สะบายดีเด้ออ้าย .. ไปเที่ยวสุดยอด " น้ำตกที่ลาวใต้ " กันเด้ออ
สวัสดีค่ะ วันนี้หมวยมีรีวิวมาฝากอีกเเล้วจ้ะ ครั้งนี้เขาป่า เดินเขากันสักหน่อยนะคะ
วันนี้หมวยจะพาไป น้ำตกลาวใต้ "ตาดขมึด ตาดเสือ" สุดยอดน้ำตกของลาวใต้กันค่ะ ที่ว่าสุดยอดยังไงต้องตามหมวยไปดูนะ บอกเลย ใครดูใครเห็นก็ต้องว๊าวววววว ฮ่าๆ
เริ่มต้นเดินทางกันก่อนนะคะ
หมวยเดินทางไปกับกลุ่มเเบกเป้เที่ยว ไปเเบบหารเฉลี่ย เราไม่รู้จักใครเลยค่ะ สักคนในทริปนี้
เราเลือกไปเเบบนี้ เพราะว่า เราเองอยากไปนานเเล้วค่ะตาดขมึด เราเองไม่กล้าที่จะไปคนเดี่ยวเลยหารเฉลี่ย กับคนอื่นๆ ไปค่ะ
เราเริ่มต้นการเดินทางที่กรุงเทพนะคะ เรานั่งรถตู้ไปจังหวัดอุบลราชธานี เรานั่งตอนกลางคืน ตื่นมาตอนเช้า เรามีเเวะเที่ยวที่นี้กันก่อนค่ะ ถึงวัดประมาณ หกโมงเช้าค่ะ
วัดสิรินธรวรารามภูพร้าว
เราเองเก็บบรรยากาศคร่าวๆ เพราะเมาขี้ตา ฮ่าๆ จริงวัดนี้เราต้องไปในช่วงกลางคืนนะคะ เขาจะมีเรืองเเสงขึ้นมา เป็นจุดไฮไลท์ของวัดนี้ค่ะ
ต่อที่ช่องเเม๊กนะคะ เราต้องเปลี่ยนรถตู้ตรงจุดนี้ค่ะ เราต้องเตรียมพาสปรอต์ให้เรียบร้อยนะคะ ต้องใช้ตอนข้ามไปฝั่งลาว
เราผ่านไทย กรอกเเบบขอเข้าประเทศทั้งขาเข้าขาออก เรียบร้อย เราก็เตรียมมุดอุโมงค์ ไปฝั่งลาวกันเด้ออ้ายย
ถ้าพกปากกาไปเองด้วยก็จะยิ่งเร็วขึ้น เพราะต้องต่อคิว รอปากกา
เราเดินข้ามฝั่งลาวมา เเล้วทำเรื่องผ่านทางที่ด่านลาว เเลกเงินลาวติดตัวไปสำหรับซื้อน้ำเก๊กฮวยเล็กน้อย
เเล้วซื้อซิมการ์ดไว้ ในฝั่งลาว พวกเราโดนรุมขายของให้สารพัดเรียกได้ว่า เเทบไม่ต้องเรียกเลย เกาะติด การตลาดดีสุดๆ ซื้อซิม เปลี่ยนให้เสร็จสรรพ โดนค่าซิมไปคนละ 100 บาทไทย
เรียบร้อย เราก็เดินทางเข้าหมู่บ้านหนองหลวงต่อ ประมาณ สามชั่วโมงกว่าๆ เพื่อเตรียมตัวขึ้นที่ราบสูงกัน
ถึงหมู่บ้านหนองหลวงเเล้ว
เเผนการเดินทางของพวกเราคือ เราจะวางของบางส่วนที่ไม่จำเป็นเอาไว้ที่บ้านพักโฮมสเตย์
เเล้วเเบกเป้สัมภาระบางส่วน เต้นท์ เเละถุงนอน เพื่อไปค้างบนที่ราบสูงคืนนึง ปาร์ตี้เล็กๆ กัน
เเละเดินไปเก็บน้ำตกตาดเสือ ตาดขมึด เเล้วลงมานอนโฮมสเตย์อีกคืนค่ะ
เราเเวะทานข้าวกลางวันที่โฮมสเตย์เเล้วเริ่มเตรียมตัวเดินทางขึ้นที่ราบสูงกัน
พวกเราเลยถ่ายรูปเตรียมตัวก่อนเดินขึ้นเขากันสักเล็กน้อย
เเวะซื้อเก๊กฮวยติดเป้ไปสะหน่อย ฮ่าๆ
พื้นที่เขตจำปากสักของลาวชื้นที่สุดของประเทศลาวเเลว ฝนตกเป็นประจำค่ะ
เลยจัดเต็มกันทั้งฝน ที่คลุมกันฝนของเป้ เเละถุงกันทาก (มีทากตลอดทั้งทาง)
สีสันเเต่ละคนเลยจะจัดจ้านกันนิดหน่อยค่ะ ฮ่าๆๆ
เริ่มเดินจากหมู่บ้านไม่ไกลเท่าไหร่เราจะเจอกับป้ายปากทางเข้าด่านเเคมป์ใหญ่ ที่เป็นจุดเริ่มต้น เดินเข้าป่ากันเเล้ว
จากป้ายลักษณะของทางเดินเป็นที่ราบเดินไม่ยากค่ะ เดินเรื่อยๆ
เดินจากที่ราบสูง ทางดินเเดงมาสักพัก
เฮือกกก! เจอสลิงในตำนาน ที่เขาถ่ายรูปเก๋ๆ มันสูงเหมือนกันโว้ยย
จะบอกว่า นี่คือ เเม่น้ำหรือน้ำตก เเรกที่เราต้อง ผ่านกัน ด้วยความที่ไม่อยากจะเปียก (ช่างไม่รู้อะไรบ้างเลย)
เลยเลือกี่จะไต่สลิงไปเลยจ้ะ สิบสิบสิบไปเลยจ้ะ สำหรับกับไต่สลิงครั้งเเรก
โอ้ยย เเล้วเป้ที่หลังมันก็จะหนักๆ หน่วงๆ หน่อย
เดินต่อไปเรื่อยๆ เราก็ได้รู้ว่า ยังมีเเม่น้ำ โคลนที่ยังต้องเจออีกหลายสายเลย โอ้วเย่
เราคิดว่าเราจะเจอฝน ที่เห็นถอดเสื้อฝนออก เพราะฝนมันไม่หยักกะตกอ่ะ เราเลยเริ่มร้อนมาก เหงือท่วมเลย เลยถอดออก เก็บขึ้นก่อนค่ะ
ยังเดินผ่าน ดินเเละน้ำตกเป็นระยะๆ เเละเจอโคลนด้วยค่ะ ระหว่างทางทากเยอะเหมือนกัน
ต่อไปเจอพื้นหินๆ เเละป่าไม้ที่เริ่มมีการตัด ชาวบ้านเข้ามาตัดออกเพื่อปลูกกาเเฟค่ะ
หลังจากเดินกันมา 3-4 ชั่วโมงเราก็ถึง ที่ราบสูงโบโลแวน กันเเล้วววววววววว
ดอกเปราะภู บานเต็มท้องทุ่งด้านบนเเล้ววว
บริเวณที่ราบสูงจะมีต้นสนขึ้นอยู่รอบๆ พวกเราเพิ่งถึง ตั้งเต้นท์กันเเล้วรีบทำอาหารเพราะใกล้ค่ำเเล้ว
ด้านบนก็ยังชื้นมากๆ มีมอสหนานุ่มขึ้นที่พื้น ถ้าฝนตก ต้องซึมเข้าเต้นท์เเน่ๆ
มอสด้านบนเหมือนเบาะนุ่มๆ เลย มีหินสลับ เเถมมีทรายขาว น่าจะมาจากหิน
มีต้นหม้อข้าวหม้อเเกงลิงขึ้นเป็นกองๆ เดินๆ เจอเเอบประหลาดใจ เราเองเพิ่งเคยเห็นครั้งเเรก
เริ่มเย็นเเล้ว ต้องตั้งวงปาร์ตี้ไทม์ เย่ !
อาหารอีกอย่างคือ ข้าวสวยร้อนๆ เเล้วก็หมูย่างง
ช่วยกันคุ้กกิ้งมาม่าไทม์
ระหว่างทำอาหาร เราเองออกไปเก็บภาพพระอาทิตย์ตกดินกันมาค่ะ
เราก็ไปนั่งย่างกุ้ง กับพี่ๆเขาด้วยค่ะ ฮ่าๆ
เราเองกลัวฝนจะตก เเล้วเต้นท์จะเอาไม่อยู่ที่สุดค่ะ เพราะว่าไม่น่าจะรอดเเน่ๆ เดินมาทั้งวันไม่เจอฝนเลย คิดว่าคงต้องเจอตอนกลางคืนนี่เเหละ
พระอาทิตย์ไปสะเเล้ววว เริ่มมึดๆ เเล้ว เราเลยล้อมวงกินข้าวกัน อากาศเริ่มหนาวๆ เย็นๆ เเล้วค่ะ
พวกเรานั่งล้อมพูดคุยเเลกเปลี่ยนประสบการณ์ต่างๆ กันอยู่นาน
จนดาวเริ่มขึ้น พี่ๆ ช่างกล้องในทริป เริ่มหยิบขาตั้งกล้องออกมากางรอล่า ช้างเผือก กันเเล้ว
โชคดีจริงๆ ที่ได้เจอช้างเผือก เพราะฟ้าเปิด ที่กลัวว่าฝนจะตก ก็ไม่ตกค้า
พี่ที่ไปบอกเปิดสปีตชัตเตอร์ต่ำ ตั้งขาตั้งกล้อง ใช้เวลายืนนิ่งๆ นานเลยค่ะ
พี่ๆ เขามีฝีมือ ถ่ายออกมาสวยเป็นพิเศษ
เช้าตื่นมา ลุกขึ้นมาทานอาหารเช้าเเบบง่ายๆ
พี่เขาจะทำข้าวต้ม เเต่กลับเป็นหมูต้มเเทน เพราะมีเเต่หมู
ทริปนี้ไม่มีเหงาเพราะเรามีลำโพง ไม่ลำพัง ฮ่าๆ
พี่ๆ ช่างภาพก็ไปเก็บภาพมาฝาก ตามเดิม จากจุดตั้งเต้นท์ที่ราบสูงโบโลแวน
มุมน้ำตก จากบนด่านเเคมป์ใหญ่ นั่นคือ น้ำตก ตาดขมึด ตาดเสือ ที่เราจะไปกัน
เเล้วเตรียมตัวเพื่อที่จะเดินลงไป น้ำตกตาดขมึดตามเสือ
จริงๆ ที่น้ำตกตาดขมึด ก็คือจุดเล่นซิปไลน์ ที่ได้นอนบ้านต้นไม้ นั้นเอง
เราสามารถเตรียมอาหารไปกินข้าวกลางวันที่จุดนั้นได้ค่ะ
เเต่ชาวคณะเราเถื่อนกว่านั้นเยอะ เดินกลับมากินที่เเคมป์ ไปเเต่ตัวทัวร์ยกเเก๊งค์กันไปเลย
เส้นทางที่เดินไปน้ำตกตาดขมึด สำหรับเรา เราว่าค่อนข้างโหด เพราะว่า
ทางลื่นมากๆ เเล้วก็ เดินเข้าป่าดิบชื้น มีบุ้งเยอะมากๆ ค่ะ มีเจอปลวกป่า เดินเป็นเเถว
ธรรมชาติของลาวสมบูรณ์มากๆ เขียว สุดๆ
ที่พื้นจะมีมอส เเละชื้นมากๆ บริเวณใกล้น้ำตก
มีเดินข้ามโคลน เเม่น้ำ ไม่ค่อยมีเหมือนตอนที่เดินเข้าเเคมป์ใหญ่มา
ลักษณะทางเดิน ก็เดินขึ้นเขาลงเขา เเบบ สุดๆ ไปเลย 5555555
ภายในป่าลาว มีต้นไม้ที่มีหนามเยอะมาก เเละบุ้ง
เจ้าบุ้งฮ่ะ มันโรยตัวลงมาเกาะได้ มีใยเหมือนสไปเดอร์
ถ้าไม่ชำนาญทาง เเนะนำให้ใส่ถุงมือ เตรียมเป้กันน้ำ เพื่อที่จะได้เดินคล่องตัว
ทางดิบชื้น ลื่นมากๆ
สัก สองสามชั่วโมง เราเดินขึ้นลงเขาเรื่อย เราก็เริ่มได้ยินเสียง ...
เสียงน้ำตก นั้นเอง ระหว่างทางได้ยินเสียงก็ใจชื้น โอ้ะ ใกล้เเล้วเว้ยยย ใกล้เเล้วว
ใกล้จะทนไม่ไหวเเล้วโว้ยยยย ฮ่าๆ หลอกๆๆ มันจะดีใจหน่อยๆ ค่ะ
เดินมุ่งหน้าไปกันต่อ หัวเเถวตะโกนบอก ลงมาถึงเเล้ววววว ว โอ้วว
เสียงสวรรค์วิมานบนดินจริงๆ ดีใจสุดๆ เเรงอึดก็มา เลย จะได้เห็นสุดยอดน้ำตกละเว้ย
ไปเว้ย เอาหน่อยว่ะ
อ้อ ระหว่างทางเราก็ไม่เจอฝนเลย เรียกได้ว่า โครตโชคดีเลย ทริปทริปนี้ ฮ่าๆ
น้ำตกมาเเล้ว พร้อมยังงง ....
ตาดขมึดตาดเสือ จากจุดชมวิว บ้านต้นไม้
ที่จุดบ้านต้นไม้ที่จะเป็นจุดเเวะ ตรงนี้มีห้องน้ำ มีน้ำให้ดื่มค่ะ
มีกองไฟให้สามารถทำอาหารกินตรงนี้ได้ค่ะ มีเเมวตัวสีส้มๆ สองตัว เจอสิ่งมีชีวิตที่ไม่ใช่บุ้งกับทากที่หน้าตาดีทีเดียว ฮ่าๆ
เดินตรงสะพานไปอีกสักหน่อย จะสามารถเล่นน้ำ ที่น้ำตกได้ จะมีโขดหินที่มีน้ำตกปร่อยๆ ตรงนั้น
น้ำเย็นที่สุดเลย คือ ต้องเข้าใจฟิว ที่ไม่ได้อาบน้ำเลย ตั้งเเต่เมื่อวาน เพราะด้านบนต้นน้ำ เล็กมากบนเเคมป์ เหมาะกับการ เอาน้ำไปต้มดื่มมากกว่า ลงไปอาบน้ำ เราเลยไม่อาบ เช็ดตัวเอาด้วยทิชชู่เปียก 55555
ทาาาาด๊าาาาา ทำซาวประกอบเองงงง นี่ไงสุดยอดน้ำตกของเราาาาา
ตาดขมึด ทางซ้ายมือค่ะ ตาดเสือ ทางขวามือค่ะ
โชคดี(อีกละ) ที่ปีนี้น้ำเยอะมากๆ พี่ๆลูกหาบ เกาะติดพวกเราตอนลงไปเล่นน้ำมาก
เขาบอกปีนี้น้ำเยอะมาก อันตรายเลยมายืนเฝ้า
มีหินก้อนใหญ่ๆ ที่เขาขึ้นไปยืนเเล้วถ่ายรูป กันเท่ๆ หมวยพูดเลย ...
ว่าไม่ ไม่กล้าขึ้นไป เรากลัวลื่นหัวทิ่มตกลงไป ไม่กล้าจริงๆ
อีกเหตุผลคือเราอิน วิว สุดยอด ตรงหน้าอยู่ กล้องที่ถือไป ลืมเอาออกมาถ่าย
โอ้ะ ระออกงน้ำมันมากจริงๆ เลย อยากให้ทุกคนได้เข้าไปอยู่ตรงนั้น
เรานั่งถ่ายรูปเข้าห้องน้ำ ดื่มน้ำ กัน ชั่วโมงครึ่งเเล้วเดินกลับขึ้นเเคมป์
ไปทำอาหารเพื่อทานก่อนเเล้วเก็บของ เพื่อเดินทางลงบ้านโฮมสเตย์
ถึงด่านเเคมป์ใหญ่ประมานบ่ายๆ นั่งกินข้าว เเล้วเก็บของลงจากเขากัน
ทางลง เขาคุยกันไว้เเล้ววววว ว่าจะไปเล่นน้ำตก ตรงที่ไต่สลิง
ไปพร้อมกำลังใจที่จะได้เล่นน้ำ
ตอนลง ทางราบ มันจะเร็วกว่า เดินเเปปๆ เอง ถึงน้ำตก เล่นน้ำ กันอย่างสบายใจ
เเต่ตอนเดินลงมากล้ามเนื้อที่ขากระตุกเลยนะ กระตุกเเบบกระตุกจริงๆอ่ะ 5555
เเล้วลงไปเล่นน้ำตก โอ้ะะะ ตะคริววว เเม่จ๋า มาจริง ในน้ำเชี่ยวไหลเเรงเลยจ้ะ เเต่ เล่นกันหลายคน
เลยไม่ไหลไปสะก่อนนน
เราเดินลงเขาใช้เวลาไม่เยอะเท่าไหร่ เเละเเวะเล่นน้ำตก ตรงสลิงกันเล็กน้อย พอให้ชุ่มช่ำหัวใจ
เเล้วเดินลงมาเข้าโฮมสเตย์ อาบน้ำ อาบท่า เเล้ว ทางชาวบ้านเจ้าของโฮมสเตย์ ทำกับข้าวกับปลาให้เรารออยู่เเล้ว
ตายาย ที่เป็นเจ้าของโฮมสเตย์ ยายเป็นคนลาว พูดช้าๆ เนินๆ เดินมานั่งเล่น เเล้วพูดคุยกับพวกเราตลอด
ยายเเกเล่าให้ฟังว่ามีลูก 11 คน รอบๆบ้านมีภาพ พรีเวดดิ้งของหนุ่มสาวอยู่เราเลยถามยายเเกว่า ยายนี่ลูกคนไหนจ้ะ
เเกบอกลูกสาว คนเล็กรักที่สุดเลยคนนี้ เเต่งงานกับหนุ่มอุบล ไปเมื่อกุมภานี้เอง
ถ่ายพรีเว้ดดิ้งที่ โบโลเเวน ด้านบน สวยดีเหมือนกัน
มีตัวเล็กคนนึง เราจำชื่อน้องไม่ได้เเล้ว เเต่น่ารักมาก ยอมให้อุ้ม ยอมให้โอ๋ ตลอดเลย ตัวจิ๋วๆ
เห็นเด็กๆเเถวๆนั้นเเล้วมีความสุขกันเเบบเรียบง่าย
ตัวบ้านโฮมสเตย์ สองชั้น เป็นบ้านยกใต้ถุนสูงเหมือนบ้านนอกบ้านเรา เลยค่ะ
ข้างบนบ้าน ก็จะเป็นที่นอน เเล้วก็ห้องกว้างๆ ที่ไว้ทานอาหาร
เรานอนกันตรงนี้ ข้างๆ รูปพรีเวดดิ้งที่เล่าให้ฟังๆ
เช้าวันต่อมา เราตื่นกันเช้า เพราะคืนที่นอนโฮมสเตย์ ฝนตกช่วงตีสามเเรงมากๆ ได้ยินเสียงเหมือนพานุขนาดใหญ่เลย
ตื่นกันหกโมง เเล้วทำบุญมาตักบาตรในช่วงเช้า พระมาถึงหน้าโฮมสเตย์
ฝนตกหนักปรอยๆ ตลอด หมอกเริ่มมาเเต่เช้าเลยค่ะ
อาหารส่วนใหญ่เราไม่ถ่ายภาพเอาไว้ (เพราะถ่ายไม่ทัน กินกันหมดก่อนฮ่าๆ )
เเต่ลักษะการกินคล้ายๆ กับเรา เน้นข้าวเหนียว
อาหาร กับข้าวกับปลา บอกเลยว่าไม่ขาดเลยสักมื้อ
ชอบที่สุดคงเป็นอาหารเช้าวันกลับ ขนมเส้น
อร่อยกว่าที่ไปกินที่วังเวียง เเถมเยอะมากๆ ด้วย เสิร์ฟเพร้อม ข้าวจี่ ให้ทานด้วย ฮ่าๆ บอกเเล้วเขาจัดเต็มทุกมื้อ จริงๆ
พี่ๆที่ไปด้วยกัน ตอนเเรกเราอาจจะไม่รู้จักกัน เเต่ตอนนี้เราเป็นเพือนกันเเล้ว
จำปาสักของลาวใต้ เป็นเเหล่งปลูกกาแฟ เป็นพืชเศรษฐกิจของพี่ลาวใต้เขาเลย
เราอาจจะเคยได้ยิน กาแฟลาว ดาวคอฟฟี่ มาเเล้วต้องลองชิมๆ หน่อย
พาเที่ยวบ้านชาวลาวใต้สักหน่อย
เราได้มีโอกาสเข้าไปนั่ง คุยกับสาวๆ ที่กำลังทำกับข้าวกันอยู่
ในห้องครัวที่เป็น เตาฟืน สะอาดเป็นระเบียบ เลยไปช่วยเขาหันมะนาว
ระเบียงบ้านด้านข้างจะเป็นพื้นไม้ไผ่ซีกๆ ที่ไว้ล้างจานเเล้วเศษอาหารจะตกลงไปในใต้ถุนที่เป็นเล้าไก่
ด้านข้างบ้าน มีทำรางน้ำฝนเพื่อรองน้ำฝนไว้ใช้ด้วย
ทางลงหลังครัว ลงไปจะเป็นห้องน้ำที่สร้างเเยกเอาไว้
คร่าวๆ กับบ้านพักโฮมสเตย์นะคะ คล้ายๆกับบ้านของไทยเราเลย
คนลาวน่ารักมากๆ พูดช้าๆ เเต่พูดคล้ายอีสาน ใจดี ใส่ใจในอาหารการกิน เเละ เต็มใจบริการทุกอย่าง
ส่วนตัวเราที่ได้ไปลาวมาหลายๆ ครั้ง เรามักจะประทับใจความซื่อตรงของชาวลาว
ที่ดูไม่เป็นพิษเเถมดูเป็นมิตรมากกว่า
ต่อไป จะเป็นที่เล่นซิปไลน์ที่ตาดฟาน เเล้วก็จะหมดเเล้วค่ะ ฮ่าๆ
ก่อนกลับเรามีอีกภาระกิจคือเเวะไป ตาดฟาน
ที่มีให้เล่นซิปไลน์ อยู่ 4 เส้น ราคา 1500 บาท
ไฮไลท์ของซิปไลน์คือ เล่นผ่านน้ำตก ความสูง 250 เมตร กรี๊ีดดดดด
สูงปัยยยทนไม่ไหววว ไม่เล่นน ตอนเเรกทำใจมาเล่นไปเเล้ว
เเต่คิดไปคิดมา ไม่เล่น
ตอนที่ไปโชคดี(อีกล้าววว) เจอน้ำตกเป็น 2 สี เพราะฝนเพิ่งตกได้ไม่นานน้ำอีกฝั่งเป็นดินผสมๆ เลยเป็นสีเเดง
Zipline ข้ามน้ำตกไปเลยค่ะ สูงนะนี่ไม่กล้าเล่นเลย
เราเองไปลาวมาสองสามทริป เราชอบคนลาวมากๆค่ะ
เพราะคนลาว จิตใจดี โอ้ยพูดงี้ ไม่เข้าใจ ต้องไปลำบากกับพวกเขา เเล้วจะรู้เลย
เพราะเดินป่ามันไม่ได้เดินง่ายๆ เราเลยได้อะไรกลับมามากมาย
อยากจะไปซ่อมซิปไลน์ในจุดตาดฟาน มากๆ เพราะวิวคุ้มค่าเเค่การลองมากๆ
ถ้ารีวิวนี้ ทำให้ใครสนใจอยากไปลาวใต้บ้าง เราก็จะรู้สึกดีมากๆเลยค่ะ
เพราะว่าอย่างน้อยได้ป้ายยาให้ได้ไปเที่ยวได้สักที ฮ่าๆ
ออกมาเที่ยวมาเจอโลกที่เราไม่เคยเจอ
ยิ่งเที่ยว ไป เราจะรู้สึกตัวเราเล็กนิดเดียว
พูดสะเหมือนญาญ่า เเต่เราเองก็คิดเเบบนั้นจริงๆ
ขอบคุณภาพสวยๆ ของพี่ๆที่ร่วมทริปที่ทำให้เกิดกระทู้นี้ขึ้นมาได้
ขอบคุณกลุ่มเเบกเป้เที่ยวทริปที่ทำให้ได้ไปจอยกับเพื่อนใหม่
ขอบคุณเพื่อนใหม่ เเละชาวลาวใต้ที่พบเจอ
ขอบคุณดินฟ้าอากาศที่ทำให้เจอสิ่งเเวดล้อมที่สวยงามเเบบในภาพ
ไว้จะไปอีกนะ ลาวใต้ ไว้จะไปซ่อม
สงสัยหรืออยากได้ข้อมูลเพิ่มเติมอะไร หลังไมค์มาถามได้เลยค่ะ
ถ้ามีเวลาว่างอีก จะรีวิว วังเวียง ที่เราเคยไปมา มันอาจจะเหมือนๆ กัน เเต่เรารีวิว ให้อยากไป ฮ่าๆ
ริวิวสายป้ายยา เก็บกระเป๋าไปเที่ยวกันเหอะ
Contact : B
เราเองเพิ่งเคยเขียน ปกติ เราชอบเล่าในเฟสส่วนตัว เเต่ก็มีเพจด้วยนะคะ เเจมๆ กะพี่เขา
ฝากติดตามไว้นะคะ เรามีเรื่องเล่าอีกเยอะ ไม่ค่อยมีเวลา ไว้มีโอกาสจะมาเล่าให้ฟังค่ะ
Facebook เพจทริปวันว่าง
เฟสส่วนตัวเราค่ะ มาเป็นเพื่อนกันได้นะคะ ยินดีที่ได้รู้จักทุกทุกคน ขอบคุณที่อ่านรีวิว นี้นะคะ
Facebook https://www.facebook.com/onsiri.jrv
เรื่องที่เคยเล่าเอาไว้ใน ReadMe
เที่ยวชุมชน "พรหมโลก" เมืองคอน
Onsiri Jrv
วันพุธที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2560 เวลา 17.40 น.