ทริปนี้เกิดขึ้นได้เพราะผิดแผน แล้วนี่คือแผนสอง

2 วัน 1 คืน ในเดือน กันยายน "ฤดูฝน" เที่ยวไหนได้บ้างไปดูกัน

และนี่คือรีสทั้งหมดของ อุดร หนองคาย เวียงจันทร์

- พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ Nongkhai Aquarium จ.หนองคาย

- เวียงจันทร์

- วัดผาตากเสื้อ จ.หนองคาย

- วัดป่าภูก้อน จ.อุดรธานี

- ทะเลบัวแดง (ตอนนี้บัวเน่า)เลยงดจ้า

- หนองประจักษ์ จ.อุดรธานี


บินจากท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา เวลา 7.20 น.

ใช้เวลาเดินทางทั้งสิ้น 1 ชม.15 นาที ถึง

ท่าอากาศยานนานาชาติอุดรธานี


จากนั้นหารถเช่า แล้ววิ่งตรงไปยังถนนหมายเลข 2

ลงเครื่องมาด้วยความหิวโหย

มื้อแรกแหนมเนืองอุดร เด๋วจะหาว่ามาไม่ถึง ^ ^


ตอนแรกเห็นเก็บค่าเข้าแอบเสียดายเงิน แต่พอเข้าไป โอโห้ววว คุ้มอ่า

คือการดูแลปลาที่นี่ดี๊ดี ปลาอ๊วนอ้อน ตัวใหญ่ๆทั้งนั้น ปลาแปลกๆ ปลาสวยงาม กับตู้ปลาขนาดใหญ่งานอลังการจริงๆ




เจอพี่เค้ากำลังทำความสะอาดกระจกพอดีเลย


มาถึงสะพานมิตรภาพไทย-ลาว ก็นั่งรถเมย์ไทย-ลาว ข้ามไป ราคา 20 บาท

เขียนใบ เข้า-ออก ให้เรียบร้อย

มาเวียงจันทร์แทบไม่ต้องแลกเงินลาวเลยนะ

เพราะทุกที่ท่องเที่ยว ร้านค้า รับเงินไทยทุกร้าน

แต่เราจะเสียเรทราคา แนะนำว่าแลกแค่พอใช้นะคะ




เป็นสิ่งก่อสร้างที่หลงเหลือจากการถูกทำลายจากสยาม (เหยจริง?) ในประวัติศาสตร์ พระเจ้าตากสินมหาราชก่อตั้งกรุงธนบุรีและอัญเชิญ พระแก้วมรกต มาจาก เวียงจันทน์ ซึ่งสถิตอยู่ที่ หอพระแก้วแห่งนี้ ทำให้หอพระแก้วแห่งนี้ว่างเปล่า ต่อมาในสมัยพระนั่งเกล้าฯ (ซึ่งอาณาจักรล้านช้าง หรือลาวเป็นเมืองขึ้นสยาม) เจ้าอนุวงศ์ เจ้าเมืองเวียงจันทน์คบคิดออกห่างจากสยามและเข้าโจมตียึดหัวเมืองอีสาน เมื่อสยามกำราบชนะแล้วจึงสำเร็จโทษเจ้าอนุวงศ์ และเผาเมือง เวียงจันทน์ เสีย เว้นแต่ หอพระแก้ว และวัดสีสะเกด


ข้างในห้ามถ่ายรูป เลยอดเอามาฝากเพื่อนๆเลยคะ

ถ้าไม่มา ประตูไซ ถือว่ามาไม่ถึงเวียงจันทร์นะ

ช่างภาพมากกว่านักท่องเที่ยวก็ที่นี่แหละฮะ พร้อมปริ้นให้เสร็จ 555+


ทางขึ้นชั้นสองเสียทรัพย์นะจ๊ะ ไม่อยากเสียเงินก็ถ่ายตรงนี้

มาต่อด้วย

พระธาตุหลวง ( Pha That Luang)

มีค่าเข้า 10000 กีบ รับเงินไทย 45 บาท

โดยรอบๆแล้วสวยงามตามท้องเรื่อง

สงบ คนน้อย เพราะมาฤดูฝน มันดีแบบนี้นี่เอง

ว่าแล้วฝนก็ตก....แหม่ะๆ

เย็นพอดี กลับไปนอนวัดไทย

ตอนนี้ 5 โมง55 แล้วถึง วัดผาตากเสื้อ หนองคาย

ซึ่งปิด 6 โมงเย็น.....เกือบไม่ทัน 5 นาทีสุดท้ายที่วิวยอมเลย

ขออภัยในความขุ่นมัวของรูป รีบมากจริงๆ

คืนนี้ตั้งใจไว้ว่าจะนอนที่วัดภูก้อน ซึ่งเปิดให้คนเข้าไปนอนได้


ระหว่างที่เข้ามาโอ้ยยย มืด วังเวง ไม่มีรถสวนสักคัน ทางไม่ดี

แต่พอไปถึง โทรถามคนดูแลทางวัด

ตอนนี้ไม่อนุญาติให้ผู้ที่ผ่านไปผ่านมา มาพักอาศัยนอนได้

วัดที่มีเวลา เปิด-ปิด 6.00น.-16.00น. เราแอบไม่เข้าใจนะ(เป็นความเห็นส่วนตัว)

คือเราหาข้อมูลมานะ วัดนี้เคยเปิดให้คนเข้ามานอนได้

ที่เราจะนอนวัดก็ไม่ใช่อะไรนะ เห็นว่าวัดนี้ ตอนกลางคืนสวยมาก

หลังคาวัดจะสะท้อนเป็นเขียวมรกต

เราก็ตั้งใจจะไปถ่ายรูปเพื่อช่วยโปรโมทด้วยซ้ำ

แต่ผิดหวังอย่างแรง


ถ้าใครอยากจะนอนที่วัด ต้องมาปฎิบัติธรรม ตามในคอร์สของวัดเท่านั้น **ซึ่งมีค่าใช้จ่าย**

ทางเข้าทำถนนใหม่โต งานอลังมาก ป้ายใหญ่โต วัดมีห้องรอบรับอย่างดี (ทุกอย่างเสียเงิน)

แล้วคนทางวัดก็แนะนำว่าให้พัก รีสอร์ทของเธอเอง #แบบนี้ก็ได้หรอ

เราไม่ได้อะไรก็เลยออกมาหาที่พัก ก็ขับมาเรื่อยๆแหละ

เจอที่พักริมทาง 3 คนในราคา 500 บาท

ห้องแอร์ น้ำอุ่น ทีวี #เออดีไปอีก

เช้านี้ตื่นทันใส่บาตร

ขับรถเลยมานิดนึง

เห็นชาวบ้านตั้งแถวรอใส่บาตรยาวผิดปกติเลยถามว่ามีงานอะไรกันคะ

เค้าว่าหลังจากออกพรรษา จะใส่บาตรอาหารแห้งแบบนี้ทุกวัน

ไม่นำอาหารเข้าไปถวายในวัดเป็นเวลา 3 เดือน

แล้วที่โชคดีกว่านั้น คือ หลวงพ่ออินทร์ เป็นลูกศิษย์หลวงตาบัว

ลงมาบิฑบาตรเอง ซึ่งปกติดไม่ค่อยได้ลง

ต้องบอกว่าโชคดีมากคะ ที่ได้ใส่บาตรท่าน เช้านี้เลยแจ่มใสหน่อย #วัดป่านาคำน้อย

ใส่บาตรเสร็จ กินข้าว แล้วไปวัดภูก้อน

ทางเข้าวัดกำลังพัฒนา

ข้อห้ามในการเข้าวัด

-ห้ามใส่สายเดี่ยว

-ห้ามใส่กางเกงขาสั้น (ทางวัดมีกางเกงขาก๋วยให้ยืม)

-ห้ามใส่ชุดรัดรูปสั้นมากไป

-ถ้าจะใช้โดรนบิน ต้องทำเรื่องขออนุญาติกับทางวัดก่อน

ก่อนจะร่ำรากันไปในทริปนี้

อย่าลืมไปแวะสวนสาธารณะหนองประจักษ์อยู่ใกล้สนามบิน

ซื้อของฝากกันได้ที่ วีทีแหนมเนือง

แล้วพบกับรีวิวทริปหน้า จ.ตาก เด้อ


Mint Septidkhao

 วันพฤหัสที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2560 เวลา 09.33 น.

ความคิดเห็น