมาน นู้นนนนนนไปกินข้าวเย็นอยู่ตลาดทองคำ กินขนมจีนสันป่าข่อยที่ใครๆเค้ากินกันตอนกลางคืน เอากินตอนเย็นนี่แหละ

ต้องรีวิวมั้ย? ใครๆก็เคยกินมั้ย?

ขนมจีนสันป่าข่อย เปิดบริการวันจันทร์ถึงเสาร์ เวลา 15.30 -03.00น. หยุดทุกวันอาทิตย์

ร้านตั้งอยู่ที่ตลาดทองคำ ใครชอบ อยากลอง เชิญ!!!!!! มี 5 น้ำยา ;แกงเผ็ดเนื้้อ,แกงเผ็ดหมู,น้ำยากะทิ,น้ำเงี้ยว และแกงเขียวหวานไก่ ให้บริการ มีทั้งข้าวสวยและข้าวเส้น (ได้ยิน ข้าวเส้นครั้งแรก สตั้นท์ 3 วิ คนตักต้องเปลี่ยนมาเป็นคำว่าขนมจีน แหะๆ ไม่ค่อยคุ้นภาษาเหนือเท่าไหร่)

ใในส่วนของรสชาติ ผมได้ลองชิม แค่ 4 น้ำยา กลัวอิ่มเกิน (แฮะๆ แบ่งกันกินกะแฟน 2 คนหนะ) เส้นขนมจีนอร่อย สดมาก ไม่ค้างคืนแน่นอน รสชาติอร่อย เผ็ดพอดี แต่หวานนำ เนื้อนุ่มแต่ไม่ถึงกับเปื่อย เช่นเดียวกับหมู มะเขือนุ่มกินง่าย ไงล่ะ สั่งของตอนหิว หน้าตึงเลย


อ่อ มีข้าวซอยไก่ด้วย ลืมชิม อิ่มก่อน











กินคาวแล้วกินหวานต่อ

ไปต่อกันที่ร้านทับทิมกรอบเจ๊อ้วน

ก็ ไงดีล่ะ อร่อย แต่ค่อนข้างแพง หวานกำลังดี กะทิสด หอม มะพร้าวกะทิอร่อยใช้ได้ ที่แฟนผมชอบคือ พุทราจีน ที่ไม่ได้ใช้พุทราแก้วแข็งๆ แต่ใช้พุทราเชื่อมนุ่มๆ ถือว่าใช้ได้




ขี่รถเที่ยววนไปวนมา เจอแต่คนจีน กะ ฝรั่ง ไม่ไหวแฮะ ฝนก็ตกปรอยๆ หลบเข้าที่พักก่อนฝนหยุดค่อยออกมาอีกที วนไปวนมา มานั่งรอน้องต่อ น้องที่รู้จักกันบนPantip นัดกันที่สะพานขัวเหล็ก ตอนแรกก็สงสัย ว่าทำไมต้องสะพานขัวเหล็กนั่งเล่นเดินเล่นซักพัก รู้เรื่อง งืมมมม ดีจริงๆ


รูปสุดท้ายไม่ค่อยชัดนะ มือไม้สั่นไปหมด ไปสะพานสวยดีจังเลยย


ก่อนเข้าที่พักแวะไปชิม ลูกชิ้นทอดหน้าWarm up ใครก็ว่าอร่อย นี่ก็รุ่นลูกมาขายแทนแล้ว

คนเพียบเลยหน้าWarm upเหล่สาวไปพลางรอลูกชิ้นไปพลางก็เพลินดีเหมือนกัน

ในส่วนของลูกชิ้นนั้น น้ำจิ้มอร่อย เกี๊ยวทอดอร่อยมาก แตงกวากรอบ สด

ลูกชิ้นทอด ธรรมดา ค่อนไปทางไม่อร่อยด้วยซ้ำ เหมือนรีบทอด ยังไม่สุกดี ส่วนลูกชิ้นเห็ดไม่ถูกปากแฮะ

ผมว่ากลิ่นเห็ดค่อนข้างแรง ถ้าเมาๆ กินแกล้มเหล้าน่าจะพอดี แต่วันนั้นไม่ได้ดื่มเลยไม่ถูกลิ้นเท่าไหร่ละมั้ง



หลังจากนี้ก็เข้านอนครับ การนอนคือการพักผ่อนที่ดี ถถถถถถ ไม่รู้จะไปไหนอะ นึกม่ายออกกกกก

เช้่มาก็อาหารเช้าง่ายๆ สไตล์ไทย

หมูปิ้ง!!

ใช่แล้วหมูปิ้งเป็นอาหารเช้าสไต์ไทยที่หนังสือแนะนำการท่องเท่ยวหลายเล่มแนะนำให้กับนักท่องเที่ยวต่างชาติว่าต้องชิม

ไปได้มา 2 ร้าน ร้านแรก หน้า 7-11ร้าน no nameไร้ชื่อเสียงเรียงนาม ซื้อมา 7ไม้ 20 ราคานี้ไม่เจอมาตั้งแต่ม.ต้นแล้วนะ

อีกเจ้านึงคือหมูปิ้งคุณพ่อ อยู่ในนิมมานซอย11มั้ง ถ้าจำผิดขออภัย

หมูปิ้ง Nonname หน้า 7-11 ให้ความเป็นหมมูปิ้งที่แท้จริง กล่าวคือ เป็นหมูปิ้งที่มีรสชาติคุ้นเคยในสมัยก่อนที่จะมีหมูปิ้งนมสดเกลื่อนเมืองขนาดนี้ ข้าวเหนียวก็ธรรมดา นุ่มใช้ได้ ไม่ค่อยติดมือ

ในส่วนของหมูปิ้งคุณพ่อ แพงกว่า แพงจนอยากคืนของ แต่ช่างเหอะเค้ามีชื่อ ลองกินซะหน่อยจะได้เล่าได้ รสชาติอร่อย ออกเผ็ด ไม่แน่ใจว่าเผ็ดจากพริกไทย พริกสด หรือ หม่าล่า แต่เผ็ดนิดๆ ปลายลิ้น รสชาติออกไปทางหมูย่างมากกว่าหมูปิ้ง งงมั้ยหว่า ข้าวเหนียวอร่อยดี ห่อมาในใบตอง ราคาที่แพงถ้าตัดเรื่อง บรรจุภัณฑ์น่าจะลดราคามาได้เยอะ



พอละ นอนตื่นสายกลิ้งไปกลิ้งมา ก็เช็คเอ๊าท์ แล้วรีบไปหาข้าวกลางวันกิน แหะๆๆๆ จะหมดครึ่งวัน ยังไมไ่ด้ขยับตัวไปไหน แถมจะกินอีกละ ข้าวกลางวันพาไปกินข้าวซอย กาดก้อม กับ ตือคาโค ไกลที่พักนิดหน่อย แต่ดีแน่ๆ

ต้องรีบนิดนึงนะเดี๋ยวหมดสำหรับข้าวซอยไก่

เมนูเด่นคือข้าวซอยไก่และข้าวซอยเนื้อ ชามละ 35 บาทเท่ากัน คนเยอะช่วงเที่ยง มีทั้งชาวบ้านละแวกนั้นและนักท่องเที่ยวตามมากินกัน

ข้าวซอยรสชาติดี เข้มข้น ไม่ผิดหวังแน่นอน ทั้งไก่ และเนื้อ









ตือคาโค แปลว่า ขาหมูกลมๆ ไม่ใส่หมู และไม่มีขา มีแต่เผือก ถั่วดำ ทำเป็นกลมๆ กินกับน้ำจิ้ม ขายคู่เต้าหู้ทอด เจ้านี้บอกเลยห้ามพลาด อร่อยทั้งตือคาโค และเต้าหู้ทอด สัมผัสแบบนี้หากินที่อื่นยากแล้ว





อิ่มท้องกันได้ที่ก็มุ่งหน้าไปปาย ก่อนไปก็แวะขึ้นพระธาตุดอยสุเทพซะหน่อยเนอะ มาเชียงใหม่ทั้งที สังเกตมั้ยว่าผมขี่รถวนไปวนมา ถถถถถ ไม่มีแผนไง เที่ยวไปเรื่อยๆ นึกไรได้ก็ไป ถถถถ

เฮ้อ!!!! ความตั้งใจดี แต่ความพยายามไม่มี ขึ้มไปถึงตีนบันได ก็ถอดใจละ เรามันไม่ใช่สายเดิน ถ่ายรูปเล่นก็อกๆ แก็กๆ ดีกว่า ถถถถ



บายยยยย เชียงใหม่ เดี๋ยวโอกาสดีๆ จะหาเที่ยวจริงๆจังๆนะ


เออ ลืมเล่าถึงม้างานเที่ยวนี้ ได้ Suzuki shooter 115 Fi สีขาว รถเช่าจากBikky ก็ตามประสารถเช่าราคาถูก สภาพไม่ดีเท่าไหร่ โซ่หย่อนยานนนนนน เข้าร้านตั้งโซ่สิ........ น็อตหางปลาขาด...... เอาเถอะ แก้ๆกันไป ค่าเช่าแค่ 2 ร้อยต่อวัน คุ้มแล้วววโด่วววววว


สะพานประวัติศาสตร์ท่าปาย ถูกสร้างขึ้นในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยกองทหารประเทศญี่ปุ่น เพื่อใช้เป็นเส้นทางลำเลียงเสบียงและอาวุธข้ามแม่น้ำปาย เข้าไปยังประเทศพม่า ที่หลงเหลือไว้ก็คือสะพานเหล็ก ที่เอาไว้ถ่ายภาพชิคๆ เท่านี้แหละ กลางคืนคงจะสวยกว่านี้ แต่ตอนนี้รีบหน่อยดีกว่า ยังไม่ได้หาที่พักเลย




การเทที่ยวช่วงหน้าฝน ถ้าไม่นับเรื่องความเฉอะแฉะเปียกปอน ก็คงเป็นอากาศที่เย็นสดชื่น และที่พัก ที่เที่ยวที่ไม่ต้องแย่งกัน อากาศช่วงเดือนกันยายนที่ปายเนี่ย เย็นกำลังดีเลยนะ ไม่ต้องใช้แอร์ก็สบาย

ที่พักคราวนี้Walk inเข้าไปที่ สวัสดีปาย ริเวอร์ รีสอร์ท ที่พักติดแม่น้ำปาย สไตล์เรโทร ใครของของเก่า ดื่มกาแฟ ชอบคุยกับคนอาร์ทๆ เชิญที่นี่เลย ที่พักน่ารักราคาถูก

แจ้งความจำนงค์เพื่อเข้าพักห้องพัดลม เจ้าของที่พักแจ้งว่า มีแมว 2 ตัวนะ มีปลอกคอ ถ้าโดดเข้าไปที่ระเบียงไ่ต้องตกใจ เค้ามีที่ใครที่มัน ง่ายๆ แนะนำที่เที่ยวอย่างดี กงแผนที่ แล้วกาๆๆๆๆ มาให้ สบายละ วันนี้พรุ่งนี้มีคนแพลนทริปให้เรียบร้อย


หาเจอไม่ยาก ที่พักอยู่ติดคอสะพาน ข้ามแม่น้ำปายเลย หาง่าย 400บาทถูกมาก









สบายๆ สายชิวคงชอบมีห้องแอร์ห้องพัดลม บังกะโลก็มี

เก็บข้าวเก็บของก็ออกไปร่อน


อ่า.....บันไดอีกละ

นอกจากไหว้พระก็รอดูพระอาทิตย์ตกหละ เราไม่ใช่ล่าพระอาทิตย์ซะด้วย รีบขึ้นรีบลง จะได้ไปหาไรกิน ถถถถถ




ไหนๆมีวัดอยู่ข้างล่างก็เข้าไปไหว้พระเสียหน่อย


พักซักแปป ปาย ที่ไม่ค่อยมีคน นี่มีก็สงบดีเหมือนกันนะ


เริ่มหิวแล้ว เดินเล่นตลาดเทศบาลก่อนดีกว่า

เที่ยวนอกเทศกาลทั้งที่ก็ต้องใช้ชีวิตแบบชาวบ้านนิดนึง

ก็ปกติตลาดชาวบ้าน พืชผักผลไม้ ตามฤดูกาล สำหรับทำกับข้าวกับปลา

อย่าถามนะว่าซื้ออะไรไปเท่าไหร่

ดูรูปเอา เสาวรส 4 ถุงนั่น จะเอากลับยังไง ขี่รถมานะเฟ้ยยยยย



ไปๆ เริ่มค่ำ อากาศเริ่มเย็น เดินเล่นที่Walking street

ปาย ในช่วงที่ไม่ค่อยมีคน ก็น่าเดินจริงๆ ไม่อึดอัด แออัด แย่งกันชมความงาม

เดินเล่นจนทั่วไม่ได้อะไรเป็นชิ้นเป็นอัน ได้ชิมข้าวปุกงาดำ กับเกี๊ยวซ่าผัก อร่อยดี

ข้าวปุกคือhttp://chiangmai.siamdot.com/khaw-puknga/ประมาณนี้แหละ อธิบายไม่ถูก


ท่ารถปาย มีรถวิ่งเข้าออกยันค่ำ ดีเหมือนกัน สะดวกดี





สรุป กินข้าวที่นี่แหละเนอะ

ร้านอาหารพี่แดง&หมูกระทะ ร้านอยู่แถวๆ ปั้ม ปตท หาไม่ยากหรอก

บ้านๆ ง่ายๆ รสชาติดี หมูกระทะก็มีนะถ้าอยาก ข้าวผัดขี้เมาหมูกรอบ ข้าวราดผักบุ้งหมูกรอบ ต้มจืดไข่จียว น้ำเปล่า ราคา140บาท ก็ok ไม่ได้แพง


อิ่มท้อง ได้ที่ เข้าที่พัก เอนกายทิ้งตัวให้ สวัสดีปายรีเวอร์รีสอร์ต ได้ดูแลซัก 1 คืน

ตื่นเช้าตรู่ แบบที่ทำไม่ค่อยได้ในวันทำงาน เพื่อที่จะขึ้นไปเดินเล่นในหมู่บ้านสันติชล ซึ่งเป็นหมู่บ้านจีนยูนนาน พร้อมกับกินข้าวเช้าที่นั่นเลย


ไปยัง ไปสิๆๆๆ


ไม่ได้ขึ้นไปจุดชมวิวหนุนไหล เดินเล่นในตลาด เที่ยวในหมู่บ้าน ชมวิวแบบนี้ก็พอละมั้ง ก่อนที่จะเริ่มข้าวเช้ามื้อโต


ข้าวเช้าทานที่นี่กันครับ ร้านอาหารชุมชน บรรยากาศย้อนยุคนิดๆ แต่ระหว่างกินก็ดูหมอกไหลผ่านหน้าไปด้วย เที่ยวหน้าฝนก็งี้หละ คนไม่ค่อยมี อาหารก็ได้ไว



เพราะว่ามื้อเช้าสำคัญที่สุด ขาหมู หมั่นโถนึ่งและทอด ผัดถั่ว แลชาร้อน หมดนี่300กว่าๆมั้ง แทบจะห่อกลับบ้าน เยอะเจงๆ ไม่มีขาเล็กให้สั่งบ้างหรือไร


ขาหมูรสชาติเผ็ดนำ ตามสไตล์ยูนนาน


เคียงคู่มาด้วย หมั่นโถนึ่ง และทอด ให้ความรู้สึกต่างกันนิดหน่อย ถ้าไม่ได้ชอบอะไรที่กรอบนอกนุ่มใน แบบนึ่งดูเข้ากับขาหมูมากกว่า อีกอย่างคือ น้ำมันมันเปื้อนมือ ถถถถ


ถั่วหวานนอกจากช่วยตัดรสชาติแล้ว คือการเพิ่มผักในมื้ออาหารนั่นแหละ กินดีเหมือนกัน


กินหมั่นโถวไป จิบชาไป อารมณ์จอมยุทธ์ก็บังเกิด ร้านโล่งๆงี้ บรรยากาศแบบนี้ เอาว่ะ!!!


ว่าจะโชว์วิชาตัวเบา ติดที่พุงโต กระโดดไม่ขึ้นแฮะ ขายหน้าจริงๆ


สายได้ที่ก่อนจะกลับกัน นั่งพักผ่อนทิ้งตัว กินกาแฟ ที่สวัสดีปาย ริเวอร์ ก่อนที่จะเก็บของกลับ

พร้อมพูดคุยฟังเรื่องเล่าสนุกๆ กับ เจ้าของ

อเมริกาโน่ร้อน ช็อคโกแล็ตร้อน โคตรดี ลงตัวมาก กินกับ แคร๊กเกอร์เนยถั่วโฮมเมด เยี่ยมยอดเลย

ปล เจ้าของที่พักเป็นกันเองสุดๆ


เก็บข้าวของกันเรียบร้อยออกไปดู สะพานบุณโขกู่โส่ สะพานไม่ไผ่ข้ามท้องนา ตั้งอยู่ที่บ้านแพมบก แต่ทางเข้าจะเห็นป้ายบ้านแพมกลางชัดหน่อยนะ



เลือกเอานะ ซ้ายหรือขวา ขวาขรุขระ ซ้ายทางดี ปลายทางที่เดียวกัน




มีบ้านพักกับที่กางเต็นท์ด้วยติดต่อเอาเด้อ ฟังเสียงน้ำไหล กบเขียด น่าจะเพลินดี



เจอละ ผลิตหมอกกันอยู่แถวนี้นี่เอง แสบตาเชียว


ออกจากบ้านแพมบก มุ่งหน้าเชียงใหม่ เดี๋ยวจะตกเครื่องซะก่อน เปิดวาปมาเลย มาทอดหุ่ยอยู่วัดอุโมงค์

รอเวลาแว็บนึงก่อนจะขึ้นเครื่อง



สำหรับทริปนี้ก็ลากันไปก่อน ยังไงก็ร่วมพูดคุย ติชมได้นะครับ


ติดตามการเดินทางได้ที่

https://www.facebook.com/darkcutie.travel/

https://pantip.com/profile/365469



ขอฝากนักเดินทางคนนี้เอาไว้หลืบใจผู้อ่านด้วยครับ อย่างน้อยก็เป็นเพื่อนแก้เหงาในส้วมก็ยังดี


ถถถถ


ลาไปก่อนครับ

Darkcutie สวัสดีครับ




DarkcutiE Travel

 วันอาทิตย์ที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2560 เวลา 23.28 น.

ความคิดเห็น