หลายๆคน เวลามีวันว่างหรือช่วงที่อยากจะพักผ่อน เงียบๆ ชิลล์ ชาร์จแบตให้ร่างกาย คิดไม่ออกว่าจะไปไหนดี ทะเลดีมั๊ยไปฟังเสียงคลื่น ภูเขาละเธอ? ไปสัมผัสอากาศเย็นๆ ตัวเราเองไม่ยากเลยค่ะ สถานที่อยู่ในใจตลอดกาลคือหัวหิน ไม่ว่าจะมีเวลาแพลนนานๆ หรือกระทันหัน หัวหิน ก็จะเป็นตัวเลือกแรกๆเสมอ ทริปนี้เป็นทริปวันเกิดค่ะ ช่วงนี้ของทุกๆ ปีเราก็จะเลือกสถานที่ท่องเที่ยวเพื่อพักผ่อนไปในตัว ที่พักที่เราเลือกวันนี้คือ Veranda Resort Hua Hin – Cha Am, Mgallery by Sofitel อยากมานานแล้วค่ะ เห็นรีวิวมานักต่อนักแต่ไม่มีโอกาสได้มาสักที ช่วงที่ผ่านมาได้ทำการรีโนเวทใหม่ในหลายส่วน โดยเฉพาะห้องที่เราพักในวันนี้ ไม่ค่อยมีใครรีวิวเลยหลังจากที่รีโนเวทใหม่ ถือเป็นโอกาสที่ดีเหมือนได้มาสัมผัสอะไรใหม่ๆ ไปในตัว เผื่อว่าจะมีข้อมูลที่มีประโยชน์ให้เพื่อนๆ ได้อีกช่องทางนึง
Veranda Resort Hua Hin - Cha Am ตั้งอยู่ช่วงเลยชะอำมา ก่อนถึงหัวหิน จะเป็นโซนที่ค่อนข้างเป็นส่วนตัว ไม่พลุกพล่าน วันนี้เราเดินทางมาถึงช่วงบ่าย 2 หน่อยๆ จอดหน้า Lobby พนักงานช่วยยกสัมภาระลงเรียบร้อย รถจอดได้ที่ใต้อาคารค่ะ ส่วนเราเดินตัวปลิวไปเชคอินกันเลย
Lobby จะเป็นแบบ Open Air ค่ะ โปร่งโล่งสบาย มีเสียงน้ำไหลจ๊อกๆเบาๆ ได้อารมณ์ผ่อนคลาย ช่วงก่อนที่จะมา Veranda Hua Hin สัก 2 สัปดาห์ เราได้ไปพักที่ Veranda Chiangmai มาค่ะ Lobby สไตล์คล้ายๆกัน แต่ที่เชียงใหม่จะมีความอลังการ เจ้านางล้านนามาก 55 รายล้อมไปด้วยธรรมชาติสีเขียวๆ ส่วนที่นี่จะได้กลิ่นอายทะเล จากของที่ตกแต่งต่างๆ มีโมเดลเป็นพวกปลา อะไรประมาณนี้ค่ะ
แวะ Check-in กันตรงนี้ ส่วน Welcome drink วันนี้เป็นน้ำส้มปั่นค่ะ เสิร์ฟพร้อมผ้าเย็นๆ ชื่นใจหายร้อนกันไป
มุมพักผ่อนบริเวณ Lobby มี Sofa bed ตัวใหญ่ นั่งอ่านหนังสือเพลินๆ ระหว่างรอเข้าห้องพัก
Veranda Hua Hin มีส่วนของห้องพักที่รีโนเวทใหม่ และห้องพักบางประเภทยังคงเดิมค่ะ
ตึกนี้จะติดกับตัว Lobby จะเป็นห้องประเภท Veranda Deluxe ซึ่งเป็นห้องพักประเภทเริ่มต้นค่ะ ซึ่งได้ทราบมาว่าได้ทำการรีโนเวทใหม่แล้วเรียบร้อย
ได้เวลาแล้ว พนักงานพาเราไปยังห้องพักค่ะ ระหว่างทางเดินตามอาคารต่างๆ มีของตกแต่งให้ชวนมองตลอดๆ น่ารักมากเลย จากผนังสีขาวธรรมดา ดูเก๋ขึ้นมาทันทีเชียว
ห้องพักของเราวันนี้คือประเภท Veranda@Sea อยู่ตึกหน้าสุดติดกับสระว่ายน้ำ ห้องพักเราอยู่ชั้น 1 ริมสุดเลยค่ะ ใกล้สระมว๊ากกก...แค่นี้ก็ว่าเริ่ดแล้วอ๊ะ
ที่เก๋กู๊ดอีกอย่างคือ เห็นทะเลชัดมากกกก กรี๊ดดดดดดดดดดที่สุด นี่คือวิวจากระเบียงห้องพัก Oh!!!
ไปสำรวจห้องพักกันดีกว่า...ห้องนี้เป็นห้องที่รีโนเวทใหม่เช่นกันค่ะ แต่ละห้องจะมีตุ๊กตาประจำการ เป็นพร๊อพไว้กอดถ่ายรูปเก๋ๆ สามารถซื้อติดไม้ติดมือกลับบ้านได้นะคะ วันนี้ห้องเรามีน้องปูมาไว้นอนกอด น่าร๊ากก
บานประตูใบใหญ่ที่เห็นมีตู้เสื้อผ้าซ่อนอยู่ค่ะ มีทั้งเซฟ ร่ม รองเท้าสลิปเปอร์ เลื่อนประตูบานใหญ่มาเป็นประตูในส่วนของห้องน้ำได้เช่นกัน
ด้านปลายเตียงจะเป็น TV ประหยัดเนื้อที่โดยมีโต๊ะเครื่องแป้งของคุณผู้หญิงอยู่ด้วย ส่วนตู้ด้านล่างเปิดออกมาเป็นตู้เย็น และพวก Minibar ค่ะ
ในส่วนของห้องน้ำ แบ่งส่วนแห้ง ส่วนเปียกอย่างละห้อง อ่างล้างหน้ามี 2 ไม่ต้องแย่งกัน
Amenities kit มีครบค่ะ ส่วนเครื่องประทินผิว บอดี้โลชั่น แชมพู ครีมนวด เจลล้างมือ ใช้ของ THANN
Bathtub ไว้แช่ตัวก็มีเช่นกัน ถือว่ามีครบค่ะในส่วนของห้องน้ำ เป็นสัดส่วนชัดเจน
มาดูไฮไลท์ของห้อง Veranda@Sea ที่ระเบียงมีโซฟาเบดตัวเขื่อง นั่งมองทะเลแบบชิดใกล้ และได้บอกก่อนหน้านี้แล้วว่าห้องพักเราอยู่ชั้นหนึ่ง เป็นห้องที่ใกล้สระว่ายน้ำที่สุด...มันดีจริงๆค่ะ แต่อะไรก็คงเด็ดไม่เท่าได้มองดูทะเลตลอดเวลา สมแล้วที่ชื่อห้องแอทซี แฮปปี้มากกกก
ใกล้สระว่ายน้ำขนาดนี้ จะว่ายน้ำตอนไหนก็ได้...รอแดดร่มลมตก ชิลล์ๆ
สระว่ายน้ำแบบ Infinity pool ว่ายน้ำไป ชมวิวทะเลไป สุขใจจริงๆ...มีสไลด์เดอร์ด้วยนะคะ แยกของเด็กและของผู้ใหญ่ แต่อยู่คู่กันค่ะ...อโลฮ่าปาจิงโกะมากมาย
ข้างๆ สระว่ายน้ำ คือ ISEA Beach Bar & Restaurant จุดเด่นเลยคือด้านบนมีทางเดินยาวออกไปตรงชายหาด ได้อารมณ์แบบเหมือนเดินอยู่เหนือทะเล กระจกใสขนาบข้าง เป็นจุดเด่นที่ดูแล้วรู้เลยว่าเป็นวีรันดา มีทั้งที่หัวหิน และพัทยาค่ะ ได้ชมวิวแบบพาโนรามา...ประทับใจมากจริงๆค่ะกับที่นี่
มี Bean bag ไว้นอนทอดอารมณ์แบบมุมสูง ปลีกตัวจากผู้คนมานอนเล่นอ่านหนังสือตรงนี้ก็จะดีไม่น้อย
คือมุมนี้ถ่ายยังไงก็เก๋ ถ่ายยังไงก็เริ่ด...เอามือบังพุงไว้นิสสสนุง หุหุ ชอบที่สุด เดินขึ้นมาชมวิวมุมสูงหลายรอบมาก
ด้านก็ล่างจะเป็นห้องอาหารริมทะเล มีทั้ง Indoor และ Outdoor จะมีอาหารไทยสไตล์ Fusion และอาหารตะวันตกจำพวกเบอเกอร์ ทานเล่นๆมากกว่า ถ้าจะเน้นอาหารไทยหรือมื้อหนัก ต้องที่ห้องอาหาร Dining Room แต่ก็จะไม่ได้อารมณ์แบบทานข้าวเคล้าวิวทะเลนะคะ เพราะห้องอาหารอยู่ติดกับอาคาร Lobby เลย
Pool Bar มีบริการเช่นกันค่ะ Happy Our จะเป็นช่วง 4.00-6.00 PM
รองเท้าแตะไว้เดินชายหาด มีให้ในห้องพักนะคะ หยิบมาใส่เดินเล่นข้างนอกบริเวณรอบๆ รีสอร์ทได้ค่ะ ที่ขาดไม่ได้ของผู้หญิงอย่างเราคือพร๊อพถ่ายรูปเก๋ๆ ไม่ว่าจะเป็นหมวก กระเป๋า แว่นตา..บลาๆๆ มาทะเลต้องครบทุกสิ่ง อย่าได้ขาด
ทะเลวันนี้เงียบสงบ วันที่เราไปเป็นวันศุกร์ชายหาดหน้าโรงแรมคนน้อยค่ะ ผู้คนไม่พลุกพล่าน มีเดินผ่านไปผ่านมาบ้าง แต่ไม่วุ่นวาย ด้วยโลเคชันอยู่ในโซนที่โรงแรมอยู่ห่างกัน และไม่ได้อยู่ในตัวชะอำ และหัวหิน จึงเหมาะแก่การมาพักผ่อน ชาร์จแบตให้ร่างกายอย่างแท้จริง
ไม่ได้มีแค่ Bean bag อันบิ๊กบึ้มสีส้มนะค้า ถัดมาด้านหลังก็มีโซฟาแบบให้นั่ง ให้นอนสบายๆก็มีเช่นกัน ที่สำคัญหมอนเพียบบบบ อยากจะมองดูวิว แต่สิ่งอำนวยความสะดวกพร้อมขนาดนี้ก็อยากนอนเหมือนกันโนะ
สั่ง Smoothie มาดื่มคลายร้อนกันสักแก้ว ถ้าสั่งมาดื่มที่ริมทะเล พนักงานจะให้เป็นแก้วพลาสติกนะคะ
วินาทีนี้ไม่มีอะไรสุขใจเกินกว่า นอนฟังเสียงคลื่นฟินส์ๆ ดื่มน้ำปั่นเย็นชื่นใจ อัพรูปรัวๆอวดเพื่อนในโซเชียล แอร๊ยย มันดีอ่ะ...ถามว่ามาอีกมั๊ย?? มาอีกแน่นอนค่ะ...ครั้งแรกก็ประทับใจมากกก ไม่ได้อวยนะคะ เรารู้สึกแบบนี้จริงๆ มีไม่กี่ที่ ที่ไปแล้วอยากจะมาซ้ำ วีรันดา หัวหิน เป็นหนึ่งในนั้น !!!
ช่วงเย็นวันนี้ก็นั่งมองพระอาทิตย์ตกที่ริมระเบียงห้อง ผู้คนเริ่มซา กลับเข้าห้องพักผ่อน แต่เรายังนั่งชิลล์อยู่เลยค่ะ ก็ห้องอยู่ตรงนี้จะให้ไปไหนละ วิวเทพแค่ไหนถามใจเธอดู ยิ่งมากับคนรักนะ ฮึ่ม!!! โรแมนติคที่สุด
Welcome fruit ยังไม่ได้ทานเลย...แม่บ้านนำขนมมาให้ด้วยค่ะช่วงที่เข้ามา turn down
ก่อนนอนแช่น้ำอุ่น ตีฟองฟูฟ่อง...ลอยละล่องอยู่ในอ่างกันก่อน !!! ถือว่าปิดจ๊อบคืนนี้ได้อย่างสวยงาม ^_^
นอนหลับสบาย ตื่นมาพร้อมอากาศดีๆ เมื่อวานช่วงเย็นมีฝนตกลงมานิดหน่อยค่ะ แอบหวั่นใจเล็กๆ แต่วันนี้ฟ้าเปิดตั้งแต่เช้าเลย ถึงไม่ทันพระอาทิตย์ขึ้น แต่ก็ทันแสงสีทอง สะท้อนผืนน้ำทะเลน๊า
คือห้องอยู่ใกล้ค่ะ เดินลงชายหาด 1-2 นาทีก็ถึงแล้วมั๊ย !! เริ่ดอะไรเบอร์นี้ ตื่นมานอนมองทะเลกันต่อ หัวหินมากี่ทีก็ไม่เบื่อ ช่วงที่เราไปเป็นช่วงกลางเดือนกรกฎาค่ะ ปีนี้ก็เป็นรอบที่ 5 แล้วที่มาหัวหิน ฟ้าสวย ทะเลสงบ บรรยากาศดีเช่นเคย
มนต์สเน่ห์หัวหินที่ใครๆ ก็หลงรัก...มีอีกกิจกรรมนึงที่ไม่ควรพลาด คือขี่ม้าแคระริมชายหาด สักครั้งหนึ่งได้มาแล้วลองเถอะค่ะ
บรรยากาศยามเช้าตรู่ ผู้คนก็จะน้อยๆ หน่อย เปลี่ยนชุดมาว่ายน้ำออกกำลังกายสักหน่อยก็ดีแฮะ
ก่อนออกไปทานข้าว จิบกาแฟ จิบชาเบาๆ ที่ระเบียงกันสักหน่อย ก็ห้องพักวิวสวยนี่เนอะ มาเที่ยวรอบนี้อยู่แต่รีสอร์ทค่ะ ไม่ออกไปไหนเลย...อยากเก็บเกี่ยวความสุขไว้ให้นานที่สุด
ในส่วนของอาหารเช้า จะอยู่ที่ห้องอาหาร Dinning Room ค่ะ ติดกับ Lobby ไลน์อาหารหลากหลายค่ะ มีทั้ง Egg station , มุมโจ๊ก ต้มเลือดหมู ที่ทำให้ทีละชามตามสั่ง มุมติ่มซำ ขนมจีบ ซาลาเปา ข้าวปั้น อาหารไทยอย่างข้าวเหนียวหมูปิ้ง ปาท่องโก๋จิ้มนมข้นก็มี เยอะมากค่ะ แต่เผอิญว่าเรามาช้า มัวแต่เตร็ดเตร่อยู่ริมทะเล ว่ายน้ำด้วยอะไรด้วย มาถึงก็แขกเยอะจะมัวถ่ายรูปก็เกรงใจ เลยไม่มีภาพมาฝากเพื่อนๆกัน
Smoothie สูตรของทางวีรันดา อร่อยค่ะ เราจัดไปหลายแก้วเลย แหะๆ
เวลาความสุขมักผ่านไปเร็วเสมอ...แต่ช่วงที่เรามีความสุขเราก็จะจดจำมันได้เสมอเช่นกัน ครั้งแรกกับวีรันดา หัวหิน แต่คงไม่ใช่ครั้งสุดท้าย คือประทับใจทุกอย่างที่นี่ พนักงานทุกส่วน บรรยากาศดีๆ ห้องพักสวย สระว่ายน้ำเริ่ด บรรยากาศมันได้ทุกอย่าง ลงตัวพอดีเหลือเกินในช่วงที่เรามา ช่วงที่เข้าพักคือจะเป็นช่วงใกล้ๆ วันเกิด และเกือบทุกปีเรามักจะเลือกมาพักผ่อนที่โซนหัวหิน ถือเป็นการฉลองวันเกิดไปในตัว ซึ่งปีนี้ได้เลือกพักที่วีรันดา ถือว่าเลือกไม่ผิดจริงๆ โอกาสหน้าเราจะกลับมาอีกแน่นอน
ในส่วนของ Veranda จะมีคาเฟ่ที่เปิดใหม่ด้วยโดยใช้ชื่อว่า Skoop Beach Cafe ก่อนหน้านี้เคยไปใช้บริการที่สาขาพัทยามาค่ะ ติดกับ Veranda Pattaya เป็นคาเฟ่น่ารักริมทะเล ส่วนสาขาที่หัวหิน จะเปิดที่เขาตะเกียบแต่อยู่ในโซนของ Veranda Residence ห่างจากรีสอร์ทออกไปประมาณ 27 กม. ซึ่งเราได้ไปมาก่อนหน้านี้ตั้งแต่เปิดบริการใหม่ๆ ขอนำภาพมาให้ชมละกันนะคะ เพราะไม่ได้ทำรีวิว
Skoop Beach Cafe ตั้งอยู่ที่เขาตะเกียบค่ะ บรรยากาศดีสงบ อยู่ในโซนของ Veranda Residence คาเฟ่ริมทะเล ตกแต่งสีด้วย Bean bag สีฟ้า ขาว น้ำเงิน มีกิมมิคเก๋ๆ ให้ถ่ายรูปเพียบ ช่วงที่เราไปช่วงสายค่อนๆ ไปถึงเที่ยง ร้อนดีจังค่ะแดดหัวหิน...แทบละลาย
สั่งน้ำเสาวรสปั่น มาดับกระหาย เปรี้ยวจี๊ด...สดชื่น
แก้วที่ 2 เป็นชาไทยปั่นค่ะ หวานๆ
ร้อนแค่ไหนศรีทนได้ แดดเดิดอะไรไม่สนใจ ได้ภาพสวยก็พอ แฮร่ !!
ส่วนใครที่ไม่ชอบลมทะเลกลัวผมจะเสียทรงละก็ แนะนำด้านในห้องแอร์ค่ะ มีที่นั่งเช่นกัน ในส่วนของอาหารก็มีค่ะ แต่เราไม่ได้ทาน ที่พลาดไม่ได้เป็น Signature ของที่นี่ก็เห็นจะเป็นไอศครีมโคน สามารถเลือกโคนเองได้ ชอบสีไหน ลวดลายอะไรเลือกได้ค่ะ แล้วก็ค่อยเลือกไอศครีมรสโปรดกันอีกที
ถ่ายได้แป๊บบบบเดียวเท่านั้นจ้าาา....แดดแบบนี้ละลายเร็วเกิ๊นนน
ถ้าจะมาแนะนำช่วงเย็นค่ะ สัก 5 โมง บรรยากาศดีทีเดียว ริมชายหาดมีม้าแคระ จับมือแฟนเดินชิลล์ชมวิวพระอาทิตย์ตกดิน...แค่คิดก็ฟินส์แว้วว ส่วนราคาก็สูงนิดนึง ถ้าจำไม่ผิดแก้วละร้อยกว่าบาท ประมาณ 120.- รวมทั้งไอศครีมด้วยค่ะ ราคาประมาณนี้ แต่ถ้าไม่ซีเรียสอะไร มาเถอะค่ะแลกกับวิวเบื้องหน้าก็คุ้มแล้ว หาคาเฟ่ที่หัวหินแบบว่านอนชมวิวทะเล เท้าเหยียบทราย ฟังเสียงคลื่น ก็มีไม่มากสักเท่าไหร่ แถมเวิ้งนี้อยู่มุมพอดิบพอดี ได้ความเป็นส่วนตัวมากพอสมควร หรือโทรสอบถามก่อนก็ชัวร์ดีค่ะ ว่าเปิดเวลากี่โมง จะได้ไม่เสียเวลา
ท้ายนี้เข้าไปทักทายกันที่เพจ ลาเต้ปั่นเย็นๆ ได้ตามลิงค์ด้านล่างนี้นะค้า
https://www.facebook.com/lattepunyenyen/
เข้าไปสอบถามข้อมูล พูดคุย ที่กิน เที่ยว พักได้ ยินดีค่ะ
ดูรีวิวทั้งหมดของ ลาเต้ปั่นเย็นๆ บนเวบ Readme ได้ที่ลิงค์นี้ค่ะ
https://th.readme.me/id/lattepunyenyen
ลาเต้ปั่นเย็นๆ
วันอาทิตย์ที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2560 เวลา 16.30 น.