ใส่ชุดไทย ห่มสไบ ไปมัลลิกา ร.ศ.๑๒๔

MALLIKA R.E.124 เมืองมัลลิกา ร.ศ.๑๒๔

ใส่ชุดไทย ห่มสไบ ไปมัลลิกา

ร.ศ.๑๒๔

๑๓.๐๙.๒๕๖๐

วันหยุดวันเที่ยว ก็เที่ยวได้ ทริปสั้นๆ One day trip เที่ยวกาญจนบุรี ฉบับวันหยุดวันเดียว ใกล้กรุงเทพฯ ขับรถ 2-3 ชั่วโมง ได้ยินเสียงลือเสียงเล่าอ้างถึงสถานที่ท่องเที่ยวย้อนยุคมาสักพักใหญ่ๆ เราเลยชวนเพื่อนแวะมาเที่ยว "เมืองมัลลิกา ร.ศ.124" เป็นเมืองย้อนยุคของวิถีชีวิตชาวสยามบริเวณลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ วิถีชีวิตของชาวสยามในยุค ร.ศ.๑๒๔ มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นมากมายหลายด้าน ที่เด่นชัดมากคือการประกาศเลิกทาส เมื่อทาสได้รับความเป็นไทพวกเขาต้องใช้ชีวิตอยู่อาศัยและทำมาหากินด้วยตนเอง ไม่ได้อยู่ภายใต้อาณัติหรือการดูแลของบรรดาเจ้าขุนมูลนายอีกต่อไป พวกเขาต้องดำรงชีวิตให้อยู่รอด พึ่งตนเอง และอยู่ร่วมกับคนสยามทุกหมู่เหล่า การปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตเหล่านี้นับเป็นรากเหง้าสำคัญของคนไทยในยุคปัจจุบัน

ที่ตั้งและการเดินทาง

ขับรถมาตามเส้นทาง กรุงเทพ – กาญจนบุรี และไปตามทางหลวงหมายเลข 323 เส้นทางสายกาญจนบุรี -ไทรโยคตั้งอยู่ทางเข้าประสาทเมืองสิงห์ ติดปั๊มบางจาก ต.สิงห์ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี

ห่างจากตัวเมือง 32 กิโลเมตร ขับชิวๆเลยครับ

อัตราค่าเข้าชมเมืองมัลลิกา ร.ศ.124

ราคาเข้าชม

ผู้ใหญ่ 250 บาท

เด็ก/ผู้สูงอายุ 120 บาท

อัตราค่าเช่าชุดไทย

ผู้หญิง : โจงกระเบน ผ้าสไบ เครื่องประดับ และ ร่ม 200 บาท

: โจงกระเบน เสื้อแขนหมูแฮม แพรสะพาย เครื่องประดับ และร่ม 300 บาท

ผู้ชาย : โจงกระเบน เสื้อกุยเฮง และผ้าคาดเอว ร่ม 100 บาท

: โจงกระเบนและเสื้อราชประแตน ร่ม 300 บาท

เด็ก : โจงกระเบน เสื้อคอกระเช้าสำหรับเด็กผู้หญิง เสื้อกุยเฮงสำหรับเด็กผู้ชาย 50-100 บาท

ห้องแต่งตัว

พอเราเลือกแบบชุดไทยและสีเรียบร้อย

เดินไปที่ห้องแต่งตัวจะมีเจ้าหน้าที่คอยช่วยเหลือในการแต่งชุดให้ขอรับ พนักงานน่ารักมากๆ

เรามาถึงเมืองมัลลิกาประมาณ 12:00 หิวมาก

เราเลยจัดอาหารกลางวันที่นี้ เป็นแบบบุฟเฟ่ ราคา300 บาท/ท่าน อาหารมีทั้งคาวหวาน เยอะมาก เช่น ขนมจีนน้ำพริก น้ำยา, ข้าวสวย แกงเขียวหวาน แกงรัญจวณ น้ำพริก ผักต้ม (ส่วนใหญ่จะเป็นอาหารไทยครับ) ผลไม้ตามฤดูกาล ไอศครีม ขนมหวาน แป็นต้น อร่อยมาก

ขอจัดอาหารกลางวันก่อนเลย

อาหารเยอะมากกกก

รู้สึกว่า 300 บาท นี้คุ้มสุดๆเลยขอรับ

ทั้งอาหารคาวและหวาน อิ่มมากๆ

พออิ่มเสร็จเราก็เริ่มเดินเที่ยว เดินถ่ายรูปกัน ย่างสนุกสนาน เฮฮา ที่นี้สวยมากจริงๆ ทุกอย่างจำลองเมืองในยุครัชกาลที่ 5 วิถีชีวิตของชาวสยาม ในยุค ร.ศ 124

เข้ามาก่อนอื่นเราต้องแลกเงินเป็นเงินสตางค์ เพื่อใช้ซื้อของหรืออาหารในเมืองมัลลิกา

เงินพร้อม ร่มพร้อม ชุดพร้อม เราก็เริ่มเดินเที่ยวกันเลย

โดยเริ่มจากจุดแรกเลยเดินผ่านประตูทางเข้ามา จะเจอสะพาน นั้นก็คือ

"สะพานหัน"

เป็นสะพานไม้โค้งกว้าง สองฟากสะพานมีห้องแถวเล็กๆ ให้ขายของ ส่วนตรงกลางเป็นทางเดิน

เป็นสะพานที่สมัยก่อนนั้น ล้นเกล้ารัชกาลที่ 5 ชอบเสด็จประพาสเพื่อซื้อสินค้าและผลไม้แห้ง

ที่นำเข้าจากต่างประเทศ รวมถึงข้าวของเครื่องใช้สอยต่างๆ ก็มีจำหน่าย

เดินข้ามสะพานถัดมาจะเจอ

"ย่านการค้า"

จำลองย่านการค้าที่มีชื่อเสียงในสมัยก่อน ย่านเยาวราช ย่านบางรัก มีอาหารคาว อาหารหวาน ขนม ของทานเล่นจำหน่ายเยอะแยะ ที่สำคัญขนมไทยที่นี้เยอะมากๆ อร่อยด้วย ต้องลองมาชิม จริงๆ

"จุดชมวิว เมืองมัลลิกา"

จำลองมาจากหอคอยคุก ซึ่งเป็นหอคอยที่ใช้สำหรับตรวจตราป้องกันมิให้นักโทษหนี ซึ่งเมืองมัลลิกา ใช้สำหรับชมเมือง ว่ามีทัศนียภาพที่ว่างดงามเพียงใด

เป็นหอคอยที่สามารถมองได้ 360 องศา เลย วิวสวยมากๆ มองเห็นภูเขาด้านหลัง เหมือนภาพวาดเลย ลมเย็นสุดๆ

สำหรับผู้ที่มาเที่ยวภายในเรือนมัลลิกา ร.ศ.124 ที่นี้ยังจำลองเรือนไทย สมัยก่อน ทั้ง 4 ประเภท ให้ได้ลองสัมผัสสถานะของผู้คนสมัยก่อน

เริ่มจาก เรือนเดี่ยว เป็นเรือนชาวบ้าน ทำนา ทำไร่ ทำสวน ปลูกผัก เลี้ยงควาย อยู่แบบภูมิปัญญาจริงๆ

ถัดไปเป็น เรือนคหบดี ที่อยุ่ของชนชั้นปกครองหรือเรียกว่า นาย บนเรือนก็จะมีงานฝีมือให้ทำ เช่น งานดอกไม้ งานแกะสลัก ลองทำกันได้นะครับ ด้านบนมีเจ้าหน้าที่สอนให้ สนุกๆดีครับ

ต่อไป เรือนแพ เป็นที่ตั้งของร้านค้าชาวบ้านสมัยก่อน มีร้านกาแฟ ร้านขายกับข้าว ก๋วยเตี๋ยวเรือจริงๆ เพราะขายในเรือ เรือนนี้เย็นมากเพราะว่าด้านล่างเป็นน้ำ นั่งนานเลย

สุดท้ายคือ เรือนหมู่หรือเรือนรับรอง เรือนนี้เป็นเรือนใช้สำหรับรับแขกบ้านแขกเมืองของคหบดี ตอนเย็นจะมีสำหรับเย็นและรับชมการแสดงนาฎศิลป์ไทย ใครที่สนใจติดต่อซื้อบัตรได้ทางห้องจำหน่ายบัตรเลยครับ เรือนหมู่ที่นี้ถือว่าใหญ่ที่สุดในประเทศไทยเลยทีเดียว

โรงครัว

ประกอบด้วย โรงสี ยุ้งข้าว โรงเตรียม แสดงกรรมวิธีการฝัดข้าว สีข้าว ตำข้าว พร้อมทั้ง การหุงข้าวเตากระทะใบบัว แม่ครัวในโรงครัวนั้นต้องทำอาหารเลี้ยงบ่าวไพร่จำนวนมาก และประกอบอาหารคาวหวาน เพื่อรับรองแขกเหรื่อ โดยเป็นการประกอบอาหารด้วยเตาถ่านทั้งสิ้น

วันนี้ใช้เวลาเกือบทั้งวันเลยในเมืองมัลลิกา สวยทุกมุมเลย มีสถานที่ให้ถ่ายรุปเยอะแยะมากมาย แต่อากาศอาจจะร้อนไปสักหน่อยในช่วงกลางวัน เวลาที่เหมาะสมในการเที่ยวที่เมืองมัลลิกา คือช่วง ช่วงเช้า9โมง และถ้าช่วงบ่าย ก็ประมาณบ่าย 3 เป็นต้นไป ให้แดดร่มๆหน่อยน่าจะดีมากๆ ส่วนตัวได้มาสัมผัสที่เที่ยวย้อนยุคแบบนี้ก็ถือว่าดีมากๆ เลย เหมือนเราได้ย้อนกลับไปอยุ้ในสมัยนั้นจริงๆ ทั้งอาคารบ้านช่อง ผู้คนแม่ค้าในนั้น จะลงท้ายด้วย เจ้าคะ/ขอรับ กันตลอด เป็นเรื่องที่รู้สึกว่าน่ารักมากๆ ยังอินด้วยการแต่งกาย เลยยิ่งทำให้รู้สึกว่า นี้แหละย้อนจริงๆ ถ้าใครสนใจหรืออยากลอฃย้อนอดีต แนะนำเลยครับ เมืองมัลลิกา ร.ศ.124 ขับรถจสกกรุงเทพ ไม่ไกลเลย ใครไม่เคยใส่ชุดไทย มาๆ มาจัดเต็มได้เลยที่เมืองมัลลิกา