ทริปนี้เกิดขึ้นเพราะฟังเพื่อนๆ เล่าให้ฟังแล้วอยากไป เราหาข้อมูลแล้วเดินทางเลย รอบนี้ใช้บริการรถทัวร์ของสุโขทัยวินทัวร์มาลงที่คีรีมาศ รถมาถึงจุดจอดคีรีมาศเวลาตี 4 ลงรถมาด้วยความเอ๋อ เช้ามืดไป โชคดีที่มีร้านสะดวกซื้ออยู่ เดินเข้าไปซื้อของกินแล้วถามน้องในร้านว่าจะไปยังไงได้บ้าง น้องบอกมาคนเดียวพี่นั่งวินเข้าไปเลย สัก 6:30 ค่อยไปก็ได้ อ่านรีวิวมาเขาบอกไปเดินเล่นตลาดสดก่อนก็ได้ เราก็เชื่อรีวิวนั้นเดินไปตามทางประมาณ 1 กิโลเมตร เจอตลาดสดเล็กๆ ที่ขายแต่ของสด อ้าว...เดินดูผู้คนนิดหน่อยแล้วก็เดินย้อนกลับมารอหน้าร้านสะดวกซื้อเหมือนเดิม ไม่นานมีร้านข้าวเหนียวหมูมาขาย เราซื้อไว้ 3 ห่อ ห่อละ 10 บาทแต่เยอะมาก ใครแวะมาอุดหนุนพี่เขาด้วย เขาเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว
เราไม่รอเช้าแล้วนะ เข้าไปรอที่อุทยานฯดีกว่า ที่ซุ้มใต้ต้นไม้จะมีเบอร์มือถือของลุงวินเขียนไว้ โทรได้เลยรอ 10 นาที ลุงแกก็มาถึง ลุงพาแว้นซ์ไปเรื่อยๆ ไม่รีบร้อนอะไรเพราะยังไม่สว่างแถมยังหนาวอีก 30 นาทีก็มาถึงตัวอุทยานแห่งชาติรามคำแหง ค่ารถ 150 บาท พี่ๆ เจ้าหน้าที่บอกว่าต้องรอจุดลงทะเบียนเปิดก่อนน่าจะมาก่อน 8 โมง ฝากกระเป๋าพี่ๆ เจ้าหน้าที่ไว้แล้วก็ออกซนรอบๆ ก่อน
มารู้จักอุทยานแห่งชาติรามคำแหงกันก่อน
อุทยานแห่งชาติรามคำแหงหรือ "ป่าเขาหลวง" ครอบคลุมพื้นที่อำเภอคีรีมาศ อำเภอบ้านด่านลานหอย และอำเภอเมืองสุโขทัย มีพื้นที่ 213,125 ไร่ สภาพป่าอันอุดมสมบูรณ์ เป็นแหล่งต้นน้ำที่หล่อเลี้ยงพื้นที่เกษตรกรรมรอบๆ อุทยานฯ เป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 18 ของประเทศ เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2523
พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นเทือกเขาขนาดใหญ่ มีภูเขาที่สูงที่สุด คือ "เขาหลวง" ซึ่งประกอบด้วย 4 ยอดเขา ได้แก่ ยอดเขานารายณ์ สูง 1,160 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ยอดเขาพระเจดีย์ สูง 1,185 เมตร ยอดเขาภูกาและยอดเขาพระแม่ย่า สูง 1,200 เมตร
เดินย้อนกลับมานั่งรอเจอน้องๆ 6 คนมารอขึ้นเขาเช่นกัน คุยกันนิดหน่อยให้คุ้นเคย พอเจ้าหน้าที่มาก็ลงทะเบียนจ่ายค่าเช่าเต็นท์ 150 บาท ค่าเข้าอุทยานฯ 20 บาท เจอหัวหน้าอุทยานฯ มาคุยกับทุกคนด้วย ถึงเวลาเคารพธงชาติเราก็เข้าแถวด้วย ฟังหัวหน้าอุทยานฯ ชี้แจงรายละเอียดงานเพราะรุ่งขึ้นจะมีกรุ๊ปใหญ่ 300 คนมา เรายิ้มเลยที่มาก่อน ไม่งั้นเราจะโดนกลืนแน่ๆ อ่านรีวิวบอกทางยากเราเลยฝากของให้ลูกหาบช่วย ค่าหายของที่นี่กิโลกรัมละ 20 บาท เราเริ่มเดินพร้อมน้องๆทั้ง 6 เริ่มออกจากศูนย์บริการนักท่องเที่ยวเวลา 8:30
ก่อนออกตัวด้านขวาจะมีศาลพระแม่ย่าและพระพุทธรูปอยู่ ทุกครั้งที่เข้าป่าหรือปีนเขาก็ต้องไหว้ก่อน
เริ่มเดินต่อ ทางเดินก็ยังไม่ยาก มีความเขียวมากขึ้น และทางก็ค่อยๆ ยากขึ้นเรื่อยๆ ระยะทาง 3,720 เมตร
พอทางเริ่มยากขึ้นก็จะมีจุดรองรับน้ำธรรมชาติ น้ำนี้เจ้าหน้าที่บอกกินได้ เป็นน้ำที่ต่อมาจากด้านบนเขา น้ำเย็นฉ่ำมาก
ไม่นานก็มาถึงจุดครึ่งทางที่มีจุดชมวิวที่สมเด็จพระเทพฯ เคยเสด็จฯขึ้นมา
เดินปีนทางชันขึ้นมาอีกจุดพักจะเห็นวิวอีกจุด
ระหว่างทางก็จะเต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่ เส้นทางเดินขึ้นยอดเขาชัดเจน เดินตามทางยังไงก็ไม่หลง
พี่ลูกหาบเดินตามขึ้นมาทันเราแล้ว
เจอจุดนี้แสดงว่าใกล้ถึงแล้ว อีกนิดเดียว
ถึงแล้วลานกางเต็นท์ ถึงพร้อมเหงื่อโชกๆ ใช้เวลาเดิน 2.30 ชั่วโมง
ตอนขึ้นมาถึงก็ติดต่อเรื่องเต็นท์พี่เจ้าหน้าที่บอกรอก่อนนะ พี่แกกำลังทาสีและติดตั้งป้ายใหม่อยู่ ระหว่างรอก็เดินสำรวจห้องน้ำกันก่อน ห้องน้ำสะอาด ห้องส้วมก็สะอาด น้ำเย็นมาก
เราเลือกเต็นท์เรียบร้อยก็ขนกระเป๋ามาเก็บก่อน รอพี่เจ้าหน้าที่ติดตั้งป้ายอยู่ ระหว่างรอก็ต้มน้ำจิบชา-กาแฟรอ
หลังจากได้ของครบทั้งถุงนอน แผ่นรองนอน และจองเต็นท์เรียบร้อยก็ถึงเวลาออกซนบนยอดเขาทั้ง 4 กัน ตามแผนที่ที่ได้จากแผ่นพับของอุทยานฯ
จุดแรกที่เดินไปคือยอดเขาพระเจดีย์ สูง 1,185 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง
ออกจากเขาพระเจดีย์ก็เดินตามทางไปที่ยอดเขาพระแม่ย่า ระหว่างทางจะวิวดีมากๆ
ทางก่อนถึงยอดเขาพระแม่ย่าชันมาก ยอดเขาพระแม่ย่าสูง 1,200 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง เป็นจุดชมอาทิตย์ตกที่ใกล้ลานกางเต็นท์ที่สุด
ออกจากเขาพระแม่ย่าก็ตรงไปที่ยอดเขาภูกา สูง 1,200 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง และเป็นจุดชมอาทิตย์ตกอีกจุด
เดินย้อนกลับมาจะไปยอดเขาพระนารายณ์ ตรงลานเฮลิคอปเตอร์เจอป้ายผาชมปรง 100 เมตร
เดินเลียบรั้วที่ล้อมเสาทวนสัญญาณออกมาก็จะเจอพอดี
มีเวลาเหลือก่อนอาทิตย์จะตกเราก็เดินลงมาอาบน้ำที่ลานกางเต็นท์ก่อน
หลังจากพักขาครู่ใหญ่ๆ 17:30 ก็ออกเดินไปยอดเขาพระแม่ย่าอีกครั้ง อยากไปเก็บแสงเย็นที่นี่
เช้าวันรุ่งขึ้นตั้งปลุกตี 5 เจ้าหน้าที่บอกว่าอาทิตย์ขึ้น 6:00 นิดๆ หลังจากออกเดินมาถึงยอดเขาพระนารายณ์ มาถึงตอนแสงแรกจริงๆ
นั่งห้อยขาท้าลมหนาวตีหน้า
แสงมาแล้ว สวยมาก ประทับใจสุด
น้องๆ ที่ร่วมเดินไปซนตามยอดเขากับเรา สนุกสนานกันมากๆ
ลงมาจิบกาแฟก่อนลงเขากัน
เริ่มเดินลงพร้อมน้องๆ ตอน 9:30 ช่วงแรกเราขอปิดท้าย
ระหว่างทางลงก็มีโอกาสได้เห็นได้แวะมากขึ้น
และแล้วก็แซงน้องๆ ลงมาก่อน ตอนแรกเราจะไปต่อที่บ้านนาต้นจั่น ก็เลยลงด้วยความรวดเร็ว ใช้เวลา 1.20 ชั่วโมง ระหว่างทางเจอกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มาอีก 4-5 กลุ่ม และกลุ่มนักศึกษาอีก 300 คนที่ทะยอยขึ้นเป็นกลุ่มๆ ลงมาอาบน้ำฉ่ำใจ กินข้าวที่ร้านสวัสดิการของอุทยานฯ จานนี้ 40 บาท พออิ่มก็ต้อเปลี่ยนแผนกลับกรุงเทพฯด่วน เราไม่ได้รอน้องๆ เจ้าหน้าที่บอกว่าเดี๋ยวให้คนที่หยุดออกไปส่งค่ารถเท่ากับขามา 150 บาท
ออกมาถึงตัวคีรีมาศจุดเดิมตอนลงรถทัวร์ ฝั่งตรงข้ามร้านสะดวกซื้อ รอรถเข้าตัวเมืองสุโขทัยจะเป็นรถสองแถวสีฟ้ามาลงที่สถานีขนส่งสุโขทัย และนั่งรถทัวร์กลับกรุงเทพฯ
ติดตามทริปเดินทางอื่นๆ ได้ที่
เพจ : ตะลุยเดี่ยวแบกเป้เที่ยว
IG : prapat / ตะลุยเดี่ยวแบกเป้เที่ยว
ตะลุยเดี่ยวแบกเป้เที่ยว
วันพฤหัสที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2560 เวลา 03.20 น.